ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 504 ขาอินทรีย์ย่าง
ตอนที่ 504 : ขาอินทรีย์ย่าง
ที่ด้านนอกเผ่าชูมินั้น หวังเย่ากับชูหยุนยังคงทำการสำรวจต่อไป
“หวังเย่า ฉันต้องบอกว่านายน่ะไม่มีพรสวรรค์ในการวาดภาพเอาเสียเลย ! ”
ในตอนที่เดินอยู่นั้น ชูหยุนก็บ่นถึงฝีมือวาดภาพของหวังเย่า เพราะสัญลักษณ์ของแมงป่องที่หวังเย่าวาดขึ้นมาเมื่อสักครู่นั้นน่าเกลียดจริง ๆ
“งั้นเธอก็มาวาดสิ ไม่วาดแล้วจะมาบ่นฉันทำไม ? ” หวังเย่ามองไปที่ชูหยุน เขารู้ตัวดีว่าเขาวาดภาพไม่เก่ง
“ฉันจะวาดให้ก็ได้ ถ้านายย่างเนื้อให้ฉันกิน ” ชูหยุนใช้โอกาสนี้ในการต่อรอง
“นี่คือแผนที่สำหรับเผ่าเธอ เธอเลือกเอาเองว่าจะให้ฉันวาดรึเธอจะวาดเอง”
การได้พูดคุยกันแบบนี้ทำให้หวังเย่ารู้สึกดีขึ้นมาอย่างมาก ภายนอกชูหยุนอาจจะดูเย็นชา แต่อันที่จริงแล้วเธอนั้นเป็นเด็กสาวที่น่าทึ่ง
ทั้งสองคนคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนสุดท้ายตะวันก็ลับขอบฟ้า ตอนนั้นเองที่หวังเย่าตัดสินใจที่จะพัก
“แล้วเราจะกินกันตอนไหน ?” ตั้งแต่ที่ได้ชิมเนื้อย่างฝีมือของหวังเย่าแล้ว ชูหยุนก็รู้สึกว่าอยากคุยกับหวังเย่าอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะเรื่องเนื้อย่าง
“จะกินอะไรก็ต้องระวังด้วย ! ” หวังเย่ารู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งรอบ ๆ ตัว
“นายหมายถึงอะไร ? ”
“มันมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอยู่รอบ ๆ แถวนี้” หวังเย่าพูดจบก็มองไปรอบ ๆ ตัว แต่เขารู้สึกถึงพลังที่ไม่อาจจะอธิบายได้ มันมา ๆ หาย ๆ สลับไปมา
“นี่มันบ้าอะไร ? ! ” หวังเย่าคิดในใจ
อินทรีย์ทองระดับสวรรค์ขั้นกลาง
แค่ปีกของมันก็สร้างใบมีดสายลมได้ หลังจากที่ได้ยินเสียงร้องของอินทรีย์ หวังเย่าก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่เสียงนั้นทันที
สัตว์อสูรอะไรถึงได้มีหัวสีทองแบบนี้ ? ” ชูหยุนถามขึ้นมา
“มันชื่อเหมือนหน้าตามันนี่แหละ มันคืออินทรีย์ทอง”
“นายเคยเห็นมันมาก่อนรึเปล่า ? ”
ต่อหน้าสัตว์อสูรระดับสวรรค์ หวังเย่าไม่ได้กังวลแม้แต่น้อย ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้ว การจัดการกับสัตว์อสูรนี่ก็ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ชูหยุนน่ะต่างออกไป
อย่างแรกเลย เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้แข็งแกร่งนัก การเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับสวรรค์ขั้นกลางนี้ เธอไม่อาจจะรับมือได้เลย
แน่นอนว่าในเผ่าชูมิแล้ว ชูหยุนถือว่าเป็นผู้เยาว์ระดับสูง แต่การที่เธอได้เดินทางออกมากับหวังเย่านั้นทำให้เธอไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งออกมาสักเท่าไหร่
“คิดยังไง ? ชูหยุน เธออยากสู้กับมันก่อนไหม ? ” หวังเย่ามองไปที่ชูหยุนแล้วถามขึ้นมา
“อะไรนะ ? นายอยากให้ฉันสู้กับอินทรีย์นี่น่ะหรือ ? นายไม่กลัวว่ามันจะกินฉันรึไง ? ” ชูหยุนปฏิเสธแทบจะทันที ยังไงซะเธอก็ไม่เคยเห็นอินทรีย์ทองมาก่อน
“อินทรีย์ทองนี่อยู่ระดับสวรรค์ขั้นกลาง เธอลองสู้กับมันดู ถ้าเธอสู้กับมันไม่ไหวจริง ๆ ฉันจะช่วยเธอเอง” ตอนนี้หวังเย่ามีความตั้งใจที่จะฝึกฝนชูหยุนให้มีความแข็งแกร่งและประสบการณ์มากขึ้น
หลังจากที่ใช้เวลากับชูหยุนอยู่สักพัก หวังเย่าก็รู้สึกว่าเธอนั้นมีพรสวรรค์ที่สูง ความแข็งแกร่งของเธอตอนนี้ในเผ่าถือว่าดีอย่างมาก แม้ว่ามันจะด้อยกว่าคนของเขาแต่ก็ยังถือว่าเป็นก้อนหยกที่รอวันเจียระไน จากนั้นเธอก็จะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง
ตัดสินจากการต่อสู้ระหว่างชูหยุนกับแมงป่องแล้ว เธอนั้นขาดแค่ประสบการณ์ในการต่อสู้เท่านั้น
ความแข็งแกร่งของร่างกายไม่อาจจะดึงออกมาได้เท่าที่ควร หรือไม่รู้ว่าจะใช้มันออกมายังไง
“งั้นฉันจะให้เสี่ยวซวีคอยอยู่ข้าง ๆ ถ้าเธอตกอยู่ในอันตราย เสี่ยวซวีจะช่วยเธอเอง ! ” หวังเย่าพูดขึ้นแล้วเรียกเสี่ยวซวีออกมา เสี่ยวซวีก็ได้กระโดดไปอยู่ที่ไหล่ของชูหยุน
“ ฉันต้องสู้กับมันจริง ๆ หรือ ? ”
ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้เธอเอาแต่หลบอยู่ด้านหลังพ่อของเธอมาตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องเผชิญหน้ากับความตึงเครียดแบบนี้
“ตั้งแต่ตอนที่สู้กับแมลงป่อง เธอไม่คิดว่าเธอขาดประสบการณ์การต่อสู้รึไง ? ”
ระหว่างที่หวังเย่าพูดนั้น อินทรีย์ทองก็พุ่งลงมาจากฟ้า
ใบมีดลม !
