ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 399.2 ขั้นเก้าสุดยอด (2)
ตอนที่ 399 ขั้นเก้าสุดยอด (2)
……………………………………………………………………..
หวงจิ่งขมวดคิ้วไม่หยุด แบบนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว
สิ่งที่ล่วงเกินตอนนี้เป็นแค่เรื่องในที่ลับเท่านั้น ทุกคนไม่ได้หักหน้ากันอย่างโจ่งแจ้ง
แต่หากฟางผิงก่อเรื่องแบบนั้นก็จะหักหน้าจริงๆ แล้ว
“ฟางผิง จำเป็นต้องทำแบบนี้จริงๆ หรือไง?”
ฟางผิงพยักหน้าว่า “ไม่ได้มีความจำเป็นนี้ แต่ผมวางแผนจะขยายการรับนักศึกษาใหม่ต่อ มีเรื่องให้ใช้เงินเยอะแยะ รุ่นต่อไปผมวางแผนจะรับสามพันคน ทุกรุ่นหลังจากนี้เป็นแบบนี้ทั้งหมด จะทำให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยแตะถึงหนึ่งหมื่นคน”
ระหว่างที่พูด ฟางผิงเอ่ยต่อว่า “คนเยอะขึ้นก็ต้องจุนเจือมากขึ้น สิ้นเปลืองเงินมากขึ้น ไม่ทำแบบนี้คงไม่ได้ คณบดี…แค่กๆ อธิการบดี คุณว่าสถานการณ์ในตอนนี้ ภาวะชะงักงันระหว่างพวกเราและมนุษย์ถ้ำจะสามารถประคองได้นานเท่าไหร่กัน? เมื่อก่อนนั้นล้วนสู้หนึ่งเมืองต่อหนึ่งเมือง แต่ตอนนี้หลายสถานที่เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว เริ่มจากถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ จากนั้นก็เป็นถ้ำใต้ดินหนานเจียง ผมได้ยินว่าปัจจุบันถ้ำใต้ดินที่อื่นก็ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ รวมกับถ้ำใต้ดินเทียนหนานก่อนหน้านี้ที่เกิดเหตุไม่คาดฝันอันใหญ่หลวง สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ถ้าพูดว่าก่อนหน้านี้ถ้ำใต้ดินกำลังฝึกทหารกับพวกเรา งั้นตอนนี้ก็มีแนวโน้มจะเริ่มบุกเต็มกำลังแล้ว บางทีอาจเป็นเหตุไม่คาดฝันจากเบื้องบนทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ผมเดาว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับเยามิ่งและเยาจื๋อสองเผ่าพันธุ์ หรืออาจจะเป็นเหตุไม่คาดฝันอย่างอื่น อธิการ คุณเข้าใจเรื่องพวกนี้บ้างหรือเปล่า?”
หวงจิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “สิ่งที่เธอพูด อันที่จริงฉันก็สัมผัสได้ แต่ยังไงฉันก็เป็นแค่รองอธิการมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ บางอย่างไม่สามารถเข้าไปข้องเกี่ยวได้ สถานการณ์ที่เลวร้ายลงอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่อยู่สูงกว่าเบื้องบน”
ระหว่างที่พูดหวงจิ่งก็ราวกับลังเลอยู่บ้าง แต่ยังคงเอ่ยออกมา “เหตุไม่คาดฝันของถ้ำใต้ดินเทียนหนานก่อนหน้านี้…เป็นเพราะ…เพราะยอดฝีมือขั้นสุดยอดคนหนึ่งตายไป!”
“หืม?”
ฟางผิงม่านตาหดเกร็ง หมายความว่ายังไง?
“ยอดฝีมือขั้นสุดยอดของพวกเรา? ขั้นเก้า?”
“ขั้นเก้าสุดยอด!”
หวงจิ่งเอ่ยอย่างครุ่นคิด “ในปี 2008 ยอดฝีมือขั้นเก้าสุดยอดคนหนึ่งตายอย่างไม่คาดฝัน หลักๆ เกิดเรื่องอะไรขึ้นฉันไม่รู้ แต่หลังจากยอดฝีมือคนนั้นตายก็ปะทุสงครามของเทียนหนานขึ้นมา! อาจจะเพราะทำลายความสมดุลเข้า!”
