ยัยคนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของผมเสียเปล่า - ตอนที่ 11 กิจกรรมหลัก
ตอนที่ 11
– ในตอนที่ 10 ก็คือตอนก่อนหน้า ผมได้อัพตอนผิดลงบนเว็บ ซึ่งทั้งตอนก็เป็นเนื้อหาตอนที่ 10 อยู่ครับ เพียงแต่แบบร่างมันไม่ถูกต้องตามเนื้อหาที่ปรับเปลี่ยน ซึ่งมารู้ทีหลังตอนตรวจคำผิดซ้ำสอง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้จริง ๆ ครับ เพื่อเป็นการขอโทษจึงขออัพตอนนี้เร็วขึ้น 1 วันแล้วกันนะครับ ขออภัยจริง ๆ –
”เอ่อ… เราต้อง ?”
“ก็อย่างที่พี่เค้าบอก เราต้องหาคำใบ้ให้เจอภายในช่วงบ่าย ที่เค้าบอกก็มีแค่นี้…“
“แต่เราต้องเริ่มจากจุดไหนล่ะ อืม…“
ทั้งสองโหวงเหวงทันทีเมื่อได้รับคำแนะนำหลวม ๆ จากรุ่นพี่โดยบอกแค่ให้หาคำใบ้แค่นั้นราวกับขี้เกียจคิดกิจกรรมต่อ พชรกับเทียร์ร่าและคนอื่น ๆ ต่างโหวงเหวงในลานกิจกรรมกว้างที่มีนักเรียน 5 ร้อยคนไม่รู้จุดไปต่อ
พชรกับเทียร์ร่ายืนนิ่งภายในกลุ่มใหญ่ดังกล่าวขณะนึกคิดในหัวเหมือนคนอื่นที่กำลังเงียบ
”…ฉันให้เวลาพวกนายหาคำใบ้ให้ครบแล้วตอบคำถามให้ได้ ถ้าเกิดหาไม่เจอก่อน 4 โมงเย็นจะต้องถูกทำโทษ“
นั่นเป็นคำพูดปิดท้ายแบบหลวม ๆ เงียบ ๆ จากรุ่นพี่สภาก่อนสั่งให้นักเรียนแยกย้ายหาคำใบ้เพื่อให้เจอคำตอบ ซึ่งคำพูดดังกล่าวเป็นคำพูดซึ่งทำให้นักเรียนนับร้อยขนลุกซู่ พชรเพียงแค่มองรอบ ๆ ที่เหงื่อตกกันเป็นแถบ ๆ ก็รับรู้ความตึงเครียดจากพวกเขาได้
ทว่าขณะที่คนอื่น ๆ ตึงเครียด คู่พชรกับเทียร์ร่าดันแยกออกมานั่งม้านั่งหน้าสหกรณ์ทั้งอย่างนั้น
“แล้ว ? สรุปเราต้องเริ่มจากจุดไหนดีล่ะ”
เทียร์ร่าไม่ช่ำชองเรื่องมินิเกมเพราะไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ หรือต่อให้เข้าร่วมก็จะถูกปล่อยแยกให้อยู่คนเดียวมาโดยตลอดจึงไม่คุ้นชินกับการเล่นประเภทนี้
พอได้นั่งลงก็ถามพชรที่อยู่ในชุดลำลอง กางเกงขายาวสีดำกับเสื้อสีดำที่เปรอะแป้งสีขาวยาวไปถึงใบหน้าเฉกเช่นเดียวกันกับสาวงามผู้ซึ่งหน้าขาวอย่างน่าตลก
“อืม ไม่รู้ว่าคำใบ้มีกี่คำใบ้ เราต้องเริ่มจากจุดไหนแล้วหาตรงไหนก็ไม่รู้ จะหากี่แผ่น หรือเรียบเรียงยังไงก็ยังงง ๆ เอาจริง ๆ ไม่รู้เลยว่าต้องเริ่มยังไง หาจากจุดไหน”
“แล้ว ? ถ้างั้นเราต้องทำไงให้ถูกใจรุ่นพี่ล่ะ เราอ่านใจพวกเขาไม่ได้ แถมยังไม่รู้เลยว่าบทลงโทษจะเป็นยังไง“
