ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1500 ขโมย
ตอนที่ 1500 ขโมย
…………….
เสียงนั้นเต็มไปด้วยความโมโห และแฝงไปด้วยพลังแห่งสายฟ้า อีกทั้งยังกระจายออกมาทั่วฟ้าดิน เสียงนั้นกระทบเข้าโสตประสาทของศิษย์ทุกคนในสถาบันอย่างชัดเจน
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนสี และหันมองไปทางฉู่หลิวเยว่เป็นตาเดียว
ซั่งกวนจิ้ง… คือชื่อบรรพบุรุษของซั่งกวนเยว่ไม่ใช่หรือ? และเป็นปรมาจารย์ด้านการหลอมอาวุธในตำนานที่แข็งแกร่งอีกด้วย
ใครกันที่ใจกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าจะกล้าส่งเสียงดังอย่างกำเริบเสิบสานจากทางด้านนอกสำนักหลิงเซียว?
หัวใจของฉู่หลิวเยว่ดำดิ่งลงมาในทันที
นั่นมันเสียงมังกรคำราม…
“ทุกคนโปรดอยู่ในความสงบ!”
เสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยแรงกดดันดังขึ้น
ทำให้ความโกลาหลในจัตุรัสชิงหมิง เงียบสงบลงอย่างรวดเร็ว
ฉู่หลิวเยว่หันไปมองตามเสียงนั้น และพบว่าคนที่พูดคือ ผู้อาวุโสตันชิง
นางไม่ได้เจออีกฝ่ายมาสักพักแล้ว เหมือนว่าผู้อาวุโสตันชิงจะซูบเซียวลงไปไม่น้อย จอนผมทั้งสองข้างมีสีขาวแซมขึ้นเป็นจำนวนมาก เหมือนกับถูกน้ำค้างแข็งเคลือบอยู่หนึ่งชั้น
เขาที่กำลังจะพุ่งตัวตรงไปที่หน้าประตูสำนัก ก็ต้องหยุดอย่างกะทันหัน พร้อมหันไปมองทางฉู่หลิวเยว่
“ฉู่… ซั่งกวนเยว่ เชิญผู้อาวุโสซั่งกวนมาเถอะ นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่”
“เจ้าค่ะ”
ผู้อาวุโสตันชิงมองไปทางนาง สายตาสับสน ริมฝีปากขยับเล็กน้อยเหมือนกับต้องการจะพูดอันใดบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็จากไปโดยไม่ได้พูดอันใดออกมา
ฉู่หลิวเยว่หันกลับมามองหน้าเขา
“แม้ว่าผู้อาวุโสตันชิงจะตัดความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์กับเจียงจื่อหยวนแล้ว แต่ท้ายที่สุดเขาก็ดูแลนางด้วยความจริงใจมาหลายปี ตอนนี้คนไม่อยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องเสียใจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
หรงซิวพูดขึ้นเสียงเรียบ
“เจ้าอย่าใส่ใจเลย แม้ว่าก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสตันชิงจะมีใจเอนเอียงให้นาง แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่แยกผิดถูก แล้วโยนความผิดมาที่พวกเรา”
ถ้าจะบอกว่าเป็นความแค้น มันคงไม่ถึงขนาดนั้น
อย่างมากก็เป็นความสับสนเท่านั้น
ท้ายที่สุดคนที่ตายแล้วก็เหมือนตะเกียงดับ
ฉู่หลิวเยว่ถอนสายตาออก
“ข้าเข้าใจ”
ถ้าผู้อาวุโสตันชิงไม่สามารถผ่านไปได้จริงๆ อีกฝ่ายคงเดินทางมาหานางโดยตรงแล้ว
“ความจริงแล้วสิ่งที่ข้ากังวลในตอนนี้ก็คือ…”
ฉู่หลิวเยว่เม้มริมฝีปาก
ถ้าหากนางเดาไม่ผิดละก็ ผู้ที่มาในวันนี้ น่าจะเป็น…
“ข้าจะพาเจ้ากลับเขาจิ่วเหิง”
หรงซิวกระชับมือของนางให้แน่นขึ้น
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า ออกเดินทางพร้อมกับหรงซิว
…
ทั้งสองคนเดินมาครึ่งทาง ก็ได้พบกับองค์ปฐมกษัตริย์ที่กำลังออกมาพอดี
“องค์ไท่จู่!”
ฉู่หลิวเยว่รีบกล่าวทักทาย
“เยว่เออร์ เจ้าไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่?”
