ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 396 ตั้งแต่วันนี้ไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต้องเปลี่ยนเป็นแซ่ฟาง (1)
- Home
- All Mangas
- ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน
- ตอนที่ 396 ตั้งแต่วันนี้ไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต้องเปลี่ยนเป็นแซ่ฟาง (1)
ตอนที่ 396 ตั้งแต่วันนี้ไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต้องเปลี่ยนเป็นแซ่ฟาง (1)
หอประชุมใหญ่
ฟางผิงสวมชุดคลุมคล่องตัว ก้าวขึ้นไปบนเวที
ไม่ได้พูดอะไร ค้อมกายให้ทุกคนแล้ว ด้านล่างเวทียังคงเงียบกริบ
“อาจารย์ทุกท่าน ครั้งนี้เรียกทุกคนมาประชุม ผมมีหลายเรื่องอยากประกาศให้ทราบ”
ระหว่างที่พูด ฟางผิงก็เว้นช่วงไปเล็กน้อย มองไปรอบๆ ล่างเวที เอ่ยต่อว่า “อย่างแรกตอนนี้อธิการอู๋เข้าสู่ขั้นแปด กำลังจะทะลวงสู่ขั้นเก้าแล้ว ช่วงนี้ต้องให้ความสนใจกับการฝึกวิชา เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ต้องมีปรมาจารย์ขั้นเก้าคนแรกในมหาวิทยาลัยให้ได้!”
ด้านล่างนั้นอู๋ขุยซานไม่ปริปากพูดอะไร เธอจะว่ายังไงก็ว่าไปเถอะ ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะทะลวงขั้นเก้าได้ตอนไหน ตอนนี้กลับถูกกำหนดให้ต้องทำได้แล้ว
“อย่างที่สอง คณบดีหลี่สาขายุทโธปกรณ์ ทะลวงถึงขั้นแปดแล้ว เพิ่มความเกรงขามให้กับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ของพวกเรา พวกเรามีปรมาจารย์ยอดฝีมือเพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้ว!”
ด้านล่างเวทีมีความโกลาหลขึ้นมาเล็กน้อย
ขั้นแปด!
ตาเฒ่าหลี่ไม่ปริปากอะไร เวลานี้ต้องนั่งให้มั่นคง ฉันไม่ใช่ขั้นแปดจอมปลอม ฉันของจริง…ไม่ช้าก็เร็วต้องจริงแน่!
“อย่างที่สาม เพราะอธิการอู๋เตรียมตัวจะทะลวงด่าน ไม่สามารถสิ้นเปลืองกำลังกับเรื่องยิบย่อยภายในมหาวิทยาลัยเยอะเกินไปได้ เรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ของมหาวิทยาลัยหลังจากนี้จะอยู่ภายใต้การตัดสินใจระหว่างคณะกรรมการมหาวิทยาลัยและสมาคมผู้ฝึกยุทธ์!”
“เหลวไหล!”
“ฟางผิง คณะกรรมการมหาวิทยาลัยและสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ดูแลร่วมกัน ฉันว่าเธอคิดจะแทนที่อธิการบดีมากกว่า!”
“…”
ด้านล่างมีคนอดเอ่ยไม่ได้
เรื่องนี้ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถยอมรับได้
ถือสิทธิ์ที่เขาเป็นประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์เนี่ยนะ?
ถือสิทธิ์ที่ตัวเองเป็นผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะ?
ถือสิทธิ์อะไร!
ฟางผิงไม่สนใจเสียงรบกวนพวกนั้น เอ่ยต่อว่า “ด้านคณะกรรมการมหาวิทยาลัยและสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ ช่วงบ่ายได้หารือและตัดสินใจไปหลายเรื่อง ผลลัพธ์ที่ออกมา ผมจะประกาศให้ทุกคนที่นี่ฟังสักหน่อย”
“ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป หรือก็คือเริ่มตั้งแต่ปี 2010 อาจารย์ทั้งหมดของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะได้สวัสดิการเพิ่มขึ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์!”
