ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 494 เลือกผู้ร่วมทีม
ตอนที่ 494 : เลือกผู้ร่วมทีม
หวังเย่าไม่ชอบความรู้สึกที่ไม่ได้รับความเชื่อใจแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่เขาจะทำอะไรได้ ?
การจับฉลากไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนเพราะนักรบทุกคนต่างก็มีหมายเลขของตัวเองอยู่แล้ว จากนั้นระบบก็ทำการสุ่มจับฉลากให้ มันไม่ต่างกับการจับฉลากที่หัวเซี่ยเลย
“งั้นเราจะทำการจับฉลาก สุ่มคนที่ได้ไปกับนักรบหวังเย่า !”
“โอ้ ! ” ทุกคนต่างก็ตะโกนตอบรับ
ทุกคนพากันมองไปบนจอพร้อมกับตัวเลขที่สลับไปมา
หวังเย่าถึงกับอยากจะหัวเราะออกมากับพฤติกรรมพวกนี้ มันเหมือนกับเป็นการจับหาคนโชคดีที่จะได้ไปกับเขา ?
เรื่องแบบนี้กลับพัฒนาเป็นเรื่องใหญ่ มันทำให้หวังเย่าสงสัยมากจริง ๆ
“คุณหวังเย่าช่วยเราหยุดด้วย”
เมื่อได้ยินที่ชูบ้าบอกมา หวังเย่าก็แทบอยากจะกระอักเลือดใส่ชูบ้า
นี้พวกเขาทำอย่างกับว่าจะออกไปกอบกู้โลกอย่างไรอย่างนั้น
“ได้” แม้ว่าในใจจะสับสนแต่หวังเย่าก็ยังรักษาท่าทีเอาไว้อยู่
“หยุด ! ” หวังเย่าตะโกนขึ้นมา
“01110 ”
“ยินดีกับนักรบหมายเลข 01110 ที่ได้รับภารกิจในการเดินทางที่แสนอันตรายนี้”
เขาไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ถึงได้พูดแบบนี้ออกไป แต่เขาก็แค่อยากจะพูดแบบนี้
หวังเย่าไม่ได้บอกรายละเอียดอื่น ๆ
“งั้นนักรบหมายเลข 01110 อยู่ไหน ? ” หวังเย่ามองไปรอบ ๆ แล้วถามขึ้นมา
ตอนนั้นชูบ้าก็หันกลับมามองเขา ดูเหมือนว่าหวังเย่าจะพูดบางอย่างผิดไป เขาต้องการจะหยุดหวังเย่าเอาไว้
“หัวหน้าเผ่า คุณอยากให้ฉันไปแทน 01110 รึเปล่า ? ” นักรบคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“หัวหน้าเผ่า ฉันเองก็อยากไป ! ” นักรบอีกคนพูดขึ้นมา
จากนั้นคนอื่น ๆ ก็พากันเสนอตัวเองออกมาเช่นกัน
หวังเย่าไม่ได้โง่ จากสถานการณ์ตอนนี้แล้วเขาพอจะเดาออก ว่านักรบคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน !
ยังไงซะชูบ้าที่แสดงสีหน้าใจเย็นมาโดยตลอดกลับแสดงท่าทีลังเล เขาถึงกับอยากทำการจับฉลากใหม่
นักรบคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับชูบ้ารึไง ? นี่คือสิ่งที่หวังเย่าคาดเดา
อันที่จริงแล้วนักรบคนนี้เกี่ยวข้องกับชูบ้าและคนอื่น ๆ อย่างมาก
“นักรบหวังเย่า คุณช่วยสุ่มใหม่ได้รึเปล่า ?”
หวังเย่า ยังแสดงท่าทีเฉยเมยออกมาอยู่เช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นใครมันก็ไม่สำคัญกับเขาอยู่ดี ตราบใดที่ไม่ถ่วงแข้งถ่วงขาเขาก็พอแล้ว
“แน่นอน ไม่มีปัญหา” หวังเย่าตกลงทันที
แต่ตอนนั้นเองกลับมีคนคนหนึ่งก้าวออกมา
“ฉันว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่ ! ” ชายคนนั้นมายืนอยู่ด้านซ้ายของหวังเย่า เขายังคงหลับตาอยู่ แต่หวังเย่ากลับไม่รู้สึกตัวเลยว่าอีกฝ่ายมาอยู่ที่นี่ตอนไหน
จนตอนที่ชายคนนั้นพูดหวังเย่าถึงได้รู้ตัว
ชายผมขาวคนนี้ทำให้หวังเย่ารู้สึกอคติตั้งแต่แรกพบ หวังเย่ารู้สึกไม่ชอบในตัวอีกฝ่ายสักเท่าไหร่
“ปากร้ายจริงๆ ! ” หวังเย่าพึมพำออกมา
ถ้าเป็นเรื่องมารยาทในการพูดคุย หวังเย่าชอบคนอย่างชูบ้ามากกว่า
“ผู้อาวุโสฮันกู นายรู้ไหมว่านายหมายถึงอะไร ? ”
