ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1485 ชักจูง!
ตอนที่ 1485 ชักจูง!
ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมอง
คนที่เอ่ยคำพูดนั้นออกมาก็คือจินตี้นั่นเอง
สีหน้าของเขาเย็นเยียบ แววตาดำมืด ชวนให้รู้สึกเย็นวาบไม่ต่างอะไรกับอสรพิษ
ฉู่หลิวเยว่ลอบแค่นยิ้มเย็นเยียบในใจ
จินตี้ผู้นี้คิดจะกัดนางไม่ปล่อยเลยหรือไร?
ในเมื่อพวกเขามิอาจฉกชิงกระบี่ชื่อเซียวต่อหน้าคนเยอะปานนี้ได้ตรงๆ ก็เลยเปลี่ยนความคิดไปเอาสิ่งของอย่างอื่นแทนอย่างนั้นหรือ?
คนจำนวนมากได้ยินดังนั้นต่างก็กระตือรือร้นขึ้นมาโดยพลัน
หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์รึ!
นี่เป็นหนึ่งในเรื่องที่พวกเขาต้องการหาคำตอบแน่ชัดมากที่สุดในการเดินทางครั้งนี้จริงๆ เลยก็ว่าได้!
กระบี่ชื่อเซียวเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อ นับว่าเป็นสมบัติหายากโดยแท้ ทว่ามันมีเจ้านายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เว้นเสียแต่ว่าซั่งกวนเยว่จะสิ้นชีพวิญญาณมอดไหม้ มิเช่นนั้นต่อให้สมบัติชิ้นนี้ไปตกอยู่ในมือผู้อื่นก็มิอาจใช้งานมัน เรียกว่าไร้ประโยชน์เลยยังได้
ทว่าหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ไม่เหมือนกัน
ของสิ่งนั้นเป็นหนึ่งในสิบอาวุธศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเสิ่นซวี่!
หากมีสมบัติชิ้นนี้ในครอบครอง สถานะของตระกูลทั้งโคตรก็จะถูกยกระดับขึ้นไปอีกชั้น!
บรรดาตระกูลที่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไว้ในครอบครองจึงมีความมั่นใจมากกว่าผู้อื่นเวลาส่งเสียงถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
ดังนั้น เมื่อเทียบกันแล้ว พวกเขาดูจะสนใจในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าสิ่งใด
ฉู่หลิวเยว่ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาคำรบหนึ่ง
“ข้าพูดอันใดไปแล้ว พวกท่านจะเชื่ออย่างนั้นหรือ?”
คนพวกนี้ล้วนคุยด้วยยากนัก อาศัยเพียงแค่คำพูดไม่กี่ประโยคเพื่อจบเรื่องนี้ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้
จินตี้แค่นหัวเราะคราหนึ่ง น้ำเสียงเขาแฝงไปด้วยความความอำมหิต
“สมกับเป็นพระชายาคนใหม่ของพระราชวังเมฆาสวรรค์ มองทุกอย่างออกทะลุปรุโปร่ง หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์มีความหมายต่อบุพกาลชายแดนเหนืออย่างมาก มิใช่แค่ข้า แต่เชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ในที่นี้เองก็ล้วนต้องการความกระจ่างด้วยกระมัง?”
คนจำนวนหนึ่งพากันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“คำพูดนี้มิได้เอ่ยขึ้นลอยๆ ไร้ที่มา ความจริงแล้วที่ทุกคนมาพร้อมหน้ากันครานี้ก็เพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“ถูกต้องแล้ว คงจะเป็นการดีไม่น้อยหากทุกคนสามารถจัดการเรื่องนี้อย่างใจเย็นได้ หากพิสูจน์แล้วว่าเจ้ามิเกี่ยวข้องอันใดกับเรื่องนี้ เช่นนั้นพวกข้าเองต้องขออภัยด้วย”
อาจเป็นเพราะดูออกว่าหรงซิวเอาใจใส่กับชายาคนนี้ได้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ยามทุกคนเอ่ยปาก น้ำเสียงล้วนนอบน้อมลงอยู่มากเทียว
การวางตัวเองก็มิได้วางท่าใหญ่โตเหมือนดั่งก่อนหน้านี้ด้วย
คิ้วของฉู่หลิวเยว่กระตุกน้อยๆ ทว่าก็มิได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ
เริ่มแรก ในสายตาของพวกเขาแล้ว นางเป็นแค่เด็กหนุ่มที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนหนึ่งเท่านั้น ตัวตนอย่างพวกเขาย่อมไม่มองนางอยู่ในสายตา
ในอาณาจักรเสิ่นซวี่แล้วนี่นับว่าเป็นเรื่องปกติสามัญทั่วไป ไม่มีอะไรควรค่าแก่การสนใจ
ทว่าที่สำคัญก็คือ จะแก้ไขปัญหาต่อไปอย่างเรื่องหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์อย่างไรดี?
