ตอนที่ 323 พรสวรรค์แย่เกินไป (2)
ฟางผิงหัวเราะ “งั้นเธอก็สงบเสงี่ยมหน่อย”
ระหว่างที่พูด ฟางผิงก็พาเธอมาถึงห้องออกกำลังกาย เครื่องวัดพลังจิตใจวางอยู่ตรงนั้น
เอาหมวกกันน็อกมาแล้ว ฟางผิงมองฟางหยวนไปแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างครุ่นคิดว่า “สวมไว้ ระหว่างนั้นในสมองให้เธอคิดปล่อยเคล็ดวิชาต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดออกไป”
“นี่จะทำอะไรกัน?”
“เธอทดสอบดูก่อน เสร็จแล้วค่อยว่ากัน”
ฟางหยวนทำหน้าแปลกใจ ยกหมวกกันน็อกขึ้นสวม ตัวเลขบนจอหมวกเริ่มขยับทันที
เห็นเธอวอกแวกมองซ้ายแลขวา ฟางผิงก็ตำหนิว่า “อย่าเพิ่งเล่น ทำตามที่ฉันบอก”
“ก็ได้ เคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของฉัน…”
ฟางหยวนหวนคิดในสมอง พื้นฐานเคล็ดวิชาเท้าเหมือนจะแข็งแกร่งที่สุดแล้ว
เธอกำลังครุ่นคิด ฟางผิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย พรสวรรค์ของน้องสาวไม่ค่อยดีจริงๆ
ตัวเลขย้อนไปย้อนมาอยู่ประมาณหนึ่งร้อยสี่สิบตลอด
คนทั่วไปที่หลอมกระดูกหนึ่งครั้ง พลังจิตใจไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่สถานการณ์ทั่วไปผู้ที่ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ พลังจิตใจและปราณจะไม่แตกต่างกันมากนัก
ตอนนี้ปราณของฟางหยวนเกินหนึ่งร้อยห้าสิบแคลแล้ว พลังจิตใจกลับน้อยไปอยู่บ้าง
นี่หมายความว่าขาดความมุ่งมั่นไปเล็กน้อย ช่วงที่ยังปลดปล่อยพลังจิตใจออกมาไม่ได้ แข็งแกร่งหรือไม่ ยังคงเกี่ยวข้องกับความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก
แต่ความมุ่งมั่นสามารถเติมเต็มเข้าไปได้เช่นกัน
ทำได้แค่พูดว่าปกติธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ
ฟางผิงถอนหายใจเบาๆ ก็ไม่แปลก จะมีอัจฉริยะมากมายขนาดนั้นได้ยังไงกัน
เพิ่งคิดจะถอดหมวกกันน็อกออก ฟางผิงเห็นดวงตาน้องสาวกลอกกลิ้งไปมา เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีสมาธิเท่าไหร่ ชั่วขณะนั้นจึงขมวดคิ้วว่า “ไม่ต้องนึกถึงเคล็ดวิชาต่อสู้แล้ว คิดว่าคลังเก็บเงินของเธอถูกคนขโมยก็พอ…”
“หา?”
ตัวเลขบนจอแสดงผลมีความผันผวนทันที!
ฟางผิงแทบจะโมโหออกมา เอ่ยต่อว่า “คลังเก็บเงินของเธอถูกคนขโมย เธอจับโจรได้แล้ว ใช้เคล็ดวิชาสู้กับเขา!”
ฟางหยวนเผยท่าทีโมโหออกมาทันที ในหัวจินตนาการไปว่าหากมีโจรกล้าขโมยเงินของเธอ เธอควรจะต่อยตีเขายังไง!
ไม่นานตัวเลขบนจอก็มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
“หนึ่งร้อยหกสิบเฮิรตซ์…”
ฟางผิงถึงกับอึ้งไป แตกต่างขนาดนี้เชียว เด็กแสบคิดอะไรอยู่กัน!
หนึ่งร้อยหกสิบเฮิรตซ์ ไม่นับว่าแข็งแกร่งเกินไป แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน อย่างน้อยก็แตะถึงขั้นพอๆ กับปราณ นี่หมายความว่าความมุ่งมั่นนั้นมีไม่น้อย
แต่พลังจิตใจผันผวนมากขนาดนี้ ยังคงไม่ได้พบเห็นกันบ่อยนัก!