”อืม…“
”อือ…“
ทั้งคู่นั่งใช้ความคิดเงียบ ๆ กันสองคน เทียร์ร่ากุมคางขณะที่พชรนั่งนิ่งคิดในหัวพยายามนึกหาอย่างแรกที่ต้องทำ ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าคำใบ้ที่พี่ ๆ บอกจะมาในรูปแบบอะไร จะต้องหากระดาษหรือรับฟัง ไม่ก็ถามจากรุ่นพี่ แต่อันนี้เหมือนจะไม่ได้ผล จากที่พวกเขาสังเกต
”อืม นั่นสินะ”
พชรกับเทียร์ร่าจับจ้องรอบข้างตลอดเวลา ทั้งคู่มองเห็นนักเรียนในรุ่นเดียวกันพยายามถามจากรุ่นพี่แต่ก็ไม่ได้คำตอบ ในหัวข้อสุดท้ายจึงต้องตัดออกไปก่อน
“ถ้าอย่างนั้นเราเริ่มเดินเล่นสังเกตรอบโรงเรียนไปก่อนดีไหม ?“
“อืม… โอเค”
สาวงามยอมทำตามอย่างว่าง่ายโดยไร้คำปฏิเสธหรือแดกดันเหมือนก่อน เธอลุกจากม้านั่งเดินตามพชรขณะที่ตาสาดส่องเก็บรายละเอียดรอบตัว
”เราจะเริ่มจากอาคารของเราก่อนนะ “
พชรเดินนำสาวงามไปยังอาคารของตนที่อยู่ใกล้ประตูทางเข้ามากที่สุด ดูจะเป็นไปได้มากที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่รุ่นพี่เตรียมไว้ให้ ซึ่งการคาดเดานี้ไม่ได้มีแค่พวกเขา ในตอนนี้นักเรียนเกินกว่าครึ่งกระจุกอยู่ตรงนี้
พอทั้งสองปรากฏตัวพลันสายตามากมายจับจ้องทำเอาพชรรับมือไม่ถูกขณะที่เทียร์ร่าไม่ได้สนใจใด ๆ เธอทำตัวปกติราวกับไม่มีใครจ้องมอง
‘คงปกติสำหรับเน็ตไอดอลที่เป็นดาราดังระดับประเทศล่ะมั้ง’
พชรชำเลืองมองสาวน้อยตัวเล็กที่สูงเทียบไหล่ซึ่งกำลังสาดส่องสายตาไปรอบข้างมองหาอะไรบางอย่าง พอเจ้าตัวจับสังเกตสายตาพชรได้ก็ขมวดคิ้ว
“มองอะไร ?”
“โทษที พอดีแปลกใจนิดหน่อยน่ะ ทั้งที่คนมองเยอะขนาดนี้แต่กลับไม่เขินไม่อาย ยอดจริง“
”อ๋อ ก็แน่นอน“
สาวงามตอบกลับสบาย ๆ
“แล้ว… ? นายมีอะไรอยากทำไหม”
“ก็นึกไว้ประมาณนึงแล้ว ถึงจะไม่ใช่เกี่ยวกับคำใบ้ทีเดียวก็เถอะ”
“นึกอะไรได้งั้นเหรอ ?”
“ก็ตอนช่วงที่เราทำหน้าที่ชักธง ฉันเผลอได้ยินบางอย่างเข้าน่ะสิ เพิ่งมานึกได้ตะกี้แหละ”
”เข้าใจแล้ว ถ้ามีแผนมาก่อนก็นำเลยแล้วกัน ฉันจะให้ความร่วมมือเต็มที่เลย“
พชรอดยิ้มไม่ได้กับการให้ความร่วมมืออีกฝ่ายที่มากเกินกว่าที่คิด เขามองหน้าอันสุดแสนตั้งใจนั้นก่อนหัวเราะในลำคอ พอได้มองก็อดสงสัยไม่ได้ จริง ๆ แล้วเธออยากเจอเขามาก หรือแค่รีบ ๆ ทำกิจกรรมให้เสร็จเพราะมีตากล้องคอยถ่ายรูปอยู่กันแน่
“พชร ! นายเองก็จะเริ่มตรงนี้เหมือนกันเหรอ!”
