ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 403.2 ฉันคือราชาแห่งสวรรค์ (2)
ตอนที่ 403 ฉันคือราชาแห่งสวรรค์ (2)
……………………………………………………………………..
อู๋ขุยซานไม่สนใจเขาอีก เอ่ยอย่างครุ่นคิดว่า “ฉันวางแผนจะรายงานกับเบื้องบน ตรวจสอบกับผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์ต่อ! ถ้าพวกเราคาดเดาถูก…งั้นก็หมายความว่าผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์พวกนี้มีโอกาสเข้าสู่ขั้นแปดอย่างรวดเร็ว! ถึงกระทั่งสูงกว่านั้น!”
ฟางผิงได้ยินก็แววตาวูบไหวเล็กน้อย ละล่ำละลักเอ่ยว่า “อธิการ คุณมั่นใจจริงๆ เหรอว่าขั้นแปดคืนชีพได้?”
อู๋ขุยซานขมวดคิ้วว่า “พูดยาก! สสารไม่แตกดับมีประโยชน์มากมายจริงๆ รวมถึงงอกอวัยวะที่สูญเสียไปขึ้นมาได้ด้วย! พวกเราสิ้นเปลืองสสารไม่แตกดับไปบางส่วนก็ทำได้แล้ว แน่นอนว่าฟื้นฟูสสารไม่แตกดับก็เป็นเรื่องยาก งอกอวัยวะใหม่ทำได้ งั้นทำไมจะทำอย่างอื่นไม่ได้ล่ะ? ขั้นแปดสามารถคืนชีพได้ ไม่ใช่การคาดเดาอย่างสุดโต่งเสียทีเดียว เป็นเพราะการแสดงประสิทธิภาพของสสารไม่แตกดับที่ออกมาติดต่อกันถึงทำให้พวกเราคาดเดาออกมาแบบนี้ได้”
ฟางผิงแววตาเป็นประกาย “พูดแบบนี้แสดงว่าผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์พวกนี้มีโอกาสที่จะเป็นยอดฝีมือคืนชีพจริงๆ? อธิการหรือพวกเราไปตามหาบางส่วนแล้วรับมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ จะได้บ่มเพาะยอดฝีมือขั้นแปดขั้นเก้าออกมาเยอะหน่อย!”
ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ แต่เรื่องที่ผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์แข็งแกร่งมาก นั่นเป็นข้อเท็จจริง
เหยาเฉิงจวิน หวังจินหยาง หลี่หานซง ใครไม่เป็นผู้แข็งแกร่งบ้าง?
อู๋ขุยซานส่ายหน้าเบาๆ “หายาก หากง่ายขนาดนั้นจริงๆ ก็คงไม่มีแค่พวกเธอไม่กี่คนแบบนี้ หลายคนล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงหลังจากฝึกวิชาทั้งนั้น หวังจินหยางเพิ่งถูกค้นพบหลังจากหลอมกระดูกได้เร็วในขั้นหนึ่ง หลี่หานซงไม่ต่างกันเท่าไหร่ เหยาเฉิงจวินยังต้องรอถึงขั้นสี่ จู่ๆ พลังจิตใจก็ปลดปล่อยได้ ถึงมีคนค้นพบความแตกต่างเรื่องนี้ ส่วนเธอ…”
อู๋ขุยซานไม่รู้ควรจะพูดยังไงดี เธอแทบจะเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน พวกเราถูกเธอทำหัวหมุนไปหมดแล้ว
ตอนนี้พวกยอดฝีมือต่างเผยสีหน้าซับซ้อน
ตาเฒ่าหลี่มองสำรวจฟางผิงอย่างละเอียด ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “ไอ้หนู หรือเธออายุหลายพันปีแล้วจริงๆ? นั่นไม่ใช่ว่าจะแก่กว่าฉันเยอะเลยหรือไง?”
“ใช่ ผมเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ชาติ!”
‘ปัง!’
