ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1492 ความอัปยศอดสูที่ได้รับ…ข้าขอคืนให้ ตอนที่ 1493 เกรงใจกันเกินไปแล้ว
- Home
- All Mangas
- ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
- ตอนที่ 1492 ความอัปยศอดสูที่ได้รับ…ข้าขอคืนให้ ตอนที่ 1493 เกรงใจกันเกินไปแล้ว
ตอนที่ 1492 ความอัปยศอดสูที่ได้รับ…ข้าขอคืนให้ ตอนที่ 1493 เกรงใจกันเกินไปแล้ว
ตอนที่ 1492 ความอัปยศอดสูที่ได้รับ…ข้าขอคืนให้
องค์ปฐมกษัตริย์หันกลับไปมองทันที เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะมองหรงซิวด้วยแววตาสื่อความหมาย
ผู้ชายทั้งสองคนสบสายตากัน
ในตอนนั้นเหมือนว่าจะมีประกายไฟบังเกิดขึ้น!
“เยว่เออร์ มานี่”
ฉู่หลิวเยว่กะแอมไอเสียงเบา แล้วเดินเข้าไปหา
องค์ปฐมกษัตริย์วางมือบนไหล่ของนาง
“พวกเราสองคนปู่กับหลาน ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ล้วนไม่ชอบใช้ชื่อจริงเดินเที่ยวเล่นไปมา เนื่องด้วยเหตุบังเอิญในวันนี้ ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ต้องขอแนะนำตัวกับทุกคนอย่างเป็นทางการ”
เขากวาดสายตามองไปโดยรอบ มุมปากยกยิ้มขึ้น รอยยิ้มนี้เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
“นี่คือทายาทของข้า…ซั่งกวนเยว่! นางเป็นคนที่โดดเด่นและมีพรสวรรค์มากที่สุดในตระกูลซั่งกวน! เป็นหลานสาวหัวแก้วหัวแหวนของข้า ซั่งกวนจิ้งผู้นี้!”
ทุกคนล้วนได้ยินอย่างชัดเจน!
นี่คือคนจากตระกูลซั่งกวน!
ซั่งกวนเยว่ยิ้มออกมาอย่างจนปัญญาเล็กน้อย
องค์ปฐมกษัตริย์ติดตามนางมาเป็นเวลานาน และรู้อย่างชัดเจนว่าหรงซิวปฏิบัติต่อนางอย่างใด แต่คาดไม่ถึงว่าเขาก็ยังคงทำเช่นนี้…
แต่นางกลับไม่รู้ว่า ก่อนหน้านี้องค์ปฐมกษัตริย์ไม่เคยพูดเช่นนี้มาก่อน นั่นเป็นเพราะก่อนหน้านี้จิตวิญญาณของเขาที่แตกสลายหลงเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
เขาไม่สามารถช่วยอันใดได้มาก นอกเสียจากคอยปกป้องนางอยู่ข้างกาย เขาก็คิดเรื่องอื่นไม่ออกแล้ว
แต่ว่าในตอนนี้นั้นไม่เหมือนกัน
เยว่เออร์ไม่ใช่คนนอกพรมแดนที่มีภูมิหลังต่ำต้อยอีกต่อไปแล้ว!
นางคือสายเลือดของตระกูลซั่งกวนที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด!
คนเหล่านี้อาศัยภูมิหลังของตนเองที่ไม่เลวมากดดันเยว่เออร์ทุกฝีก้าว!
ตระกูลของเยว่เออร์ดีขนาดนี้ จะให้พวกเขามารังแกได้อย่างใด!
น้ำเสียงขององค์ปฐมกษัตริย์ทุ้มต่ำและทรงพลังเป็นอย่างมาก
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ใครมารังแกเยว่เออร์ของพวกเรา ก็ต้องมาถามความเห็นข้าก่อนว่าข้าเห็นด้วยหรือไม่!”
คำพูดแต่ละคำดังกังวานและเต็มไปด้วยความกดดัน!
คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก!
ซั่งกวนจิ้งผู้นี้…ไม่ใช่คนที่จะเข้าหาได้ง่ายๆ!
