ยัยตัวแสบแอบปิ๊งรุ่นพี่เข้าเเล้ว น่ารักเกินต้าน! - ตอนที่ 6.1 รุ่นน้องสาวเเกลแสนซื่อ
- Home
- All Mangas
- ยัยตัวแสบแอบปิ๊งรุ่นพี่เข้าเเล้ว น่ารักเกินต้าน!
- ตอนที่ 6.1 รุ่นน้องสาวเเกลแสนซื่อ
ในเช้าวันจันทร์ โรงเรียนก็มีการเรียนสอนตามปกติ รถไฟที่มักจะแน่นขนัดในช่วงเช้า กลับโล่งอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อมาถึงเร็วเกินไป ผมมาถึงสถานีที่ใกล้โรงเรียนที่สุดตอนเจ็ดโมงเช้า จึงสามารถนั่งไปโรงเรียนได้อย่างสบายๆ ถ้าเป็นช่วงเวลาใกล้เข้าเรียน แค่การจะได้จับราวก็ยังลำบาก ผมไม่ใช่คนประเภทที่ไม่ชอบตอนเช้า ดังนั้น ผมจึงพยายามมาให้เร็วที่สุด
ผมเดินผ่านพนักงานบริษัทที่ดูเหมือนผีดิบ ลงจากรถไฟ
“รุ่นพี่!” เสียงใสๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง
มีคนมาแตะหลังผมเบาๆ ขณะที่ผมกำลังเดินอยู่บนชานชาลา ผมหันไปตามเสียงที่คุ้นเคย ก็พบกับ โอโอบะ โมนะกะ
“โย่ว อรุณสวัสดิ์!” เธอทักทาย พร้อมกับชูมือขึ้นรอให้เเปะมือ
“…อรุณสวัสดิ์ เธอสดใส แต่เช้าเลยนะ” ผมตอบ พร้อมกับยอมเเปะมือกับเธอ
“ก็ตอนนี้ตื่นเต้นนี่นา”
“ตอนนี้?”
“ก็ได้เจอรุ่นพี่ไง!” เธอพูด พร้อมกับยิ้มแย้ม ดวงตาเป็นประกาย
…น่ารักจัง ผมคิด ก่อนจะรีบสลัดความคิดนั้นทิ้งไป
“…แต่ทำไมเธอถึงมาเช้าขนาดนี้? อีกอย่าง ชานชาลานี้ไม่ใช่ของเธอไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันรอ เพื่อที่จะได้ไปโรงเรียนพร้อมรุ่นพี่ไง!”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็อยากไปโรงเรียนด้วยกัน?”
…จะตีความยังไงดี? วันหยุดก็เจอกัน ตอนเช้าก็เดินทางมาด้วยกัน เหมือนเป็นแฟนกันเลย ผมรีบเดินผ่านช่องตรวจตั๋ว
โมนะกะวิ่งตามมา
“เธอเหมือนหมาเลย” ผมแซว
“ฉันเป็นสาวน้อย JK สายพันธุ์สุนัข โฮ่งๆ”
“งั้นไปวิ่งเล่นตรงนั้นเลย”
โมนะกะทำมือเหมือนหูหมา วิ่งไป ก่อนจะรีบวิ่งกลับมา
“ฉันวิ่งแล้ว ต่อไปต้องทำอะไร?”
“เธอมีพลังงานเยอะเกินไปแล้ว สำหรับตอนเช้า…”
“เปล่าซะหน่อย จริงๆ แล้วง่วงมากเลย” โมนะกะหาว
เธอดูง่วงจริงๆ มีน้ำตาคลอเบ้า
“ฉันตื่นเช้า เพื่อที่จะได้เจอรุ่นพี่! ตื่นตั้งแต่ตีห้า”
“เช้าเกินไปเเล้ว”
“ผู้หญิงมีเรื่องต้องคิดเยอะแยะ อย่างเช่น จะใส่อะไรไปดี”
“เเต่เธอก็ใส่ได้เเค่ชุดนักเรียน…”
“ฉันหมายถึงข้างในต่างหาก” โมนะกะใช้นิ้วแหย่ปกเสื้อ
เพราะเธอปลดกระดุม ผมจึงเห็นไหปลาร้าของเธอ ผมเผลอมอง ก่อนจะรีบหลบสายตา โมนะกะล้วงมือเข้าไปในเสื้อ
“ดูสิ เสื้อเชิ้ต” เธอดึงเสื้อเชิ้ตสีขาวให้ดู
“อืมๆ เสื้อเชิ้ตมันสำคัญด้วยเหรอ”
“หา? คาดหวังอะไรอยู่รึเปล่า?”
“คาดหวัง? เรื่องอะไร?”
