ยัยคนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของผมเสียเปล่า - ตอนที่ 7 หวง
ตอนที่ 7
”อือ…“
พอเลิกเรียนมาในวันเดี๋ยวกัน ราวกับโชคชะตาฟ้าลิขิตให้น้ำมาเจอไฟ พชรเดินออกหน้าประตูโรงเรียนไม่ถึงร้อยเมตรพบสาวงามผู้คุ้นตากำลังมีท่าทีลนลานอยู่คนเดียว
เรื่องที่คุยก่อนหน้ายังคงวนอยู่ในหัวจึงตัดสินใจไม่เดินให้เจ้าตัวเห็นแต่หลบข้างกำแพงคอยดูท่าทีเจ้าไปก่อน
’ไม่มีคนเข้าไปช่วยเลยเหรอ แปลกแฮะ ปกติเวลาคนดังกำลังเจอปัญหาต้องมีคนยื่นมือเข้าไปช่วยแล้วนี่’
พชรยืนรออยู่สิบนาทีก็เห็นเพียงผู้คนพยายามเดินเว้นระยะห่างจากสาวงาม แทบไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ หรือยื่นมือเข้าไปช่วยเจ้าตัวที่กำลังมีปัญหากับฝาท่อละบายน้ำริมถนน
’เหมือนจะมีอะไรสักอย่างตกท่อระบายน้ำสินะ ถ้าจำไม่ผิด ท่อนั้นไม่น่าลึกนี่ อะไรตกหว่า’
จากท่าทาง ถ้าเขาไม่เข้าไปช่วยเจ้าตัวคงไม่ได้กลับบ้านในเร็ว ๆ นี้ ผนวกกับทางกลับบ้านก็ฝั่งเดียวกันกับเทียร์ร่ายืนอยู่ด้วย ถ้าเกิดแค่เดินผ่านแล้วไม่ช่วยก็คงจะเย็นชาไปหน่อย
พอได้ข้อสรุปก็เดินเข้าไปใกล้เจ้าตัว
“อ้ะ ! นายขี้แพ้ ! มาช่วยหน่อยสิ”
ยังคงใช้คำขอที่ให้ความรู้สึกคล้ายคำสั่งเช่นเดิม พชรไม่ทันได้เปิดปาก อีกฝ่ายที่สังเกตเห็นก็ชิงพูดก่อน กับประโยคสุดฮ็อตฮิตที่เพียงได้ยินก็เกิดความรำคาญ ไม่ว่าจะนึกถึงตอนไหนก็มีแต่ต้องถอนหายใจ
ถึงจะน่ารำคาญแค่ไหนก็ตาม แต่ตอนนี้ในฐานะเพื่อนด้วยกันก็คงต้องช่วยเหลืออีกฝ่ายก่อน แถมครั้งนี้ยังดูเป็นเรื่องจริงจังถึงขนาดยอมขอร้องออกมาเป็นครั้งแรก ถึงจริง ๆ จะเป็นครั้งที่สอง อย่างไรก็ตามการขอร้องครั้งนี้แม้ประโยคจะยังคงความกวนประสาทเหมือนเดิม แต่พชรพอสัมผัสได้ถึงระดับความจริงจัง
เขาค่อย ๆ เดินเข้าหาเจ้าตัวแล้วเปิดปาก
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“จะถามทำไม ก็ดูเอาเองสิ”
“…”
’สรุปจะให้ช่วยหรือเปล่าเนี่ยยัยคนนี้’
ถ้าเป็นคนอื่นคงปรี๊ดแตกแหง ถึงจะสวยก็เถอะ เล่นกวนประทุกประโยคที่พูดแบบนี้น้อยคนจะรับไหว
พชรทำตามเจ้าตัวกล่าวเงียบ ๆ โดยมองเข้าลงไปยังท่อระบายน้ำตื้น ๆ
’ผ้าเช็ดหน้า ?‘
เอิ่ม ผ้าเช็ดหน้าผืนไม่ได้เล็กนะตกลงไปยังไง ช่องตะแกรงก็เล็กนิดเดียว เหนือสิ่งอื่นใด ผ้าผืนนั้นยังเปื้อนน้ำอะไรก็ไม่รู้แล้วด้วย มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้มันได้อีกรอบ
”เอิ่ม… ผ้ามันเปื้อนแล้วนะ ยังคิดจะใช้มันอีกเหรอ ?“