แม้ว่าเขาจะมีเพียงแค่คนเดียว แต่เขาก็เป็น…ปรมาจารย์ด้านการหลอมอาวุธ!
อีกทั้งครั้งหนึ่งเขาเคยเอาชนะปรมาจารย์หลอมอาวุธทั้งเจ็ดคนอย่างบ้าคลั่งมาแล้วด้วย!
คนเช่นนี้ ตอนนี้อยู่ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่ แต่ละตระกูลต้องการเอาอกเอาใจอย่างบ้าคลั่งแน่นอน!
ใครจะกล้าทำตัวไม่เกรงใจกับพวกเขาอีก?
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา
องค์ปฐมกษัตริย์กำลังสนับสนุนนางอยู่!
นางสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน สายตาของคนที่อยู่รอบข้างมองนางต่างจากก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก
สำนักหลิงเซียวและหรงซิวให้การช่วยเหลือนางอยู่ตลอดเวลา
แต่การที่องค์ปฐมกษัตริย์ลงมือนั้นแตกต่างจากผู้อื่น
ไม่ว่าจะเป็นสำนักหลิงเซียวหรือหรงซิว นางรู้สึกถึงอันใดบางอย่าง ที่นางจะต้องพึ่งพาพวกเขาอยู่เป็นประจำ
แต่องค์ปฐมกษัตริย์เป็นญาติคนสนิทของนาง
ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่ นางไม่มีฐานะและภูมิหลัง ท้ายที่สุดแล้วนางก็ต่ำต้อยกว่าคนอื่นอยู่หนึ่งขั้น
แต่ทว่าในตอนนี้ มีองค์ปฐมกษัตริย์อยู่ นางไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว!
มีผู้แข่งแกร่งระดับสูงสุดเช่นนี้เป็นภูเขาสูงให้นางพึงพิงได้ดีมาก!
“ตอนนี้ พวกเจ้ายังอยากจะสอบสวนเยว่เออร์อยู่อีกหรือไม่?”
องค์ปฐมกษัตริย์ถามขึ้นอย่างเชื่องช้า
คนจำนวนมากหน้าเปลี่ยนสีไปทันที
ยังจะสอบสวนอันใดกันอีกเล่า!
เจ้าลงมืออย่างเผด็จการเช่นนี้ ยังจะมีหน้าถามคนอื่นอีกหรือ?
พวกเขายังไม่อยากมีจุดจบอย่างเช่นจินตี้!
เยี่ยหลิงหรานถอยหลังลงไปอย่างเงียบเชียบ พยายามซ่อนการมีตัวตนของตนเองให้ได้มากที่สุด
แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็ได้รู้ว่าที่อีกฝ่ายลงมือเมื่อครู่นี้ ถือว่าได้ยั้งมือเอาไว้แล้ว!
ไม่เช่นนั้นในตอนนี้ศีรษะของเขาคงไปอยู่ที่อื่นแล้ว!
ซั่งกวนจิ้งผู้นี้ แล้วยังมีซั่งกวนเยว่ ทั้งสองคนนี้…ไม่สามารถไปยั่วโมโหได้!
เขาบ้าไปแล้ว ที่บุกตรงไปอยู่ด้านหน้าเมื่อครู่นี้!
องค์ปฐมกษัตริย์เหลือบสายตามาทางเขา ก่อนจะถอนสายตากลับไป
เชือดไก่ให้ลิงดูเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ แต่ก็จำเป็นจะต้องเลือกไก่ให้ดี
หากไก่ตัวนั้นระดับต่ำเกินไป มือก็จะสกปรกได้
หลังจากผ่านไปสักพัก องค์ปฐมกษัตริย์ก็พยักหน้าขึ้นลงด้วยความพอใจ
“ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่มีเรื่องอันใดที่ถามแล้ว ‘ความเข้าใจผิด’ ทั้งหมดล้วนได้รับการอธิบายอย่างชัดเจนแล้ว ถ้าเช่นนั้น…ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ก็ให้ตระกูลของพวกเจ้าเข้ามาขอโทษนังหนูเยว่เออร์ทีละคนด้วย!”
เขาเงยหน้าอ้าปากค้าง
เยี่ยหลิงหรานตัวแข็งทื่อ
ตอนที่ 1493 เกรงใจกันเกินไปแล้ว
ทุกคนตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เดิมทีเขาคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้!
