ยัยคนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของผมเสียเปล่า - ตอนที่ 2 พชร
สมศักดิ์ สมศักดิ์ มันดังอยู่ในหัวมาตลอด หลังจากได้ยินมันดังขึ้นที่ด้านหลังจากผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเจอกันเมื่อก่อน เป็นชื่อเรียกที่คุ้นเคย อย่าว่าแต่ชื่อ กระทั่งน้ำเสียงยังรู้สึกคุ้น เขารู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคือใครโดยไม่ต้องทบทวนให้มาก
“เอ่อ เธอจำผิดแล้วล่ะ ฉันชื่อ พชร”
รีบตอบกลับด้วยท่าทีร้อนรน รอยยิ้มบิดเบี้ยว บวกกับสายตาล่อกแล่ก มันคงดูไม่เป็นธรรมชาติแน่ ๆ พชรคิดในใจ
“ขอโทษนะที่ไม่ได้รับรักเธอในวันนั้น ถ้าไม่รังเกียจ วันนี้เรามาลอง-“
“เอ่อ ขอโทษนะครับ คุณจำผิดคนแล้วล่ะครับ ฮะ ๆ ผมต้องรีบไปซักผ้าไปก่อนนะครับ !”
พชรรีบพูดตัดบทแล้ววิ่งออกมาจากตรงนั้น เขาจำเธอได้ ด้วยใบหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปเลยจากตอนนั้นยังสวย ยังหน้าตาดีแล้วก็รอยยิ้มน่าหลงไหลเหมือนเดิม แต่ทั้งหมดมันทำให้ไม่กล้ามองเธอตรง ๆ จึงวิ่งออกมาทั้งอย่างนั้น
เมื่อก่อนเขาเคยชอบคน ๆ นี้สุดหัวใจ แต่ตอนนี้กับตอนนั้นมันไม่เหมือนกัน เขาโดนปฏิเสธเหมือนคนอื่น ๆ ที่เคยทำกับเขา ทั้งที่ตอนนั้นฝากความหวังไว้ตั้งมาก แต่กลับโดนปฏิเสธด้วยคำไม่กี่คำ จะให้กลับไปหาคนที่เคยโดนปฏิเสธก็จะเป็นเรื่องแปลก
“เดี๋ยวก่อนสิ เธอไม่รักฉันแล้วเหรอ”
อยากตะโกนตอบกลับไปจริง ๆ แต่ไม่สามารถจะทำแบบนั้นได้ เขาได้ตัดสินใจทิ้งอดีตของตัวเองไปแล้ว ฉะนั้นจะไม่สนใจทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นเมื่อก่อนแล้วลืม ๆ มันไปให้หมด อดีตอันแสนเจ็บปวดจะเก็บไว้มีแต่จะทำร้ายจิตใจ
เป็นนักเลงประจำโรงเรียนจนถึงถูกเชิญผู้ปกครองอยู่หลายครั้งและเกือบโดนไล่ออกจากโรงเรียน เป็นความทรงจำที่ทำให้เจ้ากรรมอยากจะกลับไปตบกระบาลตัวเองในตอนนั้นแรง ๆ สักครั้งเลยจริงเชียว
“กลับมาแล้วเหรอพี่ วันนี้ไม่ไปเรียนคอร์สแต่งหน้า กับซื้อนิยายเหรอ ทำไมกลับบ้านเร็วจัง”
ถึงบ้านแล้วเปิดประตูก็มีเสียงทักจากน้องสาวเพียงคนเดียวดังขึ้น เธอนอนขดอยู่ในผ้าห่มแล้วเปิดทีวีเสียงดังขณะที่มือตามองมือถือแล้วกดหน้าจอโดยไม่ได้สนใจโทรทัศน์เลยสักนิด
การกระทำเจ้าตัวแค่มองก็หงุดหงิด พชรเตือนอยู่หลายครั้ง ทว่าก็ยังเหมือนเดิม แถมอีกฝ่ายยังมีศักดิ์เป็นน้องคนเล็กผู้ได้รับความเอ็นดูจากครอบครัวมากที่สุดมีหรือเขาจะสามารถออกปากบ่นอะไรได้
“อา แล้ววันนี้แม่ไปไหนเหรอ”
“อืม เหมือนจะออกไปทำอะไรสักอย่างนี่แหละ แล้วแม่ก็ฝากบอกด้วยว่าอาหารอยู่โต๊ะกินข้าว ละก็จะกลับดึกด้วย ว่างั้นอะ”
เธอตอบกลับในขณะตายังไม่ละจากมือถือ มือข้างนึงถือกดหน้าจอ อีกข้างหยิบขนม พชรยิ้มเจื่อนส่ายหน้าให้กับพฤติกรรมสุดขี้เกียจของเธอก่อนที่จะเดินกลับห้อง
ห้องพชรในตอนนี้ไม่ได้รกอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อเป็นหนุ่มป๊อปเพียบพร้อมโดยทั้งห้องจะต้องสะอาดหมดจด ไร้ซึ่งฝุ่นและขยะ ทุกจุดเป็นระเบียบ วางเป็นสัดส่วนเพื่อให้ได้หาได้ง่าย อุปกรณ์ฟิตเนสกับโต๊ะแต่งหน้าต้องจัดให้สวยงามสมกับเป็นหนุ่มป๊อปไร้จุดอ่อนให้นินทา
โต๊ะแต่งหน้าที่เมื่อก่อนเคยว่างเปล่า ตอนนี้เต็มไปด้วยเครื่องสำอาง !