ด้านล่างเวทีมีอาจารย์หลายคนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย
“อาจารย์ขั้นหก นอกจากสวัสดิการพื้นฐาน ทุกปีสามารถอยู่ในห้องฝึกวิชาพลังฟ้าดิน มีเวลาฝึกวิชาหกสิบชั่วโมงต่อปี”
“ห้องฝึกวิชาพลังฟ้าดิน?”
หลายคนเผยสีหน้าสับสน อาจารย์ขั้นหกบางส่วนอดเอ่ยไม่ได้ “มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีห้องฝึกวิชาพลังฟ้าดินด้วย?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เมื่อก่อนไม่มี หลังจากนี้จะมีแล้ว ตอนนี้กำลังเตรียมก่อสร้าง”
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่ นี่เป็นการตัดสินใจของมหาวิทยาลัย ทำไม่ได้ หมายความว่ามหาวิทยาลัยละเลยต่อหน้าที่ คณะกรรมการมหาวิทยาลัยและสมาคมผู้ฝึกยุทธ์จะรับผิดชอบทั้งหมดเช่นกัน!”
ระหว่างที่ฟางผิงพูดก็เอ่ยต่อ “อีกอย่าง สายพานผลิตยาบำรุงและอาวุธภายในมหาวิทยาลัยจะขยับขยายอีกครั้ง ห้องแหล่งพลังงานและสระปราณหลังจากนี้นักศึกษาและอาจารย์ทุกคนจะมีเวลาฝึกวิชาได้ฟรี! นอกจากเวลาฝึกวิชาฟรี พวกอาจารย์สามารถเบิกเงินเดือนในอนาคตของตัวเองล่วงหน้าฝึกวิชาต่อไป มหาวิทยาลัยจะแบกรับการสิ้นเปลืองก่อน พวกนักศึกษาสามารถเขียนสัญญาร่วมมือทำงานในอนาคตหรือดำเนินการกู้ยืมกับมหาวิทยาลัยได้เช่นกัน แพลตฟอร์มกู้ยืมของมหาวิทยาลัยจะเพิ่มโควต้ากู้ยืมต่อ ให้โอกาสกับนักศึกษาทั้งหมด!”
ด้านล่างมีเสียงซุบซิบดังขึ้นอีกครั้ง
ฟังดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไม่มาก ในความเป็นจริงกลับเยอะอย่างยิ่ง!
สวัสดิการของพวกอาจารย์เพิ่มขึ้นถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ!
แต่ทุกปีถึงเงินเดือนอาจารย์จะไม่สูงเหมือนอุตสาหกรรมบางแห่ง แต่กลับไม่ได้ต่ำเลย เกือบหมื่นล้าน!
เงินรายปีเฉลี่ยต่อหัวหลายสิบล้าน!
อันที่จริงนี่ไม่นับว่าสูงเกินไปจริงๆ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางพวกนี้ไปอุตสาหกรรมอื่น บางแห่งอาจจะได้มากกว่านี้
แต่ฟางผิงพูดว่าจะเพิ่มสามสิบเปอร์เซ็นต์ อย่างน้อยต้องจ่ายออกไปมากถึงสามพันล้าน
นี่ยังไม่นับเรื่องก่อสร้างห้องฝึกวิชาพลังฟ้าดิน ทุกปีขั้นหกฝึกวิชาฟรีหกสิบชั่วโมง นี่มันความคิดอะไรกัน?
หกสิบชั่วโมง ไม่ใช่เวลาสั้นๆ พลังฟ้าดินที่จัดสรรติดต่อกันหกสิบชั่วโมง ปรมาจารย์ยังต้องสิ้นเปลืองและฟื้นฟูใหม่หลายครั้ง
แม้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะมีขั้นหกไม่เยอะ แต่ตอนนี้ก็เกือบสามสิบคนแล้ว
ห้องพลังงานและสระปราณก็เปิดสาธารณะต่อภายนอก มีเวลาฝึกวิชาฟรี ยังสามารถเบิกเวลาในอนาคตล่วงหน้าได้อีก ทั้งหมดนี้หมายถึงสองคำนี้เท่านั้น…ผลาญเงิน!
ผลาญเงินจำนวนมาก!
