ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1330 จริงหรือโกหก
ตอนที่ 1330 จริงหรือโกหก
“ฮวาเฟิง?”
ผู้อาวุโสหลงเจ๋อมองด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
เมื่อครู่นี้เขาพูดอย่างชัดเจนไปแล้วไม่ใช่หรือ ในสถานการณ์แบบนี้ แค่ผู้อาวุโสไม่กี่คนก็เพียงพอแล้ว จะเพิ่มศิษย์ไปอีกหนึ่งคนได้อย่างใด?
หากถ้าศิษย์ผู้นั้นเป็นหรงซิวก็ช่างเถอะ แต่ฉู่เยว่เพิ่งเข้าสำนักมาได้ไม่กี่เดือน จะให้เขาไปได้อย่างใด?
“เจ้าล้อเล่นใช่หรือไม่?”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงก็รู้สึกลำบากใจมากเช่นกัน
แต่ในเมื่อเขาพูดออกมาแล้ว จะเปลี่ยนใจไปได้อย่างใด?
อีกทั้ง…
ตัวเขาเองก็ค่อนข้างเปิดกว้างกับเรื่องเหล่านี้
ด้านหนึ่งเป็นเพราะฉู่เยว่มีคุณสมบัติที่จะไป แต่ว่าเขาตามไปไม่ทัน ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นเพราะเขามีสัตว์อสูรในพันธสัญญาที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง น่าจะไม่กลายเป็นภาระ ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถช่วยพวกเขาในเวลาสำคัญได้
ภาพเหตุการณ์คืนวันนั้นที่สัตว์อสูรทุกตัวคุกเข่าให้ เขายังจำมันได้อย่างชัดเจน!
นอกจากนี้ยังมีอีกประเด็นหนึ่ง เหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากที่เขาจะปฏิเสธคำขอร้องของฉู่เยว่
แม้เขาจะไม่รู้ว่าเหตุใด แต่เขารักเด็กคนนี้และให้ความสำคัญกับเด็กคนนี้เป็นอย่างมาก
ต่อให้เขาจะรู้ว่าจะต้องมีคนคัดค้านอย่างแน่นอน แต่เขาก็ยังจะทำเช่นนี้
เพียงเพราะเขาไม่อยากเห็นแววตาที่โศกเศร้าและน้อยใจของอีกฝ่าย
แม้กระทั่งเขาเองยังพูดออกมาไม่ถูก ว่าความรู้สึกแบบนี้คืออันใดกันแน่
เขาไม่เคยดีต่อศิษย์ของตัวเองขนาดนี้มาก่อนเลย!
“อะแฮ่ม ความจริงแล้วน่ะ ก่อนหน้านี้ฉู่เยว่ก็ควรจะได้ไป แต่วันนั้นได้เกิดเรื่องเสียก่อน เขามีปัญหาเรื่องสุขภาพชั่วคราว ทำให้ต้องพลาดไป ตอนนี้ร่างกายของเขากลับมาแข็งแรงหายดีแล้ว จึงอยากจะตามไปด้วย ข้า ข้าคิดแล้วคิดอีก และตอบตกลงไป”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ผู้อาวุโสฮวาเฟิงก็รีบกล่าวเสริมขึ้น
“แต่ว่าพวกเจ้าวางใจได้ เจ้าเด็กคนนี้เป็นเด็กรู้ความอย่างมาก ไม่มีทางสร้างความลำบากให้พวกเราแน่นอน!”
ผู้อาวุโสหลายคนเงียบเสียงไปไม่พูดไม่จา สีหน้าเคร่งขรึม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เห็นด้วย
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงตบไหล่ของฉู่เยว่
“วางใจเถอะ หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นมา ข้าฮวาเฟิงจะเป็นคนรับผิดชอบเอง!”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่กระตุกวูบ อดทนที่จะไม่หันไปมองหน้าเขา
สีหน้าของเขามุ่งมั่นอย่างมาก ราวกับเขาตัดสินใจแล้วว่าจะปกป้องนางให้ถึงที่สุด
ระหว่างหน้าอกของนางเหมือนมีอันใดบางอย่างพวยพุ่งออกมา
นางหลับตาลง ปิดบังระลอกคลื่นที่ปรากฏขึ้นในแววตา
“ฮวาเฟิง เรื่องนี้ไม่ใช่การละเล่นของเด็กเล็ก เจ้าจะต้องพิจารณาให้ชัดเจนนะ”
ผู้อาวุโสหลงเจ๋อพูดขึ้นมาเสียงเรียบ
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงพยักหน้าอีกครั้ง
“หลงเจ๋อ ข้ามีแผนอยู่ในใจแล้ว”
ทั้งสองคนสบสายตากัน ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบไป
เกิดการเผชิญหน้ากันอย่างไร้เสียง!
