รวยชั่วข้ามคืน! - ตอนที่ 835
นางฟ้าจื่อเถากำลังมองฉินหลั่งด้วยสายตาที่แปลกใจ
บอลญาณเทพ เป็นวิชาที่ชาติที่แล้วฉินหลั่งได้เรียนเป็นผู้บำเพ็ญเซียนรวมจิตวิญญาณเทพเข้าด้วยกัน
วิชานี้ไม่ได้ถือเป็นวิชาระดับสูงอะไร เป็นเพียงผู้บำเพ็ญเซียนของจินตาน ก็สามารถฝึกฝนได้ เพียงแค่มันต้องเก็บหลายๆแขนง มีเพียงลูกศิษย์ระดับสูงเท่านั้นจึงจะมีได้
“ระดับสูงก็ไม่กลัวหรอก อนาคตของเรา จะสร้างออกมาหลายแขนงเลยล่ะ!”
ฉินหลั่งหัวเราะแล้วมองไปที่นางฟ้าจื่อเถา
นางฟ้าจื่อเถาในขณะนี้ยังคงอยู่ในอาการงง แต่ฉินหลั่งกลับรู้ ว่าชาติที่แล้ว ว่านางฟ้าจื่อเถาได้พาเขาไปขอร้องอาจารย์มากมาย แต่ล่ะแขนงล้วนหยิ่งยโสอย่างเทียบไม่ได้ ท่าทางดัดจริต ทำให้สองคนลำบากใจไปต่างๆนานา
ตอนนั้นฉินหลั่งเป็นเพียงคนที่ขั้นปฐมภูมิ และนางฟ้าจื่อเถาก็เป็นแค่แดนนักพรตสมดุลย์
นางฟ้าจื่อเถาท่องไปยังดาราจักรต่างๆเพียงลำพัง ไม่เพียงฝึกฝนถึงขั้นกลับมาเป็นเซียน แต่ยังสร้างสำนักสูงสุดอีกกว่าสิบแห่งในดาราจักร
แน่นอนว่าชาตินี้ ไม่เพียงแค่ฉินหลั่งไม่มีทางขัดขวางสิ่งที่นางฟ้าจื่อเถาอยากจะทำ แต่ยังจะสร้างสำนักบนโลกนี้อีกด้วย เขาจะทำให้สำนักนางฟ้าจื่อเถาที่สร้างขึ้นเมื่อชาติที่แล้วลงหลักปักฐานอยู่ที่โลกนี้ จากนั้นก็จะให้มันมีอยู่ทุกๆที่ในดาราจักร
เมื่อเห็นนางฟ้าจื่อเถารับบอลญาณเทพไปอย่างรู้สึกประหลาดใจ ฉินหลั่งก็ยิ้มพลางยกมือขึ้น ก่อนจะลูบผมของนางฟ้าจื่อเถาอย่างเบาๆ
นางฟ้าจื่อเถาสังเกตเห็นการกระทำของฉินหลั่ง ก็หน้าแดง อายจนก้มหน้าลงไป
“ฮ่าๆ ไป พวกเราเข้าไปกันเถอะ ลากไอ้คนที่มันทำร้ายคุณออกมากัน!”
ฉินหลั่งเดินเข้าไปในโบสถ์ นางฟ้าจื่อเถารีบเดินตามไป
ในฐานะที่เป็นผู้บำเพ็ญเซียน การล้างแค้นเป็นเรื่องธรรมดา นางฟ้าจื่อเถาก็ฝึกฝนเป็นยอดฝีมือแดนนักพรตจินตานมาสิบกว่าปี เจอเรื่องแบบนี้มาเยอะ ฝึกฝนเป็นนักพรตอย่างทรมาน ผู้บำเพ็ญเซียนล้วนกระทำผิดอย่างกำเริบเสิบสาน ทำตามอำเภอใจ นางฟ้าจื่อเถาคุ้นเคยกับชีวิตแบบนี้
ทั้งสองเดินเข้าไปในโบสถ์ ในสายตา นอกจากเก้าอี้ที่ทำจากเงินสิบแถวแล้วนั้น ก็เป็นแท่นยืนของบาทหลวง
ด้านหลังของแท่นยืนนั้น เป็นไม้กางเขนที่สูงสิบกว่าเมตร บนไม้กางเขน มีรูปผู้ชำระบาปสลักไว้
ฉินหลั่งไม่มองแม้กระทั่งไม้กางเขน เขามองผ่านมันไปเฉยๆ มองไปที่แสงบริสุทธิ์หลังรูปแกะสลัก
แสงสีขาวอันบริสุทธิ์ราวกับกระจกใสก็มิปราณ รอบๆกระจก มีกรอบสีทองอยู่ กรอบทองนั้นแลดูศักดิ์สิทธิ์ แถมยังมีคราบเลือดอยู่ด้วย
“นี่คือตู้ศักดิ์สิทธิ์ที่ว่างั้นเหรอ? ดูไม่ออกเลย ว่าแกก็มั่งคั่งเหมือนกันนะ มีเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์มากมาย แถมยังมีโลงศพเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย ฉันแปลกใจมากเลยล่ะ ด้านในนี้เก็บอะไรไว้งั้นเหรอ นอกจากพระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ ยังมีอีกร่างอยู่งั้นเหรอ?”
