ยัยคนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของผมเสียเปล่า - ตอนที่ 1 ผิดหวัง และสมหวัง
“เอ่อ ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้ชอบคุณ”
เป็นคำตอบที่ไม่อยากจะได้ยินมากที่สุดจากผู้หญิงที่หลงรักมาอย่างยาวนาน ด้านหน้าน้ำเสียงกระแทกกระทันพร้อมใบหน้าบึ้งตึงเย็นชาทำเอาหนุ่มน้อยเม้มปาก
“ทำไมล่ะ ฉ- ฉันมันไม่ดีตรงไหน เธอรู้ไหมฉันต้องพยายามมากแค่ไหนเพื่อที่จะสารภาพรักออกไป ฉันอดหลับอดนอนมาหลายวันเลยนะกว่าจะพูดออกไปได้ แต่เธอกลับแค่ เฮ้อ…“
เจ้าหนุ่มเผลอจับไหล่ทั้งสองข้างอีกฝ่ายแล้วพูดออกมาอย่างน่าสงสาร สาวน้อยผู้ถูกจับไหล่รีบปักมือออกแสดงท่าทีรังเกียจออกมาโดยไม่ได้สนใจใด ๆ
“คุณมันหน้าตาไม่ดี คนอย่างคุณไม่คู่ควรกับฉันหรอกค่ะ”
…
“ไม่เข้าใจเลยทำไมสังคมนี้ต้องมองคนที่หน้าตากันด้วย ทั้งที่ฉันพยายามจะเปลี่ยนตัวเองจากเมื่อก่อนแล้วแท้ ๆ”
เด็กหนุ่มได้แต่บ่นพึมพำโทษนู่นนี่นั่นไปเรื่อยอย่างน่าเวทนา มือทั้งสองทำได้แค่กำหมัดแน่น คุกเข่าลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงมองอีกฝ่ายเดินจากไปเรื่อย ๆ จนสุดสายตา เขากัดริมฝีปากก่อนกรีดร้องออกมากับความผิดหวังกับความรักรอบที่ 10
ภายในห้องนอนอันรกรุงรังเด็กหนุ่ม ทั่วห้องเต็มไปด้วยซองขนมมากมาย ที่โต๊ะแต่งหน้าที่แม่ตนซื้อให้ได้มีผู้ชายหน้าตาไม่ได้มาตรฐานสังคมคนหนึ่งส่องกระจกและลูบคลำใบหน้าที่เต็มไปด้วยตุ่มสิวมากมาย ใบหน้าคล้ำ ขอบตาดำ นี่มันเป็นลักษณะชั้นยอดของโจรในละครไทยเลยล่ะ
“ไม่ไหว ฉันจะต้องเปลี่ยนตัวเองแล้ว !”
“พี่ ช่วยเบาเสียงลงหน่อยได้ไหม มันน่ารำคาญ ละก็เลิกส่องหน้าตัวเองได้แล้ว มันไม่ทำให้พี่หล่อขึ้นหรอก”
“เหอะ ไม่ว่าใคร ๆ ก็พูดแบบนั้น คอยดูเถอะ ฉันจะต้องหล่อขึ้นแล้วเป็นหนุ่มฮ็อตให้ได้ !”
เจ้าหนุ่มพูดกับน้องสาวอย่างฮึกเหิมอีกครั้ง เธอทำหน้าเอือมระอาก่อนที่จะปิดประตูห้องแล้วเดินจากไปไม่ได้พูดอะไรต่อกับพี่ชายของตน
3 ปีผ่านไป
“ว้าว ดูนั่นสิโรงเรียนของเรามีหนุ่มหล่อมาอีกแล้ว”
“โห อย่างกับเจ้าชายเลยอะเธอ !”
