ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1345 พัวพัน
ตอนที่ 1345 พัวพัน
เขาพูดออกมาอย่างช้าๆ ชัดๆ น้ำเสียงเย็นชาอย่างยิ่ง
ใบหน้าของเจียงจื่อหยวนสับสน
เกิด…เกิดอันใดขึ้น?
ตอนนี้แม้กระทั่งผู้อาวุโสฮวาเฟิงก็ยืนอยู่ข้างชือรุ่ยเออร์หรือ?
เหอะ นั่นมันก็ใช่
เมื่อเทียบกับนางแล้ว อีกฝ่ายเหนือกว่าตั้งไม่รู้กี่เท่า
ต่อให้เป็นผู้อาวุโสในสำนัก แต่เขาก็ยังเป็นมนุษย์ ยังคงมีการยกย่องคนที่สูงกว่าและกดคนที่ต่ำกว่า ไม่ใช่หรือ?
เจียงจื่อหยวนหัวเราะในใจเสียงเย็น แล้วพูดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“ผู้อาวุโสฮวาเฟิง ท่านหมายความว่าอีกาเก้าหางเหล่านี้จะเอาชีวิตของข้า ข้าก็ไม่สามารถขัดขืนได้เลยใช่หรือไม่? ทำได้เพียงปล่อยให้มันฆ่าเราฝ่ายเดียว?”
“โง่เง่า!”
ชายชราคิ้วขาวที่อยู่ด้านข้างตำหนิออกมาอย่างอดไม่ได้ “รู้หรือไม่อีกาเก้าหางพวกนี้อาศัยกันเป็นกลุ่ม! หากเจ้าฆ่ามันเพียงตัวเดียว ฝูงของมันทั้งฝูงจะไล่ตามฆ่าพวกเราไม่หยุดยั้ง! ไม่ตายไม่เลิกรา!”
สีหน้าของเจียงจื่อหยวนแข็งค้างไปในทันที
“ถ้าอย่างนั้นเหตุใดพวกเราต้องวิ่งหนี และไม่โจมตีกลับล่ะ? ขอเพียงเจ้ามีความอดทน จะทำให้พวกมันมาฆ่าได้หรือ? ตอนนี้เจ้าฆ่าไปหนึ่งตัว อีกที่เหลือมากมายขนาดนี้พวกเราจะทำอย่างใดกัน!?”
นี่เป็นการระเบิดครั้งใหญ่ออกมา!
“ตราบใดที่รอดพ้นเวลาหนึ่งเค่อไปได้ พวกเราก็จะสามารถหลบเลี่ยงความยุ่งยากนี้ไปได้แล้ว! แต่ตอนนี้ดียิ่ง ควรจะแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าอย่างใด? พึ่งพาอาวุธลับที่ไม่ได้เรื่องของเจ้าหรือ?”
ชายชราคิ้วขาวโมโหอย่างยิ่ง ดังนั้นคำพูดคำจาของเขาจึงไม่มีความเกรงใจแล้ว
ในที่สุดใบหน้าของเจียงจื่อหยวนก็มีร่องรอยของความกังวลและหวาดกลัวปรากฏขึ้น
“ข้า…แต่ว่าข้าทำอันใดไม่ได้นี่นา…มันจะฆ่าข้า…”
“ข้าเรียกอินทรีสามตาออกมาแล้ว เพื่อใช้แรงกดดันสยบพวกมัน แม้ว่าจะไม่ทำให้อีกาเก้าหางถอยลงไปได้ แต่ร้ายดีอย่างใดก็ทำให้มันรู้สึกหวาดกลัวได้”
ชือรุ่ยเออร์มีใบหน้าเย็นชา จ้องเจียงจื่อหยวนตาเขม็ง สายตาคมกริบราวมีด
“ถ้าจำไม่ผิดละก็ หลังจากที่อินทรีสามตาออกมาแล้ว อีกาเก้าหางที่อยู่ตรงหน้าเจ้าก็หยุดโจมตีไปในทันที แต่เจ้ากลับฉวยโอกาสนี้ฆ่ามัน! เจียงจื่อหยวน นี่เจ้าไร้สมองหรือว่าต้องการจะลากพวกเราทุกคนให้ได้รับอันตรายไปด้วย!”
ชือรุ่ยเออร์รู้สึกรังเกียจเจียงจื่อหยวนเป็นอย่างมาก
คนผู้นี้โง่เง่าดักดานจนไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ!