“มันไม่ใช่ของใช้สักหน่อย เป็นของที่ระลึกต่างหาก”
“ของที่ระลึกเหรอ เอิ่ม ก็สมเหตุสมผล โอเค เข้าใจแล้ว รอแป๊บนะงั้น“
พชรมองท่อระบายน้ำคาดการณ์ความลึกคร่าว ๆ พอได้ความลึกจากการคำนวนแค่ชั่วครู่ก็หาสิ่งที่เป็นประโยชน์รอบข้าง
“เอิ่ม ไม่มีกิ่งไม้เลยแฮะ เดี๋ยวหาอะไรสักอย่างมาเขี่ยให้แล้วกัน“
เพราะเป็นโรงเรียนในเมือง เพียงแค่เดินออกห่างออกไปอีกไม่กี่สิบเมตรก็พบร้านค้าต่าง ๆ ที่เปิดห่างกันเป็นช่วง ๆ
”ถึงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ก็เถอะ ร้านอุปกรณ์ตกปลาหน้าโรงเรียนเหรอ น่าสนใจ“
ว่าแล้วก็เดินเข้าร้านนั้นแล้วซื้อเอ็น กับตะขอเบ็ดขนาดเล็กราคาไม่กี่บาทมาพร้อมกับขอถุงไปด้วย พอกลับมาก็ยังพบสาวงามยืนที่เดิมโดยรอบข้างยังคงไม่มีใครเข้าไปทักทายหรือสอบถาม
”เร็ว ๆ หน่อยสิ ฉันต้องรีบกลับบ้านนะ“
”…“
‘อุตส่าห์สละทั้งเวลาทั้งเงินมาช่วย ยังทำตัวน่ารำคาญได้อีกน้อ อีกอย่างถ้าจะรีบขนาดนั้นก็ทิ้งมันไปเหอะ เฮ้อ แค่ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวเอง สำหรับตระกูลดัง ๆ อย่างเธอต่อให้แพงแค่ไหนก็คงซื้อได้ง่าย ๆ ไม่ใช่ไง’
พชรถอนหายใจบ่นในใจเงียบ ๆ ขณะมือรีบผูกตะขอเข้ากับเชือกเอ็น เขาผูกแบบลวก ๆ พอเสร็จก็รีบหย่อนลงท่อระบายน้ำ เพราะในท่อมีน้ำมากพอทำให้ผ้าจมลงเล็กน้อย ตะขอเบ็ดที่มีน้ำหนักเบาจึงเกี่ยวได้ยาก พชรใช้เวลาไปกับการใช้ตะขอเกี่ยวกับผ้าเช็ดหน้าอยู่นาน
“จะได้แล้ว อีกนิดเดียว“
เทียร์ร่าค่อย ๆ ขยับตัวเข้าใกล้พชรเรื่อย ๆ เพื่อให้เห็นผ้าเช็ดหน้าด้านล่าง เพราะตะแกรงเล็กแค่นิดเดียวเธอจึงแทบเอาหัวชนกับพชรเพื่อให้ได้เห็นด้านใน
”อ้ะ ได้แล้ว“
”น- ในที่สุด !“
พอดึงมันขึ้นมาได้ สาวงามก็รีบคว้ามันด้วยมือเปล่าจนพชรไม่ทันได้ห้าม
“เห้ย ๆ ผ้ามันสกปรกนะ อย่าใช้มือเปล่าจับเซ่”
พชรรีบเปิดกระเป๋าเรียนหยิบทิชชู่เปียกกับแอลกอฮอลล์สำหรับล้างมือขนาดพกพาขึ้นมา เขาดึงทิชชู่ออกมาครึ่งถุงแล้วใช้มันแทนถุงมือแย่งผ้าเช็ดหน้าจากมือสาวงาม
“ท- ทำอะไรเนี่ย นั่นมันของฉันนะ”
“ครับ ๆ รู้อยู่แล้ว แต่ผ้ามันเปื้อนแล้วนะ โดนน้ำอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ อย่าใช้มือเปล่าจับสิ เดี๋ยวก็ติดเชื้อโรคหรอก อะ รีบ ๆ ล้างมือเลย“
สาวงามมีท่าทีหวงแหนผ้าเช็ดหน้าในมือพชรอย่างเห็นได้ชัด ตอนดึงมันออกจากมือเจ้าตัว เขาเกือบแย่งไม่ได้เพราะเธอกำเสียแน่น
“อ- อื้อ”
