ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1483 เรื่องตลก
“เป็นไปไม่ได้! ข้างในของสิ่งนั้นต้องมีปัญหาแน่ๆ!”
ด้วยเพราะตื่นตระหนก สุ้มเสียงของไป๋หลี่ฉุนจึงแหลมเสียดหูขึ้นมาหลายส่วน
บนใบหน้าแก่ชราของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงและโกรธเกรี้ยว
“ลองใหม่!”
หรงซิวหัวเราะร่า ทว่าแววตากลับเย็นเยียบเด็ดขาด
“ท่านประมุข ท่านรู้อยู่แก่ใจว่านาฬิการองไม่มีทางผิดพลาด เหตุใดต้องทำเรื่องไม่จำเป็นอีกรอบด้วยเล่า? เจียงจื่อหยวนไม่มีสายเลือดของพระราชวังเมฆาสวรรค์เลยแม้สักครึ่งหยดจริงๆ”
ทุกคำพูดล้วนเป็นดั่งคมมีดที่กระหน่ำแทงลงบนใจของไป๋หลี่ฉุนอย่างแรง!
ฝีเท้าของเขาซวนเซ ภาพตรงหน้าดำมืดชั่วขณะ ทั่วทั้งกายเย็นเฉียบ
เหตุใดถึง…
เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ได้กัน!
ยามที่เจียงจื่อหยวนกำเนิดออกมา เขาเคยส่งคนไปจับตาดูโดยเฉพาะ ย่อมไม่มีทางผิดคนไปได้
เช่นนั้น…ปัญหามันอยู่ที่บุตรสาวของเขาแล้ว!
แต่ในตอนนั้นเขารับเด็กคนนั้นกลับมาด้วยตัวเองเลยหนา!
อีกอย่างครานั้นเขาคำนวณเวลาดูแล้ว เด็กสมควรจะเป็นบุตรของเขาสิ!
หรือว่า
ความคิดล่องลอยบ้าบอแลน่าหวาดหวั่น พลันปรากฏขึ้นมาในความคิดของไป๋หลี่ฉุน ทำเอาหัวใจของเขาเต้นระรัวอย่างรุนแรงเฉียบพลัน เลือดในกายเดือดพล่านจนแทบระเบิด!
เขาสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือกดหน้าอกของตัวเองอย่างแรง ความคิดในหัวตีรวนวุ่นวายหาสิ่งใดเทียบไม่ติด!
ทั่วทั้งสี่ทิศโดยรอบต่างก็เงียบกริบไร้สุ้มเสียงใดๆ
ผู้คนจำนวนมากเบนสายตากลับมาลอบส่งสายตาให้กันและกันด้วยสีหน้าแปลกพิกลกอปรอดทนอดกลั้น
นี่มันฉากสวมเขาฉากใหญ่!
ช่างเป็นละครฉากเด็ดอะไรอย่างนี้!
‘หลานสาวแท้ๆ’ อย่างเจียงจื่อหยวนที่ไป๋หลี่ฉุนคอยดูแลประคบประหงมเอาใจใส่มาโดยตลอด ที่แท้ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว!
หลายปีมานี้ เขาต้องเลี้ยงดูเด็กแทนผู้อื่นโดยที่ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ!
ช่างเป็นเรื่องตลกสะเทือนฟ้าสะท้านสวรรค์โดยแท้!
เดิมทีคิดว่าการที่เขาป่าวประกาศเรื่องลับอย่างเรื่องเจียงจื่อหยวนคือหลานสาวของตนจะเป็นข่าวที่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงได้มากที่สุดของวัน ทว่าคาดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อยว่าเรื่องราวจะพลิกผันกลับมาได้ใหญ่โตถึงปานนี้!
ทั้งยังพลิกต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้ด้วย!
เหมือนโดนตบหน้าเข้าอย่างจังอย่างไรอย่างนั้น!
ช่างประเสริฐแท้!
