ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1474 สังหาร!
ตอนที่ 1474 สังหาร!
ฉู่หลิวเยว่ลงมืออย่างฉับพลัน ผู้คนรอบด้านพลันตกพรึงเพลิด
บอกแล้วมิใช่หรือว่านี่คือเรื่องส่วนของนาง?
เหตุใดถึงคิดเข้ามาจุ้นจ้านกัน?
และนางเองก็ไม่ใช่ศัตรูของเจียงเห่อเทียนเสียหน่อย!
ยังไม่ทันที่ผู้ชมทุกคนจะเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าดี เพียงพริบตา ฉู่หลิวเยว่ก็พุ่งไปอยู่ตรงหน้าเจียงเห่อเทียนแล้ว!
เจียงเห่อเทียนเองก็คิดไม่ถึงว่าฉู่เยว่จะลงมือทันทีหลังสิ้นวาจา!
พรึบ!
ถวนจื่อขยายร่างใหญ่ขึ้น!
เปลวเพลิงสีทองเหลือบแดงพวยพุ่งออกมา แล้วล้อมรอบเจียงเห่อเทียนไว้ทันที
อุณหภูมิรอบด้านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เจียงเห่อเทียนพลันจมหายลงไปในทะเลเพลิง!
เปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวยังคงลุกไหม้โรมรัน จนเจียงเห่อเทียนอกสั่นขวัญแขวนด้วยความหวาดกลัว!
เขาอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอสูรศักดิ์สิทธิระดับบรรพกาลตัวนี้!
“ซั่งกวนเยว่! เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”
เจียงเห่อเทียนตะโกนถามอย่างดุเดือด พลันถอยหนีเปลวเพลิงเป็นระวิง!
รอบตัวเต็มไปด้วยสายตานับไม่ถ้วนจับจ้องมองพวกเขา!
ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ เขายังกล้าลงมืออีกหรือ!
ฉู่หลิวเยว่คร้านขี้เกินกว่าจะต่อล้อต่อเถียง พลันฟาดกระบี่ลงไป!
เมื่อก่อนนางเป็นเพียงจอมยุทธ์ระดับแปด และจำต้องรวบรวมพลังปราณทั้งหมดในกาย เพื่ออันเชิญกระบี่เพียงเล่มเดียว
ทว่าตอนนี้ นางทะลวงไปถึงระดับเก้าขั้นกลางแล้ว โดยพื้นฐาน นางสามารถอันเชิญกระบี่สามเล่มออกมาได้ในคราเดียว!
ขณะเดียวกัน จื่อเฉินพลันสยายปีกแล้วบินอ้อมไปข้างหลังเจียงเห่อเทียนทันควัน!
เจียงเห่อเทียนไร้ซึ่งทางหนี!
ด้านหน้าคือหงส์ทองแดง ด้านหลังคืออินทรีสามตา…
และยังมีซั่งกวนเยว่ที่แข็งแกร่งขึ้นมากอีกคน!
เขาสะบัดแขนเสื้อแล้วสร้างค่ายกลป้องกันรอบตัว!
ยามนี้อินทรีสามตาของชือรุ่ยเออร์หลุดออกจากพันธนาการ และบินกลับมาแล้ว
ชือรุ่ยเออร์ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของมันอย่างระมัดระวังและวิตกกังวลยิ่ง ก่อนจะพบว่าบาดแผลส่วนใหญ่บนกายของมันตกสะเก็ดแล้ว
และเหมือนว่าลมปราณของมันจะกลับสู้ระดับปกติดังเดิม ซึ่งโดยรวมเรียกได้ว่าหายดีแล้ว
ก่อนจะหันหน้าไปมองลานประลองด้วยความรู้สึกหลากหลาย
หัวหน้าเผ่าอินทรีสามตา…
ซั่งกวนเยว่…
…
“ท่านพ่อ!”
เจียงจื่อหยวนอุทานด้วยความกระวนกระวาย
ไป๋หลีฉุนรีบจับไหล่ของนางไว้
“หยวนหยวน อย่าเพิ่งตื่นตะหนกไป ฉู่…ซั่งกวนเยว่ไม่คณามือบิดาเจ้าหรอก! เราเพียงรอดูอยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว!”
ขณะกล่าวเช่นนั้น เขาก็มองไปข้างหน้าแล้วขมวดคิ้วมุ่น
“นี่หรือชายาที่ถูกเลือกโดยโอรสสวรรค์… เหอะ!”