นี่คือหนึ่งในสกิลของมัน
สกิลนี้คือการอัดแน่นธาตุลมในอากาศให้กลายเป็นใบมีดเข้าโจมตี
ปัง ปัง ปัง !
ใบมีดปะทะกับพื้นจนเกิดเสียงดังขึ้นมา
ชูหยุนไม่ได้กลัว เธอดึงเอาแส้ออกมาและพุ่งเข้าใส่อินทรีย์ทองทันที
ชูหยุนฟาดแส้ใส่อินทรีย์ทองพร้อมกับประกายไฟที่กระเด็นออกมา
หวังเย่าไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไหร่ เขาเอาถั่วออกมากินพร้อมกับดูไปด้วย
ชูหยุนหลบการโจมตีของอินทรีย์แล้วพูดขึ้น “ไม่ได้ มันแทบจะไม่ได้ผลเลย”
“ระวังข้าง ๆ ! ” หวังเย่ากินถั่วพร้อมกับแนะนำชูหยุน
แน่นอนว่าชูหยุนก็ยังสร้างความแปลกใจให้กับเขาอย่างมาก ตอนแรกที่สู้กับแมงป่อง เธอได้แต่เป็นฝ่ายตั้งรับ แต่ครั้งนี้เธอสามารถทั้งรับทั้งสู้กับอินทรีย์ทองได้ ต้องบอกว่าชูหยุนพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่ามันคงเป็นเพราะจิตใจ ก่อนหน้านี้ที่สู้กับแมงป่อง ชูหยุนนั้นกลัวการโจมตีอย่างมาก
แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน เธอกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับสัตว์อสูร มันไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นคอยช่วยด้วยซ้ำ
สัตว์อสูรระดับสวรรค์ขั้นกลางนั้นแกร่งกว่าชูหยุนที่เพิ่งจะขึ้นมาระดับ A อย่างมาก ดังนั้นหลังจากที่สู้ได้สักพัก ชูหยุนก็ไม่อาจจะสู้ต่อได้อีก
ตอนนั้นเป็นเวลาที่หวังเย่ากินถั่วหมดพอดี เขารู้ว่าถึงเวลาที่เขาจะลงมือ !
หอกมิติโผล่มาในมือของเขา ก่อนที่หวังเย่าจะตะโกนออกมา “ ชูหยุน ถอยมา ! ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ได้พุ่งเข้าหาอินทรีย์ทองทันที
ขนของอินทรีย์ทองน่ะแข็งก็จริง แต่หอกมิติของหวังเย่านั้นแข็งแกร่งกว่า
การป้องกันของมันพังลงทันที
จากความแข็งแกร่งที่หวังเย่ามีแล้ว อินทรีย์ทองไม่อาจจะต้านทานได้แม้แต่น้อย เขาสามารถฆ่ามันได้ทันที แต่เพื่อที่จะให้ชูหยุนเห็นปัญหาของตัวเอง หวังเย่าจึงให้เธอสู้กับมันก่อน
“ชูหยุน เธอจำไว้ว่าอย่าใช้พลังทั้งหมดในคราวเดียว ไม่งั้นแล้วเธอจะไม่มีพลังเหลือ เธออาจโดนอีกฝ่ายฆ่าเอาง่าย ๆ ! ” หวังเย่ายังคงโจมตีอินทรีย์ต่อไปเรื่อย ๆ โดยยั้งพลังเอาไว้
อินทรีย์ไม่อาจจะรับมือหวังเย่าได้เลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่สอนเธอจนเสร็จ หวังเย่าก็ได้จัดการปลิดชีวิตมัน
“ฉันได้ยินมาว่าขาอินทรีย์น่ะอร่อย”
ตอนที่อินทรีย์โดนฆ่านั้น ชูหยุนก็ได้พูดขึ้น
คนนำทางที่คิดแต่เรื่องกินแบบนี้ทำให้หวังเย่าปวดหัวจริง ๆ