นับจากนี้เป็นต้นไป ไป๋หลี่ฉุนผู้นี้คงได้กลายเป็นเรื่องตลกเดินได้ไปทั่วทั้งอาณาจักรเสิ่นซวี่แล้ว!
มิมีใครพูดอันใด ทว่าสายตาเหล่านั้นล้วนตกอยู่ที่ไป๋หลี่ฉุนเป็นตาเดียว
ความนัยที่แฝงคลุมเครือนัก ทั้งยังวุ่นวายซับซ้อน
เจตนาหัวเราะเยาะแลหยามเหยียดเปิดเปลือยให้เห็นทั้งแบบนั้น!
ราวกับว่าบรรยากาศแข็งค้างไปก็มิปาน
ไป๋หลี่ฉุนรู้สึกได้แค่ว่ารอบข้างราวกับว่ามีกระแสพลังไร้รูปร่างสายหนึ่งกำลังบีบคั้นตัวเขา เกือบจะปิดผนึกตัวเขาไว้ในพื้นที่ว่างปิดตายแห่งนี้เสียด้วยซ้ำ!
ใบหน้าของเขาร้อนฉ่า ทว่าทั่วทั้งร่างกลับเย็นเฉียบไปถึงกระดูก
เจียงจื่อหยวนที่ได้ยินหรงซิวเอ่ยเช่นนั้นก็ทึ่มทื่อไปชั่วขณะ
นางมิใช่ผู้สืบทอดสายเลือดสายตรงของพระราชวังเมฆาสวรรค์?
มิใช่ว่าเมื่อครู่ท่านประมุขยังพูดอยู่เลยว่านางเป็นหลานสาวแท้ๆ ของเขาหรอกหรือ?
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
ยามรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ในใจเจียงจื่อหยวนพลันรู้สึกกระวนกระวายอย่างหนัก
นางอ้าปาก มองไปยังไป๋หลี่ฉุนเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ
“ท่านตา…”
คำพูดสองคำนี้เข้ากระตุ้นเส้นประสาทอันอ่อนไหวของไป๋หลี่ฉุนอย่างรุนแรงในพริบตา!
“ไม่ต้องมาเรียกข้า!”
ไป๋หลี่ฉุนหันศีรษะขวับพลางตะโกนเสียงดังลั่น!
เจียงจื่อหยวนสะดุ้งจนตัวโยน ร่างกายสั่นระริก น้ำตาไหลพรากโดยไม่รู้ตัว
“ท่าน ท่านประมุข ข้า…”
ในความทรงจำ ท่านประมุขไม่เคยคุยกับนางด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน
แต่ว่านางทำอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ?
เป็นเขาที่พูดว่าตนเป็นท่านตาของนาง เป็นเขาที่พูดว่าจะปกป้องนาง ไม่ยอมให้นางรู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจอีก
มาบัดนี้ ในชั่วพริบตาทุกอย่างก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!
นางเองก็ไม่ได้อยากให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้เสียหน่อย!
แล้วเหตุใดสุดท้ายถึงต้องโทษนางทุกอย่างด้วยเล่า!
ทว่าในเวลาไม่กี่อึดใจ เจียงจื่อหยวนตกสวรรค์ร่วงลงนรก ทั้งยังถูกกระทืบซ้ำลงไปอย่างแรงอีก
ต่อให้นางจะยังคงโง่งม ก็รู้ว่าสิ่งที่รอนางอยู่ภายภาคหน้าคือสิ่งใด
สีหน้าของนางซีดเผือด ริมฝีปากแห้งผากสั่นระริกอย่างรุนแรง
“ท่านประมุข ในเมื่อนี่เป็นการเข้าใจผิด เช่นนั้น…เรื่องการประหารเจียงจื่อหยวน ท่านคงมิมีสิ่งใดคัดค้านแล้วกระมัง?”
หรงซิวเอ่ยถามอย่างสุภาพนอบน้อมยิ่ง
นี่มิใช่ว่าหรงซิวจงใจหรืออย่างไรกัน!