ฉินหลั่งดูแคลน เหมือนคุยคนเดียว แต่ก็ดูเหมือนกำลังคุยกับใครอยู่ด้วย
“ฉินหนานจง แกดูถูกฉันได้ แต่จะมาดูถูกพ่อฉันไม่ได้!”
เสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้นมาจากแสงสีขาวนั้น เสียงอ่อนเยาว์ เกรี้ยวกราด แล้วยังมีไม่เต็มใจอีกทั้งเบื่อหน่าย
“งั้นเหรอ? ดูถูกพ่อแกงั้นเหรอ? เหอะ ดูๆไปแล้วศพที่อยู่ในนี้ น่าจะเป็นพระบิดาอะไรนั่น ที่พวกแกสามคนในหนึ่งร่าง แถมเรื่องที่เมื่อคนหนึ่งไม่ตาย คนอื่นๆก็จะไม่มีทางตายไปตลอดกาล มันไม่ได้เป็นแค่เรื่องโกหกหลอกลวงสินะ ใช่มั้ย?”
ฉินหลั่งดูแคลน
“เลว จิตวิญญาณเทพไม่มีวันตาย พระเจ้าก็จะไม่ตายเหมือนกัน ถ้าแกยังลบหลู่พระเจ้า ฉันจะลงโทษแก!”
เสียงพระบุตรโมโหตะโกนออกมา
“หรอ? ถ้าแกมีปัญญาจริงๆ ก็คงไม่ถูกฉันตีจนหนีหัวซุกหัวซุนกลับมาที่นี่เหมือนหมาหรอก ถ้ามีปัญญา ตอนอยู่ที่มหาสมุทรแปซิฟิกแกคงฆ่าฉันไปแล้วใช่ไหมล่ะ? ยังจะให้ฉันตามมา รังแกแกถึงที่ได้อย่างไร?”
ฉินหลั่งตั้งใจท้าทายพระบุตร “ความลับจริงๆของพวกแก ไม่ใช่การที่มีสามคนร่างเดียวแล้วสามารถฟื้นคืนชีพอะไรนั่น แต่เป็นตู้ศักดิ์สิทธิ์นี่ต่างหาก! ถ้าไม่มีตู้ศักดิ์สิทธิ์นี้ ฉันจะดูว่าพวกแกจะยังมีชีวิตอมตะอีกมั้ย!”
“ฉินหนานจง ถ้าตอนนี้แกจากไป เราจะต่างคนต่างอยู่ ฉันจะให้ยาสว่างของเผ่าแสงสว่างของฉันหนึ่งเม็ด ถ้ายังบีบกันไม่หยุด อย่าว่าฉันโหดร้ายก็แล้วกัน!”
ในตู้ศักดิ์สิทธิ์นั้นเสียงของพระบุตรดูร้อนรน แต่กลับแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ
“ยาสว่างหนึ่งเม็ด ก็แค่สามารถเลี้ยงสัตว์ปีกได้เท่านั้น ถ้าฉันต้องการ ฉันไปจับเอาก็ได้แล้ว!”
ฉินหลั่งตาเป็นประกาย แท่งไม้หุนเทียนปรากฏขึ้นในมือ กระทืบเท้า พื้นที่หนาแตกกระจายเป็นเศษๆ ร่างกายของฉินหลั่งลอยขึ้น แท่งไม้ในมือโจมตีเข้าไป ทิ่มตู้ศักดิ์สิทธิ์เข้าอย่างจัง
“แสงสว่างแห่งการลงโทษของพระเจ้า！”
แท่งไม้ของฉินหลังออกมา ทันใดนั้นในตู้ศักดิ์สิทธิ์ก็มีเสียงเกรี้ยวกราดตะคอกออกมา ก่อนจะปล่อยแสงสีขาวออกมา พลันฝาปิดของตู้โปร่งใสนั่นขึ้นทันใด จากนั้นบนตู้ ก็มีปีกหนาคู่หนึ่งบินขึ้นข้างบน!
