ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 455 ยามค่ำคืน
ตอนที่ 455 : ยามค่ำคืน
ฝูงม้าไล่ตามคน ๆ นั้นเข้ามาใกล้วังวนมากขึ้นเรื่อย ๆ
มันทำให้กลุ่มของหวังเย่าเห็นว่าคนที่โดนไล่ตามมานั้นแม้ว่าจะปิดบังใบหน้าแต่ก็พอมองออกว่าเป็นผู้หญิง
อยู่ๆที่เท้าของเธอก็มีไฟลุกขึ้นมาก่อนที่เธอจะพุ่งขึ้นมาที่วังวน จากนั้นเธอก็ได้มาพบกับกลุ่มของหวังเย่าที่ยืนอยู่ที่นั่น
เธอมองไปยังทั้งเจ็ดคนและพบว่านี่คือคนที่เธอไม่เคยพบมาก่อน เธอรู้สึกว่าคนพวกนี้อาจจะช่วยอะไรเธอไม่ได้ ตอนนั้นเองเธอก็ได้กัดฟันแน่นและพุ่งไปยังวังวนพร้อมกับพึมพำด้วยภาษาที่เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ไม่อาจจะเข้าใจได้
แม้ว่าเสียงของเธอจะฟังแล้วดูไพเราะ แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะเข้าใจมัน
เมื่อเห็นทั้งเจ็ดคนยังยืนนิ่งอยู่ เธอก็รีบเร่งความเร็วต่อไปทันที
แม้ว่ากลุ่มของหวังเย่าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นเธอพุ่งมาแบบนั้นพวกเขาก็เลือกที่จะเปิดทางให้
เธอยังคงเดินหน้าต่อและเดินทางออกจากมิติลับไป
พวกคนที่ไล่ตามมาเห็นแบบนั้นก็ยิ่งโกรธขึ้นไปอีกและเร่งความเร็วเดินหน้าขึ้นต่อ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหงุดหงิดอย่างมากจนมองกลุ่มของหวังเย่าด้วยสีหน้าที่โกรธแค้นไปด้วย
พวกนั้นคงรู้สึกว่ากลุ่มของหวังเย่าปล่อยศัตรูของพวกมันออกไป และโทษว่าเป็นความผิดของกลุ่มหวังเย่าจึงคิดจะโจมตีใส่พวกเขา
ปัง !
“พวกเราเปิดทางให้แต่พวกนายกลับคิดจะโจมตี” ทุกคนรู้สึกไม่ดีขึ้นมา “เมื่อพวกนายโจมตีเราก่อน งั้นก็อย่ามาโทษเราก็แล้วกัน”
ปัง ปัง ปัง !
เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับทำลายการโจมตีที่พุ่งเข้าใส่กลุ่มของหวังเย่า
คนพวกนั้นไม่สนใจว่าการโจมตีของตัวเองล้มเหลว พวกมันยังคงตะโกนออกมาและพุ่งเข้าใส่พวกเขาต่อ แต่ผลลัพธ์นั้นถูกสรุปเอาไว้แล้ว
พวกนั้นนอนกองกันอยู่ที่หน้าวังวนพร้อมใบหน้าที่บวมเป่ง บางคนถึงกับปากแตกและเลือดกำเดาไหลออกมาพร้อมกับร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
“พวกโง่ กล้าดียังไงถึงมาโจมตีเรา ไม่รู้รึไงว่าเรามาจากไหน” ฮวงเทียนเจวี๋ยนมองไปยังพวกคนที่นอนร้องโอดครวญแล้วบ่นออกมา เขาทำท่าทางราวกับอยากจะอัดพวกนี้อีกรอบ
พวกนั้นได้แต่มองกลุ่มของหวังเย่าด้วยตัวที่สั่นเทา
เพราะไม่คิดเลยว่ากลุ่มคนตรงหน้าที่ดูอ่อนแอนี้ แต่กลับมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวได้ จนพวกเขารู้สึกว่าพวกนี้เทียบได้กับคนระดับสูงรึอาจจะแกร่งกว่าก็ได้
ภายใต้พลังที่กลุ่มของหวังเย่าแสดงออกมา พวกนี้ก็ได้แต่ต้องตัวสั่นด้วยความกลัว
“ฉันถามว่าพวกนายคิดจะทำอะไร ? ” เฉี่ยนเจินเฉียนถามขึ้นมา
แต่คนเหล่านี้ไม่เข้าใจคำพูดของเฉี่ยนเจินเฉียน พวกนี้ได้แต่แสดงสีหน้าสับสนและไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเฉี่ยนเจินเฉียนต้องการจะสื่อสารอะไร
