ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1386 ใจข้าแจ่มจรัส
ตอนที่ 1386 ใจข้าแจ่มจรัส
เพียงได้ยินเสียงนี้ ผู้คนทั้งหมดล้วนได้สติกลับมา สัมปชัญญะชุบชูขึ้นเป็นอย่างมาก ตามมาด้วยการเงยหน้าขึ้นเมียงมอง
ทว่าหิมะห่าใหญ่ที่ด้านหน้าก็ไพศาล คล้ายว่าไม่ได้แตกต่างอะไรกับสถานที่อื่น
อาวุโสฮวาเฟิงก็ตระหนักถึงจุดนี้ได้อย่างรวดเร็ว รอยยิ้มบนใบหน้าพลันชะงักค้างอยู่ชั่วครู่
เขาก้มหน้าลงมองปราดหนึ่งอีกครา
ประกายแสงที่อยู่บนตราหยก ก็อยู่ตรงหน้าไม่ไกลอย่างแท้จริงแล้ว
ครานี้คงจะไม่เกิดข้อผิดพลาดแล้ว
“ผู้อาวุโส หากพวกอาวุโสปั๋วเหยี่ยนอยู่ด้านหน้าจริง เวลานี้ก็คงสัมผัสถึงพวกเราได้แล้วกระมัง แต่…เหตุใดถึงไม่มีใครออกมาเลย?”
พวกชือรุ่ยเออร์คือผู้ที่ตามมาด้วยกัน แม้พลังปราณจะยังอ่อนแรงอยู่บ้าง แต่ทั่วทั้งกายก็ฟื้นคืนกำลังกลับมาไม่น้อยแล้ว
“พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะไปดูสักหน่อย”
ขณะพูด อาวุโสฮวาเฟิงก็เดินนำไปข้างหน้า
มีผู้อาวุโสอีกสองท่านตามขึ้นไป
เดิมทีอาวุโสฮวาเฟิงคิดอยากปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็เลือกเดินไปด้านหน้าพร้อมกันกับพวกเขา
หลังจากเดินออกไปช่วงระยะหนึ่ง ทั้งสามก็ยืนนิ่งอย่างพร้อมเพรียง ทอดมองพื้นที่ว่างผืนใหญ่ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นด้านหน้าอย่างกะทันหันด้วยดวงตาตะลึงงัน!
ไม่ผิด เป็นพื้นที่ว่างเปล่าจริงๆ!
ตรงที่แห่งนี้ กองหิมะหลอมละลาย บนพื้นดินสีดำ ไม่มีเกล็ดหิมะแม้เพียงครึ่งส่วน
แม้แต่หิมะที่กำลังร่วงโรยลงมาจากบนฟ้า ก็คล้ายว่าจงใจหลีกทางให้กับพื้นที่แห่งนี้ แล้วร่อนลงที่ตำแหน่งด้านข้างแทน
ราวกับมีเขตแดนไร้ลักษณ์ผืนหนึ่ง โอบล้อมที่แห่งนี้อยู่อย่างไรอย่างนั้น
“ปั๋วเหยี่ยนควรจะอยู่ที่นี่…เหตุใดถึงไม่มีใครเลยเล่า?”
อาวุโสฮวาเฟิงมุ่นคิ้ว เอ่ยพึมพำเสียงต่ำ
หรือว่าสัญญาณเมื่อครู่นี้จะ…
ไม่สิ!
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกสุขล้นถึงก้นบึ้งหัวใจ ในหัววาบปรากฏความคิดหนึ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!
“พวกเขาอยู่ข้างใต้!”
ผู้อาวุโสอีกสองท่านผู้เดิมทีกำลังสับสนงงงวย เมื่อได้ยินวาจานี้ก็ล้วนตกตะลึงคราหนึ่ง
“ว่าอันใดนะ!”
สองตาของอาวุโสฮวาเฟิงจดจ้องยังพื้นที่กว้างผืนนั้นเขม็ง
ท่ามกลางความสลัวคลุมเครือ คล้ายว่ายังสัมผัสถึงลมปราณอันพลุ่งพล่านทรงพลัง ได้เสี้ยวหนึ่งอย่างเลือนราง!