“นั่นสิ ๆ อยากรู้จังเขาอยู่ห้องไหน”
“นี่พวกเธอไม่รู้จักเหรอ เขาคนนั้นคือ พชร ม.4 ห้อง 2 ไง นอกจากเขาจะหล่อแล้วเขายังเรียนเก่งอีกด้วย คะแนนสอบเข้าของเองเขายังเป็นอันดับ 2 อีกด้วยล่ะนะ อร้าย~ คนอะไรจะเพอร์เฟคได้ขนาดนี้”
“หึ”
พชรโคตรจะพอใจให้กับผลลัพธ์ที่ได้หลังจากพยายามมาหลายปี เขาเสยผมขึ้น ยิ้มแล้วเก๊กหล่อหันข้างก่อนก้มหัวให้ตามฉบับมังงะที่เคยอ่าน
“สวัสดีนะครับ ผมชื่อพชร หลังจากนี้ขอฝากตัวด้วยนะครับรุ่นพี่”
‘วันแรกต้องสร้างความประทับใจด้วยการแนะนำตัวอย่างสุภาพ ! คำพูดนี้เป็นคำพูดที่พวกตัวเอกหล่อ ๆ มักพูดกับนางเอกตอนเปิดเทอมในนิยาย เพอร์เฟค ! ฮ่า ๆ ‘
ความคิดเริ่มเลยเถิด มัวแต่คิดบรรยายถึงความหล่อของตัวเองจนลืมฟังที่พวกรุ่นพี่พูด
‘คนหล่อจะต้องทำตัวหยิ่ง ๆ เข้าไว้ หลังจากแนะนำตัวเราก็จะต้องรีบเดินจากไปในทันที !’
พวกสาว ๆ ที่เพิ่งแนะนำตัวต่างก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่กับความหล่อของพชร ที่มีใบหน้าดุดเทพบุตรหลุดมาเกิด
ทว่าขณะเดินได้เรื่อย ๆ มัวแต่ยิ้มให้กับผลลัพธ์จนลืมมองด้านหน้า จนกระทั่ง
“โอ้ย”
เดินไปชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งจนอีกฝ่ายล้มลงกับพื้น ขณะพชรผู้มีร่างกายแข็งแรงอยู่แล้วไม่ได้รับผลกระทบอะไร ทว่าภาพแก้วชาไข่มุกที่กำลังลอยขึ้นเหนือหัวอย่างเชื่องช้า มันทำให้ฉุกคิดขึ้นได้
ในตอนนี้พชรมีทางเลือกสองทาง ทางแรกคือยอมโดนแก้วนั่นเพื่อไม่ให้แก้วตกลงโดนตัวอีกฝ่าย และทางที่สองคือหลบแบบดิจิตอลและเธอก็จะโดนแก้วนั้นเต็ม ๆ
และแน่นอนถ้ามันโดนตัวจะต้องตัวเหนียวทั้งวันไม่ต้องสงสัย ! ทว่าที่มันแน่นอนอยู่แล้วถ้าเป็นสุภาพบุรุษเขาจะต้องรับมันแทนนางเอก แม้แต่ตัวพชรเองก็คิดอย่างนั้น
แต่ว่า …
‘ไม่ได้ ๆ แย่แน่ ๆ ถ้าฉันต้องเปียกทั้งวันตั้งแต่วันแรก’
’ผมจำเป็นต้องเลือกทางที่สอง !‘
พชรโยกตัวหลบก่อนที่แก้วชาไข่มุกจะโดนตัว ซึ่งพอเป็นเช่นนั้นแก้วก็ตกศีรษะเธอเต็ม ๆ
เป็นที่แน่นอนที่สุดว่าวันนี้เธอจะต้องตัวเหนียวทั้งวันอย่างไม่ต้องสงสัย แค่คิดก็น่าสงสาร ทว่ากับพชรที่รักสะอาดกลับไม่ได้คิดเสียสละให้เสียอย่างนั้น
“ขอโทษนะ พอดีว่า-“
พชรกำลังพูดขอโทษต่อ ทว่าสายกลับประสานเข้ากับนัยน์ตาสวยกลมโต ที่ประดับใบหน้าอันสวยเกินมาตรฐานไปไกลลิบทำเอาพชรเคลิ้มไปกับความสวยของเจ้าตัวอยู่นาน
‘น่ารัก ! เธอน่ารักเกินไปแล้ว อย่างกับดาราดังเลย’
“เฮ้ย นั่นคุณ เทียร์ร่า ไม่ใช่เหรอ”
“จริงดิ คนที่กำลังดังในช่วงนี้อะนะ โหย ไม่นึกว่าเธอจะมาที่โรงเรียนเราด้วย”
“แต่ถึงอย่างนั้นแกอย่าคิดไปจีบเชียว ข่าวลือที่โรงเรียนเดิมของเธอไม่ค่อยจะน่าฟังเท่าไหร่”
“ที่ว่าเธอปฏิเสธผู้ชายทุกคนที่เข้าหาเธอน่ะนะ แล้วไอ้หน้าหล่อคนนั้นมันคิดจะทำอะไรน่ะ ทำไมถึงปล่อยให้สาวน้อยน่ารักต้องตัวเหนียวด้วย !”
