ยัยตัวแสบแอบปิ๊งรุ่นพี่เข้าเเล้ว น่ารักเกินต้าน! - ตอนที่ 1.1 รุ่นน้องสาวแกลผู้พูดจาไม่รักษามารยาท
- Home
- All Mangas
- ยัยตัวแสบแอบปิ๊งรุ่นพี่เข้าเเล้ว น่ารักเกินต้าน!
- ตอนที่ 1.1 รุ่นน้องสาวแกลผู้พูดจาไม่รักษามารยาท
ทันทีที่เสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้น ผมก็รีบตรงดิ่งไปยังห้องสภานักเรียน ก่อนหน้านี้ผมเป็นรองประธาน แต่ตอนนี้ในฐานะประธานนักเรียน ผมต้องมาที่นี่แทบทุกวันเลยล่ะ
“วันนี้ก็งานท่วมหัวอีกแล้วสิเนี่ย”
คณะกรรมการบริหารของสภานักเรียนมีงานล้นมือแบบสุดๆ ใครจะไปคิดล่ะว่างานจะเยอะขนาดนี้ กิจกรรมหรูๆ ที่คนทั่วไปชอบนึกถึงน่ะ เป็นแค่ส่วนน้อยนิด งานส่วนใหญ่เป็นงานจุกจิกน่าเบื่อทั้งนั้น มันไม่ใช่งานที่ควรจะโยนให้นักเรียนทำเลยสักนิด ต้องมีคนรับผิดชอบแหละ แต่ครูก็ยุ่งเป็นมด งานจิปาถะพวกนี้ก็เลยตกมาเป็นภาระของสภานักเรียน แงๆ
ไม่ใช่แค่นั้นนะ ยังมีงานอย่างเช่น ทำหนังสือพิมพ์ ทำเอกสาร เตรียมงานอีเวนต์ เจรจาต่อรองกับครู ประชาสัมพันธ์ แลกเปลี่ยน… โอ๊ย งานหยุมหยิมเยอะแยะไม่รู้จบ บอกตรงๆ เลยนะ การเป็นประธานนักเรียนเนี่ย เหมือนจับได้ใบเเดงชัดๆ
และที่แย่ยิ่งกว่านั้น…
“…วันนี้ฉันต้องนั่งทำงานคนเดียวอีกแล้วเหรอเนี่ย?”
ห้องสภานักเรียนที่ว่างเปล่า เงียบกริบ ไร้ซึ่งเงาเพื่อนร่วมงาน เหมือนทุกที การเลือกตั้งสภานักเรียนเพิ่งจะผ่านพ้นไปหยกๆ กิจกรรมใหญ่ๆ ก็ยังมาไม่ถึง พวกเราเลยกะว่าจะเริ่มลุยงานกันจริงๆ จังๆ ช่วงหลังๆ หน่อย เริ่มหลังปิดเทอมฤดูหนาวก็น่าจะทัน ถึงอย่างนั้นก็ยังมีงานจุกจิกกวนใจอีกเพียบ แต่โชคดีที่งานพวกนี้ไม่ได้ยากเกินกว่าจะจัดการคนเดียว ผมจะสะสางมันเอง! จริงๆ แล้วผมมีสมาธิมากกว่า เวลาอยู่คนเดียวด้วยล่ะ…
ผมเปิดแล็ปท็อปเครื่องบางเฉียบ ราคาแพงหูฉี่ ที่พวกเราซื้อมาด้วยงบประมาณของสภานักเรียน (ภาษีของประชาชนทั้งนั้น ต้องใช้อย่างคุ้มค่า!) งานของวันนี้คือการทำเอกสารแจกแต่ละห้อง
“อาจารย์น่าจะเป็นคนทำนะ…”
ผมบ่นพึมพำ แบบไม่ได้ตั้งใจ งานจิปาถะประมาณครึ่งหนึ่งเป็นเพราะอาจารย์ที่ปรึกษาตัวดีนั่นแหละ แต่ก็นะ ผมทำแบบนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ผมก็เลยชินกับการทำเอกสารแล้วล่ะ
ผมพิมพ์งานรัวๆ พลางจิบกาแฟ ห้องสภานักเรียนนี่มันก็ดีอย่าง มีทั้งกาน้ำร้อน ตู้เย็น ครบครัน สบายสุดๆ
“ขอให้กลับบ้านก่อนหกโมงเย็นด้วยเถอะ”
ตั้งเป้าหมายว่าจะกลับบ้านตรงเวลา… ผมนี่มัน “มนุษย์เงินเดือน” ชัดๆ ปกติแล้ว ผมจะใช้เวลาอยู่คนเดียว แล้วก็กลับบ้านตอนเย็นๆ นั่นคือกิจวัตรประจำวันของผม แต่วันนี้ มันต่างออกไป
“ขอโทษที่รบกวนนะคะ”
เด็กสาวที่เดินเข้ามาในห้องสภานักเรียน ด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง คือ โอบะ โมนากะ คนที่ผมเจอเมื่อเช้า ถึงจะเป็นเดือนพฤศจิกายน แต่เธอก็ใส่กระโปรงสั้นจุ๊ดจู๋ กระเป๋าของเธอมีตุ๊กตาตัวเบ้อเริ่มห้อยอยู่ ผมสีบลอนด์ทองอร่าม แต่งหน้าใสๆ สไตล์ธรรมชาติ ใช่ มองอีกที เธอก็เป็นสาวแกลนี่นา
“อะ อยู่นี่นี่เอง”
โอบะมองหน้าผม แล้วเธอก็ยิ้มออกมา เธอเดินเข้ามาในห้องสภานักเรียน แล้ววางกระเป๋าลงบนโต๊ะยาวกลางห้อง
“รุ่นพี่เป็นประธานนักเรียนจริงๆ ด้วย”
“เสียมารยาท พูดแบบนั้นได้ยังไง ฉันก็กล่าวปราศรัยต้อนรับนักเรียนใหม่ไปแล้วนะ”
“ไม่มีทางที่ฉันจะจำได้หรอก”
ถึงแม้ผมจะกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้านักเรียนทั้งหมดในโรงยิม แต่ดูเหมือนเธอจะจำไม่ได้เลย ก็ มันเป็นงานที่น่าเบื่อสำหรับคนส่วนใหญ่ คงช่วยไม่ได้ บางทีเหตุผลเดียวที่เธอรู้ว่าผมเป็นประธานนักเรียน คงเป็นเพราะอาจารย์ชิราฮาตะพูดถึง
“แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่?”
