ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 496 ไม่มีอะไรต้องพูด
ตอนที่ 496 : ไม่มีอะไรต้องพูด
ฮันกูคือผู้อาวุโสของเผ่าชูมิ เขาเป็นคนระดับสูงและแกร่งพอ ๆ กับชูบ้า แต่หัวหน้าเผ่าคนก่อนได้มอบตำแหน่งนี้ให้กับชูบ้า
ตลอดหลายปีมานี้ฮันกูอยากที่จะขึ้นไปแทนที่ชูบ้า แต่ชูบ้าก็ไม่เคยทำอะไรผิดพลาด เขาพัฒนาเผ่าได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ฮันกูไม่อาจจะหาโอกาสได้เลย !
เมื่อทั้งสองคนแก่ขึ้น ฮันกูจึงไม่คิดจะชิงตำแหน่งนี้อีก แต่ที่เขาทำตอนนี้ก็เพื่อเตรียมตำแหน่งนี้ให้กับลูกชายของเขา เขาตั้งใจจะผลักดันให้ลูกชายขึ้นมาเป็นหัวหน้าเผ่าให้ได้
ฮันมิต ลูกของฮันกูมีความแข็งแกร่งที่ไม่แย่เท่าไหร่ เขาเองก็ได้พรสวรรค์มาจากฮันกูเช่นกัน ดังนั้นผู้เยาว์ในเผ่าจึงพากันเคารพฮันมิตอยู่บ้าง
ฮันกูได้ฝึกฝนลูกชายอย่างหนักเพื่อให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าเผ่าคนต่อไป ไม่ว่าจะได้ตำแหน่งนั้นมารึไม่ก็ตาม
การที่อยู่ตำแหน่งผู้อาวุโส มันมีหลายเรื่องที่เขารู้เกี่ยวกับเผ่า สิ่งที่เป็นปัญหาคือการทะลวงผ่านระดับไปให้ได้
ฮันกูเชื่อว่าตราบใดที่เขาผลักดันลูกชายให้ขึ้นไปสู่ตำแหน่งหัวหน้าเผ่าได้ เขาก็มั่นใจว่าลูกชายของเขานั้นจะสามารถปกครองได้อย่างยอดเยี่ยม
การที่เป็นผู้อาวุโสมาหลายปี ฮันกูก็มีกองกำลังเป็นของตัวเอง จากการเลือกคนนำทางก็ทำให้เห็นได้ว่ากองกำลังของฮันกูมีมากแค่ไหน
“หวังเย่า ฉันหวังว่าคุณจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับ” ชูบ้าพูดขึ้น
หวังเย่ามองไปที่ชูบ้าสักพัก ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ
“คุณหวังเย่า ถ้าคุณจะออกไปก็ระวังตัวด้วย”
เมื่อได้ยินที่ชูบ้าบอกมา หวังเย่ารู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เพราะการที่คอยแต่มาระแวดระวังนั้นมันทำให้เสียเวลาเปล่า ๆ
“แน่นอนว่าผมต้องระวังตัว คุณไม่ต้องกังวลหรอก ” เพราะถึงยังไงหวังเย่าก็ต้องหวงชีวิตของตัวเองอยู่แล้ว
ชูบ้าอธิบายออกมา “ อำนาจของฮันกูน่ะไม่ใช่น้อย ”
หวังเย่าเองก็พอมองออกอยู่แล้วว่ากองกำลังของฮันกูนั้นคงไม่ใช่น้อย ๆ เพราะการที่จะกล้าทำเรื่องแบบนี้ออกมานั้นจะอ่อนแอได้ยังไง ?
แต่ตอนนี้เมื่อชูบ้าพูดมา หวังเย่าก็รู้ว่ากองกำลังของฮันกู นั้นแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้
“ฉันหวังว่าคุณจะปกป้องลูกสาวของฉันได้” ชูบ้าพูดขึ้น
“คุณพูดเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว ผมจำได้แต่ปัญหาคือลูกสาวของคุณจะฟังฉันรึเปล่านั่นมันก็อีกเรื่อง”
ตอนที่เจอกันตะกี้ หวังเย่าก็รู้สึกว่าเธอเป็นคนหัวรั้น
ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยก็คงไม่เป็นอะไร แต่การออกไปภายนอกในสภาพแวดล้อมที่อันตรายนั้น มันก็จะมีแต่ทำให้ตัวเองและเพื่อนร่วมทีมตกอยู่ในอันตราย
“เธอเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ฉันจึงได้แต่ต้องตามใจเธอ”
“ผมเสียใจด้วย แต่ผมไม่ได้อยากจะพูดถึงเรื่องเศร้าในเวลานี้”
“ไม่เป็นไร หวังเย่า คุณไม่ต้องใส่ใจกับเรื่องแย่ ๆ หรอก”
คำพูดของชูบ้านั้นทำให้หวังเย่าไม่อาจจะเข้าใจได้
“คุณหมายความว่ายังไง ?”