พวกเขาไม่ซักถามอีกต่อไปแล้ว นับว่ายอมถอยหนึ่งก้าว เลือกที่จะประนีประนอม
แต่ซั่งกวนจิ้งยังไม่ยินยอมที่จะปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างนั้นหรือ?
พวกเขาร่วมมือกันเพื่อที่จะจัดการซั่งกวนเยว่ ความจริงแล้วก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเล็กน้อย แต่นั่นเป็นเพราะต้องการให้นางอธิบายเรื่องนี้อย่างชัดเจน แต่ไม่มีใครตั้งใจจะลงดาบเด็กคนนี้จริงๆ
แล้วอีกอย่างคนในสถานที่นี้ ล้วนที่สถานะไม่ต่ำต้อย
หากพวกเขาต้องต่อแถวกันเพื่อขอโทษแม่นางน้อยคนหนึ่ง มันจะเป็นเรื่องบ้าอันใดกันแน่?
แม้ว่าตอนนี้ “แม่นางน้อย” ผู้นี้จะเป็นพระชายาของพระราชวังเมฆาสวรรค์ อีกทั้งยังเป็นทายาทของซั่งกวนจิ้งที่เขาให้ความรักมากที่สุด ใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็สามารถทำเสร็จแล้ว แต่มันจะทำเช่นนั้นได้อย่างใด!
ซั่งกวนจิ้งคาดเอาไว้ตั้งนานแล้วว่าพวกเขาจะไม่ยอมรับ
“โอ้ว เมื่อครู่นี้พวกเจ้าเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือ ว่าหากสืบเรื่องนี้ให้ชัดเจนแล้ว พวกเจ้าจะเป็นคนขอโทษนังหนูเยว่เออร์ด้วยตนเองน่ะ แต่มาในตอนนี้…เจ้ากลับรู้สึกเสียใจแล้วหรือ?”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน
นี่เป็นเพียงคำพูดทั่วไปหนึ่งประโยคเท่านั้น จะคิดจริงจังได้อย่างใด?
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ซั่งกวนจิ้งไม่เข้าใจ แต่เขาตั้งใจทำเช่นนี้ เพื่อช่วยรักษาหน้าให้กับนาง!
แต่เรื่องเช่นนี้ พวกเขาไม่สามารถทำได้จริงๆ
…หากเรื่องนี้ถูกป่าวประกาศออกไป มันจะเป็นอย่างใด? ศักดิ์ศรีของเขาคงไม่ต้องเอาไว้แล้วละมั้ง!
ความเงียบกลืนกินอยู่ครู่หนึ่ง เหยาปินสาวเท้าขึ้นไปด้านหน้าหนึ่งก้าว แล้วพูดขึ้นมาว่า
“ท่านมู่…ผู้อาวุโสซั่งกวน เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้พวกเรานั้นทำไม่ถูกต้องจริงๆ อีกทั้งที่พวกเราเพิ่งทำไปเมื่อครู่นี้ ส่วนหนึ่งนั้นมันก็เกี่ยวข้องกับข้า ถ้าเช่นนั้นข้าขอเป็นตัวแทนของทุกคน กล่าวขอโทษกับคุณหนูซั่ง…”
อาจจะเป็นเพราะคำเตือนเมื่อครู่นี้ของหรงซิว ทำให้คำว่า “คุณหนูซั่งกวน” ต้องพูดไม่จบประโยค
เขาเพิ่งพูดคำนั้นออกไป แต่แผ่นหลังของเหยาปินก็มีเหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นมา
สายลมบางเบาเข้าปะทะหน้า ทำให้รู้สึกหนาวสั่น
นี่มัน…
ด้านหนึ่งคือพระราชวังเมฆาสวรรค์ ส่วนอีกด้านหนึ่งคือซั่งกวนจิ้ง ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ไม่สามารถล่วงเกินได้ทั้งนั้น!
