ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 497 ออกเดินทาง
ตอนที่ 497 : ออกเดินทาง
สุดท้ายหวังเย่าและชาโรน่าก็ตกลงกันได้ แต่มันมีเส้นตายว่าหวังเย่าต้องเดินทางออกไปได้ไม่เกิน 2 วันเท่านั้น
หากนับดูตามเวลาแล้วก็น่าจะพอ ดังนั้นหวังเย่าจึงตกลง
เช้าวันต่อมา หวังเย่าก็ได้ไปหาชูบ้า ก่อนจะเตรียมตัวออกเดินทางพร้อมกับชูหยุน
ครั้งนี้ ชูหยุนได้กลับมาใส่ชุดนักรบอีกครั้ง
ต้องบอกว่าเธอน่ะดูดีในชุดแบบนี้อย่างมาก
“ฉันคิดว่าเธอแต่งชุดนี้แล้วดูดีกว่า” เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องอคติเมื่อวานนี้ หวังเย่าก็ได้เปิดปากพูดขึ้นมาก่อน
แต่ภาพลักษณ์ของเขาโดนจดจำไปแล้ว เมื่อได้ยินแบบนั้นชูหยุนกลับกรอกตาใส่เขา และไม่สนใจเขา
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่สนใจเขา หวังเย่าก็ไม่ใช่คนคิดมากอะไร เขาจึงเลือกที่จะเงียบไป
ทั้งสองเดินไปที่ประตูที่นำไปสู่โลกภายนอก ภายใต้การนำทางของชูหยุน
ระหว่างทางไปที่ประตูนั้นพวกเขาก็เจอกับบางอย่างเข้า นั่นก็คือชายหนุ่มที่เข้ามาหาเรื่องชูหยุน รวมถึงหาเรื่อง หวังเย่าด้วย ชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นใด เขาคือฮันมิต
นานมาแล้วชูบ้ากับฮันกูนั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งสองคนเป็นนักรบของเผ่า และมักจะออกไปทำภารกิจด้วยกันอยู่บ่อยๆ
แต่ต่อหน้าอำนาจและเงินทองนั้นมักจะเผยแพร่ธาตุแท้ของคนออกมา !
ด้วยตำแหน่งหัวหน้าเผ่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็แตกหัก มันทำให้ลูกหลานของพวกเขามีอคติต่อกันไปด้วย
ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นญาติสนิทกัน แต่ทั้งสองครอบครัวกลับต้องกลายมาเป็นศัตรูกันอย่างลับ ๆ
ชูหยุนคือลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของชูบ้า
แต่เมื่อเวลาผ่านไปทั้งชูหยุนและฮันมิตก็เติบโตขึ้นมา ชูหยุนได้ความสวยมาจากแม่ของเธอ ส่วนฮันมิตเองก็ดูดี บางครั้งฮันกูถึงกับเสนอให้ทั้งสองแต่งงานกันแต่ชูบ้าไม่ยอมตกลง
เขาไม่ได้สนใจฮันมิตแม้แต่น้อย สำหรับความแข็งแกร่งระดับนี้นั้นยังต่ำเกินไป !
มันทำให้ฮันกูไม่พอใจอย่างมาก สิ่งนี้จึงทำให้เขาคิดที่จะดึงชูบ้าลงมาจากตำแหน่งหัวหน้าเผ่า
ส่วนฮันมิตก็คิดหาวิธีมัดใจชูหยุน เพื่อเอาตำแหน่งนี้มาเช่นกัน
ฮันมิตนั้นโดดเด่นในหมู่ผู้เยาว์ของเผ่า เขามองว่าชูหยุนควรจะเป็นของเขา แต่วันนี้ผู้หญิงของเขากลับต้องเดินทางออกไปกับผู้ชายเพียงลำพัง มันอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น ดังนั้นฮันมิตรจึงมาดักรอชูหยุนตั้งแต่เช้า เขายังพาเพื่อนมาดักรอที่นี่ด้วย
“ชูหยุน โลกข้างนอกนั้นอันตราย ฉันว่าเธอไม่ควรจะออกไป อยู่ที่นี่ให้ฉันดูแลดีกว่า” ฮันมิตพูดขึ้นพร้อมกับตบอกตัวเอง เขาทำท่าราวกับหวังเย่าเป็นอากาศธาตุอย่างไรอย่างนั้น
แต่หวังเย่าไม่คิดจะใส่ใจอีกฝ่าย
“ในฐานะนักรบแล้ว นายจะทนให้เพื่อนโดนดูถูกแบบนี้รึไง ? ” ชูหยุนหันไปถามหวังเย่า
“ดูถูกงั้นหรือ ฉันไม่ได้ยินคำดูถูกอะไรเลย ฉันได้ยินแค่เขาอยากปกป้องเธอ” แน่นอนว่าหวังเย่าจงใจพูดแบบนั้น เพราะใครใช้ให้ชูหยุนไม่ไว้หน้าเขา เธอถึงกับกล้าเมินเขา
“นาย ! ” ชูหยุนหงุดหงิดขึ้นมาทันที