พิสูจน์ออกมาได้ว่าเจียงจื่อหยวนมิใช่หลานสาวของไป๋หลี่ฉุนต่อหน้าคนเยอะปานนี้ เขาก็ขายหน้าคนมากพอแล้ว
ไหนจะคำถามเช่นนี้อีก มิใช่เป็นการย้ำเตือนไป๋หลี่ฉุนว่าตัวเองถูกสวมเขาอย่างออกหน้าออกตาหรอกหรือ!
ไป๋หลี่ฉุนโมโหเสียจนหัวแทบระเบิด
ชั่วชีวิตนี้ของเขา แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ต้องอับอายขายขี้หน้าถึงขีดสุดเช่นนี้มาก่อน!
เขาสะบัดชายเสื้อคลุมคราหนึ่ง หมุนกายเตรียมตัวจากไป!
เขาทนอยู่ที่แห่งนี้ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว!
“ท่านประมุข!”
เจียงจื่อหยวนเห็นเขากำลังจะจากไปก็เกิดร้อนใจขึ้นมา
เขาจากไปทั้งแบบนี้แล้วนางจะทำอย่างไรเล่า?
“ท่านประมุข นาฬิการองอันนี้ผิดพลาด! มันต้องผิดพลาดแน่ๆ!”
นางไม่ใช่สายเลือดของพระราชวังเมฆาสวรรค์ได้อย่างไรกัน?
นางใช่แน่นอนอยู่แล้ว!
นางต้องใช่สิ!
สมองของไป๋หลี่ฉุนปวดเสียจนบวม เขาหมุนกายกลับมาด่าอย่างโกรธเคือง
“หุบปากเจ้าเสีย!”
นาฬิการองอันนี้เป็นของที่บรรพชนแห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์หลงเหลือเอาไว้ ผ่านเวลามาอย่างยาวนาน ไม่เคยเกิดข้อผิดพลาดมาก่อน
เมื่อครู่เขาเองก็ตื่นตะลึงถึงขีดสุดเช่นกัน ถึงได้เสียอาการเอ่ยคำฉงนออกมาในชั่วขณะ
ทว่าในใจของเขารู้ชัดแจ้งว่า นาฬิการองอันนั้นปกติดีทุกอย่าง!
ไม่ต้องพูดถึงหรงซิวเลยด้วยซ้ำ ต่อให้เป็นเขาก็ไร้ซึ่งความสามารถทำให้นาฬิการองเคลื่อนไหวเช่นนั้นได้!
เจียงจื่อหยวนที่พูดเช่นนี้ออกมา นับว่าเสียสติไปแล้วจริงๆ!
“…”
เจียงจื่อหยวนตกใจเสียจนทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน ทว่านางลังเลอยู่เพียงครู่เดียว ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนักกว่าเก่า
นางมองไป๋หลี่ฉุนด้วยน้ำตาไหลอาบเต็มแก้ม
“…ท่านปู่ฉุน ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็เติบโตอยู่ข้างกายท่านมาตั้งแต่เล็กจนโต หรือว่าท่านมิมีเยื่อใยผูกพันต่อหยวนหยวนเลยแม้สักเสี้ยวจริงๆ? ต่อให้หยวนหยวนมิใช่หลานสาวท่าน แต่ว่าหลายปีมานี้ หยวนหยวนก็นับถือท่านเหมือนปู่แท้ๆ ของตัวเอง!”
นางไม่พูดเรื่องนี้ยังพอพูดคุยกันได้อยู่บ้าง ทว่าพอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา โทสะแลความกราดเกรี้ยวในใจของไป๋หลี่ฉุนก็ยิ่งโหมกระหน่ำบ้าคลั่งกว่าเดิม!
ทำดีกับนางน่ะหรือ?
พานางมาอยู่ข้างกายแต่เล็กหรือ?
นั่นก็เพราะเขาคิดว่านางคือสายเลือดของเขามิใช่หรือไร!