‘อืม รอบนี้ดูจะว่านอนสอนง่ายแฮะ แค่ผ้าผืนเดียวมีอิทธิพลกับเธอมากขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย‘
พอบอกให้ล้างมือ ก็ยอมล้างมันง่าย ๆ โดยไม่ตอบกลับแบบแดกดัน ท่าทีโคตรแปลก เขามองออกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตา
“แอลกอฮอล์ขวดนั้นใช้ให้หมดเลยก็ได้ แถวนี้ไม่มีก๊อกน้ำ ใช้ล้างแก้ขัดไปก่อน”
“อือ”
’ไม่บ่นเลยแฮะ‘
บอกอะไรก็ทำอย่างนั้น แทบไม่ขัดหรือพูดแดกดันใด ๆ เลยสักนิด เม็ดฝนตั้งใจล้างมือให้สะอาดทุกจุด เช็ดจุดที่จับผ้าเช็ดหน้าอย่างดี พอเสร็จก็จ้องมองผ้าเช็ดหน้าในมือพชรเงียบ ๆ
”อะไร ?“
”ขอผ้าคืน“
”อะไรนะ ?“
”ผ- ผ้าผืนนั้น ขอคืน“
”เดี๋ยวก่อน“
สาวงามพยายามหยิบผ้าเช็ดหน้าจากมือพชรด้วยมือเปล่าอีกรอบทำเอาพชรถอนหายใจแทบกุมขมับ ถ้าเกิดให้จับอีกรอบแล้วให้ล้างมือทำไมเล่า นี่จะจดจ่อกับมันอะไรขนาดนั้น แถมท่าทางตอนนี้…
ไม่อาจรู้ว่าเป็นเพราะอยากได้ผ้าในมือพชรให้เร็วที่สุด หรือกลัวไม่ได้ผ้าคืน ท่าทีลนลานมากกว่าตอนผ้าอยู่ในท่อระบายน้ำเสียอีก พชรอดหัวเราะกับท่าทางฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ เจ้าตัวตอนนี้ดูน่ารักกว่าก่อนหน้าจนแทบนึกว่าเป็นคนละคน
อืม… หรือว่าผ้าผืนนี้จะเป็นอำนาจที่เรากำลังถือครอง
“อะไรอีกอะ มือก็ล้างแล้ว ทำไมถึงไม่ให้ล่ะ ข- ขอล่ะ ฉันอยากได้มันคืนจริง ๆ นะ !”
“อะไร ถ้าอยากได้คืนต้องทำไง หืม ? เวลาจะขอของบางอย่างต้องทำยังไง“
”อ- เอ่อ อือ… ข- ขอร้องเถอะค่ะ ผ้าผืนนั้นสำคัญกับฉันจริง ๆ“
”เอิ่ม…“
แววตาเทียร์ร่าทอประกายความต้องการออกมาแบบตรง ๆ จนพชรอดเอ็นดูพอได้จ้องนัยน์ตาของร่างกายอันบอบบางของอีกฝ่าย เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนเอาผ้าเช็ดหน้าใส่ถุงที่ได้มาตอนซื้อตะขอเบ็ด
”ไหน พูดขอบคุณก่อน“
ก่อนทำอะไรบางอย่าง พชรคำนึงถึงชื่อเสียงอีกฝ่ายอยู่พอสมควร เขามองรอบตัวก่อนว่ามีคนให้ความสนใจอยู่หรือเปล่า พอพบว่าไม่มีก็ถือโอกาสแกล้งอีกฝ่ายเต็มที่
“ข- ขอบคุณค่ะ”
“ดีมาก ๆ แบบนี้ค่อยคุยกันได้“
”ถ- ถ้างั้น !“
สาวงามหลุดยิ้มออกมาทันทีพออีกฝ่ายมีท่าทีจะมอบให้ ทว่าก่อนถึงมือพชรก็ชักมันกลับอีกรอบจนเทียร์ร่าเอียงคอไม่เข้าใจ
”จ- จะทำอะไร อยากได้อะไรอีกเหรอ ?“
ท่าทางเจ้าตัวราวกับจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ หางคิ้วของเธอตกลงขณะถามอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่มอบมันให้กับตนสักที
“อ- เอ่อ โทษที”