นางหัวเราะน้อยๆ พลางเอ่ยว่า
“ทุกท่านจิตใจกว้างขวางนักที่มิถือสาข้าในเรื่องที่ได้กระทำลงไปก่อนหน้า ข้าก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว เกี่ยวกับเรื่องหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์นี่ ข้าย่อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบและไต่ถามอย่างแน่นอน ผู้อาวุโสจินตี้ มิทราบว่าท่านคิดจะทำอย่างใด?”
จินตี้ค่อยๆ หยัดตัวนั่งหลังตรงขึ้นมา
“มิขอปิดบังทุกท่าน ในสำนักปีกสุวรรณของข้า เก็บรักษาหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์เลียนแบบอายุหลายร้อยปีเอาไว้หนึ่งอัน กล่าวกันว่าเริ่มแรกของสิ่งนี้ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับหม้อน้ำของจริง แล้วก็ยังมีของเลียนแบบที่เหมือนกันทุกประการอีกสองชิ้นด้วย”
“หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์เป็นสมบัติเลอค่ามหาศาล ดังนั้นมันย่อมมีจิตวิญญาณสิงสู่ ทุกครั้งที่ปรากฏตัว มันจะแบ่งพลังส่วนหนึ่งหลอมรวมออกมาเป็นของเลียนแบบจำนวนหนึ่งที่ชวนให้สับสนนัก มีเพียงผู้ที่มีวาสนาแลความสามารถตัวจริงเท่านั้นที่จะได้สมบัติชิ้นนี้ไปครอง!”
“น่าเสียดายที่สำนักปีกสุวรรณของข้าไม่มีโชคเท่าไรนัก เพียงจับพลัดจับผลูได้ของเลียนแบบมาอันหนึ่งเท่านั้น ทว่าโชคยังดี แม้นมันจะเป็นของปลอม แต่บนหม้อน้ำเองก็มีลมปราณส่วนหนึ่งของหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมาอยู่ด้วย”
“ยามสัมผัสได้ถึงของจริง มันก็จะแสดงปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรุนแรงออกมา”
จินตี้พูดไปพลางก็ยื่นมือออกมา ก่อนจะพลิกฝ่ามือหงาย
หม้อน้ำโปร่งแสงอันกระจิดริดอันหนึ่งพลันปรากฏขึ้นบนใจกลางฝ่ามือของเขา!
นัยน์ตาของฉู่หลิวเยว่หดลงเล็กน้อย
ของสิ่งนั้นมีสภาพเหมือนกับหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ของจริงไม่ผิดเพี้ยนจริงๆ!
“ซั่งกวนเยว่ หากเจ้ามีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่จริง ขอแค่ถือของสิ่งนี้เอาไว้ในมือ หากมันมิมีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าในร่างของเจ้ามิมีหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์! ในทางกลับกัน”
จินตี้แค่นหัวเราะคราหนึ่ง บ่งบอกถึงความนัยที่ชัดเจนอยู่แล้ว
ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าจินตี้จะยังมีแผนการเช่นนี้อยู่!
ชั่วขณะนั้นเอง พวกเขาต่างก็ทยอยตวัดสายตามองมาทางฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ผงกศีรษะ
“ได้!”
แผนการครานี้นับว่าเดินได้ฉลาดมากจริงๆ นางมิอาจปฏิเสธไม่รับไว้ได้!
ติดอยู่แค่ว่า…
มีเรื่องบางเรื่องที่ต้องถามให้แน่ชัดก่อนถึงจะดี
“สำนักปีกสุวรรณช่างเป็นตระกูลใหญ่ใหญ่โตนัก ทั้งข้อมูลข่าวสารภายในลึกล้ำ กระทั่งสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ก็ยังมีด้วย”
ฉู่หลิวเยว่ทำท่าราวกับเอ่ยชมออกมาจากใจจริง
“แม้นมิใช่หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ของจริง แต่สิ่งของเช่นนี้ก็นับว่าเป็นสมบัติหาชมได้ยากแล้วโดยแท้”
แววตาของจินตี้แสดงออกว่าพึงพอใจอย่างมาก
“แต่ว่า…การเดินทางไปบุพกาลชายแดนเหนือคราก่อน เหตุใดท่านถึงมินำของสิ่งนี้ไปด้วยเล่า?”
ฉู่หลิวเยว่เปลี่ยนหัวข้อพูดคุยในพริบตา!
“หากท่านลงมือเสียตั้งแต่ตอนนั้น แล้วจัดการแยกของสิ่งนั้นอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ของปลอม เช่นนั้นก็คง…ลดปัญหาของทุกคนลงไปได้ไม่น้อยเลยกระมัง? มิแน่ว่าอาจช่วยลดจำนวนคนบาดเจ็บและคนตายด้วยก็ได้ ท่านว่าหรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่พูดไปพลาง คิ้วก็ขมวดเข้าหากันน้อยๆ พลางส่ายศีรษะ ทำท่าราวกับโศกเศร้าเสียเต็มประดา
จินตี้สำลักเฮือกใหญ่
“เจ้า…”
นี่มิใช่ว่ากำลังโทษสำนักปีกสุวรรณของพวกเขาที่ทำตัวนิ่งเฉยหรอกหรือ!