ไร้สาระเสียจริง!
ปลอมตัวปกปิดอันลักษณ์ เพื่อแอบเข้าไปในสำนักหลิงเซียว และก่อปัญหามากมาย…
ในวันนี้ และต่อหน้าเหล่าชนชั้นสูงจากทั่วทั้งอาณาจักรเสิ่นซวี่ สิ่งนี้ถือเป็นการทำให้พระราชวังเมฆาสวรรค์ของพวกเขา อับอายขายหน้าอย่างถึงที่สุด!
ไม่แปลกใจเลย ที่คนเหล่านั้นพยายามหยุดเขาไว้ ไม่ให้เข้าไปในตำหนักสักการะเทพเมื่อคราก่อน เพราะแท้จริงแล้ว เจ้าตัวไม่ได้อยู่ที่นั่น!
ในใจของไป๋หลีฉุนเต็มไฟแค้น
ซั่งกวนเยว่ผู้นี้ปฏิบัติต่อเขาราวคนทั่วไปไร้ศักดินา และหาญกล้าจองหองเกินใคร! กล้าดีอย่างไรมาหลอกลวงคนมากมายเช่นนี้!
เขาจะรอดูหรงซิวจะยุติเรื่องนี้อย่างไร!
ซั่งกวนเยว่…ต้องลงจากตำแหน่งพระชายา!
เจียงจื่อหยวนรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
ซั่งกวนเยว่ผู้นั้น…มีกลยุทธ์เล่ห์เหลี่ยมมากมาย!
หลังจากเผชิญหน้ากันหลายครั้ง และกลายเป็นนางทุกต้องน้อมรับความพ่ายแพ้เสียทุกครา ทำให้ตอนนี้นางพึงระวังในตัวซั่งกวนเยว่เป็นอย่างมาก
ใครจะรู้ว่านางยังมีไพ่ใบไหนอีก…
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร ชีพจรดั้งเดิมดั้งเดิมของนางก็ถูกทำลายไปแล้ว
ตั้งแต่นั้นมา สมดุลในกายของนางก็พังทลายลงอย่างสมบูรณ์!
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ นัยน์ตาของเจียงจื่อหยวนก็พลันปรากฏร่องรอยความสิ้นหวังอย่างและความขุ่นเคืองใจขึ้นมา
หากท่านพ่อสามารถจัดการซั่งกวนเยว่ได้ คงจะดีไม่น้อย!
ความคิดนั้นแวบเข้ามาในหัวของนาง ก่อนจะหันศีรษะไปอีกทาง และมองไปยังหรงซิวโดยไม่รู้ตัว
ชายคนนั้นนั่งอยู่บนที่นั่งของเขา ใบหน้าอันน่าสูงศักดิ์และสง่างามดูน่าหลงไหล สงบนิ่งไร้ซึ่งคลื่นอารมณ์ใดใด
เหมือนกับว่า…
ไม่ได้สนใจทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด
เขาจะไม่ทำสิ่งใดเลยรึ?
แน่นอนว่าหรงซิวไม่ทำอันใดอยู่แล้ว
นั่นเพราะตอนนี้ คนที่ผิดคือซั่งกวนเยว่!
หรือว่าเขา…ต้องการให้ทุกคนในลานรุมประนามหญิงสาวผู้นี้?
…
เมื่อเห็นทางทีของหรงซิว ใครหลายคนก็ต่างสงสัยอย่ากมาก
นั่นชายาของเขามิใช่หรือ
และยังเป็นคนที่เขาเลือกเองอีก
ต่อให้ใช้หัวแม่เท้าคิดก็ยังรู้เลยว่าเขาต้องชื่นชอบชายาผู้นี้มากแน่ๆ
ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้ กลับทำให้พวกเขาสับสนงงงวยยิ่งนัก
แต่หากหรงซิวลงมืออย่างหุนหันพลันแล่น คงจะทำให้บางคนไม่พอใจแน่นอน
หลายคนแอบสบตากัน
เหมือนว่าหลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียดูแล้ว หรงซิวจะยังเลือกให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของตัวเอง และพระราชวังเมฆาสวรรค์มาเป็นอันดับแรก…
แล้วซั่งกวนกวนเยว่ล่ะ?
