ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1378 การคาดเดา
ตอนที่ 1378 การคาดเดา
นั่นมันเผ่าอินทรีสามตาเชียวนะ!
พวกมันกลายเป็นนกอัธยาศัยดีตั้งแต่เมื่อไรกัน?
หากบอกว่าเห็นแก่กษายะหางวายุ จึงมิได้ทำอันตรายฉู่เยว่ ก็ยังพอเข้าใจได้ แต่ถึงขั้นยอมคืนสัตว์อสูรให้ชือรุ่ยเออร์นี่สิ…ไม่ฟังดูเพ้อเจ้อไปหน่อยรึ!?
แม้แต่ชือรุ่ยเออร์เองก็ยังตกตะลึง
นางเดินกะโผลกกะเผลกเข้าไป โดยไม่สนใจบาดแผลที่ขาและเท้าเลยสักนิด
ผู้อาวุโสคิ้วขาวรีบพุ่งเข้าไปพยุงนาง เพราะกลัวว่านางล้มหน้าหน้าคว่ำ
“ฉู่เยว่ เจ้าพูดจริงหรือ?”
หัวใจของชือรุ่ยเออร์เต้นละรัว ลึงลงไปดวงตาคู่สวย เปี่ยมไปด้วยประกายแห่งความหวัง
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นนิดๆ พลันดีดนิ้ว
ฟิ้ว!
อินทรีสามตาตัวหนึ่งบินมาทางพวกเขาด้วยความว่องไว!
ใบหน้าของชือรุ่ยเออร์พลันแต่งแต้มไปด้วยความปิติยินดี
มันคือตัวที่นางทำสัญญาด้วย!
อินทรีสามตาบินวนไปมาอยู่เหนือศีรษะของชือรุ่ยเออร์อยู่พักหนึ่ง พลางทอดสายตามองนางราวขอโทษ
ความจริงแล้วหลังทำสัญญา ชือรุ่ยเออร์ดูแลมันอย่างดีมาโดยตลอด ถ้าบอกว่ามันไม่รู้สึกอะไรเลย คงดูปลอมเปลือกเกินไป
เพียงแต่พอพี่น้องของมันปรากฏตัวขึ้น มันจึงตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้ชือรุ่ยเออร์บาดเจ็บ อีกใจก็ไม่อยากทรยศพวกพ้องของตน สุดท้ายจึงเกิดผลเช่นนี้
แต่โชคดีที่ทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว!
ทว่าชือรุ่ยเออร์ยังไม่กล้าปักใจเชื่อ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างลังเลว่า
“เจ้า…เผ่าของเจ้าจะไม่ทำลายสัญญาของเจ้ากับข้าแล้วใช่หรือไม่?”
อินทรีสามตาพยักหน้าพลันหันไปมองฉู่หลิวเยว่
ผู้มีพระคุณของท่านบรรพบุรุษกล่าวเองเช่นนั้น ย่อมมิมีผู้ใดกล้าโต้แย้ง
อีกอย่าง ท่านบรรพบุรุษเองก็ได้ทำสัญญากับเผ่ามนุษย์แล้วด้วย…
มันรีบบินกลับเข้าไปสถิตอยู่ในร่างของชือรุ่ยเออร์
ชือรุ่ยเออร์มีความสุขมาก และหันไปมองฉู่หลิวเยว่ด้วยความซาบซึ้ง
“ฉู่เยว่ ไม่รู้จะขอบคุณเจ้าอย่างไรดี!”
ถึงฉู่เยว่จะไม่ได้พูดอันใด แต่นางก็รู้ว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะความช่วยเหลือจากเขา
แม้นางจะไม่รู้ว่าเขาโน้มน้าวเผ่าอินทรีสามตาได้อย่างไร แต่มัน…
ดีต่อใจมากจริงๆ!
พ่อของนางมอบอินทรีสามตาตัวนี้ให้ นางรักใคร่และเฝ้าทะนุทนอมมันมาโดยตลอด
ตอนแรกนางคิดว่าตนนั้นเดินมาถึงทางตันแล้ว แต่จู่ๆ ก็มีกระท่อมปรากฏขึ้นให้นางพักพิง!
“ศิษย์พี่หญิงมิต้องเกรงใจ ตัวมันเองก็เต็มใจกลับมาหาท่าน”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มให้นาง
“อินทรีสามตานั้นเย่อหยิ่ง หากแต่ซื่อสัตย์และเถียรตรง ขอแค่ท่านดูแลมันอย่างดี จากนี้ก็ไม่ต้องกังวลอันใดแล้ว”
ที่พูดมานั้น หมายความว่า เขาไปตกลงกับเผ่าอินทรีสามตามาแล้วรึ!