“ฉันก็ไม่ได้หมายความว่าอะไรหรอก แต่เอาเป็นว่ามันก็ดีสำหรับเธอที่คุณพาเธอออกไปดูโลกภายนอกบ้าง ใช่สิ” ชูบ้าเปลี่ยนเรื่อง “ฉันได้ยินว่าคุณมาจากหัวเซี่ย ที่นั่นมันเป็นยังไง ? ”
ชูบ้าถามเกี่ยวกับบ้านเกิดของเขา แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้ถามเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังพูดขึ้นมาอย่างภูมิใจ “หัวเซี่ยน่ะเป็นที่ที่งดงามและแข็งแกร่ง ”
“ถ้ามีโอกาส ฉันก็อยากไปที่บ้านเกิดของคุณดูบ้าง” เมื่อพูดถึงจุดนั้นชูบ้าก็คิ้วขมวด “ฉันไม่ได้ออกไปไหนมานานมากแล้ว”
จากนั้นชูบ้าก็ได้เดินออกไปพร้อมกับชูหยุน
แต่เมื่อเห็นทั้งสองคนเดินจากไป หวังเย่าก็รู้สึกว่าชูบ้าเหมือนจะมีความลับบางอย่างแต่ไม่ได้พูดมันออกมา
“เธอสวยดีนี่” ชาโรน่าไม่ได้พูดอะไรออกมานานแต่อยู่ๆเธอก็พูดขึ้น
หวังเย่าตอบกลับ “สวยดี แต่….เธอสวยกว่า” หวังเย่านั้นเป็นคนที่ฉลาดพูด
ชาโรน่าใกล้ชิดกับหวังเย่ามาสักพักแล้ว ดังนั้นเธอจึงระวังผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้หวังเย่าเป็นพิเศษโดยเฉพาะผู้หญิงที่สวยแบบนั้น
“แล้วชูบ้า บอกอะไรกับนาย ? ” เฉี่ยนเจินเฉียนถามขึ้นมา
“ก็ไม่ได้มีอะไร ผมคิดว่าเขามีบางอย่างอยากจะบอกผม แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ยอมพูดมันออกมา” หวังเย่าตอบกลับ
“ฉันคิดว่าเผ่าชูมิอาจจะมีบางอย่างปิดบังเรา และฉันคิดว่าพวกเขาไม่ได้มีแนวคิดเดียวกันกับเรา ! ” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้น
“ผมเองก็รู้สึกแบบนั้น มันเหมือนจะต้องเกิดปัญหาขึ้นมา”
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่หวังเย่าก็ต้องจัดการธุระตัวเองก่อน
“ถึงแม้จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา แต่ผมก็มีเรื่องที่ต้องไปจัดการ ลุงเฉียน ลุงอยู่ที่นี่ ผมจะให้ชาโรน่าอยู่ที่นี่ด้วยเผื่อว่าเกิดปัญหา”
ตอนแรกหวังเย่าคิดจะให้ชาโรน่า เดินทางไปกับเขาด้วย แต่ท่าทีของชูบ้าทำให้หวังเย่าเริ่มที่จะไม่มั่นใจขึ้นมา
เขากังวลเรื่องความปลอดภัยของเฉี่ยนเจินเฉียน ดังนั้นหวังเย่าจึงตัดสินใจให้ชาโรน่าอยู่ที่นี่ และเลือกจะเดินทางออกไปเพียงลำพัง
“ไม่ ! ”
“ไม่ ! ”
ทั้งสองคนคัดค้านออกมาทันที
“นายจะไปคนเดียวได้ยังไง ? ” เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปที่ชาโรน่าและถามหวังเย่าขึ้นมา
“ที่นี่ไม่ใช่หัวเซี่ย นายจะเดินทางออกไปคนเดียวได้ยังไง ? ” หากเกิดอะไรขึ้นมา ทั้งสองก็ไม่อาจจะช่วยหวังเย่าได้ เฉี่ยนเจินเฉียนเป็นห่วงเขาจริง ๆ
“ฉันอยากไปกับคุณด้วย !” ชาโรน่าเหมือนไม่สนใจเหตุผลแล้ว เธอเองก็คิดแบบเดียวกับเฉี่ยนเจินเฉียน
“ชาโรน่า ฉันมีความคิดของตัวเอง ฉันจะให้เธออยู่ที่นี่ ! ” หวังเย่าพูดขึ้น แต่ชาโรน่าไม่คิดจะฟังคำพูดของเขาแม้แต่น้อย
“คุณคิดอะไรของคุณ ? คุณจะเดินทางไปกับผู้หญิงสองต่อสอง ! ” ตอนนั้นชาโรน่าก็ตะโกนออกมา เฉี่ยนเจินเฉียนไม่คิดจะเข้าไปยุ่งกับการโต้เถียงกันของทั้งสองคน
“คุณคิดจะไปไหนกันแน่ ? ”
“คุณควรอธิบายให้ฉันฟังหน่อย !”
“อย่างแรกเลย เราไม่คุ้นกับที่นี่ ดังนั้นในสถานการณ์อันตรายฉันก็ยังหนีออกมาได้ แต่ถ้ามีเธอด้วย ฉันก็ไม่มั่นใจ”
ชาโรน่าได้ยินแบบนั้นก็สลดไป เธอลืมไปเลยว่าเธออ่อนแอกว่าหวังเย่า ! และอาจจะไปเป็นตัวถ่วงให้กับเขา
“อย่างที่สองคือฉันคิดว่าอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาที่นี่ ผู้อาวุโสฮันกูไม่ใช่คนดี ลุงเฉียนอยู่ที่นี่คนเดียวน่ะ ฉันไม่อาจจะทำใจให้สบายได้ ฉันหวังให้เธออยู่เป็นเพื่อนลุงเฉียน ”
ชาโรน่าเป็นคนที่ฉลาด แม้ว่าหวังเย่าจะไม่อธิบายอะไรมากนัก แต่ชาโรน่าก็เข้าใจความคิดของหวังเย่า ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะไม่เถียงต่อ