ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 435
เมื่อแสงหม่นลงไปไม่นาน โลกใต้ดินก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
หวังเย่าดูซีดเซียวอย่างมาก นี่คือหนึ่งในท่าไม้ตายของเขา มันได้ ใช้พลังกายของเขาไปจนหมดเพื่อใช้ท่านี้ออกมา มันคิดภาพออกได้ว่า เขาจะต้องใช้พลังไปมากแค่ไหน
หวังเย่าดึงเอายาฟื้ นฟูออกมาจากถุงมิติและดื่มมันถึงทําให้สีหน้า ของเขาดูดีขึ้นมาเล็กน้อย
เขามองไปยังร่างของเสี่ยหยู่และรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังชีวิต ชัดแล้วว่า เสี่ยหยู่ยังมีชีวิตอยู่
เสี่ยวซวีเดินเข้ามาหาหวังเย่า อสูรทมิฬถูกกําจัดไปแล้วภายใต้แสง สว่างจ้าเมื่อตะกี้
หวังเย่าเดินเข้าไปหาเสี่ยหยู่และพบว่าอีกฝ่ายยังหลับตาอยู่ รอยสี ดําบนตัวได้จางหายไปแล้ว มันพิสูจน์แล้วว่าปิศาจที่อยู่ในตัวเขาได้ หายไปแล้ว
หวังเย่ามองไปรอบๆ ก่อนจะเรียก การ์ฟิล,หงอคง และ ตือโป๊ย ก่าย ออกมาจากกําไล
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ทั้งสามไม่ได้เข้ามายุ่งด้วย ตอนนี้หวังเย่าให้ พวกนี้ออกมาเพื่อเก็บกวาดที่นี่
หวังเย่าให้พวกนั้นกับเสี่ยวซวีออกสํารวจในโลกใต้ดินแห่งนี้เพื่อดู ว่ามีโจรยังหลบซ่อนตัวอยู่รึไม่ หากพบก็ให้กําจัดพวกโจรทันที
พวกนี้คือเดนมนุษย์ที่ไม่ควรได้รับความสงสาร มือแต่ละคนได้คร่า ชีวิตผู้คนไปมากมาย ไม่งั้นแล้วคงไม่ได้กลายเป็นโจรที่ทางการต้องการ ตัวมากที่สุด
หลังจากที่ปล่อยให้อสูรของเขาออกไปสํารวจรอบๆ หวังเย่าก็ได้ มองไปที่เสี่ยหยู่ซึ่งนอนอยู่ตรงหน้าก่อนจะครุ่นคิด
ตามข่าวที่ได้มาก่อนหน้านี้ หลี่ว่านเฟิงไม่ได้สู้แค่กลับกลุ่มนรก ทมิฬ แต่มันยังมีกองกําลังอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ทั้งสองกองกําลังได้ ร่วมมือกันจนทําให้หลี่ว่านเฟิงและพรรคพวกพ่ายแพ้ไปจนต้องหนีไป ซ่อนตัว
อีกกลุ่มที่ร่วมมือกับกลุ่มโจรระดับ SSS ทําให้มองภาพออกว่าหลี่ ว่านเฟิงต้องตกที่นั่งลําบากแค่ไหน
พลังของอีกกองกําลังคงต้องอยู่ระดับเดียวกัน
สิ่งที่เขาไม่รู้ตอนนี้คือนั่นคือกองกําลังไหนกัน
บางทีเขาอาจจะได้ข้อมูลอะไรมากบ้างจากเสี่ยหยู่ที่อยู่ตรงหน้า เขา
สําหรับว่าเสี่ยหยู่จะพูดความจริงรึไม่นั้น หวังเย่าก็พอมีวิธีคาดคั้น อยู่บ้าง ยังไงซะเขาก็ต้องลองเผื่อว่าจะได้ข้อมูลที่มีประโยชน์กลับมา
หลังจากนั้นสักพัก เสี่ยหยู่ซึ่งนอนอยู่ที่พื้นก็ลืมตาขึ้น เขามองไปยัง เด็กหนุ่มตรงหน้าก่อนจะเงียบไป
แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะไม่อาจควบคุมตัวเองได้ แต่เขาก็รู้ดีว่าเกิด อะไรขึ้น
เขาเห็นแล้วว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเขามีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวแค่ ไหน
แม้แต่ตัวตนกึ่งเทพก็ยังกําจัดได้ มันมองภาพออกว่าหวังเย่าจะ แกร่งขนาดไหน
เสี่ยหยู่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าหัวเซี่ยจะมีคนที่แข็งแกร่งแบบนี้ ในหมู่ผู้เยาว์ด้วย
มันคือสิ่งที่ดูเกินจริงทั้งๆ ที่ยังเป็นแค่เด็กหนุ่ม…
