ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 457 อันที่จริงมันสามารถบินได้นะ
ตอนที่ 457 : อันที่จริงมันสามารถบินได้นะ
เมื่อเห็นริฮันน่าคุกเข่าขอร้องแบบนั้น เฉี่ยนเจินเฉียนก็ขมวดคิ้วและถามขึ้นมา “ขอร้องอะไร ? ”
“ฉันอยากให้พวกคุณเดินทางไปส่งฉันที่สหภาพโซเวียต แล้วพวกคุณจะได้รับค่าตอบแทนหลังจากนั้น” ริฮันน่าก้มหน้าจนหน้าเกือบจะติดพื้น
“นี่มัน…” เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ มองหน้ากัน ก่อนจะพูดขึ้นมา “พวกนายคิดว่ายังไง ? ”
“ฉันแล้วแต่นายเลย” ฮวงเทียนเจวี๋ยนพูดขึ้น
“ยังไงก็ไปทางเดียวกัน คงไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะพาเธอไปกับเราด้วยอีกคน” หวังเย่าพูดขึ้นมา
“ฉันเองก็คิดแบบนั้น” จางจื้อเฉียงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หวังเย่าได้พูดขึ้นมา
“มันไม่น่าจะเป็นปัญหา ” หลี่ว่านเฟิงลูบคางแล้วพูดขึ้น
“ใช่ ไม่มีปัญหา แค่มีคนเพิ่มขึ้นมา เราน่าจะพอช่วยเธอได้ ” ไป๋พั่วหล้างพยักหน้า
“พวกนายเห็นด้วย ฉันก็เห็นด้วย” ซือคงเป่าพูดขึ้น
“หลังจากที่พวกเราได้ปรึกษากันแล้ว เราตกลงกับคำขอร้องของเธอ แต่เธอต้องฟังคำสั่งเรา ห้ามสร้างความวุ่นวาย” เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปที่ริฮันน่าแล้วพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง
ริฮันน่ารีบพยักหน้าตอบรับ
“เธอลุกขึ้นได้แล้ว” หวังเย่าบอกกับริฮันน่าพร้อมกับยื่นมือให้กับเธอ
เมื่อเห็นใบหน้าของหวังเย่า ก็ไม่รู้ว่าทำไมท่าทีที่ดื้อด้านของริฮันน่าถึงได้หายไปทันที เธอจับมือของหวังเย่าเอาไว้แล้วพึมพำออกมาเบา ๆ “ขอบคุณ”
“ไม่เป็นไร ยังไงซะระหว่างทางฉันคงต้องดูแลเธอยิ่งกว่านี้อีก” หวังเย่าหัวเราะออกมา
“อืม” ริฮันน่าพยักหน้าและพึมพำออกมา
“หึหึ หวังเย่าหาหลานสะใภ้ให้เราอีกแล้ว แค่สองคนคงไม่พอสินะ ฮ่าฮ่า” จางจื้อเฉียงหัวเราะออกมาและมองหวังเย่าด้วยสายตาแปลก ๆ
“โธ่ ผมว่าลุงก็พูดเกินไป” หวังเย่าไม่ได้ใส่ใจคำพูดของจางจื้อเฉียงมากนัก จากนั้นทั้งสองคนก็เถียงกันทันที
ริฮันน่าได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงขึ้นมา แต่ไม่มีใครรู้เพราะมีผ้าปิดใบหน้าของเธออยู่
“พวกนายเลิกเถียงกันได้แล้ว เราแค่ทำสิ่งที่ถูกต้อง” ไม่นานหลังจากนั้นเฉี่ยนเจินเฉียนก็เข้าไปหยุดหวังเย่าและจางจื้อเฉียง
บอกได้ว่าการเถียงกันของทั้งสองคนนี้น่ารำคาญจริง ๆ
“เถียงกันนาน ๆ ทีก็ดูผ่อนคลายขึ้นบ้าง” จางจื้อเฉียงเดินเข้าไปกอดคอหวังเย่า
“ใช่ ผ่อนคลายจริง ๆ ” หวังเย่าเองก็เป็นคนใจกว้าง เขารู้ว่าจางจื้อเฉียงแค่หยอกเขา เขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจอะไรมากนัก
หลังจากที่เก็บของแล้วทุกคนก็พากันเดินทางต่อ
ริฮันน่าเองก็เดินตามไปติด ๆ โดยคอยถามเรื่องราวต่าง ๆ ไปด้วย
หวังเย่าต้องคอยเล่าข้อมูลต่าง ๆ ให้เธอฟัง มันยากจริง ๆ ที่จะเห็นแฟนคลับแบบนี้ จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะโอ้อวดประเทศของตัวเองขึ้นไปอีก
มีเสียงหัวเราะดังขึ้นตลอดทาง
หลังจากนั้นสักพักริฮันน่าและหวังเย่าก็เริ่มสนิทกัน
เธอเพิ่งรู้ว่าทำไมกลุ่มของหวังเย่าถึงได้ออกนอกประเทศ เกรงว่าแม้แต่เธอก็ยังไม่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ว่า มันไม่ได้มีข่าวเรื่องการเปลี่ยนแปลงในเมืองของเธอเลย
