ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 478 ชาโรน่า
ตอนที่ 478 : ชาโรน่า
ลมพัดผ่านตัวของหวังเย่าและเสี่ยวซวีอย่างรวดเร็วพร้อมกับที่ทั้งสองได้พุ่งลงมาจากยอดเขาเพื่อลงมายังป่าด้านล่าง
ในป่านี้มีเสียงคำรามของสัตว์อสูรและแมลงให้ได้ยินอย่างต่อเนื่อง
ที่นี่ให้ความรู้สึกถึงพลังของชีวิต
เสี่ยวซวีบินอยู่เหนือป่าจนทำให้สัตว์อสูรตัวอื่น ๆ คำรามออกมา
หวังเย่าไม่ได้ใส่ใจและมองไปด้านล่างเผื่อว่าจะเจออะไรทีนี่แต่แม้ว่าจะมีสัตว์อสูรและแมลงอยู่แต่ก็มีไม่มากนัก ทั้งป่านี้จำนวนสัตว์อสูรนั้นดูผิดปกติไปอย่างมาก มันทำให้หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะสงสัย
มิตินี้ทำให้หวังเย่ารับรู้ถึงความแปลกประหลาดหลายอย่าง แต่เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหนกันซึ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดไปด้วย
สุดท้าย เสี่ยวซวีก็บินออกจากป่ามาก่อนจะพบกับทะเลที่ดูไม่มีที่สิ้นสุด
เสี่ยวซวีพุ่งเข้าไปในเขตของทะเลทันทีก่อนจะลอยตัวอยู่เหนือทะเล
เมื่อได้กลิ่นของทะเลเตะจมูก หวังเย่าก็พบว่าที่นี่มีสัตว์อสูรน้ำอยู่จำนวนมาก
บางส่วนได้ทำการโจมตีเสี่ยวซวีที่อยู่บนท้องฟ้า
ก่อนหน้านี้ หวังเย่าได้ให้เสี่ยวซวีปกปิดคลื่นพลังของตัวเองเอาไว้ ไม่งั้นแล้วด้วยคลื่นพลังของระดับศักดิ์สิทธิ์ อสูรในป่าและอสูรในทะเลคงไม่กล้าที่จะโจมตีเธอ
มันยังมีเกาะจำนวนมากในทะเล ในเกาะนั้นก็มีสัตว์อสูรอยู่แต่ก็ไม่ได้มากนัก ส่วนมากแล้วเป็นงูกับแมลงไปเสียส่วนใหญ่
พวกเขายังคงบินไปต่อแต่ก็ไม่พบสัตว์อสูรขนาดใหญ่ตัวใดเลย หลังจากที่บินมาได้ 1 ชั่วโมง พวกเขาก็พบกับเกาะขนาดใหญ่ตรงหน้า มันไม่ต่างอะไรจากทวีปเล็ก ๆ เลยก็ว่าได้
เมื่อมันเป็นเกาะ หวังเย่าก็รู้สึกได้ถึงความโดดเด่นของมันที่ดูจะโดดเด่นกว่าเกาะอื่น ๆ ที่เขาพบมา
เขาได้ให้เสี่ยวซวีลงไปที่เกาะด้านล่างทันที
เมื่อไม่พบอะไรรอบ ๆ เสี่ยวซวีก็เปลี่ยนร่างกลับเป็นคน
จากนั้นทั้งสองก็พากันเดินทางเข้าไปในกาะต่อ
เมื่อเดินทางเข้ามาในป่าบนเกาะแห่งนี้ หวังเย่าก็พบร่องรอยของมนุษย์ การค้นพบนี้ทำให้เขาแปลกใจอย่างมาก มันแสดงให้เห็นว่ามีมนุษย์อยู่บนเกาะนี้ มันอาจจะเป็นคนในกลุ่มของเขารึคนต่างชาติที่เข้ามาที่นี่ก่อนหน้านี้ แต่เดาว่ามันเป็นไปได้ที่จะเป็นชาวต่างชาติมากกว่าเพราะเขาค้นพบร่องรอยของมนุษย์จำนวนมาก หากเป็นพวกของเฉี่ยนเจินเฉียน บางทีพวกเขาอาจจะยังเดินทางมาไม่ถึงที่นี้ด้วยซ้ำ
ยิ่งเดินทางเข้าไปด้านในมากเท่าไหร่ก็ยิ่งพบกับร่องรอยของมนุษย์มากเท่านั้น มันแสดงให้เห็นว่าที่นี่มีคนอยู่จริง ๆ
ประมาณ 30 นาทีต่อมา หวังเย่าก็พบกับแคมป์ที่พัก