“อย่ามองฉันเหมือนกับว่าฉันมารบกวนสิ”
เธอหัวเราะร่วน แล้วนั่งลงตรงข้ามผม
“ขอบคุณสำหรับเมื่อเช้านะคะ! ฉันพูดจริงๆ นะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ!”
“เธอมาไกลถึงนี่ แค่จะมาขอบคุณเหรอ?”
“ใช่ค่ะ! ฉันเกือบโดนไล่ออกแล้ว รุ่นพี่ช่วยฉันไว้จริงๆ~”
โอบะโค้งศีรษะด้วยความขอบคุณ ถ้าผมไม่ช่วยเธอ เธอก็คงโดนพักการเรียนอย่างน้อย โรงเรียนมัธยมปลายของเราไม่ได้เรื่องมากเรื่องการย้อมผมหรือเครื่องประดับ แต่การสูบบุหรี่เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ แค่มีบุหรี่ในครอบครองก็มีสิทธิ์โดนไล่ออก ผมคิดว่าปีที่แล้วมีคนโดนไล่ออกเพราะเรื่องนี้ ผมไม่ได้ตั้งใจจะเอาเรื่องนี้มาข่มขู่เธอ
“ไม่เป็นไร ฉันแค่มองข้ามไปไม่ได้ ไม่ต้องคิดมากหรอก”
“เอ๋ ใจดีจัง”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ฉันแค่ไม่ชอบคนที่ชอบทำตัวใหญ่โต เอาอำนาจมาเป็นเกราะกำบัง”
“แต่รุ่นพี่ก็เป็นประธานนักเรียนนี่คะ?”
“เป็นข้อยกเว้น”
“ตลกจัง”
ไม่ว่าโอบะจะดูน่าสงสัยแค่ไหน แต่อาจารย์ชิราฮาตะก็ไม่ฟังเธอเลย ผมไม่รู้เรื่องพฤติกรรมปกติของเธอมากนัก แต่ตอนนั้นเขาดูเป็นเผด็จการมาก
“แต่ฉันดีใจจริงๆ นะคะที่รุ่นพี่ช่วย”
“เหรอ?”
“ค่ะ เพราะรูปลักษณ์ภายนอกของฉัน ฉันมักจะถูกเข้าใจผิด ถูกมองเป็นศัตรู หรือแม้แต่ตอนที่ฉันจริงจัง คนอื่นก็คิดว่าฉันแค่ล้อเล่น…มันเป็นแบบนี้มาตลอด จนถึงจุดหนึ่ง ฉันก็เลยเริ่มทำตัวและแต่งตัวแบบนี้”
โอบะพึมพำ แล้วก้มหน้าลง เมื่อมองใกล้ๆ เห็นได้ชัดว่าใบหน้าของเธอสวยคมมาก เธอสวย แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีออร่าบางอย่างที่ทำให้เธอดูเข้าถึงยาก
“แต่รุ่นพี่ก็ยังช่วยฉัน ทั้งๆ ที่ไม่ได้อะไรตอบแทนเลย ที่จริงแล้วมันเป็นการเสียสละด้วยซ้ำ”
“ก็ได้คุยกับรุ่นน้องน่ารักๆ แบบนี้ไง”
“เลิกแกล้งกันได้แล้ว ฉันรู้ว่ารุ่นพี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น…แต่ก็น่ารักดีนะคะ รุ่นพี่พยายามไม่ทำให้ฉันรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ”
นั่นเป็นความรู้สึกจริงๆ ของผม
“ยังไงก็เถอะ ฉันขอบคุณจริงๆ นะคะ รับคำขอบคุณเงียบๆ ไปเถอะค่ะ!”
“อ้อ เข้าใจแล้ว ไม่เป็นไร พอใจรึยัง? ตอนนี้ฉันยุ่งอยู่นะ”
“โห เย็นชาใส่รุ่นน้องน่ารักๆ แบบนี้ แย่ที่สุดเลย”
“เธอบอกว่าตัวเองเป็น ‘รุ่นน้องน่ารักๆ’ เองนี่นะ”
โอบะหัวเราะอย่างสบายใจ ผมคิดมาตลอดว่าเธอเป็นคนเย็นชาและขี้โมโห แต่ดูเหมือนเธอจะมีมุมที่น่ารักอยู่ด้วย