ชือรุ่ยเออร์แอบตกใจ
ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้า ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นพวกลูกหลานตระกูลดังของอาณาจักรเสิ่นซวี่ทั้งสิ้น
ทว่าต่อให้เป็นพวกเขาที่เข้าไปเจรจา ก็คงไม่สามารถเกลี้ยกล่อมอินทรีสามตาได้
และกลัวว่าเรื่องนี้จักตกกระทบชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของตระกูลพวกเขา
แต่ฉู่เยว่กลับทำได้…
ในใจของนางเริ่มเกิดความสงสัย
ฉู่เยว่เขา…เป็นใครกันแน่? ไยเขาถึงสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้!
ไม่ใช่แค่ชือรุ่ยเออร์ แต่รวมทั้งคนอื่นๆ ที่อยู่ที่นี่ ใครบ้างจะไม่สงสัยเขา?
แต่ฉู่หลิวเยว่เมินเฉยต่อความใคร่รู้ของคนเหล่านั้น แล้วหันกลับไป
ต้นโพธิ์สีทองม่วงยืนต้นอยู่เงียบๆ มิได้ขยายกิ่งก้านเติบโตขึ้นกว่าเดิมแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้เร้นกายหลบสายตาผู้คน
อินทรีสามตาที่ปรากฏก่อนหน้านี้ทั้งหมด บินกลับไปเกาะบนต้นไม้ดังเดิม หลังจากที่นางก้าวเท้าออกมา
ฉู่หลิวเยว่พยายามโน้มน้าวพวกมันอยู่นาน เพื่อห้ามไม่ให้พวกมันบินออกมาส่งนาง
หากคนอื่นเห็นภาพเช่นนั้น คงไม่เป็นผลดีแน่นอน
คนเราจักถ่อมตนไว้เป็นดี
เมื่อตระหนักถึงสายตาของฉู่หลิวเยว่ พวกมันก็รีบหันมามองนางด้วยสายตาเป็นประกาย
ฉู่หลิวเยว่คิ้วกระตุกเบาๆ
เดิมที หลังจากที่รู้ว่าจื่อเฉินทำสัญญากับนาง พวกมันก็แอบไม่พอใจอยู่บ้าง
แต่พอจื่อเฉินอธิบายว่ามันได้รับการช่วยเหลือจากนาง และยังช่วยสร้างกายหยาบให้ใหม่ พวกมันจึงเปลี่ยนใจแล้วหันเชื่อฟังนางไปโดยปริยาย
ถ้าก่อนหน้านี้จื่อเฉินไม่ย้ำให้พวกมันเข้าใจ นางคงถูกรุมทำลายไปนานแล้ว
นางกระแอมไอเบาๆ พลางยกมือขึ้นประสานหมัด
“ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาข้า หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ไว้พบกันใหม่คราหน้าขอรับ”
กี๊!
อินทรีสามตาหลายตัวตอบรับพร้อมกัน เสียงกรีดร้องของพวกมัน มิได้เต็มไปด้วยการคุกคามและเพ่งเล็งเหยื่อเหมือนก่อนหน้า หากแต่ปรากฏความไม่เต็มใจขึ้นมาแทน
สีหน้าของผู้คนรอบข้างพลันฉงนงงงวย
นี่มัน…
ฉู่เยว่เข้าไปพูดหรือทำอันใด ไยอินทรีสามตาถึงปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพเช่นนั้น!
หากแต่ผู้อาวุโสฮวาเฟิงกลับทำหน้าตากรุ่มกริ่ม
กษายะหางวายุ.. ช่างร้ายกาจจริงๆ…
“ผู้อาวุโสขอรับ จู่ๆ ศิษย์ก็จำได้ว่าลืมบางอย่างไว้ที่หลุมศพ เกรงว่าศิษย์คงต้องไปเอามันกลับมา”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงตกตะลึง
“หลุมศพ? หลุมศพอันใด?”
ฉู่หลิวเยว่ผงะไปนิด และอธิบายว่า
“มันคือที่ที่กักขังศิษย์ไว้ก่อนหน้านี้ขอรับ”
สุ้มเสียงรอบด้านพลันเงียบกริบ
ความสนใจของทุกคน ถูกดึงดูดมาที่นางผู้เดียว
เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่หลิวเยว่ พวกเขาต่างทำหน้าตาตื่นตกใจกันให้ควั่น
หลุมศพรึ?
