ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 451 เผ่าพันธุ์
ตอนที่ 451 : เผ่าพันธุ์
เมื่อเห็นทางเข้ามิติลับ ทุกคนต่างก็พากันชั่งใจอยู่สักพักว่าจะเข้าไปข้างในนั้นดีหรือไม่
“อยากเข้าไปรึเปล่า ? ” ฮวงเทียนเจวี๋ยนอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
“ในเมื่อเรายังไม่ได้สำรวจที่นี่ งั้นเราก็ต้องเข้าไป บางทีมันอาจจะมีเบาะแสอยู่ก็ได้” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้น
“การเดินทางครั้งนี้เรามีคนแค่ไม่กี่คน ดังนั้นเราจะทิ้งสองคนไว้ที่ด้านนอกเผื่อว่ามีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น และอาจจะรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้”
หลังจากที่ปรึกษากันสักพักแล้วก็ได้ข้อสรุปว่า ไป๋พั่วหล้างและฮวงเทียนเจวี๋ยนจะรออยู่ด้านนอก ส่วนคนที่เหลืออีก 5 คนจะเข้าไปในมิติลับ
เมื่อตัดสินใจแล้ว หวังเย่าและอีก 4 คนก็ไม่ลังเลที่จะเดินทางเข้าไปในมิติลับทันที
ที่ด้านนอกนั้น ไป๋พั่วหล้างและฮวงเทียนเจวี๋ยนคอยจับตาดูสถานการณ์รอบข้างกันอยู่ตลอดเวลา
เมื่อเดินทางออกมาจากวังวนของมิติแล้ว พวกเขาก็พบกับป่าที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า
มิติลับแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มากนัก มันเท่ากับมิติลับขั้นที่ 1-2 ได้
ด้วยความแข็งแกร่งระดับ SSS ของพวกเขา ไม่นานนักพวกเขาก็รู้ถึงขนาดของมิติลับแห่งนี้
สัตว์อสูรที่นี่เลเวลต่ำซึ่งทำให้พวกเขาไม่ต้องกังวลอะไรมากในเรื่องนี้
และที่หุบเขาแห่งหนึ่งมีบ้านไม้ถูกสร้างขึ้นมา มันดูเหมือนกับที่อยู่ของมนุษย์
มนุษย์เหล่านี้ต่างจากชาวหัวเซี่ย เพราะพวกนั้นมีผมสีบลอนด์และตาสีฟ้า แค่ดูก็รู้ว่าพวกนี้คือชาวต่างชาติ
สุดท้ายทั้งห้าคนก็ไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปหาคนพวกนี้ เพราะต้องการจะถามว่าพวกเขาอยู่ที่นี่กันได้ยังไง
และการที่ถามไปแบบนี้ก็เพราะหวังว่าอาจจะได้อะไรที่เป็นประโยชน์จากคำพูดของอีกฝ่าย
แม้ว่าหุบเขาแห่งนี้จะถูกซ่อนไว้อย่างดี แต่ด้วยความสามารถในการสำรวจของทุกคนแล้ว พวกเขาก็ยังพบหุบเขาแห่งนี้ได้อยู่
ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในหุบเขา พวกเขาก็ถูกพบตัวก่อนที่พวกนั้นจะเป่านกหวีดเพื่อส่งสัญญาณเตือนเสียอีก
เพราะหวังเย่าและคนอื่น ๆ ไม่ได้คิดที่จะซ่อนตัวเลยแม้แต่น้อย แต่พวกเขาเดินเข้าไปกันโต้ง ๆ อย่างนั้นโดยไม่กังวลอะไร
ปรี๊ด ปรี๊ด !
