ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 415 ความคิดต่อเนื่อง
ตอนที่ 415 : ความคิดต่อเนื่อง
หวังเย่าแสดงท่าทีอับอายออกมาเมื่อเห็นสภาพของห้องทดลองที่พังไปเพราะการขยายร่างของเสี่ยวซวี ยังไงซะที่นี่ก็เป็นที่ของคนอื่น ความเสียหายนี้ถือว่าเป็นเงินมหาศาล คนทั่วไปอาจจะหงุดหงิดเพราะเรื่องนี้ แต่เฉี่ยนเจินเฉียนไม่ใช่คนทั่วไป เมื่อเห็นว่าหวังเย่ากังวล เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
“ไม่เป็นไร อุปกรณ์พวกนี้นายไม่ต้องไปสนใจหรอก”
เฉี่ยนเจินเฉียนไม่ได้สนใจเรื่องนี้จริง ๆ เมื่อดูจากเงินของเขาแล้ว ของพวกนี้ก็ไม่ได้มีค่าอะไรมาก
“ไม่เป็นไร นั่นหมายความว่าผมจะไม่ได้ชดใช้งั้นหรือ ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“นายไม่ต้องกังวลไป มันก็แค่อุปกรณ์ทั่วไป มันจะมีค่าสักแค่ไหนกันเชียว” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้น
“แต่..” หวังเย่าอยากจะพูดบางอย่าง แต่ไป๋พั่วหล้างเข้าขวางไว้ก่อน
“เมื่อเฉี่ยนเจินเฉียนบอกว่าไม่สนใจ นายก็ไม่จำเป็นต้องคิดมาก ไม่งั้นแล้วคงทำให้เขาโกรธขึ้นมาจริง ๆ ”
“ก็ได้” เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋พั่วหล้าง หวังเย่าก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับ
“เมื่อเราเข้าใจข้อมูลส่วนมากแล้ว ฉันว่าเราต้องรีบกลับไปวางแผนรับมือสำหรับอนาคตที่จะเกิดขึ้นดีกว่า” เมื่อรู้ว่ามีหายนะรออยู่ จางจื้อเฉียงก็คิดว่าได้เวลาที่จะเตรียมตัว
“งั้นก็แยกย้ายกันเถอะ ฉันหวังว่าการกลับมาพบกันครั้งหน้าพวกนายจะแข็งแกร่งขึ้น” เฉี่ยนเจินเฉียนหัวเราะออกมา
“แน่นอน เจ้าเฒ่า ฉันไม่ยอมแพ้นายง่าย ๆ หรอก” ซือคงเป่ามองไปรอบ ๆ แล้วพูดขึ้นมา
“ฉันคงต้องเหนือกว่าพวกนายแน่ ๆ ฮ่าฮ่า” ไป๋พั่วหล้างพูดขึ้นมา
“ฮ่าฮ่า..” ทุกคนพากันหัวเราะออกมา
จากนั้นซือคงเป่าก็มองไปที่หวังเย่าแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “หวังเย่า นายเองก็อย่ายอมแพ้ง่าย ๆ ล่ะ”
“แน่นอน อนาคตผมจะต้องช่วยโลกมนุษย์เอาไว้ ผมจะยอมแพ้ง่าย ๆ ได้ยังไง” หวังเย่าแสดงสีหน้ามุ่งมั่นออกมา
“นั่นก็ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ดี ฉันหวังว่านายจะทำได้ในสักวัน” ทุกคนได้ยินแบบนั้นก็พากันมองไปที่หวังเย่า
จากนั้นซือคงเป่า, ฮวงเทียนเจวี๋ยน, จางจื้อเฉียงและไป๋พั่วหล้างก็ได้พากันกลับไป
“ลุงเฉี่ยน ผมขอตัวก่อน” หวังเย่ามองไปที่เฉี่ยนเจินเฉียนแล้วพูดขึ้นมา
“ตามสบาย” เฉี่ยนเจินเฉียนพยักหน้าตอบรับ
หวังเย่าได้จูงมือเสี่ยวซวีแล้วเดินออกมาจากที่นั่น
เมื่อเห็นทั้งสองคนเดินออกไป เฉี่ยนเจินเฉียนก็แสดงสีหน้าจริงจังออกมา
“ช่วยโลกนี้ หวังว่านายจะทำได้สำเร็จนะ…”
….