“อ๊ะ! แกล้งโง่เหรอ~ รุ่นพี่ลามก สรุปคือ ‘เฮนไป’”
“ชื่อย่ออะไรล่ะนั่น”
ผมเถียงไม่ออก เพราะจริงๆ แล้ว ผมก็คิดจริงๆ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ผมเป็นผู้ชาย การที่อยู่ต่อหน้าผู้หญิงน่ารักๆ อย่างโมนะกะแล้วจะไม่มีความรู้สึกอะไรเลย มันก็แปลก ถ้าพูดแบบไม่อคติ โมนะกะน่ารักจนเป็นที่พูดถึงในหมู่รุ่นพี่เลยล่ะ
“เฮะๆๆ” โมนะกะยิ้ม เมื่อเห็นผมพูดไม่ออก
“เอาล่ะ สิ่งที่ฉันคิดหนักจริงๆ คือชุดชั้นใน”
“นี่! เปิดเผยเกินไปแล้ว”
“เอ๋~ มันไม่ได้โป๊สักหน่อย คิดอะไรอยู่น่ะ?”
“หมายถึง ควรจะเก็บเป็นความลับหน่อยสิ!”
“แน่นอน ฉันก็เก็บเป็นความลับสิ! มันชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอ?” โมนะกะพูด พลางชนไหล่ผมเบาๆ
ถึงจะไม่ได้ออกแรง แต่ความรู้สึกสัมผัสนั้นยังคงอบอุ่นอยู่บนไหล่ ดูจากรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเธอแล้ว เธอคงเข้าใจสิ่งที่ผมหมายถึง แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ เหนื่อยใจแต่เช้าเลยนะ
“ว่าแต่…นั่น…”
ผมเห็นบางอย่างที่เป็นประกาย จึงชี้ไปที่หน้าอกของโมนะกะ
“เอ๋~ รุ่นพี่สนใจชุดชั้นในของฉันเหรอ…? น่าขนลุก”
“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น สร้อยคอเส้นนั้น ที่ซื้อเมื่อวานซืน ใช่ไหม?”
“สังเกตเห็นด้วยเหรอ?” โมนะกะเอานิ้วเรียวๆของเธอเเตะสร้อย
เป็นสร้อยคอสีเงินที่ผมซื้อ…ไม่สิ ที่ผมถูกโน้มน้าวให้ซื้อ เป็นของที่ระลึกจากเดท จี้รูปหัวใจเป็นประกายระยิบระยับ
“น่ารัก ใช่ไหมล่ะ?”
“ก็แน่ล่ะ ฉันเป็นคนเลือกเองนี่”
“ใช่แล้ว~”
“…เปล่า ล้อเล่น”
“ฉันจริงจังนะ ฉันดีใจมากๆ เมื่อวานก็ใส่ทั้งวันเลย”
ก็จริงที่สร้อยเส้นนั้น ผมเป็นคนเลือก…แต่ก็เลือกโดยคำนึงถึงความชอบของโมนะกะ และราคาที่ไม่แพง ถึงเธอจะดีใจ แต่ผมก็อดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ บางทีผมควรจะเลือกอย่างจริงจังกว่านี้ ไม่สิ ไม่ได้เลือกแบบขอไปทีสักหน่อย
“ฉันชอบมากเลย” โมนะกะพูด ยิ้มแย้ม พลางเล่นสร้อย
เห็นเธอมีความสุขแบบนี้ ผมก็รู้สึกว่าคุ้มค่าแล้วที่ซื้อให้ พวกเราเดินคุยกันไปเรื่อยๆ จนมองเห็นโรงเรียน
“อ๊ะ! ถึงแล้ว…”
“ก็ต้องมาให้ถึงสิ ใกล้จะเข้าเรียนแล้ว”
พวกเราเดินช้ากว่าปกติ จึงมาถึงโรงเรียนช้า แต่ก็ยังมีเวลาเหลือเฟือ จำนวนนักเรียนที่เดินผ่านประตูโรงเรียนยังน้อยอยู่
“งั้น วันนี้เลิกเรียนฉันจะมาหาอีกนะ!”
“ไม่ต้องมา”
“น่าเสียดายจัง คนที่หยุดฉันได้ มีแค่ตัวฉันเท่านั้น” เธอพูดด้วยสีหน้าจริงจัง วิ่งไปที่ล็อกเกอร์รองเท้า
ถึงจะใกล้ๆ แต่เธอก็วิ่งสุดแรง จนชนประตู
“เธอก็หยุดตัวเองไม่ได้เหมือนกันนี่นา”
เช้าวันนี้ช่างวุ่นวาย…แต่ผมก็ต้องยอมรับว่า เช้าที่แสนน่าเบื่อ กลับกลายเป็นเช้าที่สนุกสนาน ไม่ใช่แค่ตอนเช้า ตั้งแต่ได้เจอกับโมนะกะ ผมก็ตั้งตารอเวลาหลังเลิกเรียน ถึงจะบอกเธอว่าไม่ต้องมา แต่ลึกๆ แล้ว ผมก็อยากให้เธอมา ผมรู้ตัวดี
“อรุณสวัสดิ์คร้าบ!”