ครั้งนี้ตาเฒ่าหลี่ไม่เกรงใจเช่นกัน ซัดฝ่ามือใส่เขาจมดินลึกเข้าไปอีก เหลือแค่ครึ่งหนึ่งอยู่บนพื้นดิน
คนอื่นๆ ต่างไม่สนใจเขา ถูกทุบตายก็สมควรแล้ว
หวงจิ่งและคนอื่นคุยกันอยู่พักใหญ่ จู่ๆ ก็โอดครวญว่า “ถ้าเป็นแบบนี้ บางที…เขาอาจจะเข้าสู่ขั้นแปดได้อย่างรวดเร็วจริงๆ?”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ก็แทบจะแทงใจทุกคน
ขั้นแปดง่ายขนาดนี้เลย?
พวกเขาฝึกวิชามาตั้งหลายปี จะถูกเจ้าเด็กนี้แซงหน้าจริงๆ แล้ว?
จู่ๆ หลู่เฟิ่งโหรวก็เหนื่อยใจอยู่บ้าง เอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า “ไสหัวไปเถอะ ช่วงนี้อย่ามาอยู่ใกล้หูใกล้ตาฉัน”
เห็นฟางผิง เธออยากซ้อมเขาให้ตายจริงๆ
เพื่อทะลวงด่าน ฉันแทบจะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
เธอกลับแล้วใหญ่ ใช้ชีวิตอย่างสบายๆ วันนี้ไขกระดูกกลายพันธุ์ พรุ่งนี้กะโหลกกลายพันธุ์ น่าโมโหจนปวดใจ
ฟางผิงทำหน้าหมดคำจะพูด สรุปแล้วพาฉันลอยมาที่นี่ เพื่อพูดประโยคพวกนี้เนี่ยนะ?
เพื่อยืนยันว่าฉันเป็นยอดฝีมือยุคโบราณที่เกิดใหม่?
ฟางผิงไม่มากความอีก ปีนขึ้นมาจากพื้นดิน พื้นที่เหยียบมาตลอดทางเกิดเป็นหลุมลึก ถอนหายใจว่า “นึกไม่ถึงว่าจะเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ชาติ หรือหลังจากนี้ผมยังต้องไปตามหาลูกหลานรุ่นหลังของตัวเอง? ไม่แน่ว่าคนรู้จักอาจจะเป็นทายาทมาหลายชั่วอายุคนแล้ว ลำบากใจจริงๆ!”
ทุกคนต่างใบหน้าดำคล้ำ
แต่หากการคาดเดาเป็นเรื่องจริง อาจเป็นไปได้เหมือนกัน นั่นคงลำบากใจจริงๆ แล้ว!
—
ออกมาจากเขตหอพักอาจารย์ จู่ๆ ฟางผิงก็หัวเราะออกมา
พวกตาเฒ่ายายเฒ่าพวกนี้คงเกือบจะอกแตกตายแล้วสินะ?
“แต่การคาดเดาอาจไม่ได้ผิดเสมอไป หรือพวกเหล่าหวังจะเป็นยอดฝีมือสมัยก่อนจริงๆ?”
สะบัดหัวเล็กน้อย ฟางผิงไม่กล้าคิดต่ออีก
ช่วงนี้หลังจากรับรู้ข่าวสารมากขึ้น เข้าใจอะไรเยอะขึ้น ตอนนี้เขาคิดจนแทบหัวจะระเบิดอยู่แล้ว
“ไม่สนพวกเขาแล้ว ยังไงครั้งนี้ฝีมือฉันก็แข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง”
รอปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้ ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ลงลึกอีกหน่อย ฟางผิงคิดว่าเขาคงจัดการขั้นห้าโดยไร้แรงกดดันได้
เจอกับขั้นหกสามารถลองได้เช่นกัน อีกฝ่ายไม่ระเบิดฝีมือเต็มกำลัง อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเสมอไป
“ใช่สิ วิธีหลอมร่างทองเสมือนจริงของตาเฒ่าหลี่ ฉันสามารถฝึกได้เหมือนกัน บางทีอาจจะสำเร็จเร็วก็ได้ ถึงเวลานั้นแม้ประตูซานเจียวยังไม่ปิดผนึก แต่อาจไม่ด้อยไปกว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกแล้ว!”