ในที่สุดผู้อาวุโสหลงเจ๋อก็เป็นฝ่ายเบนสายตาหลบออกไปก่อน แล้วใช้สายตาที่แหลมคมกวาดตามองฉู่หลิวเยว่
“เจ้าเด็กน้อย เจ้าน่าจะมีความสามารถอยู่หลายส่วน ครั้งนี้ในเมื่อฮวาเฟิงปกป้องเจ้า ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะให้เจ้าไปด้วย แต่ถ้าเกิดปัญหาใดๆ ขึ้น…ผลลัพธ์ทั้งหมดเจ้าจะต้องรับผิดชอบเอง!”
บุพกาลชายแดนเหนือเป็นสถานที่แบบใด?
คนที่ไปก่อนในครั้งแรกจะปลอดภัยมากกว่า ถึงไม่มากก็น้อย
แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายต้องไปเป็นกำลังเสริม ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าจะเกิดปัญหาอันใดขึ้นหรือไม่
ฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ท่ามกลางผู้อาวุโสเหล่านี้ ก็มีความโดดเด่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นอย่างตั้งใจ
“ศิษย์ทราบแล้ว”
ผู้อาวุโสหลงเจ๋อขมวดคิ้ว จากนั้นก็หันไปมองผู้อาวุโสฮวาเฟิงแล้วส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
ช่างเถอะ ปล่อยให้พวกเขาไปสำรวจก่อน จะได้รู้ถึงความอันตราย!
…
เมื่อได้รับอนุญาต ในที่สุดฉู่หลิวเยว่ก็สามารถก้าวขึ้นไปด้านหน้าได้ จากนั้นเขาก็มองค่ายกลเคลื่อนย้ายทั้งหมดให้ชัดเจน
ค่ายกลเคลื่อนย้ายมีลักษณะเป็นวงกลม ทำมาจากทองสัมฤทธิ์ มีความหนาและเรียบง่ายอย่างมาก
ตรงกลางสลักสัญลักษณ์สำนักหลิงเซียวเอาไว้
มันมีขนาดไม่ใหญ่ แต่กลับสร้างได้อย่างละเอียดและประณีตมาก
เพียงแค่ยืนอยู่ริมขอบ ฉู่หลิวเยว่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่น่าตกใจแผ่กระจายออกมาจากด้านใน
ผู้อาวุโสหลงเจ๋อยืนอยู่บริเวณโดยรอบของค่ายกล จากนั้นก็หยิบตราหยกสีเขียวของตนเองออกมา
ลำแสงหลายสายพุ่งออกมาจากตราหยกนั้น และรวมตัวกันอยู่เหนือค่ายกลนั้น!
ลำแสงสว่างแต่ไม่แสบตา ชั่วพริบตาเดียวก็กระจายออกไปบริเวณรอบข้าง ค่ายกลที่ลึกซึ้งจึงวางขึ้นอย่างรวดเร็ว
ลมปราณที่ศักดิ์สิทธิ์และเข้มข้นแผ่กระจายออกมา!
ฉู่หลิวเยว่เหยียดหลังตรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว แววตาจดจ้องไปยังค่ายกลนั้นตาเขม็ง
ในตอนนั้นเองนางก็สามารถมั่นใจได้ว่า ค่ายกลแห่งนี้เป็นค่ายกลระดับสูงที่สุดที่นางเคยเห็นมาในชีวิต!
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงและผู้อาวุโสคนอื่นๆ ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด จากนั้นพวกเขาก็เดินไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายทีละคน
ฉู่หลิวเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินตามขึ้นไป
พลังที่อยู่ด้านบนนั้นก็ยังสะสมกันอยู่เรื่อยๆ ในที่สุดค่ายกลก็เริ่มทำงาน
พรึ่บ!
