ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 465 ฝูงผึ้งยักษ์
ตอนที่ 465 : ฝูงผึ้งยักษ์
“มีอะไรอยู่ด้านล่างนั่นกัน ? ” หลี่ว่านเฟิงก้มลงไปมองที่เหวพร้อมคิ้วที่ขมวด
เมื่อคิดถึงลำแสงที่น่ากลัวที่เพิ่งโจมตีพวกเขาไป แต่ละคนต่างก็รู้สึกว่าการโจมตีนี้ต้องมาจากตัวตนที่ไม่ด้อยกว่าระดับศักดิ์สิทธิ์แน่ ๆ
ตอนนี้หุบเหวได้กลับมาเงียบสงบอีกครั้งราวกับว่าไม่เคยมีลำแสงสีแดงพุ่งออกมา มันเหมือนกับเป็นพียงแค่ภาพลวงตา แต่แผลที่แขนขวาของฮวงเทียนเจวี๋ยนก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตะกี้ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่มันคือเรื่องจริง
หวังเย่าและคนอื่น ๆ เดินไปที่ริมผาและมองลงไปด้านล่างพร้อมคิ้วที่ขมวด
พวกเขาสงสัยว่าทำไมเฮลิคอปเตอร์ถึงบินผ่านมาได้โดยไม่เกิดอะไรขึ้นกับมันเลย แต่พวกเขาทำไมถึงโดนโจมตี ?
“สิ่งมีชีวิตด้านล่างน่าจะมีความสามารถในการตรวจจับคลื่นพลังชีวิตได้”
นี่คือความคิดที่โผล่มาในหัวพวกเขา
บางทีนี่อาจจะเป็นแค่การคาดเดา สถานการณ์จริง ๆ นั้นไม่อาจจะรู้ได้นอกจากลงไปสำรวจจริง ๆ แต่มันอันตรายเกินไป ตอนนี้ทั้งเจ็ดคนทำได้แค่ก้มลงไปมองด้านล่างและคาดเดาเท่านั้น
หน้าที่หลักของพวกเขาตอนนี้คือต้องไปสำรวจเส้นตัดมิติบนท้องฟ้า
หากมีเวลาเหลือพอ พวกเขาก็ไม่รังเกียจที่จะกลับมาที่นี่อีก
“เอาล่ะ ไปต่อกันเถอะ” เฉี่ยนเจินเฉียนเรียกสติทุกคน
ซือคงเป่าเก็บเฮลิคอปเตอร์เข้าไปในถุงมิติก่อนที่ทั้งเจ็ดคนจะเดินทางกันต่อ
พื้นที่ฝั่งนี้ต่างจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทะเลทรายที่เพิ่งข้ามมา
มันมีโอเอซิสอยู่ที่นี่ด้วย มันมีน้ำรวมถึงมอสและต้นไม้ต่าง ๆ ป่าที่นี่ค่อนข้างร้อนชื้น
ในพื้นที่นี้คนทั่วไปคงอยู่ได้ไม่ถึง 1 ชั่วโมงเพราะมันร้อนเป็นอย่างมาก
เนื่องจากทั้งเจ็ดคนแข็งแกร่งจึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบ พวกเขายังคงเดินหน้าได้อย่างปลอดภัย
ตอนนั้นอยู่ ๆ พวกเขาก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ที่ทำให้รู้สึกแย่ขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้กังวลอะไรและยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะถึงอย่างไรที่นี่ก็มีเสียงสัตว์อสูรคำรามดังขึ้นไม่บ่อยนัก
พวกเขาเดินทางมาได้ครึ่งวัน แต่ไม่ได้ยินเสียงสัตว์อสูรคำรามเลย เพราะมันมีแต่เสียงแมลงร้อง แต่แมลงในพื้นที่นี้ไม่ใช่แมลงทั่วไป พวกมันต่างก็กลายพันธุ์กันแล้ว พวกมันมีขนาดใหญ่พร้อมกับความกระหายเลือด
พวกเขาเดินทางต่อได้ไม่นานนัก หวังเย่าก็ถูกโจมตีโดยกลุ่มหนอน
โชคดีที่พวกนี้ไม่ได้แข็งแกร่งมาก ทั้งเจ็ดคนจึงจัดการมันได้อย่างง่ายดายและเดินทางต่ออย่างปลอดภัย
พื้นที่นี้ไม่ใช่แค่พวกแมลงที่กลายพันธุ์ แม้แต่ต้นไม้รอบ ๆ เองก็กลายเป็นต้นไม้กินคนไปด้วย