หวังเย่าเดินทางออกมาจากมิติป่าโดยมีเสี่ยวซวีตามหลังมาติด ๆ
ตอนนั้นเสี่ยวซวีไม่ได้พูดอะไรออกมา ไม่รู้เลยว่าเธอคิดอะไรอยู่
เมื่อหวังเย่าไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกคน มันก็ทำให้บรรยากาศนั้นดูแปลกไป
เนื่องจากสัญญาของทั้งสองยังคงอยู่จึงทำให้หวังเย่ารับรู้ถึงความรู้สึกของเธอเป็นอย่างดี
แม้ว่าจะพยายามดึงเธอกลับเข้าไปในกำไลผ่านพลังสัญญา แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าเสี่ยวซวีน่ะไม่อยากกลับเข้าไปในกำไล
ดังนั้นหวังเย่าจึงได้แต่ปล่อยให้เธออยู่ด้านนอกไปก่อน
“นายท่าน” ไม่นานเสี่ยวซวีก็พูดขึ้นมา
“หือ ? มีอะไร ? ” หวังเย่าหยุดและหันกลับมามองเสี่ยวซวีด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร” เสี่ยวซวีเอามือไขว้หลังก่อนจะเผยรอยยิ้มน่ารักออกมา
รอยยิ้มนี้ทำให้ใจฟูจริง ๆ
หวังเย่ารู้สึกว่ารอยยิ้มนี้ช่างดูอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“เด็กแบบเธอน่ะควรยิ้มบ่อย ๆ นะ รู้ไหม” หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
“ข้าไม่ใช่เด็ก ! ” เสี่ยวซวีกัดฟันแน่นและพูดขึ้นมา
“ทำไมจะไม่ใช่” หวังเย่ามองไปที่ตัวของเสี่ยวซวี
“ข้า…งั้นก็แล้วแต่นายท่านละกัน” เสี่ยวซวีหันหน้าหนีพร้อมกับเบะปากทำท่าโกรธอีกครั้ง
หวังเย่าหมดคำพูดกับเธอจริง ๆ นี่ไม่เหมือนกับเสี่ยวซวีในอดีตเลย ร่างในตอนนี้กับร่างในอดีตต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หวังเย่าดึงเอามอเตอร์ไซค์ออกมา ก่อนจะบอกกับเธอว่า “ขึ้นมาสิ”
เสี่ยวซวีได้ยินแบบนั้นก็ฮึดฮัดออกมา “ข้าบินได้ ” ถึงจะบ่นแบบนั้นแต่ก็ยังขึ้นไปซ้อนมอเตอร์ไซค์อยู่ดี ชัดแล้วว่าถึงปากจะปฏิเสธแต่ร่างกายก็ไม่เชื่อฟัง
หวังเย่าส่ายหน้าก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์กลับไปที่เมืองหัวเซี่ย
หลังจากนั้นสักพักพวกเขาก็เดินทางมาถึงเมืองหัวเซี่ย เพื่อไม่ให้มีปัญหาที่ไม่จำเป็นหวังเย่าจึงได้เรียกเสี่ยวซวีกลับเข้าไปในกำไล ยังไงซะมันก็มีการตรวจสอบตัวตน เสี่ยวซวีน่ะเป็นอสูร เธอไม่มีสายรัดข้อมือบอกตัวตนเหมือนมนุษย์อยู่แล้ว
แม้จะพิสูจน์ได้ว่าเธอเป็นอสูรของเขาแต่มันก็คงดูโดดเด่นเกินไป หวังเย่าไม่อยากตกเป็นเป้าสายตา ดังนั้นเขาจึงเก็บเสี่ยวซวีเอาไว้ในกำไลอสูรไปก่อน หลังจากที่เข้าเมืองแล้วเขาถึงจะเรียกเธอออกมาอีกครั้ง
เมื่อผ่านการตรวจสอบแล้ว หวังเย่าก็เข้ามาในเมือง เขาเดินไปหาที่ที่ไม่มีคนก่อนจะเรียกเสี่ยวซวีออกมา
ทันทีที่ออกมาแล้ว เสี่ยวซวีก็กัดฟันแน่นเหมือนจะไม่พอใจอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเธอหงุดหงิดแค่ไหนกับการกลับเข้าไปอยู่ในกำไลในครั้งนี้
หลังจากนั้นหวังเย่าก็พาเสี่ยวซวีไปที่บริษัท
ทันทีที่เข้ามาในบริษัทก็มีสายตาแปลก ๆ มองมาที่เขาทันที
ยังไงซะด้านหลังเขาก็คือสาวน้อยน่ารัก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอน่ะโดดเด่นจนทุกคนต้องสนใจ
หวังเย่าทักทายทุกคนในบริษัทก่อนจะไปหาจ้าวเมิ่งซี
ตอนนั้นจ้าวเมิ่งซีกำลังตรวจสอบเอกสารอยู่ เธอจึงไม่รู้ว่าหวังเย่ามาถึงที่นี่แล้ว
ตอนที่เธอรู้ตัวก็ตอนที่หวังเย่าไปนอนเล่นที่โซฟาแล้ว
“นายกลับมาแล้ว…”
ทันทีที่พูดจบ จ้าวเมิ่งซีก็เห็นอีกคนที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกตัว
หวังเย่ายังไม่ทันได้พูดอะไร จ้าวเมิ่งซีก็ลุกขึ้นยืนและทำท่าที่จะหนี
“ข้าคืออสูรของนายท่าน เสี่ยวซวี” เสี่ยวซวีพูดขึ้นเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าไม่พอใจและกำลังจะเดินออกไป
“โอ้ เธอคือเสี่ยวซวีสินะ” เมื่อจ้าวเมิ่งซีได้ยินเธอก็ต้องแปลกใจ