ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 459 ความขัดแย้ง
ตอนที่ 459 : ความขัดแย้ง
“พวกแกมาจากไหนกันพวกลิงเหลือง โซเวียตไม่ต้อนรับพวกแก ! ”
ที่ประตูเมืองกลุ่มของหวังเย่ายืนอยู่ที่นั่น ไม่นานก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจนทำให้สีหน้าของพวกเขาหม่นลง
นี่ไม่ใช่ภาษาต่างชาติแต่เป็นภาษาจีน
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากประตูเมือง ตาของเขาสีฟ้า ใบหน้าดูอ่อนเยาว์แต่เต็มไปด้วยความอคติ ชายคนนั้นมองมาที่กลุ่มของหวังเย่าด้วยความไม่พอใจ
“ทำไมไม่ตอบ พวกลิงเหลือง ! ใช่สิ ลืมไป ลิงจะพูดได้ยังไง รีบกลับรังพวกแกได้แล้ว ! โซเวียตของพวกเราไม่ให้ลิงอย่างพวกแกเข้า ! ” ชายหนุ่มพูดขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา
ในสายตาของเขาแล้ว กลุ่มของหวังเย่าน่ะไม่ใช่มนุษย์ด้วยซ้ำ
เมื่อได้ยินที่ชายหนุ่มคนนี้พูดมา บรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที ราวกับว่าจะเกิดการระเบิดขึ้นตอนไหนก็ได้ คนที่เดินเข้าออกเมืองต่างก็พากันเว้นระยะห่างออกไปเพราะกลัวว่าจะมีปัญหาไปด้วย พวกเขาไม่ได้หนีออกไปแต่กลับรอดูอยู่ห่าง ๆ
แม้ว่าคนส่วนมากจะไม่เข้าใจภาษาจีนแต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น นายน้อยของตระกูลเกียร์กำลังด่าทอคนที่มาจากฝั่งตะวันออกอยู่
กลุ่มของหวังเย่าเมื่อได้ยินแบบนั้นก็พากันโกรธขึ้นมา มีพลังปะทุออกมาจากตัวพวกเขา มันทำให้บรรยากาศดูน่าอึดอัดขึ้นไปอีก
“กล้าดียังไง ! พวกลิงเหลือง แกทำให้ฉันโกรธ ! ”
“พวกลิงเหลือง ! …”
ครั้งนี้ชายหนุ่มยังพูดไม่ทันจบ เขาก็ถูกหยุดเอาไว้ก่อน เพราะตอนนั้นมีมือหนึ่งพุ่งออกมากำคอของเขาเอาไว้จนหน้าของเขาแดงก่ำและพูดอะไรไม่ออก
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ชายหนุ่มไม่อาจจะตั้งรับได้ทันรวมไปถึงคนคุ้มกันรอบตัวด้วย
ตอนที่พวกนั้นได้สติชายหนุ่มก็สีหน้าซีดราวกับกำลังจะตายแล้ว
เมื่อเห็นแบบนั้นคนคุ้มกันก็พากันโกรธขึ้นมา การที่เจ้านายของตัวเองตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ถือว่าเป็นความผิดของพวกเขา !
