ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 450 สลัดให้หลุด
ตอนที่ 450 : สลัดให้หลุด
ทั้งเจ็ดคนพุ่งลงจากฟ้าเว้นระยะห่างจากเต่าอยู่หลายกิโลเมตร พวกเขาพากันมองไปที่พื้นที่ที่เต่านั่นมุดออกมา
“เต่ามังกร ? !”
เต่ามังกรไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อนในหัวเซี่ยและมิติลับ ดังนั้นเมื่อพบกับเต่านี่ตรงหน้า พวกเขาจึงไม่รู้ว่ามันคือเต่ามังกรจริงรึไม่ ยังไงซะรูปลักษณ์ของมันก็ดูสง่าเหมือนเต่าเทพไม่มีผิด แต่ทว่าไม่มีหัวเป็นมัวกรเหมือนที่พวกเขาคิด
“ มันไม่ใช่เต่ามังกร แต่มันคือเต่าปกรณัม ” ด้วยการตรวจสอบจากระบบหวังเย่าก็รู้ถึงต้นกำเนิดของมัน เขาจึงได้บอกข้อมูลกับคนอื่น ๆ ทันที
เขาได้บอกข้อมูลที่ได้ตรวจสอบมากับทุกคนให้ทราบ
แม้ว่าทุกคนจะสงสัยว่าทำไมหวังเย่าถึงได้รู้เรื่องนี้ดีนัก แต่ทุกคนต่างก็มีความลับเป็นของตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เอ่ยปากถามอะไรในเรื่องนี้
“มันเป็นเต่าปกรณัม แค่นี้ก็น่าทึ่งแล้ว” หลี่ว่านเฟิงมองไปที่เต่านั่นและพูดขึ้นมา
“โชคดีที่มันไม่ได้โผล่ขึ้นมาในหัวเซี่ย ไม่งั้นแล้วมันอาจจะสร้างปัญหาขึ้นมาอย่างมาก” ชือคงเป่าพูดขึ้นมา
แม้แต่สัตว์อสูรระดับเดียวกัน ก็ยังต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะทำลายการป้องกันของมันได้ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว
ตูม !
พื้นดินสั่นไหวอีกครั้งพร้อมกับเต่าที่มองมายังจุดที่หวังเย่าและคนอื่น ๆ อยู่ กรงเล็บขนาดใหญ่ของมันตบลงไปที่พื้นพร้อมกับสร้างพายุพุ่งเข้าใส่พวกเขา
“รีบหนี !” ทุกคนไม่คิดจะรับการโจมตีนี้เอาไว้และรีบหนีทันที
ตูม !
พายุนั้นได้ทำลายพื้นที่ที่พวกเขาอยู่เมื่อตะกี้ไปภายในพริบตา
เต่ามองมาที่หวังเย่าก่อนจะอ้าปากของมันออกมา มันได้พ่นน้ำกรดออกมาโดยเล็งไปที่จุดที่หวังเย่าอยู่
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ หรี่ตาลง หลังจากได้ยินที่หวังเย่าบอกมา พวกเขาก็พอจะเดากันได้ว่าตอนนี้เต่ากำลังใช้สกิลไหนอยู่
ทุกคนพากันหนีออกจากที่นั่นทันที
หลังจากที่กระจายตัวหนีกันไปแล้ว น้ำกรดก็ถูกพ้นไปยังจุดที่พวกเขาอยู่พร้อมกับเกิดรูขนาดใหญ่ขึ้นมา
มันมีควันลอยออกมาจากหลุมนั่นจนทำให้ทุกคนเข้าใจได้ว่าการโจมตีนี้รุนแรงแค่ไหน
เมื่อเห็นเต่ามองมาที่พวกเขา จางจื้อเฉียงก็พูดขึ้น “ดูเหมือนว่ามันจะสนใจเรา”
“จะสู้รึเปล่า ?” ไป๋พั่วหล้างมองไปที่เฉี่ยนเจินเฉียน เพราะตอนนี้เฉี่ยนเจินเฉียนเป็นหัวหน้าทีม เขามีสิทธิ์ในการตัดสินใจ
“ไม่ ถึงร่วมมือกันก็ไม่อาจจะทำลายการป้องกันของมันได้ มันอันตรายอย่างมาก หากมาต่อสู้ในพื้นที่ที่เราไม่รู้จัก เราอย่าสู้กับมันจะดีกว่า” เฉี่ยนเจินเฉียนตัดสินใจ
หวังเย่าและคนอื่น ๆ ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด พวกเขาไม่อยากสู้กับสัตว์อสูรที่มีพลังป้องกันที่สูงแบบนี้
ไม่ใช่แค่ไม่อาจจะจัดการมันได้ บางทีพวกเขานี่แหละที่จะเป็นฝ่ายได้รับบาดเจ็บแทน
เมื่อเห็นว่าเต่ากำลังจะโจมตีอีกครั้ง ทั้งเจ็ดคนก็รีบหนีออกจากที่นั่นทันที
เมื่อหันกลับไปมองก็พบว่าเต่าตัวนั้นกำลังไล่ตามพวกเขามาติด ๆ
แม้ว่าการเคลื่อนไหวของมันจะดูช้าแต่อันที่จริงมันไม่ได้ช้าเลย แม้ว่าหวังเย่าและคนอื่น ๆ จะใช้ความเร็วเต็มที่ แต่ก็ไม่อาจจะสลัดเต่านี่หลุดไปได้
เมื่อเห็นเต่าที่ไล่ตามมา ทุกคนก็พากันหนักใจ
พวกเขาถึงกับอึ้งกับการกระทำของมัน
พวกเขายังไม่ทันได้ทำอะไรมันเลย แต่มันกลับคิดจะโจมตีและไล่ล่าพวกเขาขนาดนี้ และไม่รู้ว่าทำไมมันถึงขี้โมโหแบบนี้ ?