ที่เตียงนอนก็มีผ้าปูที่นอนลายกระต่ายสุดแบ๊ว ! ปอกหมอนก็เป็นทรงหุ่นแมวสีฟ้าจากอนาคต !
เรียกได้ว่าเป็นห้องที่เหมาะกับชายหนุ่มเพอร์เฟคแบบสุด ๆ เลยล่ะ
“ยืนยิ้มอะไรอะ น่าขยะแขยง”
“เห้ อย่าเปิดประตูห้องคนอื่นซี้ซั้วเซ่”
“หนูไม่ได้เปิดซี้ซั้วนะ แค่จะมาบอกว่า จะฝากซื้ออะไรไหม จะไปร้านค้า”
น้องสาวเพียงคนเดียวเปิดประตูห้องโดยไม่เคาะหรือให้สัญญาณ เธอมองดูพี่ชายตัวเองยืนยิ้มพลางลูบคางตัวเองก่อนถอนหายใจ ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่พี่ชายของตนกลายเป็นพวกหลงตัวเองแบบนี้
“งั้นฝากซื้อการ์ตูนแนวรัก ๆ ใคร่ ๆ มาสักเล่มหน่อย ขอแบบฮิต ๆ นะ”
พชรยื่นค่าหนังสือให้เจ้าตัว
“พี่เนี่ยน๊า อย่างน้อยก็หาอ่านแนวต่อสู้หรืออะไรที่เป็นแนวลูกผู้ชายอ่านหน่อยเถอะ เดี๋ยวก็โดนหาว่าหล่อเสียของหรอก”
“หนวกหู รีบไปแล้วรีบกลับมาล่ะ กลับช้าระวังพวกอันธพาลดักเอานะ แถวบ้านเราพวกนั้นยิ่งเยอะอยู่ด้วย”
“เพ้อเจ้อน่าพี่ นี่มันยุคไหนแล้ว อันธพาลที่พี่ว่าเมื่อกี้คงมีแต่พี่เท่านั้นแหละ”
“เงียบน่า ! อีกอย่างนั่นมันก็เรื่องอดีตนี่”
“วันนี้ก่อนพักเที่ยงพวกผู้ชายอย่าเพิ่งออกห้องไปนะ รออยู่ในห้อง เดี๋ยวฉันจะมีเกมส์อะไรมาให้เล่น”
ในคาบโฮมรูมก่อนเข้าเรียน อยู่ ๆ ผู้ชายคนหนึ่งก็พูดดังลั่นห้องให้ผู้ชายได้ยิน เขาเผยรอยยิ้มน่าขนลุกออกมาราวกับมีแผนในหัว รอยยิ้มนั้นพอได้มองแล้วต่างต้องรู้สึกขนลุกแปลก ๆ เจ้ากรรมผู้โพล่งประดังกล่าวเดินไปยังหน้ากระดานมองรอบ ๆ ห้องแล้วพูดต่อ
“วันนี้ใครเข้าร่วมฉันจะเลี้ยงข้าวคนละมื้อไปเลย”
““โอ้ว !””