พอได้เห็นสวมงามล้มลงตัวเหนียงหลังจากชนกับรอบรอบข้างก็เริ่มให้ความสนใจ ทั้งชายและหญิงค่อย ๆ ส่งสายตาด้วยความรู้สึกหลากหลายมองทั้งสอง ทำเอาพชรทำตัวไม่ถูก
“เฮ้ พวกนายกำลังจะว่าน้องพชรผิดอย่างงั้นเหรอ ดูยังไงยัยอกกระดานนั่นก็เป็นคนเดินไปชนเขาเองนะ”
สำหรับหนุ่มหล่อการทำอะไรสักอย่างไม่ว่าจะดีหรือแย่ก็จะมีผลลัพธ์สองอย่างสำหรับสังคมรอบข้างเสมอ ถ้าเกิดเปลี่ยนจากพชรที่อยู่ตรงเป็นพชรเมื่อหลายปีก่อน เขาไม่อาจมั่นใจเลยว่าจะได้รับความสนใจจากสาว ๆ มากขนาดนี้หรือเปล่า
ทว่าที่มากกว่าจะสนใจเรื่องพวกนั้น พชรกลับยกริมฝีปากขึ้นอย่างพอใจเสียอย่างนั้น
‘พลังของหนุ่มหล่อล่ะ !’
“ยิ้มอะไรของนาย น่าขยะแขยง”
สาวงามส่งสายตาไม่เป็นมิตรขั้นสุดให้พชร อารมณ์เจ้าตัวดูจะไม่ดีสักเท่าไหร่
“อ๊ะ”
‘ต้องรีบหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด’
พชรพยายามหลบตาค่อย ๆ ปลีกตัวออกจากจุดนั้นเงียบ ๆ เขาไม่ถูกกับที่คนเยอะขนาดนั้น มันน่าดีใจที่ได้รับความสนใจ ทว่าบางทีการได้รับสายตาที่ไม่ใช่มีอารมณ์หลากหลายก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าตอนนี้ถ้าเป็นหนุ่มหล่อ เขาต้องแสดงท่าทียังไง ต้องยื่นมือให้สาวงามแล้วดึงเธอขึ้นมาไหม
ทว่าถ้าทำอย่างนั้นมันจะลบเรื่องที่ว่าตนหลบแก้วน้ำปล่อยให้น้ำหกเลอะตัวเธอได้เหรอ ? แน่นอนว่าไม่ เพราะสำหรับพชรที่กำลังถูกคำพูดต่าง ๆ นานาปิดกั้นความของตนอยู่นั้นเลือกแอบเดินปลีกตัวออกมา
“เฮ้ นายไม่คิดจะชดใช้หน่อยเหรอ !”
‘เหอ ๆ ชดใช้เหรอ ไม่สนเว้ย !’
“ด- เดี๋ยว-”
“เฮ้อ เหนื่อยตั้งแต่วันแรก”
พอมาถึงห้องก็มองหาโต๊ะที่จะนั่ง เพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ดังนั้นคนที่มาก่อนจะมีสิทธิ์เลือกโต๊ะก่อน สำหรับพชรผู้วางแผนทุกอย่างไว้แล้วมีหรือจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปได้ พชรเดินเข้ามาในห้องปล่อยบรรยากาศเชิงบวกขณะฮึมฮัมเพลงเมื่อมองเห็นที่ที่ต้องการ
เก้าอี้มุมห้องริมหน้าต่างเป็นที่ที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่ ม.ต้น แต่ไม่มีโอกาสได้นั่งเลยสักครั้ง
วันนี้พชรมาเร็วก็เพื่อโอกาสนี้แหละ เพื่อที่จะได้นั่งโต๊ะศักดิ์สิทธิ์ที่ว่ากันว่าใครได้นั่งแล้วจะป๊อปขึ้นอีก 300% และที่นั่งที่ดีที่สุดคือด้านหลังสุด !