ที่แท้สถานที่แห่งนั้นก็คือ…
“ก็ได้ เช่นนั้นพวกเราก็กลับไปด้วยกัน”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงไม่ต้องการปล่อยฉู่เยว่ไปคนเดียวอีกแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะติดตามเจ้าเด็กนี่ไม่ให้คลาดสายตา
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้คัดค้าน และทำเพียงเห็นด้วยกับเขา
นางยกเท้าขึ้นแล้วเดินไปข้างหน้า
จินตี้และคนอื่นๆ หันมองหน้ากัน พลางขมวดคิ้วมุ่น
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้กล่าวอันใด ฉู่หลิวเยว่ก็หยุดฝีเท้า แล้วหันมามอง
นางเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มที่เหมือนไม่ยิ้ม
“ใช่แล้ว มีเรื่องหนึ่งที่ข้าลืมบอกทุกคน หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏก่อนหน้านี้…เป็นของปลอม มันเป็นเพียงวัตถุที่อินทรีสามตาปลอมแปลงขึ้นมา และตอนนี้ก็ยังอยู่กับพวกมัน ถ้าทุกท่านไม่เชื่อ ก็เข้าไปพิสูจน์เองแล้วกัน ส่วนพวกข้า…ขอตัวลา”
ครั้นพูดจบ นางก็หมุนตัวออกไป ทิ้งให้คนที่เหลือทำหน้าฉงนอยู่แบบนั้น
นี่เขา… พูดจริงหรือเปล่า?
“…จู่ๆ หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ใบนั้นก็โผล่มา ไม่มีแม้แต่สัญญาณเตือนใดใด พอคิดดูตอนนี้ เหมือนมันจะมีบางอย่างไม่ถูกต้องจริงๆ…”
“ข้าเองก็คิดแบบเจ้า ก่อนหน้านี้อินทรีสามตาควบคุมสิ่งนั้นไว้ แค่นี้ก็ดูไม่ปกติแล้วน่า?”
“หรือว่าฉู่เยว่จะมิได้ข้องเกี่ยวกับหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์จริงๆ…”
ฉู่หลิวเยว่ทำหูทวนลมต่อแส้เสียงด้านหลัง
หากใครมีสมอง ก็คงจะพอเดาได้แล้วบ้าง
ส่วนตอนนี้นางอยากจะทำบางสิ่งให้ลุล่วง!
“เหตุใดเหมือนมีใครหายไปเลย?”
ฉู่หลิวเยว่เดินออกไปแล้วสองสามก้าว ก่อนจะตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ครั้นกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็พบว่ามีคนหายไปจริงๆ
“เจียงจื่อหยวนล่ะ?”
ผู้อาวุโสหลายคนพลันตกใจ
“ครู่ก่อนนางยังอยู่ที่นี่อยู่เลย? เพิ่งรวมตัวกันหยกๆ นางหายไปไหนเสียแล้ว?”
ชือรุยเออร์จึงไขความกระจ่างว่า
“ฉู่เยว่ ถ้าข้าเดาไม่ผิด นางน่าจะกลับไปยังที่ที่เจ้าเคยไปมาก่อนหน้านี้”
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาลงทันควัน
ชือรุ่ยเออร์เงียบไปพักหนึ่ง “ความจริงข้าเห็นตอนที่นางเดินไป แต่ไม่ได้ขัดขวางนาง น่าจะ…ไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรอกกระมัง?”
“ไม่เกิดขึ้นแน่นอน”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกโค้งขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มจางๆ
“สถานที่แห่งนั้น… ปลอดภัยมากขอรับ”
นางกล่าวพลางเดินต่อไปเรื่อยๆ
ชือรุ่ยเออร์กระพริบตาปริบๆ ระคนสับสน
ทำไมนางถึงรู้สึกว่าสีหน้าของฉู่เยว่เมื่อครู่ เหมือนกำลัง…รอชมการแสดงดีๆ อยู่เลย?
ทันใดนั้น นางก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า หรือจะมีอันใดดีๆ ซ่อนอยู่ในหลุมศพนั่น!
ฉู่หลิวเยว่ย้ำเท้าไปข้างหน้า พลางเรียกองค์ไม่จู่เป็นระยะ
ตอนนี้นาง อยากพิสูจน์ข้อสงสัยในใจจะแย่อยู่แล้ว!