องค์ปฐมกษัตริย์จับตัวของนางเอาไว้ ก่อนจะใช้สายตาสำรวจขึ้นลง หลังจากแน่ใจว่านางไม่ได้เป็นอันใด เขาถึงได้ถอนหายใจออกมา
“องค์ไท่จู่ เหมือนว่าด้านนอกจะเป็น…”
“เผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลง!”
องค์ปฐมกษัตริย์มีสีหน้าตึงเครียด แล้วพูดออกมาอย่างเชื่องช้า
“พวกมันเคลื่อนไหวเร็วมาก”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เหมือนถูกอันใดบางอย่างบีบรัด
องค์ปฐมกษัตริย์กับเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงมีบุญคุณความแค้นกันอย่างใหญ่หลวง ครั้งนี้องค์ปฐมกษัตริย์เพิ่งฟื้นขึ้นมาได้ไม่นาน พวกมันก็รีบไล่ตามมาถึงสำนักหลิงเซียวแห่งนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกมันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก
หากจัดการได้ไม่ดี เกรงว่า…
“เยว่เออร์วางใจเถอะ นี่เป็นเรื่องของข้าเอง ข้าจะไม่มีทางทำให้เจ้าและสำนักหลิงเซียวถูกร่างแหไปด้วยอย่างแน่นอน”
องค์ปฐมกษัตริย์ลูบหัวของฉู่หลิวเยว่เบาๆ น้ำเสียงก็อ่อนโยนอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้ว
“เยว่เออร์เป็นทายาทของตระกูลซั่งกวน ดังนั้นจะต้องเดินเคียงข้างไปพร้อมกับองค์ไท่จู่”
เมื่อองค์ปฐมกษัตริย์ได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย ในแววตาเหมือนมีอารมณ์พลุ่งพล่านออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
สุดท้ายคำพูดเป็นพันคำก็กลั่นกรองออกมาเหลือประโยคเดียว
“เยว่เออร์เด็กดี!”
ตระกูลซั่งกวนของเขา ไม่เคยหวาดกลัวเรื่องอันตรายใดๆ!
“วางใจเถอะ ตั้งแต่ที่ข้าเลือกฟื้นขึ้นมา ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใด”
องค์ปฐมกษัตริย์พูดขึ้นพร้อมหัวเราะเสียงดัง
“เยว่เออร์รออยู่ในสำนักก็พอแล้ว ปัญหาเหล่านี้ ข้าจะออกไปจัดการเอง!”
“แต่…”
เดิมทีฉู่หลิวเยว่อยากจะติดตามไปด้วย แต่หลังจากที่ครุ่นคิดแล้ว หากนางตามไปอาจจะกลายเป็นภาระได้ ดังนั้นนางจึงต้องกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ
“ท่านต้องระวังตัวด้วยนะเจ้าคะ”
องค์ปฐมกษัตริย์พยักหน้า และหันไปสบตาสื่อความหมายกับหรงซิว
หรงซิวพยักหน้าอย่างไร้เสียง
องค์ปฐมกษัตริย์ถึงได้วางใจลง เงาร่างของเขาวูบไหว ก่อนจะหายตัวไปจากตำแหน่งเดิม!
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองไปทางประตูสำนัก
นางรู้ว่าในตอนนี้ เผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงกำลังรออยู่ด้านนอกนั่น!
ไม่รู้ว่าครั้งนี้ องค์ปฐมกษัตริย์จะสามารถจัดการปัญหาได้อย่างราบรื่นหรือไม่…
ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ กำมือของตนเองแน่น
สิ่งที่ทำให้นางกังวลขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะองค์ปฐมกษัตริย์และเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงมีความแค้นต่อกันมานาน ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง…
ตอนที่นางช่วยจื่อเฉินฟื้นฟูกายเนื้อ นางได้ใช้กระดูกปีกทั้งสองข้างของเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงไปแล้ว!
แม้ว่ากระดูกส่วนที่เหลือจะถูกปิดผนึกอยู่ในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์มาโดยตลอด
แต่ตอนนี้เผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงอยู่ที่ด้านนอกม่านพลังของสำนัก นางคิดว่านี่จะเป็นภัยพิบัติที่แอบแฝงอย่างใหญ่หลวงแน่นอน
เหมือนกับเป็นระเบิดเวลา ที่ไม่รู้ว่าจะระเบิดขึ้นมาเมื่อไร!
ตู้ม!
เสียงดังสนั่นดังขึ้นมาอีกครั้ง!
คราวนี้มันดังมาจากทางเขาหมื่นเมรัย!