พชรเดินไปหาโต๊ะศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไม่มีใครเลือก รอยยิ้มพอใจผุดขึ้นในใบหน้าเจ้าตัว เป็นครั้งแรกที่จะได้นั่งเก้าอี้ตัวนี้ ทว่าในขณะที่กำลังจะถึงกลับพบกับความผิดหวังเสียอย่างนั้น
“โต๊ะนี้ขอนะค๊า !”
เจ้าตัวกำลังเดินไปด้วยความปิติ แต่หญิงสาวผมสั้นท่าทางร่าเริงก็วิ่งนำหน้าแล้วนั่งลงด้านหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พอได้นั่งลงก็เอียงคอสบตาพชรผู้มีท่าทีเหมือนต้องการโต๊ะเดียวกันกับตัวเอง
“เอ่อ คือโต๊ะนี้ฉันเลือก -“
“อะไรนะคะ ? คุณพูดอะไรนะคะ ไม่เห็นได้ยินเลย…“
‘ท่าทีกวนบาทาที่มันอะไรกัน ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้หญิงฉันกระทืบไปแล้วนะเนี่ย‘
“อ๊ะ ไม่ได้ ๆ ปีนี้ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นหนุ่มหล่อเพียบพร้อ-”
“ห้ะ ? อะไรนะคะ ?”
“มะ ไม่มีอะไร”
เกือบหลุดพูดออกไปเต็ม ๆ แล้ว พชรตบหน้าตัวเองเบา ๆ ก่อนถอนหายแล้วยอมแพ้จากเก้าอี้นั้นในที่สุด เขายอมให้อีกฝ่ายนั่งโดยดี โดยที่ตนตัดสินใจนั่งลงโต๊ะที่ไม่ใช่ตัวนั้น ตัวสุดที่รัก ที่ใฝ่หามาหลายปี
“จะว่าไปแล้วคุณคือคุณที่ 2 ใช่ไหมคะ ?”
“คุณที่ 2 ?”
“หมายถึงสอบได้อันดับสองน่ะค่ะ”
“อ๋อ อืม ช- ใช้ ทำไมเหรอ ?”
“เห เก่งจังเลยนะคะ คุณคะแนนห่างจากอันดับหนึ่งแค่คะแนนเดียวเอง อืม… แล้วก็หลังจากนี้ฝากตัวด้วยนะคะคุณ พชร อ๊ะ ฉันชื่อไอซ์นะคะ เรียกไอซ์เฉย ๆ ก็ได้ ฉันเป็นพวกเรียนไม่ค่อยเก่ง หลังจากนี้เราคงได้เจอกันบ่อน ๆ เพราะงั้นช่วยสอนสิ่งที่ไม่เข้าใจให้ฉันหน่อยนะคะ”
“อา อืม”
พชรได้โต๊ะที่อยู่ข้างสาวงามเยื้องมาฝั่งขวา เขานั่งลงแล้วฟุบลงกับโต๊ะอย่างน่าสงสาร ปล่อยอารมณ์นั่งวิงวอนจนทำไอซ์หัวเราะคิกคัก
“คุณ เทียร์ร่า ช่วยคบกับผมด้วยนะคร้าบ !”