“ภาษานี่ดูเป็นอุปสรรคจริง ๆ ” เฉี่ยนเจินเฉียนถึงกับปวดหัว
“ไปกันเถอะ” เมื่อเห็นว่าพวกนี้ไม่เข้าใจ เฉี่ยนเจินเฉียนก็ไม่คิดจะพูดอะไรต่ออีก เพราะพูดไปก็ไร้ประโยชน์
หวังเย่าและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้สนใจเช่นกัน พวกเขากระโดดลงมาจากวังวนพร้อมกับมองไปรอบ ๆ
คนที่โดนอัดไม่ได้สนใจกลุ่มของหวังเย่าอีกต่อไป พวกเขาได้แต่คลานออกจากมิติลับนี้ไป
และสาบานว่าจะไม่มีทางหาเรื่องคนพวกนี้อีก เพราะมันได้กลายเป็นแผลในใจของพวกเขาไปแล้ว
เมื่อเดินทางเข้ามาในโลกนี้ต่อ กลุ่มของหวังเย่าก็ได้กลิ่นควันที่ลอยชัดขึ้นมาเรื่อย ๆ
มันไม่ใช่การต่อสู้ครั้งใหญ่นัก แต่มันก็ยังสร้างความเสียหายในระดับที่สูงอยู่
ในมิตินี้คงเกิดสงครามขึ้นบ่อย ๆ
เมื่อเดินหน้าต่อเข้ามาเรื่อย ๆ ก็เห็นศพของคนจำนวนมากกองเรียงรายกันตามพื้น
มันเป็นศพของสัตว์อสูรรวมถึงศพของมนุษย์ด้วย แต่ส่วนใหญ่ดูแล้วน่าจะเป็นฝีมือมนุษย์ซะมากกว่า แต่ถึงอย่างไรการที่มีศพของสัตว์อสูรในมิติลับก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่ดี
เมื่อสำรวจรอบ ๆ กว่า 1 ชั่วโมงพวกเขาก็ยังไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งภายในโลกนี้
โลกนี้คงพังทลายไปแล้ว มันไม่จำเป็นที่พวกเขาจะต้องอยู่ที่นี่ต่อ แต่กว่าที่พวกเขาจะออกจากโลกนี้มาได้ก็อีก 2 ชั่วโมงต่อมาแล้ว
เมื่อออกมาจากวังวนก็พบว่าท้องฟ้าด้านนอกมืดลงไปแล้ว
หวังเย่าและคนอื่น ๆ ได้กลับไปตั้งแคมป์ที่ข้างบ่อน้ำ
หวังเย่าได้จุดไฟและเอาเนื้อสัตว์อสูรที่เขาเพิ่งฆ่าไปออกมาย่าง
“ นายนี่เตรียมตัวมาค่อนข้างดีเลย” หลี่ว่านเฟิงเห็นทักษะของหวังเย่าแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ลุงยังไม่ทันได้ชิมเลย” หวังเย่าตอบกลับแต่มือของเขาก็ยังคงพลิกเนื้อไม่หยุด
หลังจากนั้นไม่นานเนื้อก็เริ่มส่งกลิ่นหอมออกมา
หวังเย่าทำการหั่นเนื้อแบ่งให้แต่ละคน แม้ว่าปากจะบอกว่าไม่ใส่ใจ แต่หลี่ว่านเฟิงและคนอื่น ๆ ก็ยังเผยสีหน้าพอใจออกมาอยู่ดี
“รสชาติดีจริง ๆ ” แม้แต่ฮวงเทียนเจวี๋ยนที่รับหน้าที่เฝ้ายามคืนนี้ก็ยังต้องออกปากชมหวังเย่า
“คนที่เราเจอวันนี้มันคืออะไรกัน ? ” ไป๋พั่วหล้างถามขึ้นมา
“ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว มันอาจจะเป็นคนของกองกำลังหนึ่งที่ไล่ตามคนอีกกลุ่ม” จางจื้อเฉียงที่ปากมันแผล็บได้พูดขึ้นมา
“ลุงจาง ลุงมั่นใจหรือ ? ” หวังเย่าถามขึ้น
“ประสบการณ์บอกฉันว่าเป็นแบบนั้น แม้ว่ามันอาจจะต่างจากที่ฉันคิด แต่มันก็คงไม่ต่างกันมาก เชื่อสิว่าลุงน่ะคิดถูก” จางจื้อเฉียงกัดเนื้อไปและตอบกลับ
“เหล่าจาง อย่ามั่นใจไปหน่อยเลย” ซือคงเป่าพูดขึ้น
“มาพนันกันไหมละ ? ! ” จางจื้อเฉียงเหมือนจะหงุดหงิดขึ้นมา
“มาสิ ฉันกลัวที่ไหน ? ” ซือคงเป่าเองก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้เลย