“ผู้อาวุโส เกิดอันใดขึ้นหรือ?”
คนที่ด้านหลังเห็นว่าพวกเขายืนนิ่งไม่ขยับอยู่ตรงนั้นเลยสักฉื่อ ก็กลัวว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นแล้ว จึงรีบร้อนไล่ตามมา
ในตอนที่หลังจากพวกเขาได้เห็นภาพฉากเบื้องหน้า ก็ล้วนไร้ซึ่งเสียงใดอย่างพร้อมเพรียง
“นี่…”
ชือรุ่ยเออร์มองไปยังอาวุโสฮวาเฟิงอย่างไม่ค่อยจะแน่ใจอยู่บ้าง
“ผู้อาวุโส พวกผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนเขาอยู่ที่นี่จริงหรือเจ้าคะ?”
อาวุโสฮวาเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึก
“เพียงแต่เกรงว่า…จะอยู่ข้างใต้!”
นัยน์ตาของชือรุ่ยเออร์หดเกร็งเล็กน้อย
“เป็นไปมิได้กระมัง ข้างใต้นี้เหตุใด…”
“ที่ฮวาเฟิงพูดน่าจะไม่ผิด”
จู่ๆ อาวุโสตันชิงผู้นิ่งเงียบมาตลอดทาง ก็เปิดปากพูด
“ในตอนที่พวกเราพบเจอความลำบากก่อนหน้านี้ คนเหล่านั้นจู่ๆ ก็โผล่พุ่งออกมาจากใต้ดิน…”
ครืน!
ทันใดนั้น พื้นดินก็สั่นไหวขึ้นมาอย่างรุนแรงในฉับพลัน!
ต่อจากนั้น บนพื้นที่กว้างซึ่งเดิมทีว่างเปล่าผืนนั้น ก็ปรากฏริ้วระลอกขึ้นนับไม่ถ้วน!
เพียงชั่วพริบตา ก็ก่อตัวขึ้นเป็นค่ายกลขนาดใหญ่อันหนึ่ง!
เงาร่างหลายสาย ทะยานออกมาจากตรงกลาง!
และมุ่งตรงมายังพวกอาวุโสฮวาเฟิง!
คนเหล่านี้เหมือนกันกับคนที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้เหล่านั้น ทั่วทั้งกายสวมชุดดำ บนใบหน้าก็ล้วนคลุมผ้าดำ มองรูปลักษณ์เดิมไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
“ผู้บุกรุกคุกใต้ดิน…ต้องตาย!”
ในใจอาวุโสฮวาเฟิงพลันหนักอึ้ง!
ดูท่าพวกเขาจะพบอาณาเขตของอีกฝ่ายเข้าให้แล้ว!
แต่ในเวลาเดียวกัน นี่ก็ทำให้เขาแน่ใจในเรื่องหนึ่ง…นั่นคือพวกผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน ถูกกังขังอยู่ด้านใต้นี้แน่นอน!
“ฆ่ามัน!”
อาวุโสฮวาเฟิงโบกขยับสองมือ ค่ายกลขนาดใหญ่อันหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว!
บรรดาผู้อาวุโสคนอื่น ก็ลงมือในทันที!
อันที่จริงจำนวนของคนชุดดำเหล่านี้มีไม่มาก ประมาณหกคนเห็นจะได้
เทียบกับอีกคนหลายสิบของสำนักเฟยซิงและสำหนักหลิงเซียวแล้ว ก็ไม่ได้เหนือกว่ากระไร
แต่สิ่งสำคัญก็คือ พวกอาวุโสฮวาเฟิงผ่านความเหนื่อยล้ามาเนิ่นนาน พละกำลังแต่เดิมก็เหลือไม่เท่าใด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าระหว่างนั้นยังมีหลายคนได้รับบาดเจ็บ
ตรงข้ามกับอีกฝ่าย แม้จำนวนคนจะน้อย ทว่าแต่ละคนก็ล้วนกำยำเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งพละกำลังยังกล้าแกร่ง!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงเข้าสู่การคุมเชิงกันอย่างรวดเร็ว
แต่พวกอาวุโสฮวาเฟิงเข้าใจเป็นอย่างมาก จะเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้โดยเด็ดขาด
ยิ่งถ่วงเวลาจนยืดยาว ก็ยิ่งไม่เป็นผลดีต่อพวกเขา!