“ตะ…ตอนนั้นของสิ่งนี้ไม่ได้อยู่ที่ข้า!”
เขาหลบตาฉู่หลิวเยว่ สีหน้ากระอักกระอ่วนไม่น้อยทีเดียว
“อย่างไรเสียมันก็เป็นสมบัติมีค่า หลายปีมานี้มันถูกบูชาอยู่ในหอบรรพชนสำนักปีกสุวรรณของเรามาแต่ไหนแต่ไร จะไปหยิบติดตัวมาสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างใดกัน?”
ทว่าคำพูดนี้ออกจะน่าขันอยู่หลายส่วน
ของสิ่งนี้เป็นสมบัติเลอค่าจริง ทว่าในตอนที่ทุกคนมุ่งหน้าไปบุพกาลชายแดนเหนือ เดิมทีก็พุ่งเป้าไปเพราะหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์อันนั้น
คนของพวกเขายกโขยงกันไป แต่ไม่นำเอาของสิ่งนี้ติดตัวไปด้วย แล้วจะแยกออกหรือว่าอันไหนของจริงของปลอม?
ตีเลยว่าแปดในสิบต้องเป็นของที่เพิ่งได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้
ส่วนเป้าหมาย…
ก็คือนางตั้งแต่แรกแล้ว!
แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาไปได้ของสิ่งนี้มาจากที่ใดกันแน่…
ฉู่หลิวเยว่ลอบครุ่นคิดกับตัวเองอยู่ในใจ
คนที่ต้องการจัดการนางมีไม่น้อยเลยจริงๆ
ทั้งในที่แจ้งและในที่ลับ ต่างก็รวมตัวกันอยู่มากมาย!
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองจินตี้อยู่ครู่หนึ่ง
จินตี้ถูกมองจนอับอายแลโกรธเกรี้ยว จึงลุกขึ้นยืนด้วยบันดาลโทสะ
“เหตุใด? เจ้าเกิดรู้สึกผิด มิอยากจะตรวจสอบแล้วอย่างนั้นหรือ!”
ฉู่หลิวเยว่ยกมุมปากคลี่ยิ้มน้อยๆ
“ผู้อาวุโสจินตี้รีบร้อนไปเหตุใดกัน เมื่อครู่ข้าก็พูดไปแล้วว่าจะให้ความร่วมมือตรวจสอบและตอบคำถามครั้งนี้อย่างดี แต่เรื่องนี้มีชื่อเสียงของข้าเข้าไปข้องเกี่ยวด้วย ข้าเลยต้องระมัดระวังมากกว่าเดิมเป็นปกติอยู่แล้ว”
จินตี้รู้สึกละอายใจยิ่งจึงกลับไปนั่ง ก่อนจะทำเสียงฮึดฮัดด้วยไม่พอใจนัก
“ความจริงเป็นอย่างไร เดี๋ยวเจ้าก็ได้รู้หลังการทดสอบ!”
นี่เป็นการผลักภาระทุกอย่างลงไปบนบ่าของฉู่หลิวเยว่เต็มๆ
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“ได้”
จินตี้ลิงโลดใจนัก รีบสะบัดมือของตนทันที!
หม้อน้ำโปร่งแสงขนาดกระจิดริดอันนั้นลอยทะยานเข้าหาฉู่หลิวเยว่ในทันที!
ฉู่หลิวเยว่โคจรพลังปราณดั้งเดิมไว้ที่ฝ่ามือ ไม่ช้าก็รับของสิ่งนั้นมาได้อย่างราบรื่น
หม้อน้ำรูปร่างสี่เหลี่ยมตั้งวางอยู่บนฝ่ามือของฉู่หลิวเยว่อย่างเงียบเชียบ
ทั่วทั้งชิ้นส่วนของมันมีสีโปร่งใส ทั้งยังผิวราบเรียบมันวาว และสีใสบริสุทธิ์ยิ่ง
ฉู่หลิวเยว่กวาดตาสำรวจอย่างรอบคอบ
เมื่อครู่ดูจากที่ไกลๆ แล้วรู้สึกว่าเหมือนกันนัก ทว่าพอลองมาตรวจสอบอย่างละเอียดตรงหน้าแล้วก็พอจับสังเกตได้ว่าของสิ่งนี้กับของจริงมีบางอย่างแตกต่างกัน
คนทั่วไปนั้นดูไม่ออก แต่นางที่ค่อนข้างคุ้นเคยกับหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ย่อมแยกออกอย่างง่ายดาย
ตอนนั้นเอง ก็มีเปลวเพลิงโปร่งใสกลุ่มหนึ่งกลั่นตัวขึ้นมาจากภายในหม้อน้ำโปร่งแสงขนาดกระจิดริดอันนั้นในบัดดล!
ในใจของฉู่หลิวเยว่ตื่นตระหนกยิ่ง!
หึ่ง!
หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในร่างของนางพลันส่งเสียงดังก้องกังวาน!