แน่นอนว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ฟางหยวนยังไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ด้วยเช่นกัน
ผู้ฝึกยุทธ์สามารถรวบรวมสมาธิ ประสานจิตใจเป็นหนึ่งเดียว คนทั่วไปยังไม่เคยผ่านประสบการณ์อะไรมามากมาย อายุยังน้อย ทำไม่ถึงขั้นนั้นก็เป็นเรื่องปกติ
แต่คลาดเคลื่อนกว่ายี่สิบเฮิรตซ์ยังคงแตกต่างไปอยู่บ้าง
ฟางผิงถลึงตามองน้องสาว ถอดหมวกกันน็อกออก ตำหนิว่า “พื้นฐานแย่เกินไป สมาธิไม่นิ่ง เคล็ดวิชาต่อสู้ธรรมดา ความมุ่งมั่นไม่เพียงพอ ฉันอายที่จะพูดว่าเธอเป็นน้องสาวจริงๆ เธอดูสิ แค่เท่าไหร่เอง? หนึ่งร้อยหกสิบ ทั้งนี้ยังเพิ่มขึ้นมาทีหลัง ตอนแรกแค่หนึ่งร้อยสี่สิบเท่านั้น! เธอรู้หรือเปล่าว่าคนอื่นได้เท่าไหร่? ต่ำสุดสามสี่ร้อย สูงสุดหกเจ็ดร้อย…”
“ฟางผิง!”
ฟางหยวนไม่พอใจอยู่บ้าง เอ่ยเสียงเบาว่า “ตัวเลขนี้คืออะไร?”
“พรสวรรค์สูงหรือต่ำ”
ฟางผิงส่ายหัวว่า “ผู้ฝึกยุทธ์ต่างให้ความสนใจกับพรสวรรค์ทั้งนั้น สุดสูงเจ็ดร้อย ต่ำสุดหนึ่งร้อย พี่เธอหกร้อยเก้าสิบเก้า แม้จะไม่ได้มีพรสวรรค์เต็มเปี่ยม แต่คนที่มีพรสวรรค์เต็มเปี่ยมก็มีแต่ในตำนานเท่านั้น ดังนั้นพี่เธอถือเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพรสวรรค์แข็งแกร่งที่สุดของประเทศจีนในตอนนี้แล้ว เธอกลับแล้วใหญ่ แค่หนึ่งร้อยหกสิบ เฮ้อ”
“นายได้หกร้อยเก้าสิบเก้า?”
ฟางหยวนผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด จริงหรือเปล่า? ฉันอ่อนแอขนาดนั้นเลยเหรอ?
ฟางผิงไม่มากความ สวมหมวกกันน็อกทันที ไม่นานตัวเลขก็เริ่มเคลื่อนไหว ก่อนจะหยุดลงที่หกร้อยเก้าสิบเก้า
ฟางหยวนตะลึงไป เป็นแบบนี้จริงๆ งั้นเหรอ?
ฟางผิงมีพรสวรรค์หกร้อยเก้าสิบเก้า ฉันแค่หนึ่งร้อยหกสิบ?
“พี่…เรื่องนี้…จะเปลี่ยนแปลงได้หรือเปล่า?”
“พรสวรรค์นั้นติดตัวมาตั้งแต่เกิด แน่นอนว่าสามารถเพิ่มขึ้นได้ อย่างเช่นตั้งใจทุ่มเทในเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ ความมุ่งมั่นอันแรงกล้า รวมถึงหลอมกระดูกหลายครั้ง สามารถเปลี่ยนแปลงพรสวรรค์ได้ทั้งนั้น แต่เธอ…พื้นฐานต่ำเกินไป แค่หนึ่งร้อยหกสิบ แตกต่างกับคนอื่นมากไป”
ฟางผิงถอนหายใจพลางส่ายหน้า ครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยว่า “แต่ไม่เป็นไร เธอเป็นน้องสาวฉัน พรสวรรค์แย่หน่อยไม่เป็นไรหรอก หลังจากนี้พี่จะดูแลเธอเอง”
ฟางหยวนขบริมฝีปากไม่ได้พูดอะไร
เธอคิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ แต่ตอนนี้พี่ชายบอกว่าพรสวรรค์ของเธออ่อนด้อย นี่ทำให้เธอปวดใจ
“เอาเถอะ ไม่ต้องเสียใจไป รอกลับบ้านแล้ว ตั้งใจฝึกวิชาดีๆ หากหลอมกระดูกสองครั้ง พรสวรรค์ของเธอจะเพิ่มขึ้นได้ หลอมกระดูกสามครั้ง นั่นก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก พี่เธอเป็นอัจฉริยะในหมู่คนนับร้อยล้าน ดังนั้นตัวเลขสูงหน่อยเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว โดยทั่วไปคนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะอยู่ประมาณสามร้อย ถ้าเธอหลอมกระดูกสามครั้ง ไม่แน่ว่าอาจจะถึงสามร้อย ถึงเวลานั้นจะไม่แย่ที่สุดอีกแล้ว”
“ลงไปกันเถอะ หลังจากนี้อย่าอวดเก่งอีก เธอเคยเห็นฉันอวดเก่งหรือเปล่าล่ะ? ฉันได้ยินพ่อบอกว่าตอนนี้เธอลำพองตัวอย่างหนัก พี่คิดว่าถ้าเธอมีพรสวรรค์จริงๆ คงไม่เป็นอะไรหรอก มีพรสวรรค์จะอวดเก่งหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่เธอไม่ได้มีพรสวรรค์ ก็ต้องพยายามเคี่ยวเข็ญตัวเองฝึกวิชา ไล่ตามอัจฉริยะพวกนั้นให้ทัน”
ฟางหยวนพยักหน้าอย่างเงียบๆ มาเซี่ยงไฮ้วันแรกก็ถูกทำร้ายจิตใจเข้าอย่างจัง
หากเธอเป็นอัจฉริยะเหมือนพี่ชาย อาจารย์ของเขาคงจะทำตัวสนิมสนมกว่านี้ใช่หรือเปล่า?