ด้านล่างปีกนั้น เป็นฝาของตู้ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งฝานั้นลอยวนอยู่ในอากาศ จนชนไปที่แท่งไม้หุนเทียนของฉินหลั่งอย่างรุนแรง!
‘ตึง……’
เสียงการกระทบของทองดังขึ้น สะเทือนจนฉินหลั่งถอยหลังไปสองก้าว ฝาของตู้ศักดิ์สิทธิ์ถูกแท่งไม้หุนเทียนชนลอย ไปที่กำแพงแตกกระจาย ลอยออกไป
ตู้ศักดิ์สิทธิ์สั่นสะเทือน เกิดเสียงดัง‘หวือๆ’
ฉินหลั่งลงมา พลางมองไปยังตู้ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกชนอย่างเคร่งเครียด
เขาเห็นเพียงในตู้ศักดิ์สิทธิ์นั้น มีชายที่ผิวพรรณที่ดูอ่อนเยาว์ ขาวๆกำลังนั่งขึ้นมาอย่างช้าๆ
สายตาของชายผู้นี้เหมือนเพลิง ผมสีเทอง หน้าตาเคร่งขรึม ปิดตาสนิท ด้านหลังของเขา มีปีกนกสีขาวปรากฏอยู่!
ทูตสวรรค์สี่ปีก！ในตู้ศักดิ์สิทธิ์ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นทูตสวรรค์สี่ปีกกำลังนอนอยู่！
ทูตสวรรค์สี่ปีกค่อยลุกขึ้นมาในแสงสีขาว ไม่ใส่เสื้อผ้า แต่กลับบริสุทธิ์อย่างหาที่เปรียบมิได้!
‘ฮู……’
สี่ปีกของทูตสวรรค์สี่ปีกขยับปีก หมุนๆ รุ่งโรจน์เรืองรอง!
แสงที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ราวกับมีพลังแห่งการทำลายล้างมหาศาล ชนเข้าไปที่หลังคาของโบสถ์โดยตรง ต้านทานแสงที่อยู่ด้านในโบสถ์ทั้งหมด
“ปาฏิหาริย์บังเกิดแล้ว!”
“พระบิดาได้ถือกำเนิดแล้ว!”
ด้านนอกโบสถ์ ศาสนิกชนที่เคร่งศาสนาจำนวนมากเห็นแสงเต็มฟ้า เป็นรูปไม้กางเขน ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อน้อมคำนับไม่หยุด
“เทพเจ้ามาจุติแล้ว สุดท้ายเทพเจ้าก็ไม่ทอดทิ้งพวกเรา!”
“ดูสิว่าไอชาวตะวันออกนั้นจะทำไง!”
“ฆ่ามัน จะต้องเอามันชาวตะวันออกไปไว้บนคานนั่นให้ได้!”
นักบวชและศาสนิกชนแต่ละคน ต่างพากันตะโกนใส่ฉินหลั่งที่อยู่ในโบสถ์อย่างเกรี้ยวกราด
“พลังศักดิ์สิทธิ์อันแข็งแกร่ง!”
“หรือพระบิดาจะมาจุติแล้ว?”
ขณะนั้นลี่สวนคงและเจี่ยนชิวหลิงก็ไปอยู่ด้านนอกโบสถ์
ทั้งสองมองแสงสีขาวอย่างตกใจ การมาของวิญญาณชนิดนี้ทำให้ทั้งสองสยองขวัญ
“เกรงว่าครั้งนี้นักพรตฉินจะเจอเข้ากับศัตรูตลอดกาลเข้าให้แล้วล่ะ”
หลี่สวนคงพูดเสียงต่ำ ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปในโบสถ์พร้อมกับเจี่ยนชิวหลิง
“ชาวตะวันออกมาอีกสองคนแล้ว!”
“ผู้บุกรุก พวกมันคือผู้บุกรก!”
“ชาวตะวันออก หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!”
ด้านนอกของโบสถ์ มีบาทหลวงทั้งสองที่รอดมาได้อย่างทรมานพยายามขวางหลี่สวนคงและเจี่ยนชิวหลิงไว้
“ไสหัวไปซะ!
YOU MAY ALSO LIKE