“เตียงของฉันอุ่นนะ” ฮันมิตพูดต่อ
“แล้วตอนนี้ล่ะ เป็นคำดูถูกแล้วรึยัง ? ” เมื่อได้ยินที่ฮันมิตพูดขึ้นมา ชูหยุนก็ไม่ได้โกรธแต่กลับพอใจมากกว่าที่จะเอาไปเยาะเย้ยหวังเย่า
“เสี่ยวซวี ! ลงมือ ! ” ตอนนั้นเองเสี่ยวซวีก็ปรากฏตัวขึ้นก่อนจะหายไปในพริบตา ไม่นานก็กลับมาปรากฏตัวที่เดิมอีกครั้ง
“นายจะปล่อยไปรึไง ? ” ก่อนที่ชูหยุนจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของฮันมิตดังขึ้นมา
ตอนที่เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนั้น หวังเย่าก็เดินออกไปแล้ว
เมื่อเห็นฮันมิตที่กลิ้งไปมาอยู่บนพื้น ชูหยุนก็ตะลึงนิด ๆ เธอไม่รู้เลยว่าตะกี้เกิดอะไรขึ้นกับฮันมิตกันแน่
เธอรีบวิ่งตาม หวังเย่าไปและอยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“นายทำอะไรเขา ? แล้วมีอะไรโผล่มาที่ไหล่ของนายตะกี้นี้ ? ” ชูหยุนถามขึ้นมาอย่างกับเด็กขี้สงสัย
“ฉันแค่สั่งสอนเขา ตอนนี้ฉันสมกับเป็นนักรบในสายตาเธอรึยัง ? ” หวังเย่าไม่ได้ตอบคำถามของชูหยุน
“นั่นน่ะฉันไม่นับ ! นายยังไม่ได้ทำอะไรเขาสักหน่อย”
ชูหยุนเติบโตมาด้วยการดูแลประคบประหงมจากชูบ้า แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เป็นผู้หญิงอยู่ดี หวังเย่าต้องทำให้เธอเชื่อฟังให้ได้ ไม่งั้นแล้วหากออกไปข้างนอกแล้ว ถึงเขาจะอยากปกป้องเธอแต่เขาก็อาจจะทำไม่ได้
“ทำไมจะไม่ได้ ? ” น้ำเสียงของหวังเย่าไม่สู้ดีนัก
“มันแค่…ไม่ เพราะนายไม่ได้ทำอะไรเลย มันคือฝีมือของไอ้ตัวเล็กนั่นต่างหาก ! ” ชูหยุนสนใจในตัวเสี่ยวซวีอย่างมาก
“เธอพูดถึงเสี่ยวซวีหรือ ? ” หวังเย่าได้เรียกเสี่ยวซวีออกมาก่อนที่เสี่ยวซวีจะปรากฏตัวด้วยร่างเล็ก ๆ ยืนอยู่บนไหล่เขา
“ใช่ ! เขานี่แหละ เขานี่แหละที่สั่งสอนฮันมิตไม่ใช่นาย ! ” ตอนนี้ชูหยุนก็ยังไม่คิดจะยอมรับในตัวหวังเย่าอยู่ดี
“นี่เป็นอสูรของฉัน ! ” หวังเย่าหยุดและมองไปที่ชูหยุนก่อนจะพูดต่อ “เราจะเดินไปที่ทางออกกัน”
พวกเขามาถึงทางออกก่อนที่หวังเย่าจะชี้ไปที่ประตู
“เธออยากไปตายที่ด้านนอกรึเปล่า ? ” หวังเย่าพูดด้วยท่าทีจริงจังจนทำให้ชูหยุนกลัวขึ้นมานิด ๆ
ตั้งแต่โตมาก็ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเธอแบบนี้มาก่อน
“พ่อฉันบอกให้นายปกป้องฉันไม่ใช่รึไง ? ”
ดูจากท่าทีของชูหยุนตอนนี้ก็ผิดกับนักรบที่กล้าหาญเมื่อวานนี้จากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย แต่ชัดแล้วว่านี่น่ะคือคนคนเดียวกัน
พูดจาใหญ่โตแต่กลับใจเสาะงั้นหรือ ?
“มันไม่ใช่พ่อเธอสั่งฉัน แต่เขาขอร้องฉันต่างหาก ! ” หวังเย่าแทบจะตะคอกออกมา
ชูหยุนกลัวจนไม่กล้าจะขยับตัวเลยในตอนนี้
“ถ้าเธอไม่เชื่อ งั้นเธอก็กลับไปถามพ่อเธอว่าพ่อเธอมีอำนาจพอจะสั่งฉันรึเปล่า ! ”
ชูหยุนตัวสั่นราวกับลูกแมวน้อย ตอนนี้เธอดูเหมือนว่าจะทำอะไรไม่ถูกเลย
“ถ้าเธออยากมีชีวิตรอด ฉันหวังว่าหลังจากที่ออกจากประตูนี้ไปแล้ว เธอจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของฉัน ! ”
“ไม่อย่างนั้น ถึงฉันจะช่วยเธอได้ แต่ฉันก็จะปล่อยให้เธอตายได้เหมือนกัน ! ”
หวังเย่าดูไร้เยื่อใย แต่เขาก็ต้องพูดแบบนี้ออกมา ไม่งั้นแล้วชูหยุนคงไม่คิดทำตามที่เขาบอก เพราะไม่อย่างนั้นแล้วเธอคงไม่ได้กลับมาที่นี่อีก !