ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1350 จริงหรือไม่
ตอนที่ 1350 จริงหรือไม่
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นสะท้านไป!
“กระดูกมังกร?” “ถูกต้อง และดูท่าทางแล้ว เหมือนว่าจะเจ้าของกระดูกนี้ ก่อนตายเขาน่าจะมีตำแหน่งไม่ต่ำต้อยในเผ่ามังกร เป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นกระดูกมังกรเขียวหรือไม่ก็มังกรดำ”
ฉู่หลิวเยว่บางทีอาจจะเป็นเพราะเขาหลอมรวมกับกระดูกมังกรสองส่วน ตอนนี้อินทรีสามตาจึงมีรู้สึกไวต่อสิ่งนี้มาก ไม่อย่างนั้นเพียงแค่กระดูกขาวส่วนหนึ่ง ก็สามารถระบุฐานะของอีกฝ่ายได้แล้ว
ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเล็กน้อย ที่แห่งนี้ไม่ควรจะมีกระดูกเพียงชิ้นเดียว เป็นไปได้อย่างมากว่า…มังกรตัวหนึ่งจะเคยตกลงมาในนี้!
“ฉู่เยว่? ฉู่เยว่?”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงตะโกนเรียกนางสองครั้ง ฉู่หลิวเยว่ถึงได้สติกลับคืนมา
“เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่หรือ?”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงกวาดสายตามองนางอย่างระมัดระวัง ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้าด้วยความเสียใจ มุมปากยกยิ้มขึ้น
“ไม่มีขอรับ ข้าแค่รู้สึกว่ากระดูกที่ปรากฏขึ้นตรงนี้…มันช่างแปลกประหลาดมาก”
“อาจจะเป็นกระดูกของผู้บำเพ็ญเพียรที่ตกลงมาในนี้ก็ได้?”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังคาดเดาขึ้น
“รู้จากกระดูกแล้ว…อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งระดับครึ่งเทพ”
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผิดปกติอะไร
ที่แห่งนี้คือบุพกาลชายแดนเหนือ ผู้แข็งแกร่งที่ตายในที่นี้มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน แค่กระดูกส่วนนี้จะนับเป็นอะไร?
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“อาจจะใช่ละมั้ง” …คนกลุ่มนั้นยังคงเดินหน้าต่อไป
แต่หลังจากที่เดินมาสักระยะหนึ่งแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็พบว่ามีโครงกระดูกที่คล้ายกันอีกหลายชิ้น
พวกมันถูกฝังอยู่ใต้ดิน กอปรกับถูกทรายแดงกลบ ถ้าไม่มองให้ดีๆ ก็จะไม่มีทางสังเกตเห็นได้เลย
“กระดูกเหล่านี้คงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์หรอกมั้ง…”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งออดถามเสียงทุ้มต่ำไม่ได้
ทุกคนเงียบอย่างไป จากนั้นก็มองหน้ากัน
ความจริงแล้วในใจของทุกคนมีข้อสงสัยเหล่านี้อยู่ เพียงแค่ก่อนหน้านี้ไม่เคยพูดถึงมาก่อน
หากเห็นชิ้นสองชิ้นเป็นครั้งคราวก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าบนเส้นทางนี้ เหมือนจะมีกระดูกปรากฏขึ้นมาตลอดทาง
อีกทั้งกระดูกเหล่านี้ก็เหมือนกับชิ้นแรกไม่มีผิด มันเปล่งประกายแวววาว หากมองผ่านๆ เหมือนกับหยกขาวชิ้นหนึ่ง
ตู้ม!
ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นต่อหน้าทุกคนอย่างกะทันหัน!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่ตึงเครียด รีบเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างรวดเร็ว!
หินผาอยู่ตรงหน้าพังทลายลงมาในทันที มันถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว! ก่อนจะกระแทกลงพื้นอย่างแรง!
พื้นแผ่นดินสั่นสะเทือน เศษฝุ่นเศษหินฟุ้งกระจาย!