มันแสร้งทำเป็นต้นไม้ปกติ แต่เมื่อเหยื่อเข้าใกล้ มันก็จะทำการโจมตี แต่การโจมตีเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นภัยอะไรต่อทั้งเจ็ดคน
สิ่งที่พวกเขาต้องระวังคือเสียงคำรามของสัตว์อสูรที่ดังขึ้นอยู่บ้าง
แม้ว่าจะไม่ได้เจอพวกมัน แต่แค่ได้ยินเสียงคำรามก็ทำให้พวกเขาต้องใจสั่น มันไม่ยากที่จะคิดภาพว่าพวกมันแข็งแกร่งกันแค่ไหน พวกเขาเตรียมพร้อมรับการโจมตีอยู่เสมอ
ตอนนั้นเองหวังเย่าก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อมองลอดผ่านใบไม้ไปก็พบว่าเส้นสีดำบนท้องฟ้านั้นชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ
มันแสดงว่ามีบางอย่างที่พวกเขายังไม่รู้ แต่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อโลกมนุษย์
ที่น่าแปลกใจก็คือระยะทางที่ผ่านมาพวกเขาไม่พบทางเข้ามิติลับเลย แม้แต่รอบ ๆ เส้นตัดมิตินี้ก็ตาม
ทุกคนพากันปรึกษาแต่ก็ไม่ได้ข้อสรุปใด ๆ กลับมา บางทีต้นกำเนิดของเส้นตัดมิตินั้นอาจจะบอกความจริงทุกอย่างก็ได้
ทั้งเจ็ดคนคิดว่าตราบใดที่ไปเจอต้นกำเนิดของเส้นตัดมิติได้ บางทีพวกเขาอาจจะเจอกับเบาะแสของการเปลี่ยนแปลงรึว่าบางทีเส้นตัดมิตินั้นอาจจะเป็นต้นกำเนิดของการเปลี่ยนแปลงก็ได้
ทุกอย่างจะเปิดเผยเองในไม่ช้าเมื่อไปถึงเส้นตัดมิตินั้นได้
ผ่านมากว่า 30 นาทีก่อนที่ทั้งเจ็ดคนจะเข้ามาในส่วนด้านในของที่นี่ได้
หากไม่ใช่เพราะมีเส้นตัดมิติตรงหน้าคอยบอกทาง งั้นทั้งเจ็ดคนอาจจะเดินทางเป็นวงกลมไปแล้ว
ผ่านไป 1 ชั่วโมงทั้งเจ็ดก็เดินทางฝ่าฝูงสัตว์อสูรและพวกแมลงออกมาได้ พวกเขาพบที่ที่ปลอดภัยเพื่อฟื้นฟูร่างกายเผื่อว่าจะมีอันตรายรออยู่ด้านหน้า
ระหว่างทางพวกเขาก็ยังไม่พบทางเข้ามิติลับเลย มันทำให้ที่นี่ดูแปลกประหลาดขึ้นไปอีก
“หึ่ง หึ่ง !”
ตอนนั้นเองกลับมีเสียงดังขึ้นมาในหูของพวกเขา
จากนั้นฝูงผึ้งขนาดใหญ่ฝูงหนึ่งก็พุ่งเข้าหาพวกเขาด้วยความเร็วสูง
ผึ้งพวกนั้นแทบจะปิดท้องฟ้าเอาไว้ได้ พวกมันเกาะตัวกันเป็นกลุ่มราวกับเมฆดำพร้อมกับส่งเสียงหึ่งที่น่ารำคาญออกมา
ฝูงผึ้งที่บินเข้ามาราวกับกองทัพทหารอากาศที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที หวังเย่าเองก็มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
ผึ้งจำนวนมากแบบนี้ แม้ว่าพวกเขาจะมีความแข็งแกร่งจัดการมันได้แต่ก็คงต้องเสียแรงกันไปไม่ใช่น้อย แต่ตอนนี้พวกเขาไม่อาจจะหนีกลับไปไหนได้
ที่พวกเขาต้องทำคือเดินหน้าต่อและฆ่าผึ้งพวกนี้ให้เร็วที่สุด จากนั้นก็ออกจากที่นี่เผื่อจะมีสัตว์อสูรตัวอื่นตามมา
เฉี่ยนเจินเฉียนพลิกฝ่ามือพร้อมอาวุธที่ปรากฏขึ้นมา อยู่ ๆ พายุก็ระเบิดออกจากตัวเขาก่อนจะพุ่งเข้าใส่ฝูงผึ้ง
ไม่รู้เลยว่าด้วยการโจมตีนี้จะฆ่าผึ้งไปได้กี่ตัว
แต่เมื่อฆ่าผึ้งที่อยู่ด้านหน้าไป ก็จะเห็นส่วนด้านหลังกองทัพของมัน ที่ทำให้เฉี่ยนเจินเฉียนสีหน้าหม่นลงทันที