ยอดอาจารย์มหาเมตตา - ตอนที่ 622 วิกฤต
“บัดซบ!”
เมื่อมองไปที่รอยยิ้มของเย่ชิว เย่ฉิงซวนกัดฟันด้วยความโกรธ เขาไม่สามารถซ่อนมันได้ เย่ฉิงซวนอยากจะท้าทายเย่ชิวในตอนนี้ จริง ๆ แต่เขาไม่ต้องการเสี่ยง เนื่องจากกลิ่นอายเย่ชิวที่เปิดเผยก่อน หน้านี้ ย่อมเห็นได้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก ยิ่ง
ไปกว่านั้น ผู้อาวุโสใหญ่ให้ความส าคัญกับอีกฝ่ ายมาก เย่ชิว ต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ โดย เย่ฉิงซวนไม่กล้าทาอะไรบุ่มบ่ามในขณะนี้ เขาทาได้เพียงยับยั้งความโกรธและมองไปที่เย่ชิวด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ฮ่าฮ่า เอาล่ะ วันนี้ข้าอารมณ์ดี ข้าจะให้โอกาสเจ้าท้าทายข้า” เย่ชิวยิ้มและมองไปที่อีกฝ่ายด้วยความสนใจ
ทันทีที่คาพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา หัวใจของทุกคนสั่นสะท้าน และพวกเขาทั้งหมดก็หันความสนใจไปที่เย่ฉิงซวน
“ไปเสีย”
ทุกคนต้องการให้เย่ฉิงซวนทดสอบความแข็งแกร่งของเย่ชิว เฉพาะเมื่อเย่ฉิงซวนทดสอบความแข็งแกร่งของเย่ชิวแล้ว พวกเขาก็ จะสามารถศึกษาสิ่งที่ขาดและข้อบกพร่องของเย่ชิวได้ ต้องบอกว่า คนที่อยู่ตอนนี้ไม่ได้โง่ พวกเขารู ้ดีว่าต้องทาอะไรและคอยสร ้างปัญหา
“เย่ฉิงซวน เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้าเป็ นอัจฉริยะและไม่มีใครเทียบได้ ในประวัติศาสตร ์หรือ เหตุใดเจ้าถึงกลัวตอนนี้ ไปสิ”
เย่ฉิงซวนมองพวกเขาอย่างเย็นชา คนเหล่านี้ฉลาดมาก และเขา ไม่ใช่คนโง่ เขาทราบดีว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ พวกเขาแค่ต้องการใช ้ เขา
“ฮึ่ม!“เย่ฉิงซวนตะคอกและไม่ตอบกลับ ในทางกลับกัน เขามอง ไปที่เย่ชิวและพูดว่า”ท่านเทพ ท่านคงล้อเล่น การบ่มเพาะของข้ายัง ตื้นเขิน ข้าจะกล้าท้าทายท่านได้อย่างไร ข้ายังมีสิ่งที่ต้องทา ข้าขอ ลา” พูดจบ เขาก็หันหลังกลับและจากไป
เมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกคนก็ผิดหวังทันที พวกเขาคิดว่าหากพวกเขา ท าให้เย่ฉิงซวนโกรธ เขาจะสูญเสียความมีเหตุผลและโจมตีด้วยพลัง ทั้งหมดเพื่อค้นหาเบื้องหลังของเย่ชิว โดยไม่คาดฝัน ไม่ว่าเขาจะ โกรธเพียงใด เขาก็รักษาความมีเหตุผลไว้และไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ
แม้แต่เย่ชิวเองก็ยังประหลาดใจกับความสามารถและมองอีกฝ่ าย ในมุมที่ต่างออกไป
“น่าสนใจ ข้าประเมินเด็กคนนี้ต่าไปจริง ๆ“หัวใจของเย่ชิวสั่นสะ ท้านเมื่อเขานึกถึงคาพูดของหมิงเยว่ เขารู ้สึกถึงอันตราย”ไม่ ไม่ เด็ก คนนี้จงใจแกล้งทา!”
