ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1347 ทางข้างหน้า
ตอนที่ 1347 ทางข้างหน้า
ฉู่หลิวเยว่เดินตามทิศทางที่องค์ปฐมกษัตริย์ชี้แนะ
ความเร็วของนางไม่ได้นับว่าสูง
ความจริงแล้วในตอนนี้ทุกคนได้สูญเสียกำลังไปไม่น้อย ต่อให้เร็วก็เร็วได้ไม่เท่าไร
ไม่ช้าก็เร็วอีกาเก้าหางเหล่านี้ตามพวกเขามาทันแน่นอน
เสียงกระพือปีกดังเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้อาวุโสฮวาเฟิงอดหันไปมองฉู่หลิวเยว่ครู่หนึ่งไม่ได้ แต่กลับเห็นว่าสีหน้าและท่าทางของนางดูสงบเกินคาด
จิตใจที่สงบนิ่งขนาดนี้ ไม่เหมือนกับเด็กน้อยอายุสิบหก
ไม่ใช่ว่าเขาไม่สงสัย แต่เขารู้ว่าอีกฝ่ายมีหงส์ทองคำอยู่ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเชื่อฉู่หลิวเยว่อย่างไม่รู้ตัว
ทุกคนมุ่งหน้าไปด้านหน้าอย่างเงียบเชียบ
พรึ่บ!
ลมปราณที่น่าหวาดกลัวปรากฏขึ้นมาจากทางด้านหลัง!
เจียงจื่อหยวนตกใจ และรีบหลบไปด้านข้างในทันที!
เปลวเพลิงสีเขียวพุ่งผ่านร่างกายของนางไปอย่างรวดเร็ว!
แขนเสื้อของนางถูกเผาไหม้ในทันที!
“อ๊าก!”
เจียงจื่อหยวนกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะรีบดับเพลิงกลุ่มนั้นลง!
เปลวเพลิงนั้นดับมอดอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าของนางก็ไหม้ไปเจ็ดแปดส่วนแล้ว อีกทั้งบริเวณไหล่ของนางยังถูกเผาไหม้จนกลายเป็นสีดำเกรียม
ความเจ็บปวดแผ่กระจายอย่างรวดเร็ว!
ริมฝีปากเจียงจื่อหยวนซีดขาวโดยทันที หิมะที่ปกคลุมทั่วทั้งพื้น ลมหนาวกัดเข้าถึงขั้วกระดูก บนหน้าผากของนางมีเหงื่อเย็นๆ ไหลซึมออกมา
นางกลับไปมองอย่างรวดเร็ว แต่กลับถูกอีกาเก้าหางที่บินอยู่ด้านหน้าโจมตีอีกครั้ง!
เป้าหมายของพวกมันเป็นนางจริงๆ ด้วย!
ตอนนี้เจียงจื่อหยวนไม่สนใจความเจ็บปวดของตนเองแล้ว นางรีบพุ่งตัวไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
นางวิ่งไปด้วย พร้อมครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะเอาตัวรอดอย่างใดดี
ด้านหน้ามีไม่กี่คนที่หันกลับมามอง แต่เมื่อเห็นสถานการณ์ดังกล่าว เขากลับไม่ได้ลงมืออันใด
…ในตอนนี้ พวกเขาก็ต้องเหลือพลังเอาไว้หนี แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปช่วยเหลือผู้อื่นเล่า?