พอมาถึงมื้อพักกลางวันหลังจากเรียนวันแรกที่เป็นแค่วันแนะนำตัวกับอาจารย์วิชาต่าง ๆ วันนี้เวลา 11:30 เป็นเวลาที่กลุ่ม ม.ปลายทุกคนกินข้าว พชรมายังโรงอาหารเหมือนคนอื่น ๆ สั่งข้าวมันไก่แล้วนั่งโต๊ะกลุ่มที่ยังว่างด้วยตัวคนเดียว
เจ้าตัวกำลังลิ้มรสได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงแปลกที่คิดว่าจะได้ยินมาก่อน
“หมอนั่นเป็นบ้าเรอะมาสารภาพรักกลางโรงอาหาร อย่างน้อยก็นัดไปที่ที่ดีกว่านี้ไม่ได้รึไง”
พชรบ่นอุบพลางหันไปยังต้นเสียงขณะเคี้ยวข้าวมันไก่แล้วตักคำต่อไปเรื่อย ๆ
“เอ๊ะ เทียร์ร่า เหรอ ใช่คนที่เขาว่าปฏิเสธผู้ชายทุกคนที่สารภาพรึเปล่านะ”
พอคิดแล้วมองไปก็เจอผู้หญิงที่เพิ่งชนไปเมื่อเช้าจริง ๆ เขายิ้มมุมปากขณะรอดูผลลัพธ์ที่คิดว่ายังไงก็ออกมาในทิศทางไม่ดีอยู่แล้ว กับชายหนุ่มหน้าเนิร์ด ท่าทางดูไม่มั่นใจในตัวเอง ตัวสั้นเทากับการแต่งตัวสุดเนียบจนดูแปลกสำหรับตน พอดูจากท่าทางลนลานของฝ่ายชายก็พออนุมานได้ว่าทั้งคู่ไม่ได้สนิทกัน
นอกจากฝ่ายชายที่ดูลนลาน มองเพิ่งมองเข้าไปในนัยน์อันสวยของสาวงามผู้มีคราบน้ำเลอะเครื่องแบบสีขาวก็พบแต่ความว่างเปล่าไม่ได้รู้สึกถึงความเขินอายหรือท่าทีที่จะตอบรับเลยสักนิด พชรแอบหัวเราะในลำคอ ใจนึงก็ก็สงสาร ใจนึงก็แอบซ้ำเติม
“หมอนั่นท่าทางจะป๊อด ก็นะ แว่นกลมที่หมอนั่นใส่คงบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยได้เป็นอย่างดี คงเป็นพวกเด็กเนิร์ดที่ไม่มั่นใจในตัวเองนั่นแหละ”
พชรรอฟังคำตอบจากเทียร์ร่า ทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับอะไรจากเธอเลย ไม่แม้แต่จะได้ยินคำตอบ ไม่นานหลังจากนั่นเธอก็เดินจากไปแบบไม่ได้บอกกล่าวอะไรทั้งนั้น เธอเดินผ่านโดยไม่ทิ้งเยื่อใยหรือความสนใจใด ๆ ปฏิบัติราวกับอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในสายตาหรือเป็นเพียงแค่ฝุ่น พอเห็นท่าทางอันสุดแสนจะน่ากลัวนั้นพลันต้องกลืนน้ำลายกันเป็นแถบ ๆ
“เหอะ ๆ พอได้เห็นแบบนี้ทำเอารู้สึกว่าที่เจอมามันก็แค่ของกล้วย ๆ เลย ฮะ ๆ”
พชรมองภาพอันน่าทึ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นพร้อมยิ้มแห้งแล้วตักอาหารเข้าปากต่อ กินไม่นานก็หมด เพราะรีบ ๆ ยัดเข้าปาก บรรยากาศรอบข้างที่เงียบกริบแทนที่จะวุ่นวายเหมือนแต่ก่อน มันอึดอัดมากเลย เทียร์ร่าที่ใช้วิธีปฏิเสธผู้ชายอย่างคาดไม่ถึงทำเอารอบข่าวช็อคไปเป็นแถบ ๆ ซึ่งก็รวมตัวพชรเข้าไปด้วย รู้สึกสงสารหมอนั่นจับใจเลยตอนนี้
“เอ่อ”
ในระหว่างที่กำลังเดินเอาจานไปวางไว้ที่ล้างก็มีเสียงทักจากหญิงสาวข้างหลัง
พชรหันมองก็พบกับหญิงสาวอายุเท่ากัน เขาเอียงคอมองอีกฝ่ายพลางคิดในหัว
“เธอคือคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าฉันใช่ไหม มีอะไรเหรอ”
พชรจำอีกฝ่ายได้ เด็กคนนี้เรียนค่อนข้างเก่งเลยทีเดียว เธอสวมแว่นกลมและกอดหนังสือเรียนเล่มหนาอยู่ตลอดเวลาตามมาตรฐานสาวเนิร์ดเรียนเก่ง
เมื่อเธอได้ยินที่พชรพูดก็มีท่าทีแปลก ๆ เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง
‘เอ๊ะ ร- หรือว่าเธอจะสารภาพรัก ! ท่าทีเขินอาย ใบหน้าแดงก่ำ กระพริบตาถี่ยิบ แบบนี้มัน ! อ้า แค่คิดก็ฟินแล้ว
แต่ว่าผมไม่ใช่พวกใจง่ายที่จะรับรักใครก็ไม่รู้ที่อยู่ ๆ มาสารภาพรักหรอกนะ’
“คือว่าช่วยส่งแบบสอบถามตอนหลังเลิกเรียนด้วยนะคะ !”