เสียงนกหวีดดังขึ้นก้องไปทั่วหุบเขา
ในพริบตาก็มีฝูงม้าพุ่งออกมาจากหุบเขาพร้อมกับมองมาที่กลุ่มของหวังเย่า
“ไม่ต้องกังวลไป เราไม่ได้มาร้าย เรามาที่นี่เพื่อจะถามบางอย่าง” เมื่อเห็นทหารม้าเหล่านั้น เฉี่ยนเจินเฉียนก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาแต่พวกนั้นเหมือนจะไม่เข้าใจคำพูดของเฉี่ยนเจินเฉียน และดูมีแต่จะระวังตัวมากขึ้น
“เอ่อ…” เขาไม่รู้ว่าจะสื่อสารกับคนพวกนี้ยังไง
“พวกเขาไม่น่าจะเข้าใจคำพูดของเรา หายนะเกิดขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว ประเทศหัวเซี่ยกับต่างประเทศนั้นไม่ได้ติดต่อกันมานาน ภาษาเองก็ใช้คนละอย่างกันด้วย” ซือคงเป่าพูดขึ้นมา
“งั้นเราต้องพูดภาษาอะไร ภาษาอังกฤษรึไง ? รึว่าอย่างอื่น ? ” หวังเย่าไม่ใช่คนที่เก่งภาษามากนัก แม้แต่ภาษาอังกฤษก็ใช่ว่าเขาจะคล่อง
สำหรับผู้เยาว์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาหลังหายนะอย่างหวังเย่านั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะไม่ได้เรียนภาษาอื่น
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ก็รู้แต่ภาษาจีน
ตอนนี้อุปสรรคในการสื่อสารของพวกเขาคือเรื่องภาษา
ถึงจะพบกับชาวต่างชาติตรงหน้าแต่ก็ไม่อาจจะสื่อสารกันได้
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ต่างก็คิดหนักกับสถานการณ์ตรงหน้า
“พวกนายเป็นคนหัวเซี่ยงั้นหรือ ? ”
ตอนนั้นเองก็มีเสียงแก่ ๆ ดังขึ้นมาในหมู่ทหารม้า หวังเย่าและคนอื่น ๆ ต่างก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมาเพราะนี่คือภาษาจีน
ทันทีที่เสียงนี้ดังขึ้นมาก็มีคนหนึ่งที่ก้าวออกมาจากกลุ่มทหารม้า
ทหารม้าทุกคนต่างก็เปลี่ยนสีหน้าไปทันทีแต่หลังจากที่ได้ยินคำสั่งของชายแก่ พวกเขาก็พากันสงบลงและมองมาที่กลุ่มของหวังเย่าด้วยความแปลกใจ
“ใช่เราเป็นคนหัวเซี่ย เรามาที่นี่เพี่อตรวจสอบสถานการณ์ภายนอก” เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปยังชายแก่แล้วตอบกลับ
ชายแก่คนนี้ถึงจะอายุเยอะแต่ก็ดูแข็งแกร่งอย่างมาก
ในหมู่ทหารม้าแล้ว หวังเย่าคิดว่าชายแก่คนนี้คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดของที่นี่
ฐานะของเขาคงจะสูงอยู่พอตัว ไม่งั้นแล้วทหารคนอื่น ๆ คงไม่ฟังคำสั่งของเขา
ที่นี่ชายแก่ก็น่าจะมีสิทธิ์มีเสียงอยู่บ้าง
“พวกนายไม่ต้องกังวล พวกนายตามฉันเข้าไปในหุบเขาแล้วค่อยพูดรายละเอียดกัน” ชายแก่ตอบกลับด้วยภาษาจีนอย่างคล่องแคล่ว
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ พากันพยักหน้า พวกเขาไม่ได้กังวลอะไรนัก แม้ว่าชายแก่คนนี้จะดูแข็งแกร่งแต่หากพวกเขาร่วมมือกันก็น่าจะจัดการกับอีกฝ่ายได้ง่าย ๆ
เพราะความแข็งแกร่งระดับ SSS หลายคนรวมกันนั้นมากกว่าจะคาดถึง
พวกเขาสามารถทำลายทั้งมิติลับนี้ได้ด้วยซ้ำ
แต่พวกเขาก็ไม่คิดจะทำแบบนั้น เพราะมันไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำเช่นนั้น
ทุกคนได้เดินทางเข้าไปในหุบเขาภายใต้การนำทางของชายแก่
ทหารคนอื่น ๆ ยังดูระวังตัวราวกับยังคงระแวงกลุ่มของหวังเย่าอยู่ไม่น้อย
เมื่อเดินเข้าไปในบ้านไม้หลังหนึ่ง คนในบ้านก็พากันมองกลุ่มหวังเย่าด้วยสีหน้าแปลกใจ
ยังไงซะพวกเขาส่วนมากก็ไม่เคยพบกับชาวหัวเซี่ยมาก่อน
หายนะได้แยกโลกออกจากกัน การมาถึงของกลุ่มของหวังเย่านั้นบางทีอาจจะทำให้สองชาติได้พบกันเป็นครั้งแรกก็ว่าได้
ภายใต้การนำทางของชายแก่ หวังเย่าและคนอื่น ๆ ก็ได้เข้าไปในบ้านหลังที่ใหญ่ที่สุด
ชายแก่เชิญทุกคนให้นั่งพักก่อน
ตอนนั้นมีแค่ชายแก่และกลุ่มของหวังเย่าเท่านั้นที่นั่งอยู่ในห้อง ส่วนคนที่เหลือรออยู่ด้านนอก
“ฉันคือหัวหน้าเผ่า ฉันชื่อสตีฟ” ชายแก่บอกชื่อของตนเอง
เมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็พากันแนะนำตัว
“สตีฟ นายบอกเราได้รึเปล่าว่าสถานการณ์ที่นี่เป็นยังไงบ้าง…”