หุบเขาที่ถือว่ากว้างใหญ่ แคบลงมาทันทีในพริบตาเพราะมีหินเหล่านี้ จนแทบจะปิดเส้นทางการเดินของพวกเขาเอาไว้
จากนั้นเงาร่างหลายร่างก็ปรากฏออกมาจากด้านหลังโขดหิน
ฉู่หลิวเยว่หันไปจ้องมองตาเขม็ง
พวกเขามีประมาณสิบกว่าคน ชายคนหนึ่งกำลังถูกล้อมมาไว้
สองหมัดต่อสู้กับสี่มือ ชายคนนั้นพ่ายแพ้หมดรูป
คนที่ล้อมเขาไว้ลงมือหนักหน่วงถึงขั้นตายได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานชายคนนั้นก็ล้มลงที่พื้น
“ตายซะ”
ชายคนนั้นที่กำลังจะถูกฆ่าพยายามลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก เขาคิดจะหาหนทางหนี
แต่ขาของเขาหักไปแล้ว ลมหายใจรวยริน เขาจะหนีได้อย่างไร?
ตอนที่เห็นว่ากระบี่เล่มยาวกำลังจะแทงเข้าที่ขมับ เขาก็เงยหน้าขึ้น และมองเห็นฉู่หลิวเยว่กับคนอื่นๆ ในทันที เขาแทบจะใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีตะโกนออกมา
“ช่วยด้วย! ขอร้องล่ะ พวกเจ้าช่วยข้าด้วย!”
เขาพยายามจะคลานมาทางนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดวิตก
“ข้าคือเหลี่ยงเส่าคัง คุณชายสามแห่งตระกูลเหลี่ยง! ขอเพียงแค่พวกเจ้าช่วยเหลือข้า ตระกูลเหลี่ยงของข้าจะต้องตอบแทนบุญคุณดั่งสายธาร!”
ฉู่หลิวเยว่หรี่สายตา
ตระกูลเหลี่ยง…ชื่อนี้คุ้นหูอย่างมาก
ชือรุ่ยเออร์สามารถจดจำฐานะของเขาได้ในทันที
“เขาเป็นพี่ชายของเหลี่ยงเซียวเซียว”
ฉู่หลิวเยว่เข้าใจได้ในทันที
เหลี่ยงเส่าคัง เหลี่ยงเซียวเซียว…
ไม่แปลกใจที่นางรู้สึกว่านางเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน ทั่วทั้งอาณาจักรเสิ่นซวี่ ก็มีเพียงแค่ตระกูลเหลี่ยงเดียวหรือ?
เดิมทีคนกลุ่มนี้ต้องการฆ่าคนปิดปาก แต่เมื่อเห็นเหลี่ยงเส่าคังเปิดเผยฐานะของตนเองออกมา สีหน้าของเขาก็ย่ำแย่ขึ้นมาในทันที
“พวกเจ้า”
คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดหันมามองทางผู้อาวุโสฮวาเฟิงและคนอื่นๆ เดิมทีเขาอยากจะด่าออกมาตรงๆ แต่หลังจากเห็นผู้อาวุโสฮวาเฟิงและคนอื่นๆ พวกเขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าฝีมือของอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก เป็นคนที่ไม่ควรยั่วโมโหด้วย
ดังนั้นพวกเขาจึงกลืนคำพูดอีกครึ่งหนึ่งลงคอ พร้อมกว่าสายตามองทุกคนด้วยความสับสน
ส่วนคนที่อยู่ด้านหลังพวกเขาก็ฉวยโอกาสช่วงเวลาสั้นๆ จับตัวเหลี่ยงเส่าคังขึ้นมา จะเป็นหรือตาย ขึ้นอยู่กับหนึ่งประโยค
“ไม่ทราบว่าทุกท่าน…เป็นใครมาจากไหนหรือ?”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงสาวเท้าขึ้นมาหนึ่งก้าว
“ข้า ฮวาเฟิงแห่งสำนักหลิงเซียว”
ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้ารีบประสานหมัดทำความเคารพอย่างสุภาพ
“ที่แท้ก็เป็นผู้อาวุโสฮวาเฟิง เสียมารยาทแล้ว พวกเรามาจากตระกูลซูแห่งเขาหลิงอวิ้น”
ตระกูลซูแห่งเขาหลิงอวิ้นและตระกูลเหลี่ยงขัดแย้งกันอยู่เสมอมา การต่อสู้เป็นเรื่องปกติ
แต่เหลี่ยงเส่าคังเป็นทายาทสายตรงของตระกูลเหลี่ยง พวกเขาที่ต้องการจากฆ่าฟันเช่นนี้มันเป็นเรื่องน่าแปลกอย่างยิ่ง
“ผู้อาวุโสฮวาเฟิง ท่านจะต้องช่วยข้านะขอรับ! ถือว่าเห็นแก่ฐานะน้องสาวข้าด้วย!”