ซั่งกวนจิ้งเหลือบสายตามองเขาอย่างราบเรียบ
“เจ้า…”
เขาไม่ทันได้พูดคัดค้านอันใด ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็ดึงแขนเสื้อของเขาเบาๆ
“องค์ไท่จู่”
เมื่อได้ยินดังนั้น องค์ปฐมกษัตริย์ก็รีบหันกลับไปมองในทันที เดิมทีเขามีสีหน้าเคร่งครึ้มและเย็นชา แต่เพียงชั่วพริบตาเดียวใบหน้าของเขาก็ประดับด้วยรอยยิ้ม
“ว่าอย่างใดหรือเยว่เออร์?”
ทุกคนเห็นว่าเขาเปลี่ยนสีหน้าไปอย่างรวดเร็ว มุมปากของพวกเขาก็กระตุกขึ้น
สามารถพูดได้เลยว่าสองมาตรฐาน แต่เช่นนี้มันก็เกินไปหน่อยแล้ว!
เพียงแค่ช่วงเวลาที่หันหน้ากลับไป สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนทันที!
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ
“องค์ไท่จู่ ข้าคิดว่าที่ท่านชายเหยาเสนอมาดีมาก”
ทันใดนั้นเหยาปินรู้สึกว่าเหมือนได้รับการนิรโทษกรรม นางหันไปมองทางฉู่หลิวเยว่อย่างซาบซึ้ง
นางไม่ได้ทำเพื่อตัวเองทั้งหมด ประเด็นสำคัญคือนางไม่อยากให้สถานการณ์ภายในวันนี้ตึงเครียดมากเกินไป
ถ้าเรื่องในวันนี้ไม่สามารถยุติได้ แน่นอนว่าในอนาคตก็ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
หากซั่งกวนเยว่ยินยอมที่จะออกหน้าไกล่เกลี่ยก็จะมีทางลงให้กับทั้งสองฝ่าย และสามารถช่วยทุกคนลดปัญหาไปได้ไม่น้อย
องค์ปฐมกษัตริย์หรี่สายตามองนาง
“เยว่เออร์ เจ้าเห็นด้วยเช่นนั้นจริงๆ หรือ?”
ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“เจ้าค่ะ ความจริงแล้วสิ่งที่ท่านชายเหยาพูดก่อนหน้านี้ก็ไม่เลวเลย ที่ทุกคนมาที่นี่ในวันนี้ ความจริงแล้วก็เพื่อจะสืบเรื่องเหล่านี้ให้ชัดแจ้ง แต่สำหรับตัวข้าแล้ว…บางทีก่อนหน้านี้อาจจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจข้าผิด ซึ่งข้าสามารถใช้โอกาสนี้อธิบายเรื่องราวให้ทุกคนได้เข้าใจ…ถือว่าไม่เลวเลย”
แววตาขององค์ปฐมกษัตริย์เต็มไปด้วยความรักใคร่
“แต่ว่า ครั้งนี้เจ้าได้รับความอัปยศอดสูมากเกินไป…”
ไม่ช่วยนางระบายความโกรธ ภายในใจของเขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้เยว่เออร์ก็ได้รับความลำบากมาไม่น้อย กว่าจะมาถึงเทียนลิ่งก็ไม่ง่าย ดังนั้นเขาจึงจะคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับนาง
เพียงชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงอาณาจักรเสิ่นซวี่ และคาดไม่ถึงว่านางจะถูกคนจำนวนมากมายรังแกกลั่นแกล้งเช่นนี้
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น คงไม่สามารถอดทนได้ตั้งนานแล้ว
ภายในใจของฉู่หลิวเยว่รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ดวงตาของนางแดงขึ้นเล็กน้อย แต่รอยยิ้มยังคงสว่างสดใส
“ข้าก็ยังมีท่านอยู่ไม่ใช่หรือ?”
ยังมีหรงซิว ยังมีสำนัก
ความจริงแล้วคนเหล่านี้ยืนอยู่เคียงข้างนางและคอยช่วยเหลือนางอยู่ตลอดเวลา!