หวงจิ่งถอนหายใจ เอ่ยต่อว่า “ส่วนการเปลี่ยนแปลงระหว่างเยามิ่งและเยาจื๋อสองเผ่าพันธุ์ที่เธอพูด อันที่จริงฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ บางทีเธออาจเดาถูก ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ ก่อนหน้านี้เมืองซีเฟิ่งคล้ายมีความต้องการจะเข้าร่วมสงครามเช่นกัน นี่อาจจะเป็นสัญญาณอย่างหนึ่ง”
ฟางผิงขมวดคิ้วว่า “ยอดฝีมือขั้นเก้าสุดยอด…แตกต่างกับยอดฝีมือขั้นเก้าทั่วไปเยอะหรือเปล่าครับ?”
“เยอะมาก!”
หวงจิ่งเอ่ยอย่างครุ่นคิด “พูดแบบนี้เถอะ ยอดฝีมือขั้นเก้าสุดยอดคนหนึ่งสู้กับขั้นเก้าทั่วไปได้สามถึงห้าคน มีโอกาสที่จะสังหารทั้งหมดเช่นกัน! ถึงกระทั่งยังไม่ใช่แค่นั้น…หากเปรียบเทียบอย่างจริงจัง ฉันไม่แน่ใจเหมือนกัน เวลานั้นผู้บัญชาการหลี่สู้หนึ่งต่อสามได้ ตอนที่ฆ่าขั้นเก้าคนหนึ่ง เขาเพิ่งจะเข้าสู่ขั้นเก้าสุดยอด เธอพอจะมองออกหรือเปล่า? อีกอย่างขั้นเก้าสามคนที่ประมือกับเขาก็ไม่ใช่ขั้นเก้าประเภทที่อ่อนแอที่สุด สามคนนี้มาจากส่วนลึกของถ้ำใต้ดินทั้งหมด อันที่จริงแข็งแกร่งมากกว่าเจ้าเมืองที่พวกเราพบเจอในตอนนี้ซะอีก แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น สามคนร่วมมือกันยังถูกผู้บัญชาการหลี่สังหารไปหนึ่งคน หากไม่ใช่ว่าเขากังวลใจอยู่บ้าง อาจจะถูกฆ่าจนเกลี้ยงแล้ว หากผู้บัญชาการหลี่ประมือกับเจ้าเมืองพวกนั้น บางทีใช้เวลาไม่นานคงสามารถสังหารอีกฝ่ายได้แล้ว เธออย่าลืมว่าขั้นเก้าถูกฆ่าตายยากมากๆ นี่เป็นขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงทางด้านคุณภาพอย่างหนึ่ง! ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้สิบสามเมือง คนอื่นฉันไม่รู้ แต่เจ้าเมืองเทียนเหมินเจอกับผู้บัญชาการหลี่ บางทีอาจต้านไม่ถึงสามกระบวนท่าด้วยซ้ำ!”
ฟางผิงหน้าเปลี่ยนสี นี่จะแตกต่างกันเกินไปแล้ว!
ขั้นเก้าหนึ่งคนไม่อาจต้านขั้นเก้าอีกคนได้ถึงสามกระบวนท่า!
“ผู้บัญชาการหลี่แข็งแกร่งขนาดนี้เลย?”
“ขั้นเก้าสุดยอดแข็งแกร่งแบบนี้ทุกคน!”