จากที่ฟางผิงพูด อย่างน้อยสุดต้องเติมเข้าไปนับหมื่นล้านถึงจะพอ ทั้งอาจไม่พอเสมอไป!
เขายังบอกว่าจะเพิ่มโควตากู้ยืมอีก เงินกู้ยืมพวกนี้อาจจะไม่สามารถเก็บคืนมาในช่วงเวลาสั้นๆ ได้
บางทีอาจจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายนับหมื่นล้าน!
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน?
แม้จะคว้าตำแหน่งมหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับหนึ่งมาได้ ได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นหนึ่งหมื่นล้าน แต่ตอนนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้กำลังขยายการรับนักศึกษาเช่นกัน นี่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
ด้านล่างเวทียังกำลังถกเถียงกันอยู่
ฟางผิงเอ่ยต่อว่า “เรื่องพวกนี้เป็นแค่นโยบายบางส่วนในตอนนี้ อนาคตมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยังจะดำเนินเรื่องนโยบายสวัสดิการต่างๆ ต่อไป อย่างเช่นจัดสรรน้ำแร่พลังงานให้อาจารย์ขั้นหกบางส่วนไว้ใช้ในการทะลวงด่าน ช่วยเหลือปรมาจารย์บางส่วนสร้างอาวุธวิเศษของตัวเอง ถึงกระทั่งพวกเราจะสร้างเมืองในถ้ำใต้ดินของพวกเราเอง! ทั้งอาจจะสามารถช่วงชิงแร่พลังงานความบริสุทธิ์สูงบางส่วนมากได้ ใช้ช่วยเหลืออาจารย์และนักศึกษาในการฝึกวิชา ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้! วันนี้บางทีทุกท่านอาจคิดว่าผมพูดจาเหลวไหล หลอกลวงคนอื่น แต่ตกลงใช่หรือไม่ใช่ ทำได้หรือเปล่า ไม่นานหลังจากนี้ก็จะรู้ความจริงเอง!”
ฟางผิงพูดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหยุดไปอีกครั้ง “ตอนนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีปรมาจารย์ทั้งหมดสี่คน ก่อนที่ผมจะเรียนจบต้องมีจำนวนปรมาจารย์แตะถึงสองหลัก! ส่วนพวกอาจารย์ ผมจะพยายามให้ความช่วยเหลือกับอาจารย์ขั้นสามมากกว่าหน่อย ให้ทะลวงด่านถึงระดับกลาง! ทางนักศึกษาผมเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์มีระดับกลางแค่ไม่กี่คนอย่างก่อนหน้านี้ได้ ยิ่งไม่อาจเกิดสถานการณ์ที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งกว่าครึ่งมหาวิทยาลัยได้! มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต้องดีขึ้นเรื่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ต้องมีวันหนึ่งที่หนึ่งมหาวิทยาลัยสยบหนึ่งถ้ำใต้ดินกลายเป็นเรื่องจริง!”
“ส่วนที่บอกว่าผมอยากจะชิงอำนาจ ผมคงไม่อาจแก้ต่างอะไรได้ ทุกท่าน อธิการเป็นยอดฝีมือขั้นแปด ผมไม่รักตัวกลัวตายหรือไงถึงจะชิงอำนาจจากอธิการ? ลองถามตัวเองดู ผมเป็นแค่นักศึกษาขั้นห้าคนหนึ่ง ถ้าสิ่งที่ผมพูด เรื่องที่ทำไม่มีประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ยังต้องให้ถึงมือผมมาพูดเรื่องพวกนี้หรือไง คงถูกพวกอาจารย์ซ้อมตายไปนานแล้ว ปรมาจารย์หลายคนของมหาวิทยาลัย ขั้นหกอีกนับสิบคน ในยุคสมัยที่นับถือยอดฝีมือ ยุ่งกับเรื่องพวกนี้จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นหรือไง? ถ้าใครคิดว่าตัวเองสามารถทำเรื่องที่ผมพูดมาเมื่อกี้ได้ ผมจะไม่พูดอะไรสักคำ สมาคมผู้ฝึกยุทธ์จะสนับสนุนอาจารย์คนนั้นรับใช้กิจธุระทั่วไปของมหาวิทยาลัย! ผมเชื่อว่าพวกปรมาจารย์คงไม่ปฏิเสธเช่นกัน ผู้ฝึกยุทธ์ฝึกวิชาเพื่ออำนาจหรือไง?”