สีหน้าที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็ นของปลอม หมิงเยว่เคยแนะนาว่าคน ๆ นี้ฉลาดมาก เป็ นอัจฉริยะ และมาจากภูมิ หลังที่โดดเด่น เขาไม่ง่ายอย่างที่คิด อีกนัยหนึ่ง เขาแสร ้งทาก่อนหน้า นี้เพื่อทาให้เย่ชิวสับสนและทาให้เขาดูถูก
“เวรเอ๊ย! เด็กคนนี้ฉลาดอยู่บ้าง” ทันใดนั้นเย่ชิวก็ตื่นขึ้นและสูด อากาศเย็น ๆ เขาตกใจอย่างเห็นได้ชัด
เขาประเมินอีกฝ่ายต่าไปจริง ๆ ก่อนหน้านี้ โชคดีที่เขารู ้สึกตัวได้ ทันเวลา มิฉะนั้น เขาคงตกหลุมพรางไปแล้วจริง ๆ จริงอยู่ เขาจะ ประมาทไม่ได้ ใครก็ตามที่ไม่เด่นหรือโดนดูถูกอาจทาให้เขาเสียหาย ร ้ายแรงที่สุด
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ใบหน้าของเย่ชิวก็มืดลงและเขาค่อย ๆ รู ้สึกถึงภัย คุกคาม
เย่ฉิงซวนภูมิใจและห่างเหินโดยธรรมชาติ และเขาก็ฉลาดมาก บางทีในอนาคต เขาจะกลายเป็ นภัยคุกคามต่อเย่ชิว
หลังจากนั้นไม่นาน เย่ชิวก็รู ้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้น เขา มองดูผู้คนรอบ ๆ ในบรรดาคนเหล่านี้ ยังมีลูกหลานของตระกูล ขนาดใหญ่และอัจฉริยะอีกมากมาย เขาก็ละเว้นพวกเขาไม่ได้เช่นกัน
“อืม… ดูท่าเทพผู้นี้ยากจะเป็ นสุข มีคู่แข่งมากเกินไป มันคือมัน ฝรั่งร ้อน” เขาแอบถอนหายใจ ในที่สุดเขาก็เข้าใจ ตั้งแต่ต้น นี่คือกับ
ดักของผู้อาวุโสใหญ่ อีกฝ่ายใจด าเกินไปหรือไม่ อีกฝ่ายถึงกับคิดวิธี เช่นนี้เพื่อหลอกเขา
มุมปากของเย่ชิวกระตุก ตอนนี้เขาสามารถเข้าใจความคิดของ ผู้อาวุโสใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ ชายชราคนนี้ไม่จริงจังมากนัก อย่างไร ก็ตาม ถึงอย่างนั้น เย่ชิวก็ไม่รู ้สึกกดดันมากนักแม้ว่าจะมีคู่ต่อสู้ มากมายที่จ้องมองเขาอย่างโลภก็ตาม
ในสายตา มีเพียงหมิงเยว่เท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับเขาได้ เมื่อ เทียบกับหมิงเยว่ พวกเขาย่าแย่กว่ามาก เย่ชิวหันตัวกลับและมองดู ผู้หญิงที่ไม่มีใครเทียบได้ และส่ายหัว
เมื่อเห็นว่าไม่สนุกอีกต่อไปแล้ว หมิงเยว่ก็นิ่งเงียบและกลับไปที่ ถ้าของนาง ในไม่ช ้า ผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงก็จากไป มีคนไม่มากที่กล้า ท้าทายเย่ชิวเพราะพวกเขารับความเสี่ยงไม่ได้เช่นกัน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ชิวก็ยิ้มจาง ๆ
ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร หลังจากกลับมายังที่พานักถ้าเมฆา ม่วง เย่ชิวก็ไม่สนใจที่จะคิด เขาผลักประตูเบา ๆ และได้ยินเสียงเย็น ชา
“ใคร”
ร่างกายของเย่ชิวสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เขาสงบลง และพูดว่า “เหลียนเอ๋อข้าเอง”
“ชิว เจ้ากลับมาแล้ว!” เมื่อได้ยินคาตอบของเย่ชิว หญิงชุดขาว ในความมืดก็สั่นสะท้าน น้าเสียงของนางตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด นาง พุ่งผ่านความมืดและกระโจนเข้ามาทันที
หัวใจของเย่ชิวอบอุ่นเมื่อเขากอดสาวงามในอ้อมแขน หลังจาก ปิดประตูถ้าแล้ว ทั้งสองก็เริ่มทุบตีกัน
ขณะนี้ ในถ้าพานักของเย่ฉิงซวน
เย่ฉิงซวนไร ้ความรู ้สึก ดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร เขานั่ง อย่างโกรธจัดที่โต๊ะหิน เมื่อนึกถึงความพอใจของเย่ชิวสีหน้าและ สายตาเย้ยหยันของศิษย์คนอื่น ๆ เจตนาสังหารในหัวใจได้ปะทุขึ้น ทันที
ตู้ม!