ระหว่างที่เดิน ฟางผิงก็กลับมาที่เขตหอพักนักศึกษา ในเวลาเดียวกัน ฉินเฟิ่งชิงก็เพิ่งกลับมาจากเขตทางใต้
เห็นฟางผิง ฉินเฟิ่งชิงแทบไม่พูดอะไร บิดตัวเดินไปทันที
ตอนนี้เขาเห็นฟางผิงมักรู้สึกเศร้าใจยังไงไม่รู้
ฟางผิงไม่สนใจเช่นกัน ตะโกนเสียงดังว่า “เฮ้อ ฝึกวิชาได้เร็วจริงๆ เป็นปัญหาซะแล้ว! ถ้ายังไม่ควบคุมอีก พรุ่งนี้ฉันอาจจะกลายเป็นขั้นแปดจริงๆ ก็ได้ จะเร็วเกินไปแล้ว!”
เวลานี้นักศึกษาที่เดินผ่านมาต่างน้อยเนื้อต่ำใจจนแทบจะมุดตัวลงไปใต้ดิน
ฉินเฟิ่งชิงเร่งฝีเท้าให้เร็วยิ่งกว่าเดิม ใบหน้าเขียวคล้ำ นายอวดเก่งต่อไปเถอะ ฉันตัดสินใจแล้ว วันนี้จะยื่นคำร้องขอตำแหน่งผู้บัญชาการหนานเจียง!
แน่นอนว่า…ในใจอิจฉาอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน!
ตกลงเป็นเพราะอะไรกันแน่?
เจ้าหมอนี่กินข้าวดื่มน้ำก็พัฒนาฝีมือได้แล้วหรือไง นี่จะให้เขาใช้ชีวิตต่อไปได้ยังไงกัน
—
ในตอนที่ฟางผิงกลับไปหอพักตัวเองได้ไม่นาน อู๋ขุยซานยังคงตัดสินใจรายงานต่อเบื้องบน
การรายงานข้อมูลของยอดฝีมือขั้นแปด ไม่นานก็ส่งไปถึงรัฐบาลกลาง
“ผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์ถูกสงสัยว่าเป็นยอดฝีมือสมัยโบราณที่กลับมาเกิดใหม่!”
ตอนที่มีการคาดเดาออกมา แม้จะเป็นเบื้องบนพวกนี้ก็ตกใจอย่างมากเหมือนกัน
การคาดเดาและวินิจฉัยเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมาก่อนจริงๆ
เมื่อก่อนมีผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์แค่ไม่กี่คน
ทั้งคนพวกนี้มีพื้นฐานครอบครัวขาวสะอาด ถูกเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ นั่นเป็นข้อเท็จจริง!
ถ้ามีผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์โผล่ออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย บางทียอดฝีมือพวกนี้ยังจะครุ่นคิดไปทางนี้ได้
แต่ประเด็นคือไม่ใช่!
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้รายงานเรื่องที่เกี่ยวกับฟางผิงบางส่วนเช่นกัน เส้นทางการกลายพันธุ์ของเขา เวลานี้กระทั่งเบื้องบนบางส่วนยังเชื่ออยู่บ้างว่าเป็นยอดฝีมือที่ฟื้นคืนชีพจริงๆ!
หรือขั้นแปดขึ้นไปจะมีคนที่ตายแล้วคืนชีพใหม่ได้จริงๆ?
ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นบางเรื่องก็ซับซ้อนขึ้นมาแล้ว
—
ตอนนี้ฟางผิงไม่ได้สนใจเรื่องนี้
พวกเขาอยากจะคาดเดายังไงก็คาดเดาไป อย่างมากก็ถูกจับตามองเยอะขึ้นเท่านั้น บนพื้นโลกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ลงถ้ำใต้ดิน จับตามองก็ไม่มีประโยชน์
เวลานี้สิ่งที่อยู่ในหัวของฟางผิงคือเขายังมีบางอย่างที่ไม่ได้เพิ่ม
กลับมาหอพัก ไม่นานฟางผิงก็เริ่มขยายช่องเก็บของให้ตัวเอง
หลังจากนั้นสักพัก ฟางผิงก็หยุดการขยาย
ตอนนี้ตัวเลขของเขามีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ทรัพย์สิน : 9,200,000,000
ปราณ : 1000 แคล (4600 แคล)
จิตใจ : 590 เฮิรตซ์ (825 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 177 ชิ้น (100%) , 26 ชิ้น (90%) , 3 ชิ้น (30%+)
ช่องเก็บของ : 4 ลูกบาศก์เมตร (+)
ม่านพลังงาน : ค่าทรัพย์สินหนึ่งหมื่นต่อนาที
“แพงเกินไปแล้ว!”