ยิ่งไม่ต้องพูดว่า “ผู้อื่น” คนนั้นคือคนที่เป็นตัวต้นเหตุนำปัญหามาให้
…
เจียงจื่อหยวนถูกทรมานจนไม่สามารถพูดออกมาได้ นางวิ่งหนีอย่างจนตรอก ฉู่หลิวเยว่ที่วิ่งอยู่ด้านหน้าไม่ชำเลืองสายตามาเลยแม้แต่น้อย
ยิ่งวิ่งไป ความทรงจำขององค์ปฐมกษัตริย์ก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
สำหรับฉู่หลิวเยว่แล้ว ที่แห่งนี้ก็เป็นทุ่งหิมะกว้างใหญ่ แต่สำหรับองค์ปฐมกษัตริย์แล้ว เหมือนว่าจะรู้จักต้นไม้ต้นหญ้าที่เคยขึ้นอยู่บริเวณนี้อย่างชัดเจน
เมื่อถึงตอนนี้ก็รู้สึกมั่นใจอย่างยิ่งว่าองค์ปฐมกษัตริย์เคยมาที่แห่งนี้แน่นอน
“องค์ไท่จู่ เศษเสี้ยววิญญาณที่เหลือของท่านอาจจะอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
องค์ปฐมกษัตริย์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
“…อาจจะละมั้ง…”
ความจริงแล้วเขารู้สึกว่ามีอันใดบางอย่างกำลังเรียกหาเขาอยู่
ความรู้สึกนั้นคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเมื่อเวลาผ่านไป มันก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น
บางส่วนพุ่งตรงมาด้านหน้า เพื่อขวางทางฉู่หลิวเยว่และคนอื่นๆ ไว้
พรึ่บ!
เปลวเพลิงสีเขียวจำนวนนับไม่ถ้วนพวยพุ่งออกมา จนขวางกั้นตรงหน้าพวกเขาเอาไว้!
อุณหภูมิของเปลวเพลิงนี้ไม่สูง อีกทั้งยังมีความเย็นแฝงอยู่ด้วย
มันเผาไหม้บนพื้นหิมะอย่างบ้าคลั่ง โดยที่หิมะเหล่านั้นไม่มีทีท่าว่าจะละลายเลย
แววตาของฉู่หลิวเยว่แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชา
“ฉู่เยว่ เจ้าถอยหลังมา ข้าจัดการเอง…”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงยังพูดไม่ทันจบประโยค จากนั้นก็เห็นว่าฉู่หลิวเยว่สาวเท้ากระโดดเข้าไปด้านหน้าแล้ว!
เหมือนว่าเปลวเพลิงสีเขียวเหล่านั้นได้เจอกับสิ่งของที่น่าหวาดกลัว พวกมันรีบถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว!
ทุกอย่างเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที
หากผู้อาวุโสฮวาเฟิงไม่ได้ยืนอยู่ด้านข้างของฉู่หลิวเยว่ และจ้องมองอยู่ตลอดเวลา เกรงว่าเขาคงไม่เห็นอันใดที่มันชัดเจนขนาดนี้แล้ว
เขาชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจอันใดบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะโบกมือเรียกพลังปราณดั้งเดิมมาสายหนึ่ง!
เปลวเพลิงนั้นเริ่มดับมอด!
ทุกคนรีบติดตามไปในทันที
ชือรุ่ยเออร์มองทุกอย่างแล้วครุ่นคิด ในตอนที่ติดตามไป นางก็คิดว่าจะถามอีกฝ่าย แต่ตอนนั้นฉู่หลิวเยว่กลับชะงักฝีเท้า
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงที่ติดตามมาก็ชะงักฝีเท้าไปด้วยเช่นกัน
“เหตุใด…”
ทันทีที่นางพูดขึ้น เสียงของนางก็หยุดชะงักไป
เพราะว่านางเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้ว
คาดไม่ถึงว่าด้านหน้าของพวกนางคือหุบเหวลึก!