“ฉันหมายถึงอะไรน่ะหรือ ? ไม่ใช่ว่านายก็รู้อยู่แล้วรึไง ? การจับฉลากใหม่น่ะไม่ยุติธรรม แต่นายก็ยังอยากให้นักรบหวังเย่าจับฉลากใหม่อีกหรือ ? ”
เมื่อพูดถึงหวังเย่า ผู้อาวุโสฮันกูก็แสดงท่าทีเคารพออกมาเล็กน้อย
“ก็ต้องยุติธรรมสิ….แต่”
“ในเมื่อมันเป็นการตัดสินที่ยุติธรรม งั้นทำไมเราต้องทำการสุ่มใหม่ ? เพราะ 01110 เป็นลูกสาวของนาย เลยต้องทำการจับฉลากใหม่รึไง ? ” ผู้อาวุโสฮันกูพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
ชูบ้าเองก็พูดอะไรไม่ออก
ตอนนั้นเองหวังเย่าถึงได้เข้าใจ คนที่ถูกเลือกตะกี้กลับเป็นลูกสาวของชูบ้า
เมื่อเห็นสีหน้าของชูบ้า ก็เดาได้ว่าเขาเป็นห่วงลูกสาวมากแค่ไหน
“นักรบเผ่าชูมิต่อต้านความอยุติธรรม” เมื่อเห็นว่าชูบ้าพูดอะไรไม่ออก ฮันกูก็ใช้โอกาสนี้สุมไฟต่อ
ตอนนั้นไม่มีใครคัดค้านคำพูดของฮันกูแต่อย่างใด
แต่กลับมีคนเห็นด้วยมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นทุกคนในลานก็ตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน
เมื่อเห็นแบบนั้นหวังเย่าก็ส่ายหน้าและถอนหายใจออกมา ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ต้องมีความขัดแย้งอยู่เสมอ แม้แต่ที่เผ่าชูมิที่กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์เป็นตายของเผ่าก็ยังต้องเจอกับเรื่องแบบนี้อยู่
ตอนแรกหวังเย่าตั้งใจจะบอกบางอย่างกับชูบ้า แต่ดูจากสถานการณ์แล้วเขาจึงเลือกที่จะไม่พูดดีกว่า
ในตอนที่ชูบ้าลังเลอยู่นั้น 01110 ก็ได้เดินออกมา
“ฉันพูดตอนไหนว่าจะไม่ไป ? ” เสียงของผู้หญิงดังขึ้น
ตอนนั้นทุกคนต่างก็พากันเงียบไป
“หัวหน้าเผ่าต้องการให้นักรบหวังเย่าเลือกใหม่อีกครั้งก็เพราะความรักที่พ่อมีต่อลูก ! หากเป็นคนอื่นก็คิดจะทำแบบนี้ ! ”
ลูกสาวของชูบ้า มีชื่อว่าชูหยุนเธอเองก็เป็นนักรบเช่นกัน
ทุกคนต่างก็พากันเงียบไปเมื่อได้ยินคำพูดของชูหยุน
ใช่ ถ้าคนอื่นเป็นหัวหน้าเผ่าก็อาจจะทำแบบที่ชูหยุนบอกมา
เมื่อเห็นว่าชูหยุนช่วยรักษาหน้าชูบ้าเอาไว้ ฮันกูก็มองไปที่ชูหยุนด้วยสายตาไม่พอใจ
แน่นอน หวังเย่ามองเรื่องแบบนี้ออก เขารู้ด้วยซ้ำว่าฮันกูอาจจะไม่ใช่คนดี
ดังนั้นหวังเย่าจะพยายามที่สุดเพื่อช่วยชูบ้า
“ฉันมีบางอย่างจะบอก” หวังเย่าเดินขึ้นไปบนเวทีและพูดขึ้น ตอนที่เขาพูดออกมานั้นเขาก็ได้ระเบิดพลังของตัวเองออกมา
ด้วยคลื่นพลังนี้ทุกคนต่างก็พากันเงียบไป
“ฉันเป็นผู้ชาย ดังนั้นจึงอยากพาผู้ชายออกไปด้วย การที่ต้องเดินทางกับผู้หญิงมันไม่สะดวกเท่าไหร่”
เมื่อได้ยินแบบนั้นชูบ้าก็มองไปที่หวังเย่าด้วยความซาบซึ้ง แน่นอนว่าเขารู้ว่าหวังเย่ากำลังช่วยเขาอยู่
ฮันกูไม่คิดว่าหวังเย่าจะเลือกช่วยชูบ้าแบบนี้ เขาคิดว่าเขาปิดทางช่วยทุกอย่างไว้หมดแล้ว
ตอนนี้ฮันกูไม่รู้ว่าจะต้องแก้มือยังไง
“ฉันมีสิทธิ์เลือกไม่ใช่รึไง ? ” หวังเย่ามองไปที่ฮันกูแล้วถามขึ้นมา
“ก็ใช่ แต่นายใช้สิทธิ์นั้นไปแล้ว ! ” บอกได้ว่าคำพูดของฮันกูก็ถูกอยู่
ตอนที่หวังเย่ากำลังคิดว่าจะตอบกลับยังไงนั้น ชูหยุนก็ได้พูดขึ้นมาอีกครั้ง “นายจะอคติกับผู้หญิงไม่ได้ ! ”
ประโยคนี้ทำให้หวังเย่าพูดอะไรไม่ออกทันที
“ใช่ นักรบหวังเย่า ผู้หญิงกับผู้ชายควรได้รับความเคารพเหมือนกัน”
เมื่อฮันกูกดดันแบบนี้ หวังเย่าก็ไม่มีทางเลือกอื่น
เขาได้แต่ต้องรับเธอเอาไว้เป็นเพื่อนร่วมทีมของเขา