—
ตอนที่เดินลงมา ฟางหยวนก้มหน้าคอตกอยู่ตลอด
หลู่เฟิ่งโหรวที่อยู่ด้านล่างชำเลืองมองฟางผิงแวบหนึ่ง บทสนทนาของสองพี่น้องที่อยู่ชั้นบน เธอได้ยินอย่างชัดเจน
ฟางผิงเจ้าเด็กนี้ฝีมือหลอกคนไม่ใช่เล่นๆ
ประเด็นอยู่ที่ว่าหลอกน้องสาวตัวเองถึงกระทั่งตั้งคำถามกับการมีชีวิตของตัวเอง เจ้าเด็กนั่นทำออกมาได้จริงๆ
ฟางผิงเห็นหลู่เฟิ่งโหรวมองตัวเองก็ขำแห้ง ผมทำเพราะหวังดีต่อน้องสาวเหมือนกัน
ฟางหยวนเด็กแสบนี่อวดเก่งเกินไปไม่ใช่เรื่องดี
ส่วนหลังจากนี้ฟางหยวนรู้ความจริงแล้วจะทุบเขาตายหรือเปล่า นั่นต้องรอดูว่าฝีมือของเธอจะล้ำหน้ากว่าเขาหรือเปล่า
สองพี่น้องลงมา ฟางหมิงหรงและภรรยาต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก พูดคุยกับหลู่เฟิ่งโหรวมีความกดดันไม่น้อยเลย
ไม่เอ่ยเรื่องชวนไปกินข้าวแล้ว ฟางผิงไม่คิดจะรบกวนหลู่เฟิ่งโหรวต่อ ไม่นานก็บอกลา พาครอบครัวไปทางฝ่ายบริการ
ทางฝ่ายบริการ ตาเฒ่าหลี่กลับพูดเก่งเป็นมิตรไม่น้อย
พูดคุยไม่กี่ประโยค เห็นฟางหยวนยังอยู่ในช่วงบ่มเพาะปราณจึงส่งยาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาที่คล้ายลูกอมให้ฟางหยวนหลายเม็ด
แน่นอนว่าไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องรับลูกศิษย์เช่นกัน
ฟางหยวนยิ่งเชื่อขึ้นไปอีกว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์ กระทั่งในทีวียังบอกว่าหากมีพรสวรรค์ พวกอาจารย์มีแต่จะพากันแย่งตัว
—
ออกมาจากฝ่ายบริการ ฟางหยวนห่อเหี่ยวลงอย่างมาก กระทั่งยาบำรุงที่ตาเฒ่าหลี่มอบให้ยังทำให้กระตือรือร้นขึ้นมาไม่ได้
ฟางผิงมองอยู่พักใหญ่ ลอบคาดเดาในใจ ตัวเองทำร้ายจิตใจน้องสาวเกินไปหรือเปล่า?
ผลปรากฏว่าไม่นานเขาก็รู้ว่าตัวเองคิดมากเกินไป
เหมือนว่าเมื่อกี้เด็กแสบจะไม่ทันตระหนักเรื่องยาบำรุง คิดว่าตาเฒ่าหลี่เอาลูกอมให้ตัวเองจริงๆ แต่ยังไงเธอก็เคยกินยาบำรุงมาก่อน รอจนควักออกมากินหนึ่งเม็ด สาวน้อยจึงพบความผิดปกติทันที
จ้องยาบำรุงอยู่พักใหญ่ ก่อนใบหน้าจะปรากฏรอยยิ้มอย่างสดใส
ราวกับลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้ท่าทีเศร้าสร้อยยังปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ
ฟางผิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม่น้ำขุนเขาเปลี่ยนแปลงง่าย นิสัยเดิมนั้นเปลี่ยนแปลงยาก ช่างเถอะ เด็กแสบชอบหาความสุขให้ตัวเอง ฝึกวิชาได้ถึงขั้นไหนก็ขั้นนั้นละกัน
———————-