พวกเขามองไม่เห็นว่าหุบเหวนี้เริ่มต้นจากตรงไหนและสิ้นสุดตรงที่ใด
รู้เพียงแต่ว่าในตอนนี้ ช่องว่างตามธรรมชาติแห่งนี้ได้ขวางกั้นการเดินทางของพวกเขาแล้ว
สองข้างทางเป็นหินผาสีดำ ราวกับมันเคยเจอลมพัดฝนกระหน่ำมานานกว่าพันปี
หนา เรียบง่าย และกว้างใหญ่
พื้นที่ด้านล่างมีทรายสีแดงกองรวมกันอยู่
เมื่อลมพัด ทรายเหล่านั้นก็จะลอยตามลมขึ้นมาเล็กน้อย
ทรายเนื้อหยาบ มีไอความร้อนผสมอยู่
ไม่มีใครรู้ว่าถนนสายนี้จะนำทางไปที่ใด
“ที่นี่…มีหุบเขาเช่นนี้ปรากฏขึ้นอยู่ที่นี้ได้อย่างใด…”
ชือรุ่ยเออร์พึมพำเสียงต่ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
จากนั้นก็หันมองรอบด้าน หิมะขาวโพลน น้ำแข็งปกคลุมทั่วทุกแห่ง
เหมือนว่าไม่ว่าจะไปทิศทางใด ก็ไม่มีจุดสิ้นสุดทั้งสิ้น
แต่ในโลกที่มีลักษณะเช่นนี้ คาดไม่ถึงว่าจะมีทิวทัศน์ที่พิเศษแบบนี้
ลมหนาวทั้งหมดเหมือนว่าจะหลีกเลี่ยงที่นี่โดยทันที
อากาศที่อยู่ด้านล่างร้อนและอบอ้าว
เหมือนกับโลกอีกใบหนึ่ง
ในตอนนั้นเองทุกคนที่อยู่ด้านหลังก็มาถึงแล้ว
หลังจากมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ทุกคนก็ตกอยู่ในความเงียบ
นี่มัน…
จะเลือกอย่างใดดี?
ตอนนี้อีกาเก้าหางฝูงนั้นก็ตามไล่หลังพวกเรามาแล้ว
แต่ว่าเหมือนพวกมันกำลังกลัวอันใดบางอย่าง พวกมันหยุดนิ่ง ไม่บินมาด้านหน้าอีกเลย
“เหมือนว่าพวกมันจะไม่กล้าเข้าใกล้หุบเขาแห่งนี้”
เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากกลุ่มคน
“แต่ว่าตอนนี้พวกเราก็เหมือนตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง…แม้กระทั่งอีกาเก้าหางเหล่านี้ยังมีท่าทีเช่นนี้ ใครจะรู้เล่าว่าในหุบเขานี้มีอันใดซ่อนอยู่กันแน่?”
“แต่พวกเราก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว…อีกาเก้าหางจำนวนมากขนาดนี้ พวกเราก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน”
…
เห็นได้ชัดว่าหลายคนรู้สึกกังวลกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหุบเขาแห่งนี้
ในตอนนั้นเอง ฉู่หลิวเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็กระโดด!
“ฉู่เยว่!”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงอุทานขึ้นมาอย่างตกใจ
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เขาก็กระโดดตามลงไปในทันที!
พวกเขาตามมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ทำได้เพียงมุ่งหน้าไปเท่านั้น!
ต่อให้ด้านล่างมีอันตรายจริงๆ แล้วตอนนี้ที่พวกเขาอยู่มันปลอดภัยนักหรือ?
เมื่อเห็นผู้อาวุโสฮวาเฟิงและฉู่หลิวเยว่กระโดดลงไปแล้ว ชือรุ่ยเออร์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วกระโดดตามลงไปในทันที
เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกคนก็เลือกที่จะติดตามไป
เมื่อมองจากระยะไกลจะเห็นว่าเงาร่างของพวกเขาหายไปจากทุ่งหิมะอย่างรวดเร็ว
อีกาเก้าหางส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโมโห แต่มันกลับไม่กล้าเข้าไปใกล้เลยแม้แต่น้อย
หลังจากบินอยู่บนท้องฟ้าสักระยะหนึ่ง ในที่สุดพวกมันก็เลือกที่จะจากไป