ทว่ามาบัดนี้ ความจริงมาปรากฏต่อหน้า เขาถึงเพิ่งรู้ว่าตัวเองถูกตบตามาทั้งชีวิต! ถูกทำเป็นตัวโง่งมอยู่ตลอดเวลา!
เขาเองก็กลายเป็นตัวตลกไปโดยสมบูรณ์แล้วเช่นกัน!
พระราชวังเมฆาสวรรค์มีลูกหลานพรสวรรค์โดดเด่นมากมายปานนั้น หลายๆ คนในนั้นยังเก่งกาจกว่านางด้วยซ้ำ
เหตุผลที่เขาคอยประคบประหงมเอาใจใส่นางผู้เดียว หาใช่…
ความผูกพันหลายปีอะไรกัน?
หลายปีมานี้ที่เขาดีต่อเจียงจื่อหยวนมากมายเพียงใด เอาใจใส่นางมากเท่าไร มาบัดนี้ก็ขมขื่นแลอับอายขายขี้หน้ามากเท่านั้น!
สีหน้าของไป๋หลี่ฉุนไม่สู้ดีนัก ในใจของเจียงจื่อหยวนเองก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อย
แต่นางกลัวความตายยิ่งกว่า
ดังนั้น นางลังเลได้เพียงชั่วครู่ ก็ยังเอื้อมมือไปหาทางไป๋หลี่ฉุน
“ท่านปู่ฉุน ท่านช่วยหยวนหยวนด้วย…”
บัดนี้ร่างกายของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส แค่กำลังจะยืนด้วยตัวเองยังแทบไม่มี
ไป๋หลี่ฉุนอยู่ไกลจากนางหลายก้าวนัก
ต่อให้นางยื่นมือออกไปจนสุดแขน ก็ยังมิอาจเอื้อมถึงไป๋หลี่ฉุนอยู่ดี
ทว่าในสายตาของไป๋หลี่ฉุนแล้ว การเคลื่อนไหวครานี้ดูแล้วน่ารังเกียจเป็นที่สุด!
หนังตาของเขากระตุกอย่างแรง ก่อนจะสะบัดมือออกจนแทบเป็นวงกว้าง
“ไสหัวไป!”
เศษสวะอะไรนี่หลอกลวงเขามาตั้งหลายปี มาตอนนี้ยังมีหน้ามาขอให้เขาช่วยอยู่อีกหรือ!
โครม!
การวาดมือของเขาครานี้แฝงด้วยอารมณ์โทสะ จึงซ่อนเร้นพลังกายเอาไว้เต็มเปี่ยม!
ร่างของเจียงจื่อหยวนถูกเหวี่ยงปลิวไปในคราเดียว จากนั้นก็ร่วงหล่นสู่พื้นเบื้องล่างอย่างรุนแรง!
อุก!
เจียงจื่อหยวนกระอักเลือดออกมา ลมหายใจอ่อนแรงเต็มที
นางพยายามหยัดกายลุกขึ้นตัวตรงอย่างยากลำบาก ทว่าทำอย่างไรก็ลุกไม่ไหว ทำได้แค่นอนบนพื้นอย่างหมดสภาพทั้งอย่างนั้นราวกับมดปลวกก็มิปาน
นางจ้องไป๋หลี่ฉุนเขม็ง ภายในดวงตาฉายแววสิ้นหวังถาโถมอยู่ข้างใน
ท้ายที่สุด มุมปากของนางก็ค่อยๆ แสยะยิ้มหยัน ส่งเสียงหัวเราะเยาะตัวเองอย่างอ้างว้าง
สุ้มเสียงนี้ของนางก็นับเป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่งเช่นกัน…
ทันใดนั้นเอง ยังมิทันที่รอยยิ้มของนางจะคลี่กว้างจนสุด ศีรษะของนางก็เอียงแผ่ลงบนพื้น
ไร้ซึ่งเสียงลมหายใจอีกต่อไป