ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 462 หนีกลับ
ตอนที่ 462 : หนีกลับ
สัตว์อสูรสีขาวนั้นมีร่างกายเหมือนกับมนุษย์แต่มันสูงกว่า 4- 5 เมตร ผมสีขาวของมันกระพือไปตามลม มันแผ่คลื่นพลังอันกระหายเลือดออกมา ทำให้บรรยากาศดูหนักอึ้งขึ้นไปอีก
บนใบหน้าของมันไม่ได้มีจมูกรึปาก มันมีแต่ตาเพียงคู่เดียวเท่านั้น นัยน์ตาของมันเป็นสีม่วงแดงดูผิดปกติอย่างมาก
ตอนนั้นมันแค่ยืนนิ่ง ๆ แม้ว่าจะบาดเจ็บอยู่บ้างแต่อาการบาดเจ็บก็ไม่ได้หนักหนาอะไร
มันมองไปยังทีมหัวเซี่ยที่บาดเจ็บหนักพร้อมกับอสูรที่นอนกองอยู่ที่พื้น
สัตว์อสูรไม่ได้ลงมือต่อ มันกลับยืนนิ่งและมองไปที่พวกเขาด้วยสายตาเยาะเย้ย
หลังจากที่ตะลึงในตอนแรก ทั้งเจ็ดคนก็รู้ว่าสัตว์อสูรตรงหน้าพวกเขานั้นน่ากลัวแค่ไหน แต่ตอนนี้พวกเขาเหมือนกับโดนดูถูก จากที่เป็นคนระดับสูงของประเทศกลับโดนเหยียดหยามเช่นนี้ได้
แต่ละคนต่างก็มีความมั่นใจเป็นของตัวเอง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรนี้แล้ว ไม่ใช่แค่พ่ายแพ้ให้กับมันแต่กลับโดนมันหยามเกียรติ หากไม่ใช่เพราะบาดเจ็บหนักจนไม่อาจจะสู้ต่อได้ งั้นพวกเขาก็คงเลือกที่จะสู้กับมันต่อแน่ แต่ตอนนี้พวกเขารู้ดีว่าไร้พลังที่จะต้านทานความแข็งแกร่งของมัน
แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าอับอายแต่พวกเขาก็ยังมีสติกันอยู่ การมีชีวิตต่อต่างหากที่สำคัญที่สุด
เมื่อคิดแบบนั้นทุกคนก็นึกถึงผลึกแร่ไฟที่หวังเย่าให้พวกเขาก่อนจะออกเดินทาง หากพวกเขาตกอยู่ในอันตรายที่ถึงกับชีวิตก็ให้ใช้มันทันที
เมื่อเปิดใช้งานผลึกแร่ไฟนั้นพวกเขาจะถูกส่งกลับไปที่เมืองหัวเซี่ย ซึ่งนั่นหมายความว่าการเดินทางของพวกเขาจะสิ้นสุดลงก่อนที่พวกเขาจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กลับไป
ตอนนี้พวกเขาพากันลังเลอย่างมากว่าจะเดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้
พวกเขาไม่อยากกลับไปมือเปล่า ไม่ใช่แค่เสียหน้าแต่ยังเป็นเรื่องที่ทำให้พวกเขารู้สึกละอายใจไปด้วย
ทั้งเจ็ดคนเอาผลึกแร่ไฟออกมาแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ
เพราะพวกเขายังลังเลอยู่ไม่น้อย
สัตว์อสูรที่อยู่ตรงกันข้ามมองไปที่ผลึกแร่ไฟในมือทั้งเจ็ดคนทันที สัญชาตญาณบอกมันว่าหากไม่ลงมือตอนนี้ก็จะไม่มีโอกาสอีก ความเหยียดหยามที่มันแสดงออกมาได้หายไป ก่อนที่มันจะเดินเข้าหาทั้งเจ็ดคนอย่างช้า ๆ
เมื่อเห็นสัตว์อสูรนั่นเดินเข้ามา ทั้งเจ็ดคนก็ตัดสินใจลงมือทันที
เพราะถึงอย่างไรชีวิตของพวกเขาก็สำคัญที่สุด
หลังจากที่มองหน้ากันแล้วทั้งเจ็ดคนก็เทพลังลงไปในผลึกแร่ไฟในมือ
ผลึกแร่ไฟส่องแสงสีแดงออกมา ค่ายกลเคลื่อนย้ายในผลึกได้ทำงานทันที
มิติรอบตัวของพวกเขาบิดเบี้ยวไป สัตว์อสูรที่เดินเข้าหาพวกเขาแสดงสายตาตึงเครียดออกมา
มันรู้ว่าไม่อาจจะช้าได้อีก มันรีบพุ่งเข้าไปแต่ร่างของทั้งเจ็ดคนกลับหายไปในตอนที่มันไปถึงจุดที่ทั้งเจ็ดคนอยู่