วาตาอุจิ เรยะ กรรมการพลศึกษาประจำชั้น ตะโกนทักทาย
เสียงดังอีกแล้ว…เขายังคงทำแคมเปญทักทาย ที่ผมเริ่มไว้
“มาซาจิกะ มาได้จังหวะพอดีเลย! มาทักทายด้วยกันเถอะ!”
“เอ๋~ ไม่เอา ฉันไม่ทำหรอก”
“ทำไมล่ะ! การทักทายตอนเช้ามันรู้สึกดีมากเลยนะ! แถมยังทำให้เป็นที่นิยมด้วย!”
ผมไม่คิดว่าจะเป็นแบบนั้น ผมถูกเรยะลากไปทักทายทุกคน จนกระทั่งเสียงกริ่งดัง ในเมื่อผมเป็นคนเสนอ ก็คงปฏิเสธไม่ได้ เอาเถอะ วันแบบนี้ก็ไม่เลว ผมคิด พลางทักทายคนอื่นๆ ด้วยเสียงที่เบากว่าเรยะ ผมคิดว่าวันเวลาสนุกๆ แบบนี้จะคงอยู่ต่อไป…แต่ผมก็คิดแบบนั้น จนกระทั่งถึงเวลาพักกลางวัน
“นี่ โอโอบะ! สร้อยนั่นมันอะไร?”
เสียงของชิราฮาตะดังก้องไปทั่วโถงทางเดิน
“สร้อยคอจำเป็นสำหรับโรงเรียนด้วยเหรอ?”
“แต่…มันก็แค่สร้อย จะอะไรนักหนา?”
“นักหนาสิ ฟังนะ เป็นเพราะคนอย่างเธอ ที่ทำให้กฎระเบียบของโรงเรียนเสียหาย”
เสียงของชิราฮาตะกลบเสียงของโมนะกะ เขาพูดเสียงดังมาก ไม่จำเป็นต้องตะโกนขนาดนั้น แค่จะเตือนโมนะกะ เขาคงอยากให้คนอื่นๆ ได้ยิน เหมือนเป็นการแสดง หรือเหมือนกับว่าเขากำลังภูมิใจกับการสั่งสอนของตัวเอง
“โอโอบะซังนี่นา…”
“น่าสงสารจัง…”
“ไม่น่าไปเถียงแบบนั้นเลย”
นักเรียนชั้นปีที่สองต่างก็ซุบซิบ มองดูรุ่นน้องที่กำลังโดนดุ ส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเห็นใจ มีหลายคนที่เอือมระอาชิราฮาตะ แต่ขณะเดียวกัน คนส่วนใหญ่ก็คงรู้สึกว่า เธอน่าจะรับมือกับมันได้ดีกว่านี้ ผมก็เห็นด้วย คนแบบชิราฮาตะมีอยู่ทุกที่ วิธีที่ชาญฉลาดคือ หลีกเลี่ยง แต่…ผมรู้จักนิสัยของโมนะกะ เธอซื่อสัตย์กับตัวเอง ตรงไปตรงมากับความรู้สึก ทุ่มเทให้กับสิ่งที่อยากทำ ผมไม่อยากปฏิเสธวิถีชีวิตนั้นของเธอ ที่ตรงกันข้ามกับผมโดยสิ้นเชิง
“ยึด! ส่งมาเงียบๆ คราวนี้จะยกโทษให้” ชิราฮาตะยื่นมือออกไป
“ไม่มีทาง” โมนะกะกุมเสื้อ ถอยหลัง
ผมไม่คิดว่าคำพูดของชิราฮาตะจะผิด ในฐานะที่เป็นการชี้นำนักเรียน มันก็เป็นความยุติธรรมอย่างหนึ่ง ถึงผมจะคิดแบบนั้น แต่ก็รู้สึกหงุดหงิด บางทีอาจเป็นเพราะผมมีส่วนผิดด้วย ตอนที่เจอเธอเมื่อเช้า ผมอย่างน้อยก็ควรจะบอกให้เธอติดกระดุม ในเมื่อรู้ว่าโมนะกะชอบสร้อยเส้นนั้นมาก ก็น่าจะเดาได้ว่าเธอจะปลดกระดุม เพื่ออวดสร้อย ถ้าผมเตือนเธอ เธอก็คงไม่โดนดุ
“รู้ใช่ไหม ว่าถ้าไม่ส่งมา จะเป็นยังไง?”