ทันทีที่เขาพูดจบพวกผู้ชายต่างก็โห่ร้องอย่างยินดี ขณะที่สาว ๆ ในห้องส่ายหัวเริ่มสัมผัสได้ถึงความวานป่วงที่จะเกิดระหว่างภาคเรียนแบบกลาย ๆ สำหรับหนุ่ม ๆ การที่ได้ประหยัดค่าข้าว 1 มื้อสำหรับเด็กมัธยมเป็นอะไรที่สุดยอดทีเดียว
แม้ทุกคนจะมีตังค์ค่าขนมมากกว่าคนทั่วไป แต่การได้ประหยัดค่าข้าวแสนแพงไปหนึ่งมื้อนั้นเห็นเรื่องดีสุด ๆ เพราะสามารถนำไปทำอย่างอื่น อย่างการเล่นเกมในเกมเซ็นเตอร์ได้นานขึ้น ! ไหนจะนำไปซื้อมังงะที่ชอบได้อีก แบบนี้ใครจะไม่ชอบ !
พชรก็เช่นกัน แม้จะได้เงินค่าขนมจากคุณแม่มาเยอะพอควร แต่การได้ประหยัดค่าข้าววันนึงมันก็จำเป็นเหมือนกัน
“วันนี้เราจะมาเล่นเกมไม้สั้นไม้ยาวกัน”
เกมไม้สั้นไม้ยาว เป็นเกมสุดฮ็อตที่พวกนักเรียนมัธยมมักเล่นเวลาต้องการหาตัวแทนห้องหรือทำอะไรก็ตามที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากทำ เป็นเกมที่ดีเวลาจะหาใครสักอย่างให้ทำเรื่องบางเรื่องที่ไม่สามารถตกลงกันด้วยคำพูด
ดูจะเป็นทางออกที่ดีในการหาตัวแทนทำเรื่องต่าง ๆ ทว่าสำหรับผู้ที่ได้ไม้สั้นหลังจากที่เล่นด้วยคงไม่ใช่เรื่องแฮปปี้เท่าไหร่ อย่างพชรที่เป็นพวกดวงกุดมีหรือจะไม่รู้สึกตัวสั่นหลังได้ยินชื่อเกม
“หลังจากนี้ทุกวันเราจะเล่นเกมไม้สั้นไม้ยาวกันก่อนออกไปพักเที่ยง !”
ชายคนนั้นประกาศกร้าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทำเอาผู้ชายในห้องทุกคนต่างร้องโห่ออกมาเสียงดังทำเอาพชรเผลอแอบมองไปนอกห้องมองหาอาจารย์อยู่แว๊บนึงเลยทีเดียว เขาคิดไปถึงกระทั่งถ้ามีอาจารย์เข้ามาจะเอาตัวรอดยังไงเลยทีเดียว
“เดี๋ยวก่อน ๆ อย่าเพิ่งโห่ร้องกันงี้ดิ พวกนายไม่คิดเหรอแต่ละวันพวกเราต้องเรียนหนัก ๆ โดยไม่ได้มีเรื่องอะไรสนุก ๆ ให้เล่นเลย มันน่าเบื่อไม่ใช่เหรอ ? ไม่คิดเหรอว่าการที่ทางออกเช่นหาเกมอะไรคลายเครียดเล่นจะไม่เป็นทางออกที่ดีอย่างงั้นหรอกหรือ บทลงโทษฉันไม่เป็นคนคิดก็ได้ แต่เราจะมาเสนอแล้วโหวตเอา เป็นยังไงล่ะ ! เวิร์คเปล่า”
ชายคนต้นผู้ดูจะชอบความตื่นเต้นอธิบายสิ่งที่ต้องการออกมา พชรมองเข้าไปในนัยน์ตาตาสีดำหลังแว่นหนารูปทรงสี่เหลี่ยม ชายคนนี้ให้ความรู้สึกต่างจากเด็กเนิร์ดทั่ว ๆ ไปที่พชรรู้จัก โดยปกติเด็กเนิร์ดจะเป็นพวกเงียบ ๆ ต่อต้านสังคมหน่อย ๆ ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง แต่กับคนนี้ดูเหมือน นอกจากเนิร์ดแล้วยังน่าจะเป็นพวกบ้าชอบความท้าทายด้วย
“ที่นายพูดมาก็น่าสนใจนะ ฉันเอาด้วย”
คนที่พูดนั้นไม่ใช่ใคร แต่เป็นพชรนั่นเอง ต่อให้เจ้าตัวพยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นหนุ่มหล่อ แต่ก็ตัดขาดจากความน่าตื่นเต้นไปไม่ได้ พอเอาด้วยพวกผู้ชายในห้องอีกสิบกว่าคนเริ่มคล้อยตามแล้ว และสุดท้ายก็เป็นไปได้ด้วยดี
จับไม้สั้นไม้ยาว !