“องค์ไท่จู่ แค่ท่านสามารถกลับมาได้ เยว่เออร์ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากแล้ว เรื่องอื่นนั้นไม่นับเป็นความอัปยศอดสู”
แทนที่นางจะมาเสียเวลาคิดเล็กคิดน้อยกับคนเหล่านี้ สู้เอาเวลาไปคุยกับองค์ปฐมกษัตริย์เรื่องตระกูลจะดีกว่า
ไม่ช่วยนางระบายความโกรธ ภายในใจของเขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้เยว่เออร์ก็ได้รับความลำบากมาไม่น้อย กว่าจะมาถึงเทียนลิ่งก็ไม่ง่าย ดังนั้นเขาจึงจะคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับนาง
เพียงชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงอาณาจักรเสิ่นซวี่ และคาดไม่ถึงว่านางจะถูกคนจำนวนมากมายรังแกกลั่นแกล้งเช่นนี้
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น คงไม่สามารถอดทนได้ตั้งนานแล้ว
ภายในใจของฉู่หลิวเยว่รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ดวงตาของนางแดงขึ้นเล็กน้อย แต่รอยยิ้มยังคงสว่างสดใส
“ข้าก็ยังมีท่านอยู่ไม่ใช่หรือ?”
ยังมีหรงซิว ยังมีสำนัก
ความจริงแล้วคนเหล่านี้ยืนอยู่เคียงข้างนางและคอยช่วยเหลือนางอยู่ตลอดเวลา!
“องค์ไท่จู่ แค่ท่านสามารถกลับมาได้ เยว่เออร์ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากแล้ว เรื่องอื่นนั้นไม่นับเป็นความอัปยศอดสู”
แทนที่นางจะมาเสียเวลาคิดเล็กคิดน้อยกับคนเหล่านี้ สู้เอาเวลาไปคุยกับองค์ปฐมกษัตริย์เรื่องตระกูลจะดีกว่า
องค์ปฐมกษัตริย์มองมาที่นางด้วยความรักใคร่
แต่สุดท้ายก็ลูบผมนางด้วยความแผ่วเบา
“ได้ ล้วนทำตามเยว่เออร์พูดทั้งหมด!”
เยี่ยหลิงหรานถอนหายใจออกมา เข่าอ่อนจนเกือบจะทรุดลงไปที่พื้น
ผู้ติดตามที่อยู่ด้านข้างต้องรีบพยุงตัวเอาไว้ในทันที
องค์ปฐมกษัตริย์เหลือบสายตามามอง แล้วแค่นหัวเราะเสียงเบา
คนเช่นนี้ แค่มองเพิ่มอีกครู่เดียวเขาก็รู้สึกรำคาญแล้ว!
คนอื่นๆ ที่รู้สึกตึงเครียด ก็รู้สึกผ่อนคลายลงได้ไม่น้อย
ค่อยยังชั่ว เรื่องนี้ยังไม่ได้ไปถึงขั้นดูไม่ได้…
เหยาปินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วสาวเท้าก้าวขึ้นมาด้านหน้า ก่อนจะประสานหมัดทำความเคารพฉู่หลิวเยว่
“ซั่งกวนเยว่ ก่อนหน้านี้พวกเราได้รับฟังข่าวลือมา และเกิดการคาดเดาไปต่างๆ นานา ทำให้เข้าใจเจ้าผิดไป และสร้างปัญหาให้กับเจ้าไม่น้อย เรื่องนี้ต้องขอโทษเจ้าจริงๆ ข้า เหยาปิน เป็นตัวแทนของทุกคนในที่แห่งนี้ขอพูดกับเจ้าอย่างหนักแน่นและจริงใจว่า ขออภัย!”
น้ำเสียงของเขานั้นจริงใจเป็นอย่างยิ่ง
ด้านหนึ่ง เขารู้สึกว่าตนเองเข้าใจฉู่หลิวเยว่ผิดไป ส่วนอีกด้านหนึ่ง เขาคิดจะซ่อมแซมและรักษาความสัมพันธ์ของซั่งกวนจิ้ง
ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงต้องแสดงความจริงใจอย่างมากออกมา
คนอื่นอาจจะรู้สึกว่าทำเช่นนี้จะเป็นการเสียหน้า แต่สำหรับเหยาปินแล้ว การขอโทษคำหนึ่งไม่นับว่าเป็นเรื่องอันใด หากสามารถทำให้ซั่งกวนจิ้งยอมปล่อยเรื่องนี้ไปได้ นั่นคงจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว
ต่อให้ในตอนนี้ยังไม่สามารถทำได้ ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ไม่เลวแล้ว
ฉู่หลิวเยว่ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ท่านชายเหยาเกรงใจเกินไปแล้ว”
เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้มีคนรอบลงมืออยู่เบื้องหลัง
คนที่นางจะต้องจัดการจริงๆ คือผู้บงการที่อยู่หลังม่าน ไม่ใช่คนเหล่านี้ที่ถูกหลอกใช้
เมื่อได้ยินฉู่หลิวเยว่ตอบกลับเช่นนี้ เหยาปินก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาไม่น้อย
ทันใดนั้นเององค์ปฐมกษัตริย์ที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เลิกคิ้วขึ้น
“เพียงเท่านี้เองหรือ?”
เหยาปินรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา ก่อนจะรีบหันไปมองสีหน้าขององค์ปฐมกษัตริย์
ร้ายดีอย่างใดเขาก็เป็นท่านชายของมณฑลแห่งแสงอินทนิล เขาอยู่ในอาณาจักรเสิ่นซวี่มาหลายปีแล้ว จึงรู้ได้ทันทีว่าควรจะทำอันใดต่อไป
ความหมายขององค์ปฐมกษัตริย์นั้น เขาสามารถเข้าใจได้ในทันที
“อ่า…จริงด้วยขอรับ! แล้วก็ ยังมี…คือว่าครั้งนี้ไม่ว่าพูดอย่างใดพวกเราเองก็เป็นฝ่ายผิด เป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล! จะให้พูดขออภัยเพียงคำเดียว คงไม่เพียงพอที่จะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด”
ขณะที่พูด เขาก็หยิบกล่องไม้จันทน์กล่องหนึ่งออกมาจากแหวนมิติสีม่วง
กล่องนี้มีขนาดเท่ากับฝ่ามือ แต่มันมีความละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง และถูกสร้างขึ้นมาด้วยความพิถีพิถัน ด้านนอกมีลำแสงแวววาวแผ่กระจายออกมา ดูแล้วไม่ใช่ของธรรมดา
เขายื่นกล่องไม้จันทน์นี้มอบให้กับฉู่หลิวเยว่ ก่อนจะอธิบายว่า
“ด้านในนี้คือโสมจิตวิญญาณโลหิตเมฆาที่ข้าเพิ่งได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้ โปรดระมัดระวังด้วย…”
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่เปล่งประกาย
โสมจิตวิญญาณโลหิตเมฆา!
ได้ยินมาว่ามันสามารถฟื้นขึ้นเนื้อมนุษย์และกระดูกได้ ประสิทธิภาพดีมาก อีกทั้งยังอ่อนโยน แทบจะไม่มีผลข้างเคียง
ใดๆ
ของชิ้นนี้ล้ำค่าเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งหุบเขาวาโยโอสถภายในสำนักหลิงเซียวก็ยังไม่มีสมุนไพรชิ้นนี้
หากเมื่อครู่นี้เจียงจื่อหยวนมีสมุนไพรชนิดนี้ ก็สามารถช่วยชีวิตนางได้ครึ่งชีวิต
นางหันไปมององค์ปฐมกษัตริย์อย่างลังเล
“คือว่า…ท่านชายเหยาท่านเกรงใจกันเกินไปแล้วมั้ง…”
เหยาปินยังคงยื่นไปด้านหน้าอีกครั้ง
“นี่นับเป็นอันใดกัน! มันเป็นเพียงแค่ของ เจ้ารีบรับไปเร็วเข้า! ไม่เช่นนั้นหมายความว่าเจ้าไม่รับคำขอโทษของข้าสินะ! ถ้าเป็นเช่นนี้พวกเราก็จะรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง”
องค์ปฐมกษัตริย์พยักหน้า
“ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นสินน้ำใจของพวกเขา เจ้ารับไว้ก็พอแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่จึงต้อง “จำใจ” รับเอาไว้
“คือว่า…ข้าต้องขอโทษจริงๆ”
องค์ปฐมกษัตริย์เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะกวาดสายตามองไปทางคนอื่น แล้วหัวเราะออกมาอย่างกะทันหัน!