“แต่สร้อยเส้นนี้สำคัญสำหรับฉัน…”
“อย่ามาเถียง!”
โมนะกะสะดุ้ง หน้าซีด มือที่จับสร้อยกำลังสั่นเทา …ผมทนดูไม่ได้แล้ว
“อาจารย์ชิราฮาตะ มีปัญหาอะไรเหรอครับ?” ผมถาม แกล้งทำเป็นไม่รู้ เดินเข้าไป
“สึจิโดะ?”
“รุ่นพี่…”
ทั้งคู่หันมามองผมพร้อมกัน
“อย่างที่เห็น ฉันกำลังสั่งสอนนักเรียนที่ทำลายกฎระเบียบของโรงเรียน”
“เหรอครับ ขอบคุณนะครับ ที่คอยทำแบบนี้”
“หึ! การที่นักเรียนไม่มีวินัย ก็เป็นความรับผิดชอบของประธานสภานักเรียนด้วยนะ สึจิโดะ”
“ผมขอโทษครับ ผมจะระลึกไว้”
ถ้าจะโทษผม ก็ยินดีเลย ผมไม่ได้มีความรับผิดชอบในฐานะประธานสภานักเรียน ผมแค่อยากใช้ชีวิตแบบสบายๆ เอาตัวรอด เข้ามหาวิทยาลัยโดยไม่ต้องเรียนให้หนัก ตำแหน่งประธานสภานักเรียนเป็นแค่เครื่องมือ ถ้ามีคนอื่น ผมก็คงยกให้เขาไปแล้ว ผมไม่ได้มีความทะเยอทะยานอะไร ดังนั้น ผมจึงไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเพื่อรุ่นน้องที่เพิ่งรู้จัก …แต่นี่มันไม่ยุติธรรม
“แต่ผมว่า การชี้นำแบบนี้ มันไม่ค่อยเหมาะสมนะครับ”
“แกพูดว่าอะไรนะ?”
ชิราฮาตะเลิกคิ้ว
“การย้อมผม ใส่เครื่องประดับ ไม่ได้ผิดกฎโรงเรียนครับ”
ผมทำอะไรลงไปเนี่ย? การต่อต้านชิราฮาตะโดยตรง ไม่ได้ทำให้ผมได้อะไรเลย แต่ผมก็มองผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้
“กฎของโรงเรียนไม่ใช่ทุกอย่าง!”
“แล้วจะสั่งสอนด้วยกฎของอะไรเหรอครับ?”
“ก็เพื่อรักษาระเบียบของโรงเรียน! ถ้าเกิดนักเรียนคนอื่นๆ เอาอย่างเด็กเหลวไหลอย่างโอโอบะล่ะ!”
“โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนเอกชน มีบรรยากาศที่ค่อนข้างเสรี ดังนั้น ผมว่า มีนักเรียนแบบโอโอบะก็ไม่เห็นเป็นไรนะครับ”
“แกด้วยเหรอ…ที่คิดจะขัดขืนฉัน?”
แววตาของชิราฮาตะเปลี่ยนไป
“อาจารย์ครับ ในฐานะอาจารย์ ควรจะทำตามกฎของโรงเรียน ไม่ใช่ตามอารมณ์ การเปลี่ยนแปลงกฎของโรงเรียน จำเป็นต้องมีมติในการประชุมนักเรียน ถ้าอาจารย์เสนอ ผมในฐานะประธานสภานักเรียน ก็ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ครับ”
ผมพูดอย่างใจเย็น
“ไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ก็ขึ้นอยู่กับความนิยมของอาจารย์นะครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
ส่วนใหญ่ก็คงไม่ผ่านหรอก กฎของโรงเรียนสามารถแก้ไขได้ โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้เข้าร่วมประชุมนักเรียนมากกว่าครึ่ง ใครจะไปเห็นด้วยกับกฎที่ทำให้ตัวเองลำบากล่ะ?
ชิราฮาตะจ้องมองผม
“สึจิโดะ…ฉันนึกว่าแกจะฉลาดกว่านี้”
“ครับ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”
“แกเข้าใจใช่ไหม ว่าการขัดขืนฉัน จะเป็นยังไง? แน่นอนว่า ทัศนคติเเบบนั้น ย่อมส่งผลต่อคะแนนด้วย”
ไร้สาระ…แต่อาจารย์ที่มีอำนาจมากขนาดนั้น พวกเขาสามารถให้คะแนนตามอคติ เเละตามความชอบได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาหยิ่งผยองมากจนเกินไป