แม้นบทบาทของชายาเอกจักสูงศักดิ์เพียงใด แต่ก็ยังต้องขึ้นตรงต่อหรงซิวกับพระราชวังเมฆาสวรรค์
แล้วหรงซิวจะยอมทิ้งพระราชวังเมฆาสวรรค์เพื่อนางได้อย่างไร?
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เกรงว่านางคง…
…
ทางฝั่งผู้อาวุโสจากสำนักหลิงเซียวเองก็สับสนไม่แพ้กัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา หรงซิวคอยดูแลเอาใจใส่นางหนูผู้นั้นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าเขานั้นรักใคร่ชื่นชมในตัวนางมาก แล้วเหตุใดเขาถึงยังนั่งเฉยอยู่ข้างลานเช่นนั้น?
อย่างไรก็ลูกศิษย์ของเขา!
จะปล่อยให้ถูกคนอื่นรังแกได้เช่นไร!
ทว่าไม่ทันจะได้ก้าวออกไป หรงซิวกลับตวัดสายตามองเขาเสียก่อน
ริมฝีปากเรียวบางของเขาหยักยกขึ้น พลันระบายยิ้มบางเบา
“ผู้อาวุโสวั่นเจิง โปรดรอสักครู่”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงขมวดคิ้ว
“ยังจะรอสิ่งใดอีก? ไม่มีเวลาแล้ว!”
แม้ว่านางหนูนั่นจะมีอสูรศักดิ์สิทธิ์สองตัวคอยช่วย แต่พลังปราณของเจียงเห่อเทียนแข็งแกร่งกว่านางมาก!
ครั้งนี้เขากล้าเสี่ยง
หรงซิวอมยิ้มนิดๆ
“ตอนนี้นางกำลังโกรธมาก ท่านต้องปล่อยให้นางระบายโทสะเสียก่อน”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงชะงัก
“เจ้า…”
ที่หรงซิวไม่ทำอะไร นั่นเพราเขาต้องการ…ปล่อยให้นางหนูนั่นระบายอารมณ์หรือ!
ไยเขาถึงแน่ใจว่านางจะชนะ?
มั่นอกมั่นใจเกินไปหรือเปล่า…
ผู้อาวุโสวั่นเจิงแอบคิดเล็กคิดน้อยในใจ
เขาเหลือบมองหรงซิวอย่างลังเลครั้งแล้วครั้งเล่า และในที่สุดก็นั่งลงตามเดิม
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็เอ่ยออกมาเบาๆ
“อย่างไรก็ตาม หากศิษย์ของข้าโดนทำร้าย เจ้าต้องรับผิดชอบ!”
หรงซิวพยักหน้า ท่วงท่าหยิ่งศักดิ์ศรีและมั่นอกมั่นใจ หากแต่ลงปราณกลับแฝงไปด้วยความทะนงตน
“แน่นอนอยู่แล้ว”
…
หัวใจของฉู่หลิวเยว่ร้อนผ่าวด้วยเพลิงโทสะ
นับตั้งแต่ที่ไปยังพระราชวังเมฆาสวรรค์ นางก็ถูกสองพ่อลูกตระกูลเจียงยั่วยุอยู่ร่ำไป
และยามนี้ก็ยังมีไป๋หลีฉุนอีก
นางถามตัวเองตลอดว่านางเคยไปทำอะไรให้ใครด้วยหรือ และเพื่อเห็นแก่เซียนสุ่ยหลิง ที่เป็นตระกูลถึงผู้นำชนเผ่าอันดับหนึ่งของพระราชวังเมฆาสวรรค์ นางถึงยอมปล่อยเขาไปครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่พวกเขาก็ยังไม่ตามรังควานไม่เลิก!
แต่ในเมื่อวันนี้ความจริงกระจ่าง เช่นนั้นก็ไม่ต้องเกรงใจกันอีกต่อไป!
ไม่ว่าอย่างไร นางจะต้องคืนให้ได้!
กริ๊ก!
กระบี่ชื่อเซียวแทงลงไป ค่ายกลของเจียงเห่อเทียนพลันแตกสลาย!
ปลายกระบี่ชี้ไปทางเจียงเห่อเทียน!
หึ่ง!
พลังปราณแล่นผ่านปลายกระบี่อันแหลมคม รอยเลือดแดงฉาน ไหลซึมออกมาจากหว่างคิ้วของเจียงเห่อเทียน!