ฟางผิงเพิ่มสามครั้ง ทุกครั้งที่เพิ่มช่องว่างหนึ่งลูกบาศก์เมตร จะสิ้นเปลืองค่าทรัพย์สินห้าร้อยล้าน!
หลังจากเพิ่มสามครั้ง ฟางผิงก็ละทิ้งความคิดจะเพิ่มต่อออกไป
หนึ่งลูกบาศก์เมตรใช้ห้าร้อยล้าน ราคานี้จะสูงลิ่วจนน่าตกใจไปแล้ว!
“น่าเสียดายที่ไม่มีวิธีสร้างออกมาได้ ไม่งั้นหากสามารถเปลี่ยนเป็นแหวนเก็บของขนาดหนึ่งลูกบาศก์เมตร ขายออกไปคงไม่ใช่แค่ห้าร้อยล้านสินะ?”
ยอดฝีมือส่วนมากล้วนมีเงิน
หากมีอุปกรณ์ที่เก็บของพกพาได้ ฟางผิงแทบจะจินตนาการได้ว่าปรมาจารย์ต้องแย่งกันอยากได้อย่างแน่นอน
หากใช้ค่าทรัพย์สินของตัวเองจนหมด จะเพิ่มได้สิบแปดลูกบาศก์เมตร งั้นก็เป็นขนาดยี่สิบสองลูกบาศก์เมตรแล้ว นี่ไม่ใช่ช่องขนาดเล็กอีกต่อไป
ยาวสิบเอ็ดเมตร กว้างสองเมตร สูงหนึ่งเมตร ช่องว่างแบบนี้เทียบได้กับตู้คอนเทนเนอร์ขนาดมาตรฐานเล็กๆ
“จะสิ้นเปลืองเกินไปไม่ได้ อีกอย่างพูดแล้วว่าจะเปิดห้องฝึกวิชาพลังฟ้าดิน จะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่พวกเหล่าหวงไม่ได้จริงๆ”
เรื่องนี้ฟางผิงเป็นคนเอ่ยออกมา ให้พวกหวงจิ่งไปจัดสรรให้ตลอด นั่นคงจะเกินไปอยู่บ้าง
หากไม่ใช่ว่าฟางผิงเสนอออกมา ปรมาจารย์พวกนี้คงไม่มาทำเรื่องแบบนี้ ยังไงพวกเขาก็ต้องฝึกวิชาของตัวเองเหมือนกัน
สิ้นเปลืองเยอะเกินไป พวกเขาก็ต้านไม่ไหว
“สี่ลูกบาศก์เมตรน่าจะเพียงพอแล้ว รองรับน้ำก็น่าจะรองรับได้สี่ตัน”
ฟางผิงไม่สนใจช่องเก็บของอีก แต่ครุ่นคิดถึงแผนการต่อจากนี้
เรื่องภายในมหาวิทยาลัย ยังต้องใช้เวลาจัดการอีกช่วงหนึ่ง เขาก็ต้องฝึกวิชาเหมือนกัน อย่างน้อยก็ต้องฝึกจนถึงขั้นห้าตอนกลาง
จากนั้น…เขาต้องพิจารณาลงถ้ำใต้ดินสักครั้ง ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้
แน่นอนว่าครั้งนี้เขาไม่ได้วางแผนทำการใหญ่
เขากำลังรอเหมือนกัน!
รอตาเฒ่าหลี่กลายเป็นขั้นแปดอย่างแท้จริง รอหลู่เฟิ่งโหรวและถังเฟิงทะลวงด่าน รออาการของหลิวพั่วหลู่ฟื้นตัวขึ้น
หากพวกเขาทะลวงทั้งหมดแล้ว ปรมาจารย์หกคน นั่นก็สามารถทำการใหญ่ได้จริงๆ แล้ว!