กว่าที่พวกนั้นจะได้สติก็ตอนที่หวังเย่ากำลังกำคออีกฝ่ายอยู่ แต่ก่อนที่พวกนั้นจะได้ลงมือก็มีสายลมอันน่ากลัวก่อตัวขึ้นพร้อมกับหมัดอันรวดเร็วดั่งสายฟ้าอัดกระหน่ำใส่ร่างของเหล่าคนคุ้มกัน จนทำให้พวกนั้นล้มลงไปกองกับพื้น
“ไอ้พวกนี้กล้าดูถูกเรา นี่แค่ชานเมืองเองนะ พวกแกคงหลงตัวเองจนไม่รู้สินะว่าหาเรื่องใครอยู่” จางจื้อเฉียงมองไปที่เหล่าคนคุ้มกันแล้วพูดขึ้นมา
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ก็แสดงท่าทีโมโหออกมาเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าคนคุ้มกันคิดจะลุกขึ้นยืน พวกเขาก็พากันโจมตีพวกนั้นอีกครั้ง
หวังเย่ายังคงกำคอของชายหนุ่มเอาไว้แน่น
“แกว่าใครเป็นลิงเหลืองนะ ? หือ ? ” หวังเย่ามองไปที่ชายหนุ่มพร้อมมือที่กำแน่นกว่าเดิม เขาถึงกับยกตัวชายหนุ่มขึ้นจากพื้น
ชายหนุ่มสีหน้าบิดเบี้ยวราวกับหมูจะโดนเชือด เท้าของเขาเตะไปมา มือทั้งสองข้างจับแขนของหวังเย่าเอาไว้แน่นพยายามจะง้างมือหวังเย่าออก แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ไม่อาจจะง้างมือหวังเย่าออกได้ มันราวกับคีมเหล็กที่บีบคอเขาอยู่
การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัดกว่าเดิม ไม่นานเขาก็เริ่มหายใจไม่ออก
ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขากำลังจะตายซึ่งทำให้เขาเตะเท้าไปมายิ่งกว่าเก่า
ไกลออกไปคนอื่น ๆ เห็นแบบนั้นก็เผยสีหน้าช็อกออกมา
ทุกคนต่างก็แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา
มันแสดงให้เห็นแล้วว่าชายหนุ่มคนนี้มีอำนาจแค่ไหนในสายตาของคนเหล่านี้
ทหารตรงหน้าประตูรีบวิ่งเข้ามาแต่ก็ไม่กล้าจะเดินหน้าเข้ามาต่อ พวกเขาไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากไปกว่าคนคุ้มกันของชายหนุ่มเลย
เมื่อเห็นสีหน้าโกรธเกรี้ยวของกลุ่มหวังเย่า ทหารเหล่านั้นก็ได้แต่แจ้งเรื่องนี้กับหัวหน้าตัวเองให้รีบมาที่นี่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะรับมือไหว
แม้แต่การเกลี้ยกล่อมคนพวกนี้ พวกเขาก็ยังไม่กล้าทำ ถ้าทำให้คนเหล่านี้โกรธขึ้นมา พวกเขาก็มองภาพออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
ทหารที่วิ่งออกมาได้แต่ยืนรอด้วยความกังวล
ปัง !
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเหมือนจะหมดลมหายใจแล้ว หวังเย่าก็ปล่อยมือของเขาและปล่อยให้อีกฝ่ายตกลงไปนอนกองกับพื้น
หากเขาไม่ปล่อยมือ เดาว่าหวังเย่าคงฆ่าอีกฝ่ายไปแล้ว แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาคิด เขาไม่ได้อยากฆ่าชายหนุ่มคนนี้ เขาแค่อยากสั่งสอนอีกฝ่ายที่ปากเสียก็เท่านั้น
“แค่ก แค่ก แค่ก ! ” ชายหนุ่มที่นอนกองกับพื้นเอามือกุมที่คอตัวเองแล้วไอออกมา
ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็รู้สึกดีขึ้นก่อนจะมองมาที่หวังเย่าด้วยสายตาอาฆาตแล้วตะโกนออกมา “แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ? ! ฉันคือนายน้อยของตระกูลเกียร์ ! แกกล้าทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง ? แกตายแน่ ! ”
“งั้นหรือ…” เมื่อได้ยินแบบนั้นหวังเย่าก็เดินเข้าไปหาอีกฝ่ายจนทำให้อีกฝ่ายได้แต่คลานถอยกลับไป แต่ถอยกลับไปได้ไม่นานเขาก็ชนกับบางอย่าง เมื่อหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นร่างของคนคุ้มกันที่นอนร้องโอดครวญอยู่ที่พื้น
“ตระกูลเกียร์ไม่ปล่อยพวกแกไปแน่ ! ”
แม้แต่ตอนนี้ชายหนุ่มก็ยังปากดีเหมือนเดิม
หวังเย่ายกนิ้วกลางให้กับอีกฝ่ายก่อนจะอัดอีกฝ่ายซ้ำจนเกิดเสียงร้องดังก้องขึ้นมา