“ในเมื่อทุกคนเห็นด้วยแล้ว เรามาคิดบทลงโทษกันดีกว่า วันนี้เป็นวันแรก ฉันให้พวกนายตกลงกันเอาเองแล้วกัน เอ้อแล้วก็ ช่วยเรียกฉันว่าหัวหน้านะ นับจากนี้ไป”
“ห้ะ ?”
แต่ละคนต่างร้องห้ะ ? ไม่นานเขาก็สถาปนาตัวเองเป็นหัวหน้าซะแล้ว ทว่าแม้เป็นเช่นนั้นก็ไม่มีใครสักคนที่ขัดเขา แม้แต่พชรที่อย่างเป็นหนุ่มฮ็อตยังไม่อยากขัด เพราะอีกฝ่ายได้กุมอำนาจอันใหญ่หลวงที่มีชื่อว่าค่ากับข้าวกลางวัน 1 มื้อในมือ เด็กหนุ่มผู้อยากนำเงินไปทำอย่างอื่นต่างยอมคล้อยตามโดยง่ายจนน่าประหลาด
ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็ขอเอาด้วยแล้วกัน คนอื่น ๆ ก็คิดแบบเดียวกันหมด ทุกอย่างเลยไปในทิศทางบวก หัวหน้ากลุ่มเท้าสะเอวแล้วยิ้มอย่างพอใจกับผลลัพธ์ที่ตนได้นำค่าอาหารที่เก็บตังค์ไว้ตั้งแต่ปิดเทอมเข้ามาแลก
“หัวหน้า เอางี้ม่ะ บทลงโทษวันนี้ใครได้ไม้สั้นให้ไปจีบคุณเทียร์ร่าเป็นไง”
“เฮ้อ”
หลังจากจบการจับไม้สั้นไม้ยาว พชรก็เดินออกมาจากห้องด้วยท่าทีห่อเหี่ยว ผลลัพธ์เป็นที่แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อดูจากสีหน้าที่เพื่อน ๆ รอบตัวเบิกบานขณะที่มีเจ้าตัวคนเดียวเดินซึมออกมา
“เฮ้อ แล้วจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย พวกนั้นตามไม่หยุดด้วยสิ”
ไม่ใช่พชรคนเดียวที่เดินออกมา ยังมีพวกผู้ชายในห้องที่แอบตามมาแบบห่าง ๆ เพื่อสังเกตการณ์อยู่ด้วย พวกนั้นน่าจะได้ยินข้าวลือที่พชรเดินชนกับเจ้าตัวตั้งแต่วันที่เปิดเรียนแล้ว ทว่ากลับไม่ได้สนใจเสียอย่างนั้น ราวกับต้องการให้ทั้งสองปรับความเข้าใจกันมากขึ้น ไม่ก็ต้องการให้โดนปฏิเสธแบบไม่ใยดีเหมือนคนอื่น ๆ จึงได้ตามติดคอยกดดันอยู่แบบนี้ พชรถอนหายใจยอมแพ้กับทุกอย่าง ปล่อยความคิดที่หนักอยู่ออกจากหัว
“พชร ๆ นั่นไง เธออยู่นั่น !”