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้พูดไปอย่างชัดเจนแล้ว คนอื่นล้วนเข้าใจเป็นอย่างดี เพียงแค่รอสักครู่หนึ่งเดี๋ยวมันก็ผ่านไป
แต่การกระทำของชือรุ่ยเออร์ ทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิงไปหมด!
เจียงจื่อหยวนถูกด่าจนพูดไม่ออก ใบหน้าร้อนผ่าว
คำพูดของชือรุ่ยเออร์เป็นการตบหน้านางต่อหน้าทุกคน ไม่ไว้หน้านางเลยแม้แต่น้อย
แต่นางก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องโต้เถียง
นางจึงหันไปมองผู้อาวุโสฮวาเฟิงด้วยสายตาสิ้นหวัง น้ำตาไหลริน
“ผู้อาวุโส…ผู้อาวุโสข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ! เมื่อครู่นี้ข้าตื่นตระหนกมากเกินไป หวาดกลัวมากเกินไป ถึงได้…ข้า ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าสิ่งที่ศิษย์พี่ทำเมื่อครู่นี้เป็นการช่วยเหลือข้า ข้า…”
ในตอนนั้นนางไม่มีเวลามาคิดมาก จะพิจารณาอย่างถี่ถ้วนได้อย่างใด?
แล้วอีกอย่างชือรุ่ยเออร์ก็ไม่ชอบหน้านางมาตั้งนานแล้ว การช่วยเหลือของนางนั้นเป็นเรื่องจริงหรือว่าเสแสร้ง นางก็ไม่อาจรู้ได้!
ถ้านางลงมือให้เร็วกว่านี้ เรียกอินทรีสามตาออกมาตั้งแต่เนิ่นๆ พวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างใด?
และนางก็คงไม่ถูกบังคับจนต้องลงมือกับอีกาเก้าหางแบบนี้!
ชือรุ่ยเออร์ฉลาดหลักแหลมอย่างมาก นางสามารถคาดเดาได้ทันทีว่าเจียงจื่อหยวนจะพูดอันใด ดังนั้นนางจึงหัวเราะอย่างประชดประชัน
“ฟังจากสิ่งที่เจ้ากำลังจะพูดแล้ว เจ้าจะบอกว่าข้าลงมือช้าไปอย่างนั้นหรือ?”
เจียงจื่อหยวนรีบพูดขึ้นทันทีว่า
“ศิษย์พี่เข้าใจผิดแล้ว! ข้าไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น! จริงๆ นะเจ้าคะ!”
“จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เจ้ารู้แก่ใจดี”
“ข้าไม่ชอบเจ้า แต่อย่างน้อยข้าก็ไม่หาเรื่องให้ตนเองแบบนั้นหรอก”
ประโยคนี้นางพูดขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งยังดูสูงส่งและทรงพลังอย่างมาก
หัวใจของเจียงจื่อหยวนเหมือนถูกอันใดบางอย่างมาบีบรัด ทำให้คนทั้งคนรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก น้ำตาไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง ผสมปนเปกับคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนทั้งใบหน้า
ทำให้นางดูเศร้าหมองอย่างยิ่ง เหมือนกับไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก
เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงจื่อหยวนก็เข้าใจว่านางยังไม่รู้ความผิดของตนเองเลยด้วยซ้ำ ผู้อาวุโสฮวาเฟิงรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง
เห็นได้ชัดว่าเจียงจื่อหยวนเป็นคนนำภัยมาหาพวกเขา แต่ตอนนี้กลับแสร้งทำเป็นคนที่ได้รับความเสียหาย
แต่นี่แสดงให้ใครดูกัน?
“ชือรุ่ยเออร์ ลงมือช่วยเจ้าแล้ว เจ้าไม่เพียงไม่ขอบคุณ แต่กลับมาสงสัยนาง…เจียงจื่อหยวน เจ้าทำให้ข้าผิดหวังมากเกินไปแล้ว”
เจียงจื่อหยวนรีบอธิบายขึ้น
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะเจ้าคะ! ผู้อาวุโส! ข้าไม่ได้…”
“อ๊าก…”
ทันใดนั้นเองเสียงคำรามแหบพร่าก็ดังขึ้น!
ทุกคนรีบหันกลับไปมอง จากนั้นก็เห็นว่าอีกาเก้าหางฝูงนั้นพุ่งเข้าใส่เจียงจื่อหยวน
เจียงจื่อหยวนหวาดกลัวอย่างยิ่ง รีบถอยหลังร่นลงไป
อีกาเก้าหางเหล่านั้นบินมาหยุดอยู่ตรงหน้าไม่ไกลจากนาง ล้อมรอบศพสหายร่วมเผ่าพันธุ์เอาไว้ตรงกลาง พวกมันบินวนเป็นวงกลม
เสียงครวญครางทุ้มต่ำดังขึ้น
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วแน่น
“ผู้อาวุโส พวกเราต้องรีบออกไปจากที่นี่แล้ว!”