เต่านี้เหมือนกับแค้นพวกเขามาตั้งแต่ชาติก่อน ถึงผ่านไป 30 นาที แต่มันก็ยังไล่ตามพวกเขาอยู่ดีโดยไม่คิดที่จะหยุดเลย
สุดท้ายเมื่อผ่านไปอีก 10 นาที ทั้งเจ็ดคนก็ออกจากทุ่งหญ้าเข้าไปในภูเขาได้
เมื่อถึงที่นั่นเต่าก็ได้หยุดไล่ตาม มันได้หันกลับแล้วเดินกลับไปทันที
มันคงจะบอกว่าที่ทุ่งหญ้าแห่งนี้คืออาณาเขตของมัน ห้ามให้ใครเข้ามา
ดูเหมือนว่าเต่านี่จะหวงที่ เมื่อทั้งเจ็ดคนออกจากทุ่งหญ้ามาแล้ว มันจึงปล่อยพวกเขาไป
เมื่อไม่เห็นร่องรอยของเต่านั่นตามพวกเขามา ทั้งเจ็ดคนถึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
หากเต่านี่ยังไล่ตามพวกเขาต่อ เดาว่าคงหมดแรงและไม่อาจจะหนีมันได้อย่างแน่นอน
“ฉันมีคำถาม ทำไมเต่านี่ถึงได้มุดอยู่ที่พื้นดิน ? ” ฮวงเทียนเจวี๋ยนอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
“นี่…” ทันทีที่ได้ยินคำถามนี้ทุกคนก็รู้สึกว่ามันผิดปกติจริง ๆ
“มันคงเป็นนิสัยตามธรรมชาติของเต่า” หวังเย่าเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี
“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น” ฮวงเทียนเจวี๋ยนพยักหน้าและไม่คิดอะไรเรื่องนี้อีก
“เดินหน้ากันต่อเถอะ นี่มันก็แค่การเริ่มต้นของระยะทางทั้งหมดเท่านั้น ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก พวกนายต้องระวังตัวกันไว้ ” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าเค่รงเครียด
บนภูเขานี้มีป่าหนาทึบ พวกเขาไม่อาจจะใช้รถที่นี่ได้ และก็ไม่อาจจะบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ต้องเดินเท้ากันไป
พวกเขาเดินทางเข้าไปในป่ากันอย่างระมัดระวัง เพราะถึงยังไงที่นี่ก็คือที่ไม่ได้รับการสำรวจ มันอาจจะมีอันตรายเกิดขึ้นตอนไหนก็ได้
ในป่านี้มีแต่เสียงแมลงร้องรวมถึงเสียงคำรามของสัตว์อสูรดังจากที่ไกล ๆ มันทำให้ที่นี่ดูน่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งเจ็ดคนก็ไม่ได้กังวลอะไรกับเรื่องนี้ ด้วยความแข็งแกร่งที่พวกเขามีแล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องระวังตอนนี้คือสิ่งที่พวกเขาไม่อาจจะตรวจสอบได้ต่างหาก
นั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องระวังกันมากที่สุด
หลังจากที่เดินทางมาได้สักพักพวกเขาก็เดินออกมาถึงลานกว้าง เมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็พบกับเมฆที่หมุนวนซึ่งอยู่สูงจากพื้นไปกว่า 10 เมตร …….ซึ่งนั่นมันคือทางเข้ามิติลับ