เดินมาไม่ทันไร ก็มีเสียงจากหัวหน้ากระซิบมาจากด้านหลัง เขาชี้ไปอีกด้านหนึ่ง เป็นทางที่เทียร์ร่ากำลังเดินมา
“รู้แล้วน่า”
“ว- ว่าไง”
เมื่อเป้าหมายเดินมาใกล้ พชรก็โบกมือทักทายพร้อมพูดเสียงสั่น เมื่อวานเพิ่งทำบาปไป ถ้าเธอตอบกลับมาคงเป็นเรื่องแปลกเขารู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว
ซึ่งเป็นไปตามคาดเธอไม่แม้แต่เหลียวมองเลยสักนิดเดียว เธอเดินผ่านไปเสมือนไม่มีคนยืนอยู่ตรงหน้า
“โห เธอเมินกระทั่งหนุ่มฮ็อตเลยเหรอวะ”
หัวหน้ามาตบไหล่พชรเบา ๆ ไม่นานก็มีพวกคนอื่น ๆ เดินตามกันมาสมทบ
“สู้ ๆ เพื่อน บทลงโทษนี้มีผล 1 สัปดาห์ และระหว่างบทลงโทษนายจะไม่ได้จับไม้สั้นไม้ยาว ถือว่าโชคดีไปนะ ฮ่า ๆ”
ชายอีกคนพูด
’ชายคนนี้ไว้ผมยาวเหมือนพวกอันธพาลและย้อมเป็นสีแดง ท่าทีของเขาเหมือนแบดบอย ตัวสูงใหญ่ มีกล้ามด้วย และหมอนี่ชื่อ ไมค์ ดูจะเป็นพวกเกาะติดแล้วเป็นแก๊งค์ร่วมกับฉันที่เป็นตัวเอกแหง‘
“ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจ แต่จะดีกว่านี้นะถ้าพวกนายทำเป็นไม่สนใจ”
“อะไรกัน ๆ เราเป็นเพื่อนกันนี่ จะให้ปล่อยผ่านไปได้ยังไง ฮ่า ๆ ยังไงก็สู้ ๆ นะเพื่อน พวกเราก็ไม่ได้ให้นายสารภาพรักสักหน่อย แค่ตามจีบเท่านั้นเอง”
หัวหน้าห้องพูดตบไหล่เบา ๆ แล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี พชรมองแว่นที่น่าทำให้แตกนั่นสักพักก่อนถอนหายใจออกมา
“นั่นมันไม่ต่างกันเลยไม่ใช่เหรอ-”
“กรี๊ด น้องพชรล่ะ มาทำอะไรที่นี่เหรอคะ ? รู้จักโรงเรียนนี้ดียังให้พวกเราแนะนำให้ไหมเอ่ย”
เสียงนักเรียนหญิงสองคนดังขึ้นขัดบทสนทนาทั้งสามด้วยประโยคน่ารำคาญสำหรับหนุ่ม ๆ รอบข้าง
“ชิ พวกหน้าตาดี”
“ชิ พวกหนุ่มฮ็อต”
ทั้งสองประสานเสียงส่งสายตานิ่งเรียบอย่างกับพวกตัวตบมุกในมังงะ
“ขอโทษนะครับ เลดี้ทั้งสอง พอดีว่าผมมีนัดแล้วน่ะครับ ไว้วันอื่นแล้วกันนะ”
พชรพยายามกดเสียงพูดลงต่ำ พวกสาว ๆ ต่างก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ไม่แน่ใจเป็นที่ประโยคพูด หรือเป็นเพราะคนพูดกันแน่
“นี่พชร ข้อนี้รู้ไหมอะ สอนหน่อยสิ“
ในคาบเรียนคณิตศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาคำนวณ โชคดีที่ก่อนจะเปิดเทอมพชรได้ไปเข้าคอร์สเรียนต่าง ๆ แทบจะหมด ก็เลยเข้าใจโจทย์ได้ง่าย ๆ เพียงแค่มองดู