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้น และหันกลับไปมอง
เหนือเขาหมื่นเมรัย มีเมฆดำรวมตัวเป็นจำนวนมาก จนตอนนี้ได้ก่อเกิดเป็นกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ ท้องฟ้ามืดครึ้ม ลมพายุก่อตัว เหมือนกับกำลังกลืนกินเขาหมื่นเมรัยโดยตรง!
เสียงคำรามฟ้าร้องดังออกมาจากชั้นเมฆเหล่านั้น สายฟ้านั้นเหมือนกับงูสีเงินที่เลื้อยผ่านไปโดยรอบ บางครั้งแสงสะท้อนเหล่านั้นก็ทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้น แต่กลับรู้สึกได้ถึงความอันตรายที่ชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าเดิม
พายุและลมฝนเข้าปกคลุม
จากที่แห่งนี้นางสามารถมองเห็นเงาร่างผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนและคนอื่นๆ ที่กำลังรีบมุ่งหน้าไปทางเขาหมื่นเมรัยได้
ท่ามกลางฟ้าดินที่มืดสลัว เงาร่างของพวกเขาเล็กเท่าเม็ดทราย
ฉู่หลิวเยว่กำหมัดกรอด
…
เขาหมื่นเมรัย
ตอนที่ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนและคนอื่นๆ ไปถึง พวกเขาก็พบว่าม่านพลังนั้นถูกทำลายไปตั้งนานแล้ว
นี่เป็นเหตุที่ทำให้ทุกคนได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เหล่าผู้อาวุโสกังวล
เพราะว่า…ตาน้ำที่อยู่บนยอดเขา ตอนนี้ได้หยุดไหลแล้ว!
อีกทั้งในเวลานี้ยังเป็นเวลากลางวัน!
“เหมือนว่าตาน้ำใกล้จะถูกแช่แข็งแล้ว!”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงตะโกนขึ้นด้วยเสียงเคร่งเครียด ในแววตาของเขามีความตื่นตระหนกอย่างที่หาได้ยาก
“จะเป็นเช่นนี้ได้อย่างใด?”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงสูดลมหายใจเย็นๆ
“ที่แห่งนี้ได้รวบรวมทัณฑ์สวรรค์เอาไว้มากมายขนาดนั้น ถ้าพูดตามหลักการแล้วมันไม่ควรจะเกิดขึ้นในเวลานี้…”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนรีบตัดสินใจขึ้นในทันที
“รีบดึงดูดทัณฑ์สวรรค์มาที่ตาน้ำแห่งนี้!”
ในตอนนี้ไม่มีเวลามาครุ่นคิดแล้วว่าเหตุใดถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
เรื่องที่เร่งด่วนที่สุดก็คือ การแก้ปัญหานี้ให้ได้เสียก่อน!
ผู้อาวุโสวั่นเจิงและผู้อาวุโสฮวาเฟิงพยักหน้าอย่างจริงจัง
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนเข้าไปคนแรก เงาร่างวูบไหว ก่อนจะเคลื่อนตัวไปยังตาน้ำโดยตรง!
ตู้ม!
ทันใดนั้นทัณฑ์สวรรค์สายหนึ่งก็ฟาดลงมาตรงหน้าของผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน!
เปลวเพลิงสาดกระจาย!
พลังที่รุนแรงและน่าหวาดกลัว เหมือนกับต้องการจะฉีกทุกสิ่งทุกอย่าง!
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนตกใจอย่างยิ่ง เขารีบวางม่านพลังไว้ตรงหน้า! ในขณะเดียวกันก็ถอยหลังลงมา!
แต่ระลอกคลื่นที่หลงเหลือก็ยังทำให้เขารู้สึกแน่นหน้าอก!
“ปั๋วเหยี่ยน!”
“เจ้าเป็นอย่างใดบ้าง ไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”
ผู้อาวุโสทั้งสองคนรีบสาวเท้าก้าวเข้ามาด้านหน้า แล้วพยุงเขาเอาไว้
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนส่ายหน้า แต่สีหน้ากลับดูย่ำแย่อย่างยิ่ง
“ข้าไม่เป็นไร เพียงแต่ตาน้ำนั้น…”
ในขณะเดียวกันนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังแหวกอากาศออกมา
พวกเขาทั้งหลายเงยหน้าขึ้นไปมอง คนผู้นั้นคือผู้อาวุโสโอวหยาง!
สีหน้าของเขาร้อนรน และรีบวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว
ตอนที่สายตาของเขามองเห็นน้ำค้างแข็งที่กำลังควบแน่นในตาน้ำ เขาก็ตกใจอย่างห้ามไม่ได้ พร้อมสบถออกมาเสียงดัง
“ใครมันขโมยทัณฑ์สวรรค์ที่อยู่ภายในนี้ไป!”
…………….