ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 414 โลลิต้าน้อย
ตอนที่ 414 : โลลิต้าน้อย
เสี่ยวซวีตัวยาวขึ้นกว่าสิบเมตร ตัวของมันแทบจะใหญ่เต็มห้องชั้นใต้ดินเลยก็ว่าได้
พวกอุปกรณ์ต่าง ๆ ล้วนถูกร่างกายของมันเบียดจนพังไป
หวังเย่าและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันถอย
เฉี่ยนเจินเฉียนไม่ได้สนใจห้องทดลองที่เสียหายแต่อย่างใด ตอนนี้เขาห่วงแค่หวังเย่าและสนใจแค่เสี่ยวซวีเท่านั้น
เสียงคำรามดังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเครื่องหมายบนหน้าผากของเสี่ยวซวีที่ส่องแสงสีทองออกมา
จากนั้นก็มีเสียงแตกดังก้องขึ้นราวกับว่าร่างกายของมันกำลังถึงขีดจำกัด
คลื่นพลังของเสี่ยวซวีแข็งแกร่งขึ้น จนกระทั่งเสียงคำรามสิ้นสุดลง มันถึงได้ขึ้นไปถึงขั้นจักรพรรดิได้สำเร็จ
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ รึแม้แต่หวังเย่าต่างก็พากันตะลึง แต่หวังเย่าไม่เหมือนกับเฉี่ยนเจินเฉียน การเพิ่มเลเวลจากขั้นราชันย์ไปขั้นจักรพรรดินั้นเขาทำได้ด้วยตัวเอง แต่คนอื่น ๆ ไม่มีระบบเหมือนกับหวังเย่า
การเพิ่มเลเวลของเสี่ยวซวีทำให้มันกลายเป็นอสูรตัวแรกของหวังเย่าที่เป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นจักรพรรดิ
เมื่อคิดถึงกรงเล็บของอสูรมิติ หวังเย่าก็เข้าใจว่ากรงเล็บนั่นทำให้เสี่ยวซวีเพิ่มเลเวลขึ้นมา ชัดแล้วว่ามันไม่อาจจะตัดความเกี่ยวข้องระหว่างกรงเล็บนี่กับเสี่ยวซวีออกจากกันได้
“เสี่ยวซวีขึ้นไปถึงขั้นจักรพรรดิแล้วหรือ ? มันไม่เกินไปหน่อยหรือ ? ! ” เมื่อรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังที่เสี่ยวซวีที่แผ่ออกมาว่ามันไม่ได้อ่อนแอกว่าความแข็งแกร่งของตน จางจื้อเฉียงก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
แม้ว่าคนอื่น ๆ จะไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่พวกเขาก็รู้สึกแบบเดียวกัน
สักพักแสงสีทองบนหน้าผากเสี่ยวซวีก็หายไปก่อนจะมีแสงสว่างจ้าระเบิดออกมาทำให้ทุกคนไม่อาจจะมองเห็นอะไรได้
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจลำแสงก็สลายไป ร่างของเสี่ยวซวีได้ลดขนาดลง ตอนนี้มันได้กลายมาเป็นสาวน้อยโลลิต้าในชุดสีดำแล้ว
สาวน้อยผมดำดูราวกับตุ๊กตา เธอน่ารักเป็นอย่างมาก
ทุกคนถึงกับอยากวิ่งเข้าไปหยิกแก้มเธอ แต่เมื่อรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงที่แผ่ออกมาจากตัวเธอ ทุกคนก็ต้องห้ามใจตัวเอง
“เธอคือเสี่ยวซวีงั้นหรือ ? ” แม้ว่าจะรู้คำตอบในใจแล้วแต่หวังเย่าก็ยังถามออกมา
“ใช่ ข้าคืออสูรมิติ ข้าคืออสูรของนายท่าน ข้าชื่อเสี่ยวซวี เอาล่ะมนุษย์ทั้งหลาย ทำไมไม่รีบมาคุกเข่าบูชาข้าล่ะ ? ”
คำพูดของโลลิต้าน้อยทำให้หวังเย่าต้องขมวดคิ้ว
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ออกมา
หากอยู่ในรูปร่างนี้คงไม่มีใครรู้เลยว่าเธอเป็นอสูรมิติ
เมื่อคิดแบบนั้น เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ก็พากันมองไปที่หวังเย่าด้วยสายตาแปลก ๆ…
เมื่อรับรู้ถึงสายตาของทุกคน หวังเย่าก็หน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที
หวังเย่าก้าวออกมาข้างหน้าและเอามือปิดปากเสี่ยวซวีเอาไว้