จุดนี้ทำให้หวังเย่าและคนอื่น ๆ สงสัยว่าทำไมหัวหน้าผู้ตรวจสอบถึงรู้เรื่องที่แม้แต่คนต่างชาติก็ยังไม่รู้ข้อมูล มันอาจจะมีเหตุผลเบื้องหลังเรื่องนี้ที่พวกเขาไม่รู้ก็เป็นได้
หลังจากคำบอกเล่าของริฮันน่า ทุกคนจึงเข้าใจสถานการณ์ของต่างประเทศทั้งหมด
สหภาพโซเวียตถูกสร้างขึ้นมาเมื่อหลายสิบปีก่อนโดยการร่วมมือกันของกลุ่มที่แข็งแกร่ง และในตอนนี้มี 3 พันธมิตร, 9 ตระกูลใหญ่และสำนักอีก 21 แห่งรวมไปถึงกองกำลังอื่น ๆ
ที่นั่นอาจจะเรียกได้ว่ามีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันอยู่ ดูผิวเผินแล้วสามพันธมิตรคือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด
เมื่อไม่มีกองกำลังที่คอยปกครองเมือง ดังนั้นทุกขุมกำลังในโซเวียตจึงอยากจะคว้าเอาอำนาจนี้มาครอง
แม้แต่ตระกูลของริฮันน่าก็เช่นกัน
มันมีการแข่งขันกันอยู่ตลอด
คนทั่วไปในเมืองบางครั้งก็ไม่กล้าที่จะออกไปไหนเพราะกลัวว่าจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งของคนเหล่านี้ พวกเขาอาจจะถูกฆ่าด้วยซ้ำ บอกได้ว่าคนทั่วไปในโซเวียตต้องใช้ชีวิตอยู่กับความกลัวตลอดทั้งวัน
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมกลุ่มของสตีฟถึงได้หนีออกมา เพราะแทนที่จะต้องกลัวความตายอยู่ตลอดเวลา มันจะดีกว่าถ้าออกมาภายนอก ซึ่งพอจะมองเห็นความหวังได้บ้าง
สรุปคือสหภาพโซเวียตนั้นคือประเทศที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง กองกำลังต่าง ๆ ไม่สนใจชีวิตของคนทั่วไปแม้แต่น้อย
มันไม่มีอะไรที่โหดร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว…
“คนทั่วไปต้องทนกับความลำบาก เธอไม่คิดจะทำอะไรบ้างหรือ ? ” ตอนที่เดินอยู่ในภูเขานั้นหวังเย่าก็ได้ถามขึ้นมา
“ฉันก็คิดอยู่ แต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ ฉันเดาว่าฉันอาจจะมีอำนาจขึ้นมาบ้างหากได้ขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลอย่างเต็มตัว” ริฮันน่าถอนหายใจออกมา
“งั้นฉันจะช่วยให้เธอทำให้สำเร็จ” หวังเย่าพูดขึ้น
“ได้ แบบนั้นก็ดี” ริฮันน่ากำหมัดแน่น
30 นาทีต่อมาทุกคนก็เดินทางออกจากบึงน้ำและเดินหน้าเข้าไปในภูเขาต่อ
“เดินผ่านภูเขานี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะถึงโซเวียต ” ริฮันน่าชี้ทางด้านหน้าแล้วบอกกับหวังเย่า
“งั้นก็รีบกันดีกว่า ” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้นก่อนจะเดินออกไปทันที
คนที่เหลือเห็นแบบนั้นก็รีบตามไปติด ๆ
“ทำไมเราไม่บินข้ามภูเขาไปเลย ? ถ้าเดินทางข้ามภูเขาพวกนี้ก็ต้องใช้เวลาสักพัก” ริฮันน่าเหมือนกับนึกถึงบางอย่างได้และพูดขึ้นมา
“ ..”
ทุกคนพากันเงียบ ก่อนที่เฉี่ยนเจินเฉียนจะพูดขึ้นมา “เราไม่รู้ว่ามีอันตรายแบบไหนรออยู่ การเดินทางบนท้องฟ้าน่ะอันตรายอย่างมาก เราทำเพื่อความปลอดภัย”
“แบบนี้นี่เอง” ริฮันน่าพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ แต่เมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของเธอก็แทบทำให้ทุกคนกระอักเลือดออกมา “ แต่เท่าที่ฉันรู้มาภูเขารอบเมืองเหมือนจะไม่มีอันตรายนะ การเดินทางบนท้องฟ้าน่ะปลอดภัย ”