เธอพูดเสียงดังลั่นโรงอาหารแล้วก็วิ่งหนีหายไปเลย ทำเอาพชรที่เตรียมตัวรับฟังประโยคสารภาพรักเหมือนที่เทียร์ร่าได้รับเมื่อกี้ชะงักทั้งอย่างนั้น เขามองภาพสาวน้อยค่อย ๆ วิ่งหนีหายไปสักพักก่อนหัวเราะในลำคอแก้เขิน
“เอ๊ะ ? ไม่ใช่สารภาพรักหรอกเหรอ จบละ”
“โรงเรียนนี้ให้อิสระเป็นบ้า มองไปทางไหนก็เจอแต่พวกหัวสี ( ย้อมผม ) สุดยอดจริง ๆ อยากลองย้อมผมบ้างจังเผื่อป๊อปขึ้น”
ในเวลาพักก่อนจะถึงบ่ายพชรเดินชมโรงเรียนใหม่อย่างสบายใจ โรงเรียนที่เจ้าตัวมาเรียนเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ซึ่งค่าเทอมแพงมาก ๆ เลยทีเดียว ทุกคนที่เรียนโรงเรียนนี้ล้วนแล้วมีฐานะ แต่ก็ไม่ได้ขั้นเป็นโรงเรียนผู้ดี
มีทั้งเด็กบ้าน ๆ ที่พอมีเงินเรียน มีทั้งเด็กที่แยกออกมาจากบ้านหาเงินเรียนเอง เพราะเป็นโรงเรียนในเมือง ทั้งยังเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง การหางานพาร์ทไทม์จึงไม่ยากและได้ค่าตอบดี โดยส่วนใหญ่จึงสามารถทำงานพร้อมทั้งเรียนไปด้วยได้โดยไม่ได้ขัดสนนัก
“นี่แกน่ะ เมื่อเช้าแกสินะที่เป็นคนชนคุณเทียร์จนล้ม แถมยังปล่อยให้เธอตัวเหนียวอีก”
อยู่ ๆ ก็มีเสียงทักจากด้านหลังขณะเดินชมโรงเรียน ทำเอาพชรพอคาดเดาอนาคตที่จะเกินขึ้นได้ เขาหัวเราะในลำคอก่อนหันกลับไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายโดยไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวใด ๆ
“เทียร์ ? ใครเหรอ หรือว่ารุ่นพี่หมายถึงคนที่ชื่อเทียร์ร่าน่ะเหรอ ?”