ในตอนที่ประดาผู้คนค่อยๆ ตกเป็นรอง เสียงคำรามอันก้องดังทรงพลังสายหนึ่ง พลันลอยมาจากเส้นขอบฟ้า!
โฮก!
ท่ามกลางเสียงนี้แฝงไว้ด้วยลมปราณอันกล้าแกร่งถึงที่สุด เพียงชั่วครู่ก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้!
คนทั้งหมดล้วนเงยหน้าขึ้นมอง
และเห็นเพียงเงาร่างสีขาวหิมะทั่วทั้งกายสายหนึ่ง กำลังทะลวงเมฆทะลุหมอกมุ่งเข้ามา!
ด้วยทักษะเพียงชั่วพริบตา ก็ทะยานจากข้างฟ้ามาถึงยังด้านหน้าแล้ว!
นั่นเป็นราชสีห์ขาวตัวหนึ่ง
เส้นขนดั่งหิมะ ดวงตาสีฟ้าน้ำแข็งคู่หนึ่งราวกับไพลินชั้นยอด หยิ่งผยองเย็นชา! อหังการขวางหล้า!
รอบกายมันโอบล้อมไว้ด้วยความเยียบเย็นสะท้านผู้คน
ในตำแหน่งที่ทะยานผ่านมา เหนือครึ่งฟ้าที่ด้านบนทิ้งเอาไว้เป็นสะพานน้ำแข็งทอดยาวสายหนึ่ง!
พวกอาวุโสฮวาเฟิงเห็นเช่นนั้น ล้วนทั้งตกตะลึงทั้งยินดี
“เจ้าเกล็ดหิมะน้อย!”
สีหน้าเกรียงไกรหมื่นส่วนของเสวี่ยเสวี่ยเกือบจะพังทลาย
ใต้เท้าพลันลื่นไถลคราหนึ่ง ตรงทะยานไปทางคนชุดดำหลายคนนั้น
แต่โชคดีที่จิตใจเนื้อแท้ของมันในเวลานี้ แกร่งกล้ากว่าเมื่อก่อนขึ้นมากแล้ว พลันปรับสภาวะจิตใจได้อย่างรวดเร็ว มุ่งตรงเข้าสังหารหมู่ท่ามกลางคนชุดดำเหล่านั้น!
กำลังรบของสัตว์อสูร เทียบกับเผ่ามนุษย์ในระดับเดียวกันแล้ว ย่อมแข็งแกร่งกว่ามาก
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเสวี่ยเสวี่ยผู้ที่ช่วงนี้ระดับบำเพ็ญเพียรเพิ่มขึ้น
เพียงหนึ่งอุ้งเท้าของมันก็ฟาดหนึ่งคนจนบินลอย เพียงสะบัดหัวราชสีห์คราหนึ่ง ก็กระแทกชนอีกคนหนึ่งได้อย่างรุนแรง
เสียงกระดูกแตกหักลั่นดัง ยิ่งเสนาะหูขึ้นเป็นพิเศษในเวลานี้
สถานการณ์ในสนามรบเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา!
ชือรุ่ยเออร์ผ่อนลมหายใจ ริมฝีปากยกขึ้นอย่างอดไม่ได้
“ดูท่าหรงซิวจะมาถึงแล้ว!”
