ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 466 ตกสู่ความมืดมิด
ตอนที่ 466 : ตกสู่ความมืดมิด
เมื่อเห็นว่าเฉี่ยนเจินเฉียนลงมือ คนอื่น ๆ เองก็ไม่คิดที่จะหยุดนิ่งต่อไป
ไม่รู้ว่าพวกเขาฆ่าผึ้งไปได้กี่ตัว แม้ด้วยความเร็วของพวกเขา แต่ผึ้งพวกนั้นก็ยังมีมาอยู่เรื่อย ๆ เหมือนไม่มีสิ้นสุด
มือของหวังเย่ามีไฟปะทุออกมาจากนั้นก็ยิงเข้าใส่ฝูงผึ้งตรงหน้าทันมีอย่างไม่รีรอ
ตูม !
ไฟมังกรอันน่าทึ่งพุ่งจากมือออกไป ก่อนไฟจะพุ่งไปเผาพื้นที่ตรงส่วนนั้นแทบจะทันที จนทำให้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับผึ้งที่อยู่แนวหน้าที่โดนเผาจนเป็นตอตะโก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีฝูงผึ้งด้านหลังเขามาสมทบเพิ่มอยู่ดี
แค่เพียงชั่วครู่อากาศที่นั่นก็เปลี่ยนเป็นทะเลไฟ จนทำให้ความชื้นที่นั่นระเหยหายไปด้วย
ป่าโดยรอบเริ่มไหม้ไปตาม มันเพียงพอที่จะทำให้เห็นว่าการโจมตีของหวังเย่านั้นน่ากลัวแค่ไหน
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันมองหวังเย่าด้วยความแปลกใจ ความแข็งแกร่งของหวังเย่าในใจของพวกเขาตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เห็นหวังเย่าเอาจริงเลย ไม่รู้เลยว่าขีดจำกัดของเด็กหนุ่มตรงหน้าพวกเขานี้จะสูงแค่ไหน แต่พวกเขารู้สึกได้ว่าบางทีความแข็งแกร่งของหวังเย่านั้นคงจะสูงกว่าพวกเขาไปแล้วด้วยซ้ำ
พายุไฟยังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่องพร้อมกับเสียงกรีดร้องของพวกผึ้งที่ดังขึ้นมาไม่หยุด ตอนนั้นนอกจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นแล้วก็ยังมีกลิ่นไหม้ที่ลอยกระจายไปทั่ว
นี่คือฉากที่ผึ้งโดนเผาทั้งเป็น
ไม่กี่นาทีต่อมาฝูงผึ้งก็พากันถอยกลับไป
ไฟของหวังเย่าก็ได้ดับลง ป่าโดยรอบเองก็หยุดไหม้ไปด้วยเช่นกัน
ตอนนี้พื้นที่ตรงหน้าของทั้งเจ็ดคน ถูกรายล้อมไปด้วยพื้นที่ที่โดยเผาพร้อมกับศพของผึ้งจำนวนมาก
ผึ้งทุกตัวที่เข้ามาในเขตนี้ไม่อาจจะหนีออกไปได้แม้แต่ตัวเดียว
บางคนคิดจะเดินไปหยิบเอาเนื้อผึ้งย่างมากินด้วยซ้ำ
จากนั้นทั้งเจ็ดคนก็ยังเดินหน้าต่อ
ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเดินจากไป ก็มีเหล่าสัตว์อสูรไปรวมตัวกันกินซากผึ้งที่พื้นที่นั้น
“ฮ่าฮ่า หวังเย่า นายนี่แข็งแกร่งจริง ๆ แค่ไม่กี่นาทีกลับฆ่าพวกผึ้งได้หมด” จางจื้อเฉียงเดินเข้ามาหาหวังเย่าด้วยรอยยิ้ม
“มันก็แค่วิธีการรับมือกับพวกสัตว์อสูรจำนวนมากเท่านั้นลุงจาง” หวังเย่าตอบกลับ
“ถ้าฉันเดาไม่ผิด มันน่าจะเป็นไฟมังกร ไฟมังกรที่บริสุทธิ์ใช่ไหม ? ” เฉี่ยนเจินเฉียนที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้หันกลับมาแต่พูดขึ้น
“ลุงเฉียนพูดถูกแล้ว” หวังเย่าแปลกใจนิด ๆ แต่เมื่อคิดดูแล้วก็ไม่แปลกที่เฉี่ยนเจินเฉียนจะรู้
ยังไงซะเฉี่ยนเจินเฉียนก็เคยสู้กับมังกรเพลิง เป็นธรรมดาที่เฉี่ยนเจินเฉียนจะเคยเจอกับไฟมังกร มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เฉี่ยนเจินเฉียนจะรู้จัก
“อย่างนี้นี่เอง” คนอื่น ๆ ได้ยินแบบนั้นก็เข้าใจทันที
พวกเขาไม่ได้ถามหวังเย่าต่อว่าได้ทักษะนี้มาได้ยังไง เพราะถึงยังไงทุกคนก็มีความลับของตัวเอง
แม้แต่พวกเขาเองก็มีความลับที่ไม่อยากจะให้ใครรู้ปิดบังเอาไว้อยู่
กรร !
