ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1533 ปลดปล่อย
ตอนที่ 1533 ปลดปล่อย
…………….
หากนางต้องการจะฆ่าใคร เขาก็จะยื่นมีดให้
หากนางต้องการแก้แค้นใคร เขาก็จะช่วยวางแผน
นางต้องการกลับมา ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดจะหยุดนาง แต่ก็ไม่อาจต้านนานรอยยิ้มพิมพ์ในนั่นได้ และสุดท้ายก็ทำได้เพียงยินยอมประนีประนอมตกลง
ตลอดเส้นทางนี้ นางผ่านอะไรมามากมาย เขาเห็นและรับรู้ทั้งหมด และรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง
ตอนนั้นเขาเสี่ยงชีวิตอีกครึ่งหนึ่งเพื่อช่วยให้นางกลับมาอย่างปลอดภัย
แต่ถ้านางยืนกรานที่จะเลือกแบบเดิม
เช่นนั้น เขาเองก็เหมือนกัน
อย่างไรเสียเขาก็ยังมีอีกครึ่งชีวิตเหลือเพื่อใช้มันร่วมกับนาง
หรงซิวกล่าวเสียงเรียบ ราวกับเป็นเรื่องสามัญทั่วไป
จวินจิ่วชิงขมวดคิ้วแน่น
คำพูดที่ประกาศกร้าวอย่าถือดีเหล่านี้ ทำให้เขาไม่พอใจมาก
แต่สิ่งที่ทำให้เขาทนไม่ได้ยิ่งกว่าก็คือ แม้นยามที่หรงซิวตัดสินใจเช่นนี้ อีกฝ่ายก็ยังมั่นใจในตัวเองอยู่เสมอ
และรับไม่ได้ที่นางมอบหัวใจให้เขาไปแล้ว!
ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้ เขาก็มักจะตามหลังอีกฝ่ายหนึ่งก้าวเสมอ
และช้าไปก้าวหนึ่ง ก็ทำให้เขาต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
เพราะเขารู้จักนางดีเกินไป
หากนางเลือกแล้ว นางจะไม่มีวันเสียใจ หรือเปลี่ยนใจอีก
และตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ นางก็ยังเลือกแบบเดิม
นางยังคงเลือกหรงซิว
และยังคงเลือกที่จะเข้าไปในตาน้ำของภูเขาหมื่นเมรัย
“จิ่วชิง จิ่วชิง?”
เสียงของอี้เหวินจั๋วดึงสติจวินจิ่วชิงกลับมา
เขารีบหันกลับมามองในทันที
“ท่านอาจารย์?”
“เขาใจลอยไปไย?”
อี้เหวินจั๋งมองเขาด้วยแววตาสงสัย
ยามนี้จวินจิ่วชิงไม่เพียงแต่สติเลื่อนลอย แต่ยังไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ด้วย
เอ่ยถามเจ้าตัวหลายครั้ง แต่เขากลับไม่พูดอะไร
จวินจิ่วชิงก้มหัวลงด้วยความเคารพ
“ไม่มีอันใดขอรับ ศิษย์แค่คิดว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในเขาหมื่นเมรัย หากมันเกิดระเบิดขึ้นมา และคิดจะหยุดยั้งมัน เกรงว่าคงไม่ง่ายเช่นนั้น”
สีหน้าของอี้เหวินจั๋วดูพออกพอใจขึ้นไม่น้อย
“นี่แหละที่ข้าจะบอก ต้องรู้ว่า หากยืดเยื้อกว่านี้ ก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้น! น่าเสียดายที่…”
น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาไม่ค่อยมีสิทธิ์ออกเสียงในสำนักหลิงเซียวแล้ว
พวกผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนอาจจะดูเคารพเขา แต่ความจริงแล้วคนพวกนั้นมิได้เกรงกลัวเขาเลยสักนิด
ยิ่งไม่ต้องพูดเมิ้งเหล่า ที่ชัดเจนแล้วว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามตน
ยามนี้ฝั่งนั้นมีพักมีพวกมากกว่า พวกเขาจึงทำได้เพียงเฝ้าดูจากด้านข้างเท่านั้น
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนและคนอื่นๆ จ้องมองเขาหมื่นเมรัยอย่างใจจดใจจ่อ ราวไม่สนใจบทสนทนาของอาจารย์กับลูกศิษย์คู่นี้
เพลิงโทสะในใจอี้เหวินจั๋วพุ่งกระฉุดอีกครา เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง ก่อนจะระงับมันลงในที่สุด
“รอดูไปเถิด! แค่เจ้าโชคดีที่ทะลวงขึ้นสู่ระดับเทพขั้นสูงได้ และใช้อาณาเขตเซียนเทพได้ ก็จงอย่าชะล่าใจไป ข้าเคยสอนเจ้าไปแล้วหลายครั้งหลาย”
เขาขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยอีกประโยคที่แฝงความนัยว่า
“อย่าเป็นเหมือนบางคนที่เพียงประสบความสำเร็จเล็กน้อย แล้วคิดว่าตนจะอยู่ยงคงกระพัน ท้ายที่สุดก็ต้องสูญเสียครั้งใหญ่!”