“เธอต้องรู้บ้างว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด” หวังเย่าหยิกแก้มของเสี่ยวซวี เพื่อให้เธอหยุดพูด
“ไม่ ปล่อยข้า …ข้ายังพูดไม่จบ… ข้า ….” เสี่ยวซวียังพูดต่อและดิ้นไปมาเพื่อสลัดให้หลุดออกจากมือของหวังเย่า
“ยังไม่ยอมหยุดอีกหรือ ? เธอถึงกับไม่ฟังคำสั่งฉันเลยรึไง ?” หวังเย่าไม่ยอมปล่อย เขายังหยิกแก้มเธอต่อ
“ข้าผิดไปแล้ว…ข้ายอมแล้ว…ปล่อยข้าเถอะ …” สุดท้ายเสี่ยวซวีก็ต้องยอมแพ้
เมื่อเห็นแบบนั้นหวังเย่าถึงได้ยอมปล่อยมือจากปากเธอ แต่เขากลับรู้สึกดีจนไม่อยากปล่อยมือจากเธอเลย
สาวน้อยที่โดนหยิกจนแก้มทั้งสองข้างแดงแปร๊ด เธอมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าไม่พอใจและพึมพำออกมาคนเดียว แต่ดูไปแล้วก็น่ารักจริง ๆ
บอกได้ว่าเธอน่ะน่ารักเกินจะต้าน
ตอนนั้นเฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ถึงได้เดินเข้ามาและมองไปที่เสี่ยวซวีด้วยสายตาคาดหวัง
หวังเย่ารู้ว่าพวกนี้ต้องการจะถามอะไร เขาได้อธิบายออกมาให้ทุกคนฟัง
“ไม่คิดเลยว่าหวังเย่าจะพัฒนาอสูรมิติมาถึงระดับนี้ได้ น่าทึ่งจริง ๆ ” หลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของหวังเย่า ซือคงเป่าก็ได้แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา
“ใช่ แค่เวลาสั้น ๆ อสูรมิติกลับขึ้นมาถึงระดับนี้ได้ หากมองทั้งประเทศแล้วคงไม่มีใครทำได้แบบนาย” ฮวงเทียนเจวี๋ยนถอนหายใจออกมา
“ไม่ต้องนับแค่ประเทศเราหรอก ทั้งโลกก็คงไม่มีใครทำได้แบบนี้” จางจื้อเฉียงหัวเราะออกมา
“นายเป็นผู้ดูแลที่แข็งแกร่งจริง ๆ ! ” ไป๋พั่วหล้างชมออกมา
เฉี่ยนเจินเฉียนพยักหน้าเห็นด้วย
เมื่อได้ยินคำชมพวกนั้น หวังเย่าก็พูดอะไรไม่ออก
“พวกลุงชมผมเกินไปแล้ว พอได้แล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวผมจะหลงตัวเองเอานะ” หวังเย่าถ่อมตัวราวกับว่าไม่ใช่หวังเย่าคนเดิม
“ในสายตาเราแล้วนายนี่แหละที่เก่งที่สุด” จางจื้อเฉียงพูดขึ้น
ทุกคนต่างก็พากันพยักหน้า
พวกเขาคุยกันได้สักพักก่อนจะกลับมาพูดถึงหัวข้อเดิม
“บางทีนี่อาจจะเป็นจุดประสงค์ของอสูรมิตินั่นก็เป็นได้ ” เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปที่เสี่ยวซวีแล้วพูดขึ้นมา
“รู้ว่าไม่อาจจะหนีได้แต่ก็ยังสร้างความหวังต่อ…” ซือคงเป่าคิดถึงร่างของอสูรมิติและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเคารพ
“อสูรมิตินี่ได้ส่งพลังให้กับเสี่ยวซวีต่อ”
เมื่อพูดจบแม้แต่เฉี่ยนเจินเฉียนก็ยังรู้สึกเสียดาย
“ใช่ พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับภาระอันใหญ่ยิ่ง” ไป๋พั่วหล้างพูดขึ้นมา
“ไม่หรอก แม้ว่าจะหนักหนาแค่ไหนแต่ผมก็ต้องช่วยเธอ ยังไงซะผมก็เป็นเจ้านายของเธอ” หวังเย่าแสดงท่าทีแน่วแน่ออกมา
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นเสี่ยวซวีที่ยังโกรธอยู่ก็นิ่งไปทันที
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ มองไปที่หวังเย่า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
นี่คือการเลือกของหวังเย่า พวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะไปคัดค้านรึเปลี่ยนใจแต่อย่างใด