“ประเทศจีนมียอดฝีมือขั้นเก้าสุดยอดเท่าไหร่กัน? เจ้าสำนักจ้าวน่าจะไม่ใช่ งั้นเจ็ดคนที่อยู่ข้างบนเขา…”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
หวงจิ่งส่ายหัว เอ่ยอย่างขมขื่น “อย่ามองว่าฝีมือของพวกเราเหมือนไม่อ่อนด้อย ก็เหมือนกับขั้นเจ็ดและขั้นหกทั่วไป ในสายตาของยอดฝีมือขั้นสุดยอดพวกนั้น บางทีพวกเราอาจเป็นแบบนั้นเหมือนกัน ถึงกระทั่งอ่อนแอกว่านั้น บางเรื่องพวกเขาไม่อาจบอกพวกเรา ยิ่งไปกว่านั้นสุดท้ายแล้วมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็เป็นแค่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ไม่ใช่องค์กรการปกครองของประเทศจีนอย่างแท้จริง เธออยากจะรู้เรื่องพวกนี้ งั้นเกรงว่าต้องก้าวเข้าสู่ระดับนี้เท่านั้นถึงจะสามารถเข้าใจทั้งหมดอย่างชัดเจนได้”
หวงจิ่งถอนหายใจเบาๆ เอ่ยต่อ “ก่อนหน้านี้ถ้ำใต้ดินไม่ได้ทุ่มสุดกำลังน่าจะเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยอดฝีมือขั้นสุดยอดพวกนี้ เรื่องของเทียนหนานมีสาเหตุจากการตายของยอดฝีมือขั้นสุดยอด ปัจจุบันสถานการณ์เป็นยังไง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอบอกว่าไม่นานจะเกิดสงครามใหญ่ขึ้น บางทีอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ อันที่จริง…ก่อนหน้านี้พวกเราเคยครุ่นคิดเรื่องพวกนี้มาก่อน รัฐบาลเริ่มค่อยๆ ชี้นำความคิดของประชาชนก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งเช่นกัน กดดันขึ้นมาแล้ว! ไม่งั้นนโยบายก่อนหน้านี้คงปิดกั้นทั้งหมด เวลานั้นน่าจะยังไม่ถึงช่วงที่ร้ายแรง อย่ามองว่าพวกเราและอีกฝ่ายแตกต่างกันเกินไป ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ รัฐบาลก็ยังคงมีความมั่นใจอยู่ แต่ตอนนี้ความมั่นใจน่าจะไม่พออยู่บ้างแล้ว”
ฟางผิงขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้ง เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “อะไรก็ปิดบัง พวกเราทำได้แค่อาศัยการคาดเดา คาดเดาแม่งมีประโยชน์อะไร! สรุปแล้วยังรังเกียจที่พวกเราฝีมืออ่อนแอเกินไป รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ไม่บอกพวกเราอาจไม่ได้เป็นเรื่องดีเสมอไป? พลังต่อสู้ขั้นสูงสุดเทียบกันแล้วเป็นยังไง ยังไม่รู้? สถานการณ์ถ้ำใต้ดินอย่างละเอียดเป็นยังไง ไม่รู้! จุดประสงค์ของถ้ำใต้ดินคืออะไร ไม่รู้! รู้แค่ให้พวกเราทุ่มสุดชีวิต รู้แค่ว่าต้องปกป้องมวลมนุษย์ชาติ ทำสงครามเพื่อมนุษย์ มีความหมายงั้นเหรอครับ? อีกอย่างตกลงลัทธินอกรีตมันยังไงกันแน่! ในเมื่อประเทศจีนมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งกว่าขั้นเก้า ทำไมยังไม่ทำลายลัทธินอกรีตให้สูญสิ้นอีก? หรือลัทธินอกรีตก็มียอดฝีมืออีกระดับเหมือนกัน? รอผมถึงระดับนั้น ไม่ช้าก็เร็วจะไปคิดบัญชีกับพวกเขา…”
หวงจิ่งเอ่ยอย่างลำบากใจว่า “บางทีรอเธอถึงขั้นนั้นอาจจะคิดปิดบังกับทุกคนเหมือนกัน ก็เหมือนอย่างตอนนี้ เธอเคยคิดจะบอกเรื่องถ้ำใต้ดินกับที่บ้านหรือเปล่าล่ะ?”