อีกาเก้าหางเหล่านั้นเรียกฝูงของมันอยู่!
หากช้ากว่านี้แม้แต่เล็กน้อย เกรงว่า…
“ไป!”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงตัดสินใจในทันที!
ตอนนี้ต่อให้ชือรุ่ยเออร์เรียกอินทรีสามตามาก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
อินทรีสามตาสามารถใช้แรงกดดันสยบมันได้เพียงครู่หนึ่ง แต่ว่าตอนนี้อีกาเก้าหางตายไปตัวหนึ่ง พวกมันไม่มีทางเลิกราอย่างแน่นอน!
เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังจะจากไป หัวใจของเจียงจื่อหยวนก็กระตุกวูบ นางรีบลุกขึ้นยืน
“ผู้อาวุโส!”
นางต้องไปกับพวกเขาด้วย ห้ามทิ้งนางเอาไว้ที่นี่เด็ดขาด!
นางคนเดียวจะสู้กับอีกาเก้าหางทั้งฝูงได้อย่างใด!
ชายชราคิ้วสีขาวตำหนิเสียงเย็น
“อีกาเก้าหางจดจำความแค้นได้แม่นยำมาก เรื่องนี้เกรงว่าจะไม่จบง่ายๆ แล้ว! เลือดของอีกาเก้าหางตัวที่เจียงจื่อหยวนฆ่านั้น ยังอยู่บนตัวของนางอยู่เลย จึงไม่สามารถสลัดออกได้ ถ้าพวกเรายังพานางไปด้วย เกรงว่าแม้กระทั่งพวกเราก็คงหนีไม่รอดแล้ว!”
เขาหันไปมองทางชือรุ่ยเออร์
“คุณหนูรอง พวกเราคงไม่ต้องเป็นคนจบเรื่องนี้หรอกมั้ง?”
ความหมายของคำพูดนี้ชัดเจนจนไม่สามารถชัดเจนไปมากกว่านี้ได้แล้ว…พวกเขาจะต้องสลัดเจียงจื่อหยวนทิ้ง!
ชือรุ่ยเออร์ครุ่นคิดอยู่สักพักจากนั้นก็หันไปมองผู้อาวุโสฮวาเฟิง
“ผู้อาวุโส ท่านมีความคิดเห็นอย่างใด?”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงรู้สึกสับสนเป็นอย่างยิ่ง
ด้านหนึ่งก็เพราะว่าเจียงจื่อหยวนก่อเรื่องนี้ด้วยตนเอง เดิมทีเขาก็คิดว่านางจะต้องรับสิ่งที่นางกระทำเอง
แต่อีกด้านหนึ่งก็คิดว่านางเป็นศิษย์ของสำนัก หากทิ้งนางไปในสถานที่แบบนี้…ภายในใจของเขาก็อดรู้สึกเสียใจไม่ได้
“รุ่ยเออร์ พวกเจ้าต่างเป็นศิษย์ของสำนัก ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทอดทิ้งกันได้ง่ายๆ ดังนั้น…เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน พวกเจ้าเดินทางไปก่อน พวกเราจะรั้งอยู่ด้านหลัง หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว หากพวกเรามีโอกาสก็จะมารวมตัวกันใหม่ดีหรือไม่?”
ในแววตาของชือรุ่ยเออร์มีความจนปัญญา
ข้อเสนอแนะของผู้อาวุโสฮวาเฟิงเหมือนจะไม่มีปัญหา ไม่ได้ทำให้กลุ่มของตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายที่สุดหรอกหรือ?
อีกทั้งทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะเจียงจื่อหยวนคนเดียว
“ผู้อาวุโส พวกเราไม่สามารถปล่อยให้ท่านอยู่ตามลำพังได้ ในเมื่อท่านตัดสินใจที่จะพานางไปด้วย เช่นนั้นก็พาไปด้วยเถอะ พวกเรามีคนเยอะ ไม่แน่ว่าอาจจะสู้ได้…”
นางเพิ่งพูดจบ แต่ก็มีเสียงกรีดร้องของนกดังมาแต่ไกล!
ในตำแหน่งฟ้าดินบรรจบกัน สิ่งที่คล้ายมวลเมฆขนาดใหญ่สีเทาเข้ม พุ่งตรงมาทางนี้!