คนอื่นเองก็ตระหนักถึงจุดนี้ได้อย่างชัดเจน สีหน้าล้วนผ่อนคลายลงไม่น้อย
อาวุโสฮวาเฟิงพลันส่งสายตาไปให้ผู้อาวุโสสองท่านที่อยู่ด้านข้าง
“พวกเจ้าดูอยู่ตรงนี้ก่อน ข้าจะไปทำลายค่ายกลนั่น!”
“ตกลง!”
…
ใต้ดิน
สมรภูมิอันดุเดือดฉากหนึ่ง!
เปลวเพลิงสีดำและสีทองทะยานออกมา แต่ละสีพลันก่อตัวเป็นเงามายาสายหนึ่งอยู่ตรงหน้าหรงซิว!
เงามายานั่นและหรงซิวมีรูปลักษณ์เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน
“ร่างวิญญาณสองร่างหรือ!”
ร่างวิญญาณสองสายที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นนี้ ทำให้บุรุษที่อยู่กลางกระจกสัมฤทธิ์ตกตะลึงคราหนึ่งอย่างชัดเจน
ใต้หล้านี้ ผู้ที่สามารถบำเพ็ญร่างวิญญาณสองสายออกมาได้ในเวลาเดียวกัน เขายังไม่เคยพบมาก่อน!
หรงซิวทำเช่นนั้นได้อย่างไรกันแน่
ไม่รอให้เขาคิดจนกระจ่างแจ้ง เงามายาสองสายนั้นก็เข้ามาร่วมต่อสู้แล้ว!
“ร่างวิญญาณก็ล้วนออกมาแล้ว ข้ากลับอยากจะเห็นความสามารถของตัวเจ้าสักหน่อย ยังจะขวางข้าได้หรือไม่!”
ขณะพูด แส้โลหิตหลายสายก็ทะยานออกมา มุ่งตรงไปหาหรงซิว!
เมื่อไม่มีร่างวิญญาณคุ้มครอง ร่างเดิมของหรงซิวก็อ่อนแอไร้ที่เปรียบ!
ขอเพียงโจมตีโดน…
เปรี้ยง!
เงาร่างสีทองชาดขนาดใหญ่สายหนึ่ง ขวางอยู่ตรงหน้าหรงซิว!
มันคือถวนจื่อ!
ปีกคู่ของมันกางออก เกือบจะครอบครองพื้นที่ครึ่งหนึ่งของที่แห่งนี้!
แส้โลหิตเหล่านั้นทะยานเข้ามา ถูกมันฟาดสลายในหนึ่งปีก!
ซู่!
เปลวเพลิงสีทองชาดแผ่ขยายออกมา!
ทั่วทั้งพื้นที่กลายเป็นทะเลเพลิงผืนหนึ่งในชั่วพริบตา!
บันไดเริ่มพังทลาย!
มู่ชิงเห่อยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น
ในตอนที่เปลวเพลิงนั่นแผดเผาเข้ามา ตรวนเหล็กบนมือบนเท้าเขาพลันร้อนแดง!
อุณหภูมิอันระอุไอเข้าเผาผลาญ ที่ตำแหน่งข้อมือและข้อเท้าเขา ผิวเนื้อร้อนไหม้ในฉับพลัน!
ความเจ็บปวดอันน่าหวั่นกลัวโถมท้นทั่วทั้งกาย!
ในเวลาเดียวกันนี้เอง หรงซิวก็มองมาทางนี้ปราดหนึ่ง
นิ้วมือเขาขยับเล็กน้อย ด้ายสีทองสายหนึ่งทะยานออก
มู่ชิงเห่อหลุบตาลงมอง ก็เห็นแสงเรืองสีทองที่อ่อนบางถึงที่สุดสายหนึ่งวาบปรากฏอยู่ตรงหน้า
ขอแค่เขาก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ก็สามารถทำให้โซ่ตรวนขาดสะบัด!
เขาหลับตาลง เพราะว่าเจ็บปวด เส้นเลือดดำที่หน้าผากจึงปรากฏชัดเจน
ทันใดนั้น เขากลับก้าวถอยหลังก้าวหนึ่ง แล้วหลีกหลบออกมา