น้องสาวของเขา แน่นอนว่าก็คือเหลี่ยงเซียวเซียว
“ข้าโดนคนเหล่านี้ไล่ฆ่ามาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว พวกเขาตั้งใจจะฆ่าข้าให้ตาย ผู้อาวุโส! ขอร้องล่ะท่านช่วยข้าที! ตระกูลเหลี่ยงจะต้องตอบแทนบุญคุณท่านอย่างแน่นอน!”
ในตอนนี้เหลี่ยงเส่าคังเหมือนคนที่กำลังจมน้ำ พยายามคว้าฟางเส้นสุดท้ายอย่างเต็มกำลัง
“ผู้อาวุโสฮวาเฟิง เรื่องนี้เป็นบุญคุณความแค้นของพวกเรากับตระกูลเหลี่ยง ขอร้องท่านและผู้อาวุโสได้โปรดอย่ายื่นมือเข้ามา”
ชายที่เป็นผู้นำของเขาหลิงอวิ้นพูดขึ้นเสียงเรียบ
พวกเขาไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่กับสำนักหลิงเซียว ดังนั้นความสัมพันธ์จึงเทียบไม่ได้กับเหลี่ยงเส่าคัง
ถ้าสำนักหลิงเซียวต้องการออกหน้าช่วยเหลือเหลี่ยงเส่าคัง เช่นนั้นวันนี้พวกเขาก็ไม่สามารถจัดการเหลี่ยงเส่าคังได้แล้ว
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
“หึ เรื่องนี้ท่านต้องถามเหลี่ยงเส่าคังแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเขาวางแผนใส่ร้ายพวกเรา พวกเราจะไล่ฆ่าเขาแบบนี้ได้อย่างไร!”
“เขาโกหกล่อให้พวกเรามาที่นี่ จากนั้นก็วางแผนลอบฆ่า คร่าคนของเขาหลิงอวิ้นไปกว่ายี่สิบกว่าคน!”
“เลือดแค้นเช่นนี้ พวกเราจะไม่แก้แค้นได้อย่างไร!”
เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนก็ตกใจอย่างมาก
หากเรื่องนี้เป็นความจริง เช่นนั้นพวกเขายืนกรานที่จะฆ่าเหลี่ยงเส่าคัง ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว
“ไม่ใช่แบบนั้น! ผู้อาวุโสฮวาเฟิง ท่านอย่าฟังความข้างเดียว ความจริงแล้วข้าก็ถูกหลอกเหมือนกัน!”
เหลี่ยงเส่าคังกลืนน้ำลายลงคอเสียงดัง
“ก่อนหน้านี้พวกเราค้นพบร่องรอยของหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่พวกเรากำลังวางแผนว่าจะไปที่นั่น พวกเราก็ได้พบกับคนของเขาหลิงอวิ้น”
“เดิมทีพวกเขาตั้งใจจะมาหาเรื่องพวกเรา แต่ในตอนนั้นพวกเราไม่อยากจะเสียเวลาไปกับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงบอกข่าวนี้ให้กับพวกเขาทราบ อีกทั้งยังได้ปรึกษาหารือกัน การที่จะแย่งหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์มาได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของตนเอง หลังจากที่ทุกอย่างจบลงแล้ว ก็ค่อยมาจัดการบุญคุณความแค้นของพวกเรา”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ร่างของเหลี่ยงเส่าคังก็หดตัวเล็กลง เหมือนกับเขานึกถึงอะไรบางอย่างที่น่ากลัวขึ้นมาได้
“พวกเราค้นหาทางมาโดยตลอด แต่ใครจะรู้เล่าว่า เดิมทีนี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์เลย อีกทั้ง…”
โฮก!
เสียงคำรามของมังกรดังมาจากระยะไกล!