ในที่สุดพชรก็ยอมมอบผ้าเช็ดหน้าสุดแสนจะสำคัญให้กับเจ้าตัว ทว่าขณะที่พชรยื่นให้ สาวงามพลันมีท่าทีงึกงักจนน่าเอ็นดู เธออยากยื่นมือรับ ทว่าใจนึงก็กลัวอีกฝ่ายแกล้งจึงจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาอ้อนวอนแทนเสียอย่างนั้น ราวกับจะบอกว่าอย่าแกล้งอีกเลยนะแบบกลาย ๆ พชรมองสายตานั้นก็หัวเราะอีกรอบ
อย่างกับเด็กเวลาโดนแกล้งบ่อย ๆ เลยแฮะ
ท่าทีแข็งกระด้าง ดื้อรั้น น่ารำคาญของเจ้าตัวหายไปหมดจนน่าแปลกใจ
“ไม่แกล้งหรอกน่า รับไปเถอะ”
“จริงนะ”
“ครับ”
“ถ้าแกล้งอีก จะโกรธจริง ๆ นะ”
”คร้าบ ๆ เข้าใจแล้วครับ รีบ ๆ รับไปเถอะ“
ค่อย ๆ ยื่นมือรับผ้าเช็ดหน้าจากพชรอย่างช้า ๆ พอได้ถุงที่มีพาเช็ดหน้าสุดที่รักของตนมาก็รีบกอดไว้ในอ้อมอกอย่างทะนุถนอมแล้วถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เธอดูหวงแหนผ้าผืนนั้นจริง ๆ พอได้มาก็ยิ้มกว้างอย่างไม่เคยเห็นก่อน สายตาเวลาอีกฝ่ายมองผ้านั้นอบอุ่นยิ่งกว่ามองเขาอีก ไม่สิ เธอไม่เคยมองพชรด้วยสายตาอบอุ่นเลยนี่นา
”ถ้าเสร็จแล้วก็ไปล่ะ โชคดีนะ“
พชรรู้ว่าถ้าอยู่ต่อมีหวังโดนเป็นฝ่ายโดนเล่นงานแทนแน่ จึงรีบก้มหยิบขวดแอลกอฮอล์พร้อมเศษกระดาษทิชชู่แล้วรีบวิ่งออกห่างสาวงามให้เร็วที่สุด
เพราะเชื่อในทักษะเอาตัวรอดของตัวเองจึงคิดว่าถ้าเกิดให้เวลาเธอฟื้นสภาพจิตใจกลับมาจนเป็นปกติล่ะก็ ชีวิตในวัยเรียนคงจะอยู่ไม่สุขแน่ ๆ
”จะว่าไปแล้วเวลาทำหน้าแบบนั้นก็น่ารักดีนี่นา“
โดยปกติจะเห็นแค่หน้านิ่ง ๆ กับรอยยิ้มกวนประสาทเท่านั้น ส่วนอย่างอื่นแทบไม่เคยเห็น พออีกฝ่ายแสดงมันออกมาแล้วนึกถึงมันอีกรอบพลันหัวใจให้อกเต้นตึกตัก
”จะไปก็น่าเสียดายหน่อย ๆ แฮะ ตอนท้ายกะจะขอให้เรียกแบบคนปกติสักหน่อย แต่พอเห็นหน้าแล้วทำเอาแกล้งไปต่อไม่ถูกเลย“
พชรหัวเราะในลำคอขณะที่ภาพรอยยิ้มกับสีหน้าอ่อนไหวของเทียร์ร่าผุดเข้ามาในหัว เป็นใบหน้าที่ขี้โกงชะมัด ลูกรักพระเจ้าหรือไงกันน่าอิจฉาชะมัด
ลูกรักพระเจ้าที่กำลังบ่นถึงลูกรักพระเจ้า พชรบ่นพึมพำโดยไม่ได้นึกถึงตัวเองที่หน้าตาดีไม่แพ้กันเลยสักนิด
ชี้แจงช่วงท้าย โดยปกตินิยายเรื่องนี้จะอัพลงเว็บหลังจากผ่านไป 2 วันของตอนล่าสุดครับ แต่ด้วยเหตุหลักคือไรท์ติดเกมก็เลยไม่มีเวลาตรวจคำผิด จริง ๆ นิยายถูกเขียนไว้พอประมาณแล้วครับแต่ยังไม่ทันได้เกลาศัพท์ตรวจคำผิดเลยก็เลยมีบ้างครับ ฮาาาาาา ถ้าอย่างนั้นขอให้สนุกกับนิยายของผมในตอนถัด ๆ ไปนะครับ หวังไว้เป็นอย่างยิ่งเลยว่าคุณหนูของเราจะทำให้ทุกคนใจฟูไปด้วยกันได้