“แน่นอนสิ โจทย์พวกนี้ไม่ค่อยยากด้วย แล้ว ? ไม่เข้าใจตรงไหนบ้างเหรอ”
ในระหว่างคาบเรียน ไอซ์สาวสวยท่าทางร่าเริงที่แย่งโต๊ะศักดิ์สิทธิ์ไป เธอถามด้วยใบหน้าไม่เข้าใจ โจทย์พวกนี้สำหรับคนเพิ่งเริ่มเรียนอย่างไม่เร่งรีบคงถือว่ายาก
ว่าแล้วก็ใช้เวลาเกือบทั้งคาบเรียนสอนเธอ สำหรับพชรต่อให้ไม่เรียนก็ไม่เป็นไร เพราะเรียนนำคนอื่นไปไกลแล้ว ต่อให้อาจารย์ถามอะไรมาก็ตอบได้หมดเลยไม่จำเป็นต้องกลัว
ก็มีหลายครั้งที่อาจารย์เรียก แต่เจ้ากรรมก็ตอบได้ทุกคำถามเขาเลยทำเป็นไม่เห็นในที่สุด
ส่วนไอซ์นั้นก็เริ่มจะเข้าใจอะไร ๆ มากขึ้น โชคดีที่เธอนั่งใกล้พชร เลยเลื่อนโต๊ะเข้าหาพชรและให้สอนได้อย่างใกล้ชิด
เมื่อจบคาบเรียนเธอก็กล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม เพราะคาบเรียนนี้เป็นคาบเรียนสุดท้าย พอเรียนเสร็จนักเรียนส่วนใหญ่เลยตรงดิ่งกลับบ้านในทันที เว้นแต่กลุ่มพวกผู้ชายเจ้าเก่า
“เห้ พวกนายอย่างเพิ่งกลับบ้านนะเว้ย วันนี้ฉันมีเรื่องสนุก ๆ ให้ทำ”
หัวหน้าพูดเสียงดังเพื่อให้พวกผู้ชายในห้องได้ยิน
“ไอ้หน้าหล่อ นายออกไปรอหน้าอาคารเลยไป”
อยู่ ๆ ก็ได้ฉายาใหม่อย่างไม่ทันตั้งตัว พชรยิ้มเจื่อนก่อนเดินออกจากห้องแต่โดยดี
“เอ้า ไหงงั้นละ”
“เถอะน่า นายไปเถอะ”
หลังจากที่พชรออกจากห้อง ในที่สุดก๊วนหัวหน้าก็จะได้เริ่มแผนการ
พวกเขาดึงเก้าอี้เรียนในห้องโดยไม่สนใจว่าเป็นของใครเข้าล้อมวงเป็นโต๊ะกลมราวกับกำลังประชุมเรื่องใหญ่
“หัวหน้า วันนี้มีแผนอะไรเรอะ”
ไมค์ หนุ่มแบดบอยผมแดงที่ถูกสถาปนาโดยพชรเอ่ยปากถามหัวหน้าห้องที่กำลังกระดกแว่นแล้วยิ้มน่าขนลุก พวกผู้ชายคนอื่น ๆ ทำสีหน้าสนอกสนใจกับเรื่องสนุกกับสิ่งที่หัวหน้ากำลังจะพูด
“วันนี้เราจะออกปฏิบัติการ ซัพพอร์ตไอ้หน้าหล่อจีบคุณเทียร์ร่ายังไงล่ะ !”
“ไม่ดีมั้ง ถ้าเราโดนรู้แผนการมีหวังซวยกันทั้งห้องเลยนะ”
“นายยังไม่ได้ฟังแผนการเลย อย่าเพิ่งตัดสินใจสิโถ่”
“งั้นก็พูดแผนของนายมาสิ”
ไมค์ดูจะเห็นด้วยกับหนุ่มแว่นกลมท่าทางไม่มั่นใจในตนเองจึงถามเสริม
“ไมค์ วันนี้นายคือตัวเอกของแผนการวันนี้”
หัวหน้าหัองชี้นิ้วหาเจ้าตัว ไมค์ทำสีหน้างงงวยแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแล้วเอียงคอ
“นายที่ถูกมองเป็นพวกอันธพาลอยู่แล้ว เพื่อให้แผนการนี้ไปได้สวย นายจะต้องเป็นตัวแสดงหลัก !”