หลังจากที่เดินทางได้สักพักพวกเขาก็ได้ยินเสียงคำรามดังขึ้นมาทั่วพื้นที่ ต้นตอของเสียงอยู่ไม่ห่างจากพวกเขานัก
ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นอยู่ไม่ไกลกันเลย
ในพริบตาทั้งเจ็ดก็พากันหยุดและเตรียมร่างกายให้พร้อมต่อสู้
ไม่รู้เลยว่าเจ้าของเสียงนี้จะเป็นสัตว์อสูรแบบไหน จึงต้องระวังตัวเอาไว้ให้ดี สุดท้ายหลังจากที่เดินหน้าได้ไม่นานก็มีสัตว์อสูรขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขา
มันคือหมีดำแต่ตัวของมันยาวหลายสิบเมตร ตอนที่มันนอนไม่ต่างอะไรจากเนินเขาเลยก็ว่าได้
รอบตัวมันแผ่หมอกสีดำออกมาซึ่งมันคือคลื่นพลังของปีศาจ
เมื่อรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังปีศาจ หวังเย่าก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ไม่ใช่ว่านี่คือเงาดำที่จะกลืนกินทั้งโลกเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานรึไง ?
แม้ว่าคลื่นพลังปีศาจที่หมีดำแผ่ออกมานั้นจะไม่ได้มากเท่ากับที่หวังเย่าเคยเจอก่อนหน้านี้แต่ก็ยังทำให้หวังเย่าแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมาอยู่ดี
หมีดำนอนอยู่กับพื้น กรงเล็บของมันฟาดลงกับพื้นจนทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน
ในเวลาเดียวกันหมีดำก็คำรามออกมาอีกครั้ง
หวังเย่ารู้สึกได้ถึงการดิ้นรนในเสียงคำรามนี้
หมีดำนี้เริ่มตาแดงก่ำ มันดูสับสน ชัดแล้วว่ามันพยายามที่จะต่อต้าน ดูเหมือนว่ามันกำลังสู้กับบางอย่างอยู่
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงได้ใช้กรงเล็บฟาดพื้นและคำรามออกมาแบบนี้ ในเวลาเดียวกันคลื่นพลังปีศาจรอบตัวมันก็แผ่ออกมามากกว่าเดิมถึงสองเท่า สุดท้ายการดิ้นรนก็ไร้ผล จนตอนนี้ตาของมันแดงสนิทแล้ว
มันคำรามด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
กรร !
เดิมทีมันนอนหมอบอยู่กับพื้น แต่มันกลับลุกขึ้นราวกับภูเขาลูกเล็ก ๆ โผล่ขึ้นมาจากดิน การเดินแต่ละก้าวของมันนั้นทำให้พื้นดินสั่นไหวไปตาม
พลังอันน่ากลัวได้แผ่ออกมาจากตัวของมัน จนทำให้แม้แต่เสียงของแมลงก็ยังหายไปเพราะความกลัว
เมื่อรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังอันน่ากลัวนี้ เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ก็พากันแสดงสีหน้าหนักใจออกมา
พวกเขารู้สึกว่าหมีดำตรงหน้านี่แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก
เดาว่าตอนนี้มันคงอยู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงไปแล้ว มันห่างจากระดับเทพแค่เพียงก้าวเดียวเท่านั้น
หากหมีดำนี่วิวัฒนาการได้ มันอาจจะขึ้นไปถึงระดับเทพจริง ๆ ก็ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นไม่ต้องเดาเลยว่ามันต้องเกิดเรื่องใหญ่กับโลกมนุษย์อย่างแน่นอน
หมีดำเหมือนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างแอบอยู่ใกล้ตัวมัน มันได้พุ่งเข้าใส่พื้นที่ที่กลุ่มของหวังเย่าอยู่พร้อมกับคำรามออกมา
กรร !