จวินจิ่วชิงพยักหน้าเบาๆ แล้วหลุบตาลง ซ่อนคลื่นอารมณ์ในตาของตนไว้
…
ใต้ตาน้ำบนเขาหมื่นเมรัย ฉู่หลิวเยว่กำลังใช้ประบี่ชื่อเซียวฟาดฟันก้อนหินที่ด้านล่างตาน้ำพุ
เมื่อเทียบกับตอนที่เข้ามาในคราแรกที่นี่เปลี่ยนแปลงไปมาก
กระแสน้ำอุ่นเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นปานธารน้ำแข็ง
แม้แต่ฉู่หลิวเยว่ที่ทะลวงไปถึงระดับเทพขั้นสูงแล้ว ก็ยังพบว่ามันยากเกินจะรับมือไหว
หลังจากอยู่ในน้ำมานาน แขนขาทั้งสี่ของนางเริ่มปวดชา การเคลื่อนไหวเองก็เริ่มช้าลงเรื่อยๆ
และที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ดูเหมือนว่าไอเย็นนี้กำลังค่อยๆ แช่แข็งพลังปราณดั้งเดิมในกาย!
ฉู่หลิวเยว่จำไม่ค่อยได้ว่านางอยู่ที่นี่มานานแค่ไหน แต่กลับรู้สึกได้ชัดเจนว่าพลังปราณดั้งเดิมที่ไหลเวียนในแขนขาของตน ดูเชื่องช้าลงทีละน้อย
ชิ้ง!
ชิ้ง!
ฉู่หลิวเยว่กัดฟันกรอด พลันเปิดใช้งานพลังปราณดั้งเดิมภายใน เพื่อทำให้ร่างกายของนางอุ่นขึ้น พลางโบกสะบัดกระบี่ชื่อเซียวด้วยความสิ้นหวัง
น่าเสียดายที่ก้อนหินด้านล่างนั้นแข็งมาก แม้นนางพยายามฟันมันกี่ครั้ง ก็ทำได้เพียงทิ้งรอยตื้นๆ ไว้เท่านั้น
ความจริงเจ้าสิ่งนี้ก็น่าทึ่งมากแล้ว
อย่างไรเสียก่อนหน้านี้มันก็เป็นที่สั่งสมทัณฑ์สวรรค์เอาไว้มากมาย บริวเวณก้นบึ้งของตาน้ำถูกพลังของทัณฑ์สวรรค์กระแทกใส่จนแบนราบ
กระบี่ชื่อเซียวเป็นถึงอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อ บวกกับตอนนี้ที่พลังของนางเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน จึงทำให้นางฟันมันเป็นรอยได้อยู่สามสี่รอย
มิเช่นนั้นคงไม่สามารถทำอะไรมันได้เลยจริงๆ
“ฮู้ว…”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉู่หลิวเยว่ก็หยุดการเคลื่อนไหว พลางลูบแขนที่เจ็บระบมไปมา
ด้วยความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้ มันคงถึงขีดจำกัดแล้ว ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่ามันยากเพียงใด
หินที่อยู่ด้านล่างยังคงนิ่งสนิท
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วด้วยความฉงน
เจ้าสิ่งนี้ช่างแปลกจริงๆ
หากต้องการแกะสลักค่ายกลลงไปบนนั้น ไม่รู้เลยว่าต้องใช้เวลานานกี่เดือนหรือกี่ปี
เกรงว่านางคง…ต้องหาทางอื่น
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้น แล้วมองดูชั้นน้ำแข็งที่กำลังจับตัวเหนือผิวน้ำ
แต่อาจเป็นเพราะเปลวไฟ ทำให้จนถึงตอนนี้ช่องว่างบนชั้นน้ำแข็งที่ฉู่หลิวเยว่เปิดไว้ยังไม่ถูกแช่แข็ง
ทว่าอักขระที่ปรากฏด้านบนก่อนนี้ กลับเริ่มเลือนลางไปจากครรลองสายตาแล้ว
ถึงจะยังวาดไม่เสร็จสิ้น แต่ก็ยังพอจับทางคร่าวๆ ได้
ทันใดนั้น คลื่นน้ำโดยรอบก็ซัดเข้ามาเบาๆ
พร้อมกับวังน้ำวนขนาดเล็นที่เริ่มก่อนตัวขึ้นเหนือผิวน้ำ
ข้างๆ กันมีเศษน้ำแข็งที่เกิดจากการเจาะทุลุช่องลงมาของฉู่หลิวเยว่ลอยละล่อง ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามารวมกันเงียบๆ
จากนั้น นางเห็นลายเส้นที่สลักไว้บนชั้นน้ำแข็งหนาเคลื่อนตัวไปตามกระแสน้ำวน!
พวกมันตกลงมาจากชั้นน้ำแข็งด้านบน แล้วรวมตัวกันใหม่ใต้น้ำแข็ง!
หนึ่งเส้น สองเส้น
ไม่นานลายเส้นเหล่านั้นก็มารวมกันจนหมด!
ดูราวกำลังก่อตัวเป็นสัญลักษณ์แปลกๆ!
กึก กึก!
จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะดังมาจากใต้ฝ่าเท้า!
ฉู่หลิวเยว่ตกใจ พลันก้มหน้ามองทันที!
ก่อนจะเห็นก่อนหินด้านล่างที่แข็งแกร่งและหนาแน่น สั่นสะเทือนไปตามเสียงกุกกักใต้พิภพ!
ราวกับมีบางอย่างกำลังจะระเบิดออกมา!
…………….