แต่ยังไม่ทันจะได้ตั้งตัว หวังเย่าและเสี่ยวซวีก็ถูกพบตัวทันที
ทหารผิวดำโผล่ออกมาจากป่าพร้อมกับอาวุธในมือมองมายังทั้งสองคน
จากนั้นพวกเขาก็พูดออกมาด้วยภาษาที่หวังเย่าไม่เข้าใจอย่างที่เคยผ่านมา ตอนที่ทั้งสองโดนพบตัว ทหารพวกนี้คงรายงานกลับไปที่แคมป์แล้ว จากนั้นทหารกลุ่มใหญ่ก็มุ่งหน้ามาหาพวกเขา
ตรงหน้าสุดคือสาวสวยหุ่นดีอกโตผมสีบลอนด์
หวังเย่าต้องแปลกใจ เพราะเธอดูน่าจะอายุประมาณ 27-28 ปี แต่ความแข็งแกร่งนั้นกลับอยู่ที่ระดับ SSS แล้ว บอกได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นหัวเซี่ยรึประเทศอื่นนั้นก็ไม่ได้ขาดแคลนคนที่มีพรสวรรค์อย่างตี้เวยจื๊อและสาวสวยตรงหน้านี้เลย ซึ่งเธออายุยังน้อยแต่ก็ขึ้นไปถึงระดับ SSS ได้แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นหวังเย่าก็ลืมคิดถึงตัวเองที่อายุน้อยกว่าเขาเสียอีก แต่ก็มีความแข็งแกร่งระดับ SSS ขั้นสูงแล้ว
กลุ่มทหารพวกนั้นมองมาที่หวังเย่าและเสี่ยวซวีด้วยสีหน้ากังวล
สาวสวยตรงหน้ารู้สึกว่าเธอน่าจะกำลังสนใจชุดเกราะที่หวังเย่าสวมใส่อยู่ จากนั้นเธอก็มองไปที่เสี่ยวซวีซึ่งอยู่ข้าง ๆด้วยสายตาที่เป็นประกาย
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็เหมือนกับเธอพบบางอย่างเข้าจนทำให้สายตาของเธอตึงเครียดขึ้นมาทันที
เสี่ยวซวีมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่นัก
สาวสวยละสายตาหนีทันที เธอไม่สนใจเสี่ยวซวีอีกและมองไปที่หวังเย่าแทน
หลังจากนั้นเธอก็พูดภาษาต่างชาติออกมา แม้ว่าเสียงของเธอจะน่าฟังขนาดไหน แต่หวังเย่าก็ไม่อาจจะเข้าใจว่าเธอต้องการจะสื่ออะไรอยู่ดี
เมื่อเห็นแบบนั้นสาวสวยก็ลองเปลี่ยนภาษาอีกครั้ง แต่หวังเย่าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะขัดขึ้นก่อนที่เธอจะเปลี่ยนภาษา “ฉันเป็นคนหัวเซี่ย”
แค่คำพูดง่าย ๆ แต่กลับทำให้สาวสวยคนนี้แสดงท่าทีแปลกใจออกมา
เธอคิดว่าผู้ชายตรงหน้านี้จะมาจากประเทศใกล้เคียง แต่สุดท้ายเขากลับมาจากประเทศที่ทรงอำนาจอย่างหัวเซี่ย
จากนั้นเธอก็แสดงท่าทีสุภาพต่อหวังเย่าทันที
“กลับเป็นว่าคุณมาจากประเทศมหาอำนาจอย่างหัวเซี่ย ขอโทษด้วยที่เราไม่สุภาพ” สาวสวยพูดภาษาจีนออกมาอย่างคล่องแคล่วก่อนจะบอกกับทหารรอบตัวเธอด้วยภาษาของพวกเขา
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับแคมป์ไป
“ฉันชื่อชาโรน่า ฉันไม่รู้ว่าคุณชื่อว่าอะไร ..” สาวสวยมองไปที่หวังเย่าแล้วพูดขึ้น
“เรียกฉันว่าหวังเย่าก็พอ ส่วนนี่เสี่ยวซวี” หวังเย่าบอกชื่อตัวเองและเสี่ยวซวี
“งั้นฉันขอถาม คุณหวังเย่า คุณเข้ามาในมิตินี้นานแค่ไหนแล้ว ? ” ชาโรน่าแสดงสีหน้าจริงจังออกมาและถามขึ้น