“ใช่ วันนี้แกไม่รอดแน่”
“… เดี๋ยว ๆ รุ่นพี่เป็นใครเนี่ย อยู่ ๆ ก็มาหาเรื่อง หลอนหนักหรือไง เป็นอะไรกับเธอรึ ? ทำไมดูเดือดร้อนแทนขนาดนั้น กระทั่งเจ้าตัวยังไม่คิดจะมาหาผมเลย แต่ดันสาระแนออกตัวแทน อืม ๆ เป็นพวกเรียกร้องความสนใจเปล่านะ ? หรือเธอไม่สนใจเลยต้องมาหาเรื่องผมเพื่อที่จะใช้เป็นเครื่องมือเข้าใกล้เจ้าตัว ? อ๊ะ ลืมตัว พวกคุณเป็นรุ่นพี่นี่นา แถมมาหลายคนด้วย ขอโทษนะครับ ฮะ ๆ”
พชรพูดออกไปโดยไม่สนใจสีหน้าที่บึ้งตึงของพวกรุ่นพี่ พวกเขากัดฟันกรอด ดูเหมือนจะจี้ถูกจุด คนประเภทนี้พชรเคยเป็นมาก่อนเพราะงั้น เพียงแค่มองดูท่าทางการยืนก็สามารถคาดเดาความคิดได้แล้วล่ะ
“หน็อย แก !”
แค่นี้ก็ดูหงุดหงิดสุด ๆ กับคำพูดทิ่มแทง เขาเงื้อหมัดขึ้นเหนือศีรษะและปล่อยมาหาพชรสุดแรงราวไม่กลัวเรื่องที่ตามมาใด ๆ
“อ๊ะ ๆ ใช้กำลังในโรงเรียนมันไม่ดีนะครับ ถ้าเกิดพวกอาจารย์รู้ขึ้นมารุ่นพี่แย่แน่ ๆ ถ้าโชคร้ายเรื่องที่รุ่นพี่ใช้ความรุนแรงอาจจะถึงผู้ปกครองก็ได้นะครับ”
พชรถอยหลังออกมาเพื่อหลบหมัดของอีกฝ่าย แล้วก็พูดยาวเหยียดจนพวกเขากัดฟันกรอด
“ฝากไว้ก่อนเถอะ”
พวกเขาไม่ช้าก็รีบถอยกลับราวกับหมาขี้แพ้ พชรยิ้มอย่างพอใจให้กับผลลัพธ์ เขาแทบจะหัวเราะลั่นให้สะใจ แต่ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์เข้าไว้เพราะรอยข้างก็มีสายตามากมายมองอยู่
“หึหึหึ เรื่องพวกนี้ฉันเคยเจอในการ์ตูนมาแล้วเฟ้ย ! โชคดีนะเนี่ยที่ตัดสินใจยืมหนังสือของยัยน้องสาวมาอ่าน”
’ที่อ่านหนังสือการ์ตูนเหตุผลเพราะว่าตั้งใจจะเป็นหนุ่มป๊อป ! คำพูดเท่ ๆ ในการ์ตูนเจ้าตัวจำมันได้ทั้งหมด ! แบบพร้อมมัดใจสาวได้ทุกเมื่อ ของแค่นี้จิบ ๆ น่า !‘
ในขณะที่มองภาพแผ่นหลังพวกนั้นแล้วยิ้มอย่างพอใจให้กับผลลัพธ์ พวกสาว ๆ รุ่นพี่และรุ่นเดียวกันที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็กรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่ราวกับไม่เคยเห็นหนุ่มหล่อตรงตามมาตรฐานรับมือกับพวกอันธพาลมาก่อน พชรยืดอกยิ้มอย่างพอใจเชิดอกยืนหลังตรงให้เหมือนหนุ่มในหนัง เสยผมขึ้นพร้อมยกริมฝีปากขึ้นอย่างพอดี
“ว๊าย เด็กใหม่คนนั้นเท่จังเลย พวกอันธพาลพวกนั้นถึงกลับหนีไปเลย”
“อร๊าย อยากเข้าไปขอเบอร์เขาจังเลยอะ”
“ชิ ก็แค่ไอ้หน้าหล่อขี้เก๊ก”
“นี่นายน่ะ สมศักดิ์ ใช่ไหม “
หลังเลิกเรียน ขณะที่กำลังจะกลับบ้านก็มีเสียงทักมาจากด้านหลังทำเอาชะงักไปขณะนึง
‘ห้ะ สมศักดิ์ ? นั่นมันชื่อเดิมของฉันนี่’
พชรคิดในใจพลางยิ้มแห้งแล้วหันกลับไปด้านหลังก็พบกับคนที่ไม่นึกว่าจะเจอกันอีกครั้ง