ลำแสงสว่างวาบ เงาร่างของคนทั้งหลายก็หายจากที่เดิมไปในทันที!
ผู้อาวุโสหลงเจ๋อมองไปยังค่ายกลที่ว่างเปล่า แล้วส่ายหน้าออกมา
ตอนนี้คงทำได้เพียงภาวนาให้ทุกอย่างราบรื่น…
…
หลังจากที่เข้าไปในค่ายกลแล้ว อากาศที่อยู่โดยรอบก็บิดเบี้ยวไปอย่างรวดเร็ว
รอบข้างเงียบสงบ แต่ว่ามันก็เงียบมากเกินไปหน่อย
ฉู่หลิวเยว่รู้ได้ทันทีว่าเป็นเพราะตนเอง จึงยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบเชียบ พยายามทำตัวให้จืดจางมากที่สุด
ในตอนนั้นเองก็มีผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“ฮวาเฟิง ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ยอมพูด ตอนนี้เจ้าคงบอกได้แล้วล่ะมั้ง ว่าเหตุใดพวกเราจะต้องมาที่นี่ด้วย?”
ทันทีที่สิ้นเสียง คนอื่นๆ ก็หันไปมองฮวาเฟิงเป็นตาเดียว
แม้กระทั่งฉู่หลิวเยว่ก็ยังหูตั้งขึ้นมา
นางรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสหลงเจ๋อพูดอันใดกับผู้อาวุโสฮวาเฟิงไว้กันแน่
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงพยักหน้า
“ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้พูดกับพวกเจ้าให้ชัดเจน นั่นก็เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก”
เสียงของเขานั้นเป็นเสียงทุ้มลึก ไม่เหมือนกับน้ำเสียงที่เป็นมิตรอย่างเช่นปกติ
เรื่องนี้ทำให้คนทั้งหลายคนรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ยินผู้อาวุโสฮวาเฟิงอธิบายว่า
“ครั้งนี้ที่ปั๋วเหยี่ยนให้พวกเราเดินทางมา ความจริงแล้วก็เพราะว่า…หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ได้ปรากฏกายขึ้นที่บุพกาลชายแดนเหนือแล้ว!”
ฉู่หลิวเยว่ลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน! แววตามีความตกใจสว่างวาบขึ้นมา!
ยังดีที่ตอนนั้นความสนใจของทุกคนมุ่งเป้าไปทางผู้อาวุโสฮวาเฟิงทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็นถึงสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปของนาง
“จริงหรือ?”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“หาพบได้เร็วขนาดนี้เชียวหรือ? เช่นนั้นที่ปั๋วเหยี่ยนให้พวกเราไป คงไม่ใช่เพราะว่า… พวกเขากำลังแย่งชิงหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์อยู่ และยังมีหวังอีกด้วย?”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงส่ายหน้า
“ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ แต่ที่มั่นใจได้เลยก็คือ ทางด้านบุพกาลชายแดนเหนือจะต้องวุ่นวายอย่างมากแน่นอน หลังจากไปถึงที่นั่นแล้ว เกรงว่าจะต้องมีศึกอันดุเดือดแน่นอน และอาจจะไม่ใช่แค่สงครามแห่งเดียว”
ใช้แค่หัวแม่โป้งเท้าคิดก็รู้แล้ว ครั้งนี้จะต้องมีคนไปมากมายอย่างแน่นอน!
หากต้องการเป็นผู้นำ ก็จะต้องแย่งชิงหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์มาให้ได้ ซึ่งนี่เป็นเรื่องยากลำบากราวกับขึ้นสวรรค์!
แต่ว่าข่าวนี้ก็ทำให้ผู้อาวุโสหลายคนรู้สึกฮึกเหิมขึ้นอย่างมาก
เพียงแค่ความหวังแค่เส้นเดียว พวกเขาก็จะแย่งชิงมาจนถึงที่สุด!
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกลังเลไปสักพัก ในที่สุดก็ถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“ผู้อาวุโสฮวาเฟิง ข่าวนี้…มาจากผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนจริงหรือ?”