ฟางผิงชะงักไป ก็ถูก เดิมทีตอนนี้คนที่บ้านก็กังวลใจเพราะเขาอยู่แล้ว แต่ยังไงไม่รู้เรื่องถ้ำใต้ดินจะนับว่าสบายใจกว่า
หากเขาบอกว่าในถ้ำใต้ดินมียอดฝีมือจำนวนมาก ทุกปีมีผู้ฝึกยุทธ์ตายไปนับไม่ถ้วน งั้นคนที่บ้านคงกินไม่ได้นอนไม่หลับอีกแล้ว
ฟางผิงสูดลมหายใจเข้าลึก แค่นเสียงว่า “ปิดบังคนอื่นน่ะได้ แต่คนอย่างพวกเราควรจะรู้! ยังไงผมก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์รุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์มากที่สุด…”
“งั้นรอให้เธอเข้าสู่ขั้นเจ็ดก่อนค่อยว่ากัน”
กระทั่งขั้นเจ็ดยังทะลวงไม่ได้ ในสายตาของคนพวกนั้นบางทีอาจจะเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง แต่ฟางผิงเป็นเด็กจริงๆ นั่นแหละ
ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ปกครองก็ไม่คาดหวังให้เด็กแบกรับแรงกดดันที่หนักเกินไปอยู่แล้ว จะถูกบดขยี้เอาได้
ยอดฝีมือขั้นสุดยอดพวกนั้น เกรงว่าคงจะโอบกอดความคิดแบบนี้อยู่เช่นกัน
“ยังไงก็รู้สึกหงุดหงิดใจอยู่ดี” ฟางผิงประชดออกมา ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “ช่างเถอะครับ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน ในเมื่อคุณคิดแบบนี้เหมือนกัน งั้นขายหุ้นเป็นเรื่องที่จำเป็นแล้ว ยังไงสองบริษัทใหญ่ก็มีเงิน ถ้าไม่ได้จริงๆ พวกเขาให้ยาบำรุงและอาวุธพวกเรามาจำนวนหนึ่งก็ได้เหมือนกัน แน่นอนว่าต้องคำนวณตามต้นทุน หากสามารถคว้ายาบำรุงและอาวุธเยอะขนาดนั้นมาได้ ความสามารถของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกครึ่งใหญ่!”
พูดจบ จู่ๆ ฟางผิงก็เอ่ยว่า “ใช่สิ ครั้งก่อนผมเอาตำรากองใหญ่ให้หน่วยทหาร ถอดความออกมาหรือยังครับ? อธิการช่วยเร่งให้ผมหน่อย ดูว่าพอจะทราบข้อมูลบางอย่างได้หรือเปล่า เรื่องอื่นไม่พูดถึง อย่างน้อยก็ควรเข้าใจสถานการณ์ของถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ให้ชัดเจน ทุกครั้งมีแต่สับสนมึนงง ไม่ช้าก็เร็วผมคงถูกหลอกไปตายแน่! วันไหนไม่ทันระวังยั่วโทสะยอดฝีมือขั้นเก้าสุดยอดขึ้นมา จากคำพูดของคุณ ต่อให้ผมวิ่งเร็วแค่ไหน คงตายได้ในฝ่ามือเดียวอยู่ดี ผมต้องระวังตัวหน่อยแล้ว”
หวงจิ่งไร้คำจะพูด ไอ้หนูเอาเรื่องจริงๆ!
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าคนหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะคิดยั่วโทสะยอดฝีมือระดับนี้ หรือเธอไม่รู้ว่าคำว่าตายสะกดยังไง!
“ได้ ฉันจะช่วยเร่งให้เธอ อีกอย่างอย่าลืมว่าต้องไปตรวจสอบร่างกายสักหน่อย เรื่องเก็บงำลมหายใจต้องให้คำตอบที่ชัดเจน ป้องกันไม่ให้คนใช้ข้ออ้างมาสร้างปัญหา ส่วนเรื่องหุ้น…ฉันจะลองหยั่งเชิงท่าทีของสองบริษัทใหญ่ก่อน ถึงเวลานั้นค่อยดูว่าจะจัดการยังไง”
“ได้ งั้นผมขอตัวก่อน หากอธิการไม่มีอะไร มีเวลาว่างก็ไปห้องฝึกวิชาจัดสรรพลังฟ้าดินให้ทุกคนหน่อยนะครับ…”
ทิ้งคำพูดนี้ไว้ ฟางผิงก็สาวเท้าจากไปทันที
หวงจิ่งกัดฟันจนแทบจะหัก!
เจ้าเด็กนี่เอาเรื่องจริงๆ ใช้ให้ฉันไปทำเรื่องพวกนี้?
ฉันไม่ต้องฝึกวิชาหรือไง?
ตัวเองเป็นคนเสนอออกมา นึกไม่ถึงว่าตอนนี้จะหลอกให้เขาเป็นเครื่องจัดสรรพลังงานซะแล้ว!
แต่ครุ่นคิดเล็กน้อยแล้ว หวงจิ่งก็ถอนหายใจ ช่างเถอะ มีเวลาก็ไปดูสักหน่อย ไม่อาจจะคาดหวังเจ้าเด็กนี่ได้จริงๆ