พชรยังไม่ทันได้เข้าตัวอาคารก็มีเสียงทักทายอันคุ้นหูจากสาวงามโต๊ะข้าง ๆ เพียงแค่หันหลังกลับก็พบรอยยิ้มร่าเริงตามแบบฉบับ ข้าง ๆ เธอมีผู้หญิงอีกคนยืนอย่างเขินอายไม่สบตากับพชร
“ใช่ เธอเองก็จะเริ่มจากตรงนี้เหรอ”
“อื้อ พอดีตั้งแต่ช่วงเช้านู่นพี่เอาแต่พูดถึงที่นี่กันแบบอ้อม ๆ น่ะ ก็เลยคิดว่าคำใบ้แรกที่รุ่นพี่พยายามส่งให้น่าจะเริ่มตั้งแต่กิจกรรมแรกเลย”
“อ้ะ นั่นสินะ พอได้ยินแบบนั้นทำเอานึกขึ้นได้เลย ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะ”
“อ้ะ ว่าแต่นั่น ! คุณเทียร์ร่า สวัสดีค่ะ !”
“อือ”
เทียร์ร่าตอบเพียงสั้น ๆ เธอไม่ได้อายแต่เหมือนไม่อยากเสวนามากกว่า พชรมองท่าทีต่อต้านของเจ้าตัวที่แสดงออกมาโต้ง ๆ ทำเอาอดหัวเราะไม่ได้ แบบนี้ไม่แปลกใจเลยที่คนรอบข้างจะมองว่าเย็นชาจนไม่มีเพื่อน
พชรเองเห็นด้วยกับคนอื่น ๆ เช่นเดียวกันจึงหัวเราะในลำคอขณะเปลี่ยนเรื่องคุยกับสาวงามที่เพิ่งปรากฏตัว
“ทางฉันเองก็พอมีข้อมูลเหมือนกัน ถึงจะไม่ได้จากวันนี้ แต่ก่อนหน้าเคยได้ยินรุ่นพี่บ่นถึงความยากในการคิดเกมนี้พอสมควรน่ะ พวกเขาบอกว่าเกมนี้เป็นเกมที่ยาวเกิน 4 ชั่วโมงหากเริ่มต้นผิดจุดแล้วลำดับผิดเพี้ยน“
”อือ ก็พอเดาได้อยู่…”
“เพราะงั้นรุ่นพี่จึงมีบอกในคำใบ้เป็นนัยน์ ๆ อยู่ว่าอันไหนเป็นของอันไหน แต่คงไม่ได้บอกตรง ๆ ล่ะนะ เพราะงั้นนอกจากพยายามวิเคราะห์จุดต่อไป ช่วยวิเคราะห์ลำดับที่รุ่นพี่พยายามบอกด้วยล่ะ”
“อื้อ ขอบคุณนะ“
”เหมือนกัน ถึงทางนี้จะไม่ได้ให้อะไรเยอะเท่าไหร่ก็เถอะ“
“ไม่เลย ๆ ข้อมูลที่ให้มาน่ะ มันสำคัญมากเลยนะ ถ้าเกิดนายไม่ได้บอก พวกเราคงมองข้ามไปแล้ว“
“ว่างั้นก็โอเค ถ้างั้นไว้เจอกันนะ”
“อื้อ ! วันนี้ก็พยายามเข้าล่ะ ดูเหมือนจะลำบากทีเดียวใช่ไหม“
ไอซ์พูดจบก็ชำเลืองมองเทียร์ร่าที่ยืนกอดอกเงียบ ๆ โดยไม่ได้เร่งหรือขัดบทสนทนาใด ๆ เธอไม่ได้คิดว่าเทียร์ร่าเป็นตัวถ่วง แต่เป็นความปรปักษ์ที่สาวงามมอบมันให้แก่ทุกคนจึงคิดว่าพชรไม่น่ารอด
”ขอบใจ ถ้างั้นโชคดีล่ะ“
พชรโบกมือแยกจากไอซ์สาวงามผู้ร่าเริงที่ยิ้มแย้มแจ่มใสทำให้บรรยากาศรอบตัวเธอดูผ่อนคลายน่าอยู่ด้วย ซึ่งต่างจากสาวงามข้าง ๆ ผู้ยืนกอดอกอยู่เงียบ ๆ พอจับสังเกตได้ก็เอียงคอ
“อะไร ?”