ทันใดนั้นเขาก็ต่อยโต๊ะหิน ฉับพลัน โต๊ะก็กลายเป็ นฝุ่นและสลาย ไปในอากาศ
“เย่ชิว!” เสียงที่เย็นชาและคิดสังหารดังก้องอยู่ในถ้าพานัก เย่ฉิง ซวนไม่เคยได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้มาก่อน
เขากัดฟันด้วยความเจ็บปวดเมื่อนึกถึงชายที่ไม่ด้อยไปกว่าเขา ทั้งในด้านรูปลักษณ์ นิสัยใจคอ และพละกาลัง เขาเย็นชาอย่างมาก เมื่อเห็นหมิงเยว่มองเย่ชิวต่างจากเขา
“ฮึ่ม… เย่ชิว รอข้าก่อน ไม่มีใครมาแย่งชิงสิ่งที่เป็ นของข้าไปได้ ข้าไม่สนหรือกว่าเจ้าจะมีความมั่นใจแบบใด ข้าจะทาให้เจ้าตอบแทน ความอัปยศอดสูในวันนี้เป็ นร ้อยเท่าในอนาคตอย่างแน่นอน”
ความเกลียดชังในใจได้ปะทุขึ้นจนสุดขีดแล้ว เขารับไม่ได้ที่ ทัศนคติของหมิงเยว่ที่มีต่อเย่ชิวนั้นแตกต่างจากเขาอย่างสิ้นเชิง
เขายังรับไม่ได้ด้วยว่าเหตุใดเย่ชิวถึงรับการดูแลเช่นนั้นได้ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้รับ
ในฐานะทายาทสายตรงของตระกูลเย่ เขาเกิดมาเพื่อเป็ นขุนนาง อาจกล่าวได้ว่าเขาอยู่ภายใต้ความสนใจของทุกคน เย่ชิวเป็ นเบี้ยไร ้ ชื่อที่ทันใดนั้นก็ปรากฏตัวขึ้น อีกฝ่ ายมีสิทธิ์อะไรในการฉกฉวยทุก อย่างที่ควรเป็ น
ในช่วงเวลานั้น ถ้าพานักทั้งหมดเย็นเยียบอย่างหาที่เปรียบมิได้ เจตนาสังหารอันหนาวเหน็บทาเอาผู้คนตัวสั่น
เย่ฉิงซวนหยิบสมบัติออกมา นั่นเป็ นสมบัติธรรมะสื่อสารที่ผู้ อาวุโสมอบให้กับเขาเพื่อติดต่อครอบครัว ตอนนี้ เขาต้องการทราบ สิ่งหนึ่ง ก็คือเหตุใดตราประทับของราชันยุทธบนหน้าผากของเย่ชิ วจึงคล้ายกับเขามาก ด้วยเหตุนี้เขาจึงกังวลและไม่ได้โจมตี
ก่อนที่เขาจะโจมตี เขาต้องตรวจสอบภูมิหลังของเย่ชิว ดังนั้น เขาจึงต้องการขอให้ผู้อาวุโสของตระกูลช่วยตรวจสอบ