“หากเพื่ออำนาจ เวลานั้นบางทีพวกคุณคงไม่รั้งตัวอยู่ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้แล้ว! อาจารย์หลายคนยอมรับเงินเดือนอันน้อยนิด บุกน้ำลุยไฟเพื่อมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มันเพื่ออะไรกัน? เพื่อความฝัน! เพื่อขับไล่ศัตรูรุกราน กำราบถ้ำใต้ดิน! เส้นทางผู้ฝึกยุทธ์คืออะไร? มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้คืออะไร? มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่สถานที่ที่มีอำนาจ นี่เป็นสถานที่สั่งสอนคน เป็นสถานที่บ่มเพาะผู้ฝึกยุทธ์ บ่มเพาะยอดฝีมือออกมา!”
น้ำเสียงของฟางผิงดังขึ้นเรื่อยๆ เอ่ยเสียงดังว่า “ยิ่งมีความสามารถเท่าไหร่ ภาระก็จะใหญ่มากเท่านั้น! ผู้ฝึกยุทธ์แข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่เพื่อวางอำนาจบาตรใหญ่หรือควบคุมในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เล็กๆ เป้าหมายของพวกเราไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เป็นถ้ำใต้ดิน สิ่งที่ผมทำทั้งหมดล้วนเพื่อให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เกิดยอดฝีมือมากขึ้นกว่านี้ อัจฉริยะมากขึ้นกว่านี้! ผมลงถ้ำใต้ดินไปหนึ่งครั้ง บางทีได้รายรับเป็นพันล้านหมื่นล้าน ทุกคนคิดจริงๆ เหรอว่าผมจะสิ้นเปลืองเวลาตัวเอง ทำเรื่องที่เสียแรงไปแต่กลับไม่คุ้มค่าเพื่อดูแลเรื่องวุ่นพวกนี้ ดูแลผู้คนให้มากขึ้นอย่างนั้นเหรอ?”
“อาจารย์ทุกคน รอวันไหนที่พวกคุณรู้สึกว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ย่ำแย่ลง งั้นพวกคุณก็สามารถชี้นิ้วด่าผม ตำหนิผมเป็นผู้กระทำความผิดให้เซี่ยงไฮ้ ผมไม่อาจพูดอะไรได้อยู่แล้ว! แต่วันนี้พวกนักศึกษายอมรับว่าผมไม่ได้พามหาวิทยาลัยมาถึงขั้นนั้น สิ่งที่ผมทำทั้งหมดไปในทิศทางที่ดีขึ้น แน่นอนว่าทั้งหมดนี้จะเป็นไปไม่ได้หากไร้ความทุ่มเทของพวกอาจารย์ ไร้แรงสนับสนุนจากพวกอธิการ ไร้แรงสนับสนุนจากปรมาจารย์ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็คงไม่เดินมาถึงจุดนี้ เรื่องนี้ใครก็ไม่อาจปฏิเสธได้”
ฟางผิงพูดมาถึงตรงนี้ก็ไม่พูดต่ออีก ค้อมกายว่า “อาจารย์ทุกคน ถ้ายังมีข้อสงสัยอะไร ไม่พอใจอะไร ตอนนี้สามารถพูดออกมาได้ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต้องการความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นี่ไม่ใช่อำนาจส่วนตัวของใคร ทั้งไม่ใช่สวนดอกไม้ส่วนตัวของใคร นี่เป็นมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ของพวกเราทุกคน! เพื่อเป้าหมายเดียวกัน เพื่อฝันเดียวกัน พวกเราต้องรวมตัวกัน มุ่งใจไปทิศทางเดียวกัน นั่นถึงจะทำให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ดียิ่งขึ้น มีอะไรจะพูด ทุกคนอย่าได้เก็บไว้ในใจ ไม่งั้นอีกไม่นานมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คงจะแตกความสามัคคีกัน”
————————–