“เปล่า ๆ โทษที ถ้างั้นเธอมีจุดที่อยากเริ่มเป็นพิเศษไหม ?”
“ไม่มี- ฉันคิดว่าบางทีอาจเป็นห้องของอาจารย์สักคนนะ ไม่คิดว่าจะเป็นห้องเรียนของนักเรียนหรอก เพราะมันเยอะเกินไป ฟังจากนายพวกเขาเองก็ดูพยายามจะลดเวลาให้ได้มากที่สุดด้วยเพื่อให้เราจบกิจกรรมนี้ได้ก่อน 4 โมงเย็น…”
“โอเค ห้องอาจารย์สินะ”
“ไม่ เราจะไปห้องทดลองวิทยาศาสตร์ที่ชั้น 3 กัน”
“มีเหตุผลหรือเปล่า”
”ตอนประกาศว่าจะมีการรับน้องน่ะ มีรุ่นพี่จาก 5/2 เป็นนักเรียนที่แข่งขันวิทยาศาสตร์ได้ที่ 1 เป็นคนประกาศ และห้องเรียนที่เขาใช้เป็นประจำก็น่าจะเป็นห้องนั้น…“
“จะว่าไปก็ใช่แฮะ”
พชรพยักหน้าหงึก ๆ ขณะเดินตามสาวงามขึ้นชั้นบนอาคาร พอได้ยินสาวงามวิเคราะห์จากข้อมูลที่มีซึ่งไม่ใช่การคาดเดาก็พยักหน้าหงึก ๆ
‘จะว่าไปแล้วเธอก็สังเกตรอบข้างอยู่ตลอดแฮะ ตอนแรกนึกว่าจะสนใจแค่ตัวเองซะอีก’
ระหว่างเดินตามหลังก็นึกในหัว พอได้รู้จักนานขึ้นเรื่อย ๆ ได้พูดได้คุยก็เริ่มมองเจ้าตัวในทิศทางที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ เด็กคนนี้ก็น่าจะเป็นเด็กนักเรียนปกติเหมือนคนทั่วไปที่อยากใช้ชีวิตในโรงเรียนเหมือนกันคนอื่น ๆ
เธอสังเกตสิ่งรอบข้าง รับรู้อารมณ์ และเก็บข้อมูลรอบตัวอยู่ตลอด ถึงไม่ได้หวือหวาแต่ก็รับรู้ได้ถึงความธรรมดาสามัญจากตัวเธอที่เหมือนคนอื่นในวัยเดียวกัน ในหัวเธอตอนนี้คงไม่ได้นึกถึงเรื่องกลับบ้าน แต่เป็นเรื่องแก้ไขปริศนาที่อยู่ตรงหน้าแทนเป็นแน่แท้ ซึ่งแน่นอน เหตุผลที่สาวงามให้ความสนใจคงไม่ใช่เหตุผลเดียว ไม่มากก็น้อยคงมีเรื่องตัวตนพชรในอดีตร่วมด้วยเป็นแน่แท้
“… โอ๊ะ ดูเหมือนเราจะมาเป็นคนแรกแฮะ”
“ก็นะ ตอนนี้คนส่วนใหญ่คงสนใจห้องอาจารย์ที่ปรึกษาสภา กับห้องเรียนคณะสภากันอยู่ โดยเฉพาะโต๊ะเรียนของพี่รินคงถูกตรวจสอบอย่างละเอียด”
“…จะว่าไปเธอก็ดูสนใจคนรอบข้างดีนะเนี่ย”
“… ก็มั้ง ?“