หวังเย่าที่นั่งอยู่ข้างๆ นั้นเมื่อเห็นว่าเสี่ยหยู่ลืมตาขึ้นมาก็ไม่คิดว่า อีกฝ่ายจะเป็นภัยต่อเขา มันเหมือนจะมีผลข้างเคียงกับทําให้ความ แข็งแกร่งของเขาลดลงไปอย่างมาก
จากพลังที่หวังเย่ามีตอนนี้ก็ถือว่าเพียงพอจะจัดการอีกฝ่ายได้
“ไม่คิดเลยว่ากลุ่มนรกทมิฬจะแพ้ให้กับคนๆ เดียว” เสี่ยหยู่มองไป ที่หวังเย่า เขาเหมือนจะยอมแพ้และเปิดปากพูดขึ้น
ขุมกําลังที่สั่งสมมากกว่าสิบปีได้ถูกทําลายในพริบตา แม้แต่ หัวหน้ากลุ่มก็อาจจะหนีจากความตายไปไม่ได้
ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาถึงเร็วแบบนี้ ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะถูกเด็ก หนุ่มและอสูรจัดการ
ไม่ต้องเดาเลยว่ามันทําให้เขาตะลึงอย่างมาก ตอนนี้เสี่ยหยู่ไม่คิด จะดิ้นรนด้วยซ�า สถานการณ์ตอนนี้ดูแปลกประหลาดอย่างมาก
เมื่อเห็นว่าหวังเย่ายังเด็กแต่ยังแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ เสี่ยหยู่ก็ไม่คิด ที่จะดิ้นรนต่อ
“อีกขุมกําลังที่โจมตีลุงหลี่เป็นใคร ? ” หวังเย่ามองไปที่เสี่ยหยู่แล้ว ถามขึ้นมา
“อีกขุมกําลัง..” เมื่อได้ยินคําถามนั้น เสี่ยหยู่ก็พูดขึ้นมา “พวกนั้น ไม่ใช่กองกําลังด้วยซ�า..”
“นายหมายถึงอะไร ? ” หวังเย่าขมวดคิ้ว
“มันแค่คนไม่กี่คน มันไม่ใช่กองกําลัง ..” เสี่ยหยู่พูดขึ้น
เสี่ยหยู่ เลือกที่จะยอมแพ้และตอบคําถามหวังเย่าตามความจริง
“ พวกนั้นเป็นใคร ? ” หวังเย่าไม่คิดเลยว่าเสี่ยหยู่จะบอกความจริง ง่ายแบบนี้ มันต่างจากที่เขาคิดไว้อย่างสิ้นเชิง
เขาคิดว่าคงเป็นกลุ่มโจรระดับ SSS อีกกลุ่ม คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็น แค่คนไม่กี่คน
มันทําให้เขาสงสัยในตัวตนของคนเหล่านั้น
“เป็นใครไม่รู้ แต่พวกนั้นมาหาฉันและขอร่วมมือด้วย เมื่อถึงเวลา จําเป็นพวกนั้นถึงจะปรากฏตัว “
“ฉันไม่รู้ว่าพวกนั้นเป็นใคร พวกนั้นจะติดต่อมาเป็นพักๆ ” เสี่ยหยู่ มองไปที่เพดานด้วยสายตาว่างเปล่าแล้วพูดขึ้นมา
หวังเย่าเงียบไป สุดท้ายคนพวกนั้นก็ขอเข้ามาร่วมมือเอง แม้แต่ เสี่ยหยู่ก็ยังไม่รู้ตัวตนของพวกนั้น
มันทําให้ตัวตนของพวกนั้นดูลึกลับขึ้นไปอีก
“ฉันจําได้ว่าพวกนั้นมีเครื่องหมายที่มือ” เสี่ยหยู่เอียงตัวแล้ว พยายามวาดเครื่องหมายนั้นลงที่พื้น
หวังเย่าจําเครื่องหมายนั้นไว้ ถ้ากลับไปแล้วเขาต้องค้นหาเรื่องนี้ใน อินเตอร์เน็ต
“นายเชื่อรึเปล่าว่าโลกนี้จะถูกทําลายในอนาคต ? ” เสี่ยหยู่นึก บางอย่างออกและถามขึ้นมา
“ฉันรู้” หวังเย่าตอบกลับสั้นๆ
รู้ว่าโลกนี้จะถูกทําลายในอนาคตด้วยการรุกรานของปิศาจ แต่เขา ไม่คิดจะยอมแพ้ เขาพยายามพัฒนาตัวเองและช่วยโลกในอนาคตไว้ เขาเชื่อว่าเขาจะทําได้
เสี่ยหยู่มองไปที่หวังเย่าแล้วถอนหายใจออกมา “ดูเหมือนว่านาย จะรู้สินะ…”
“นายคิดจะทํายังไง ? ” เสี่ยหยู่ถามขึ้นมา
“แน่นอนว่าต้องช่วยโลกนี้เอาไว้ ! ” หวังเย่าตอบกลับด้วยสีหน้า มุ่งมั่น
“ฮ่าฮ่า ช่วยโลก นายอาจจะคิดได้แต่จะทําได้จริงๆ หรือ ? ” สีหน้า ของเสี่ยหยู่แสดงความสิ้นหวังออกมา
“มันไม่ง่ายที่จะทําแบบนั้น แต่ฉันต้องทําให้ได้ ! ” หวังเย่าพูดด้วย ท่าทีหนักแน่น