เวลาผ่านไปไม่กี่นาที ห่างออกมาจากห้องเรียนของพชรที่อยู่ชั้นสามของตึกไม่ไกล ตรงโต๊ะม้าหินอ่อนที่มีนักเรียนหลายคนนั่งเม้าส์มอยหลังเลิกเรียน ที่โต๊ะท้ายสุดมีพชรนั่งเลื่อนมือถือของตนเงียบ ๆ พลางถอนหายใจ
“โห ผู้ติดตาม 17 ล้าน นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่วะเนี่ย”
พชรนั่งบ่นพึมพำคนเดียวเมื่อได้ลองค้นหาชื่อของเทียร์ร่าดูในเน็ตที่ได้ยินจากคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลาจนแทบเอือม ในตอนแรกเจ้าตัวก็คิดว่าเธอดังอยู่สมควร แต่ไม่คิดว่าจะดังถึงขนาดมีผู้ติดตามเป็นล้าน
“ว— หวัดดี เราอยู่อาคารเดียวกันเหรอเนี่ย ไม่ยักรู้มาก่อนเลยนะ”
ในระหว่างที่กำลังเล่นมือถือ สายตาพชรเหลือบเห็นเทียร์ร่าที่กำลังเดินมาทางตนที่นั่งอยู่ แทนที่จะรู้สึกดีกลับให้รู้สึกแปลก ๆ เขาเผลอเหม่อมองใบหน้านิ่งเรียบอันสลวยดุจนางฟ้าของเจ้าตัวที่ใกล้เข้ามาลบระยะห่างลงเรื่อย ๆ
“นี่นาย เมื่อวานได้ทำอะไรไว้จำได้รึเปล่า”
น้ำเสียงดูอารมณ์เสียสุด ๆ สายตาเจ้าตัวขมวดลงจ้องมองพชรจนแทบจะกลายเป็นสายตาเวลามองขยะ ทำเอาสุดหล่ออย่างพชรกลืนน้ำลายหัวเลาะกลบเกลื่อนแล้วตอบกลับด้วยเสียงสั่น ๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“อ- อะไรเหรอ ไม่เห็นจำได้เลย ฮะ ๆ”
“เฮ้อ นึกว่าจะเป็นสุภาพบุรุษ ไม่น่ามาเสียเวลากับคนอย่างนายเลยจริง ๆ”
“ไม่สิ ไม่สิ ฉันเนี่ยแหละสุภาพบุรุษตัวจริงนะ ต- แต่ว่าเมื่อวานมันฉุกละหุกเกินไปต่างหาก !”
ราวกับลืมภาพลักษณ์ที่ตนพยายามสร้างมา เจ้าตัวแก้ตัวด้วยประโยคชวนอีกฝ่ายถอนหายใจแทนที่จะดีใจ ทำเอาเทียร์ร่าหลี่ตาลงยิ่งขึ้นไปอีก
’อารมณ์ลบสุด ๆ เลยนี่หว่า !‘
“สุภาพบุรุษงั้นเหรอ ? ถ้าคนอย่างนายเรียกสุภาพบุรุษ โลกนี้คงไม่มีใครประดิษฐ์คำว่า ’พวกผู้ชายไม่เอาไหน’ ขึ้นมาหรอกมั้ง“
ประชดประชันได้เก่ง ทำเอาพชรกลืนน้ำลายลงคอ ราวกับเจอบุคคลแพ้ทาง น้ำเสียงกดต่ำ สายตาราวกับมองแมลงข้างทาง อนึ่งท่าทางกอดอกมองต่ำที่อีกฝ่ายกำลังทำอยู่นั้นสามารถสร้างความเสียหายใจทางจิตใจส่งเข้าในใจชายหนุ่มจนรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ
“เงียบทำไมล่ะ ? หรือว่าสุภาพบุรุษอย่างนายไม่กล้าเถียงต่อแล้ว ถ้าภูมิใจนักภูมิใจหนากับคำว่าสุภาพบุรุษก็แสดงมันออกมาซะสิ ตอบมาเดี๋ยวนี้เมื่อวานทำอะไรลงไป”
“เอ่อ บรรยากาศแย่สุด ๆ แบบนี้ถ้าเราไปแทรกมีหวังโดนเจื๋อนแน่”
ห่างออกมาเพียงไม่กี่สิบเมตร ณ บันไดอาคารเรียน ชายหนุ่ม 3 คนผู้กำลังมองหาโอกาสแทรกทั้งคู่เพิ่มแต้มให้หนุ่มหน้าหล่อแต่กลับไม่สามารถแทรกได้เลย บรรยากาศเย็นยะเยือกที่เทียร์ร่าแผ่ออกมานั้นทำให้คนรอบ ๆ ปลีกตัวลุกจากโต๊ะจนพื้นที่รอบข้างเทียร์ร่ากับพชรกลายเป็นเขตอันตรายโดยพลัน
“ถ้าขนาดไมค์ยังกลัวงี้ ถ้าเราเข้าไปคงจะไม่ดี… นั่นสินะ ถ้างั้นวันนี้เรายอมถอยก็ได้”
“ด- เดี๋ยวสิครับ เราจะไม่เข้าไปช่วยพชรหน่อยเหรอ ?“
หัวหน้าห้องกลับไมค์ยอมถอยแต่โดยดีขณะที่หนุ่มแว่นพยายามเข้าไปช่วยพชรแต่ก็โดนไมค์ดึงคอเสื้อถอยออกมาอย่างช่วยไม่ได้