ตอนนั้นเองการโจมตีของสัตว์อสูรก็อัดลงที่พื้นจนทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมา
แต่ในหลุมนั้นกลับไม่มีร่างของทั้งเจ็ดคนอยู่เลย แม้แต่อสูรที่บาดเจ็บของพวกเขาก็ยังไม่อยู่ที่นั่น
ทั้งเจ็ดคนดึงอสูรกลับเข้าไปในกำไลได้ทันก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับไป ชัดแล้วว่าสัตว์อสูรตัวนี้มีความฉลาดไม่ใช่น้อย มันรู้ว่าพวกนี้กำลังจะหนี แต่แค่ไม่รู้ว่าจะหนีไปที่ไหนก็เท่านั้น
มันทำให้สัตว์อสูรนั่นโกรธจัดและระบายอารมณ์ออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ในตอนที่มันคำรามนั้นแผ่นน้ำแข็งก็เริ่มแตกออกกลายเป็นก้อนน้ำแข็งชิ้นเล็ก ๆ กระจายไปทั่วก่อนจะจมไปในทะเลด้านล่าง
หมอกสีขาวพรั่งพรูออกมาปกคลุมตัวมัน เผยให้เห็นแต่สายตาอันโกรธแค้น
…
ทีมของหวังเย่าไม่รู้เลยว่ามีอะไรรออยู่ที่นี่ พวกเขาได้แต่มองไปรอบ ๆ ด้วยความระมัดระวัง
หากถามว่าทำไมพวกเขาถึงต้องระวังตัวกันแบบนี้ ก็เพราะพวกเขาเดินทางมายังเส้นสุดขอบฟ้าที่มีเส้นสีดำพาดผ่านบนท้องฟ้าซึ่งมันดูแปลกอย่างมาก ด้วยความแข็งแกร่งที่มีแล้วก็ทำให้พวกเขามั่นใจตัวเองและเลือกที่จะบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเหมือนตอนเดินทางในทะเลก่อนหน้านี้ แต่ไม่นานหลังจากที่ขึ้นบินแล้ว พวกเขาก็พบกับกรงเล็บขนาดใหญ่
แม้ทักษะการบินของซือคงเป่าจะสูง แต่ก็ไม่อาจหลบหนีจากการโจมตีนี้ได้ หากไม่ใช่เพราะเครื่องบินนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุพิเศษ งั้นบางทีภายใต้กรงเล็บนี้ มันอาจจะระเบิดออกเลย แต่แม้ว่าจะเป็นเครื่องบินที่ดีและมีการป้องกันที่สูงจนน่าทึ่ง แต่เมื่อได้รับการโจมตีจากกรงเล็บนี้แล้วก็ทำให้มันเสียการควบคุมอยู่ดี
ตอนนั้นพวกเขาอยู่สูงจากพื้นดินเกือบ 1 กิโลเมตร
กรงเล็บนั้นได้โจมตีเข้ามาอีกครั้งก่อนที่จะทำให้เครื่องบินร่วงลงมาด้วยความเร็วสูง บอกได้ว่าตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่
สุดท้ายทั้งเจ็ดคนก็กระโดดออกมาจากเครื่องก่อนที่กรงเล็บนั้นจะโจมตีเครื่องบินอีกครั้ง
ในตอนที่เครื่องบินโดนโจมตี มันก็ได้ระเบิดออกทันที
หวังเย่าและคนอื่นๆอยู่สูงจากพื้นเกือบ 1 กิโลเมตร ได้ร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว
แต่ละคนต่างก็แข็งแกร่ง พวกเขารอให้ห่างจากพื้น 100 เมตรก่อน ถึงจะใช้ทักษะของตัวเองออกมาเพื่อชะลอความเร็วของตัวเองก่อนจะถึงพื้น แต่พวกเขาก็ต้องใช้ทักษะของตัวเองเพื่อหลบกรงเล็บนั่นไปด้วย
เมื่อไม่อาจจะบินได้จริง ๆ การที่ต้องต่อสู้บนท้องฟ้านี้ก็มีแต่จะทำให้พวกเขาเสียเปรียบ
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาต้องคำนวณระยะทางด้านล่างเพื่อให้ลงถึงพื้นได้อย่างปลอดภัย แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันดูโกลาหลเป็นอย่างมาก