ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1325 ตัดแขนตัวเอง
ตอนที่ 1325 ตัดแขนตัวเอง
ลมหนาวพัดพา กวาดหิมะขึ้นเป็นเกลียว
ฟ้าดินกลายเป็นสีขาวสว่างตา
บนพื้นหิมะที่ราบเรียบและห่างออกไป เหมือนมีอันใดบางอย่างโผล่ออกมาจากด้านล่างอย่างกะทันหัน
มันคือสัตว์อสูรที่มีขนาดเท่ากับกำปั้นมนุษย์ ลักษณะเหมือนจิ้งจอก แต่หูกับจมูกไม่ค่อยเหมือนกัน โดยเฉพาะปากที่ยื่นออกมา เผยให้เห็นเขี้ยวที่แหลมคมสองซี่ ทำให้เพิ่มความดุร้ายขึ้นมาหลายส่วน
เพราะว่าทั้งตัวมันเป็นสีขาว มีเพียงใบหน้าที่เป็นสีเทาอมน้ำตาล ดังนั้นจึงสามารถซ่อนตัวในกองหิมะได้ง่าย
“นั่นคือกวางหน้าเทา สัตว์อสูรระดับเก้า แม้ว่าตัวมันจะมีขนาดเล็ก แต่มันว่องไวและมีไหวพริบอย่างมาก อีกทั้งแม้ว่ามันจะกลืนกินโครงกระดูกของสัตว์อื่นเพื่อดำรงชีวิต แต่มันก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจของคนจำนวนมาก คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากมาถึงบุพกาลชายแดนเหนือ มันคือสัตว์อสูรตัวแรกที่ได้เจอ”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนอธิบายขึ้น
แม้ว่าจิตวิญญาณของผู้อาวุโสเหวินซีจะยังคงตึงเครียดอยู่
เขาก็รู้ว่าสัตว์อสูรชนิดนั้นมีลักษณะเป็นอย่างใด และด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้สึกตกใจอย่างมาก
“พื้นแผ่นดินที่ปกคลุมไปด้วยความหนาวเหน็บ และอยู่ในที่ที่ห่างไกลผู้คน เหตุใดมันถึง…มีชีวิตรอดอยู่ได้?”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนชะงักไปเล็กน้อย แล้วขมวดคิ้วขึ้นมา
ใช่ว่าคำพูดของเขาจะไม่มีเหตุผล
กวางหน้าเทา เป็นสัตว์อสูรที่ไม่ชอบสถานที่หนาวเย็น มันไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ที่นี่
อีกทั้งดูเหมือนว่ากวางหน้าเทาตัวนี้…ยังอยู่ในสภาพไม่เลวเลยทีเดียว
กวางหน้าเทามองมาทางนี้ ราวกับสามารถสัมผัสสายตาของพวกเขาได้ จากนั้นมันก็กระโจนเข้ากองหิมะด้วยความรวดเร็ว
เกล็ดหิมะปลิวกระจายไปทั่วทุกที่ หลังจากนั้นไม่นานมันก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อมองจากภายนอกแล้ว นอกจากหิมะที่ถูกขุดเป็นหลุม ส่วนอื่นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก
ผู้อาวุโสทั้งสองมองหน้ากัน จนสามารถเห็นแววตาไม่วางใจของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
กวางหน้าเทาตัวนี้ดูเฉลียวฉลาดคล่องแคล่ว เหมือนว่าไม่ได้รับความทุกข์ทรมานเลยแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าช่วงเวลาที่มันอยู่ตรงนี้ เป็นช่วงเวลาที่ดีอย่างมาก
ถ้าเช่นนั้น…
ก็หมายความว่าที่แห่งนี้มีอาหารมากพอที่จะทำให้มัน ‘เพลิดเพลิน’ ใช่หรือไม่?
บนพื้นคือหิมะกองหนา เมื่อเหยียบลงไป ก็จมถึงบริเวณต้นขาเลยทีเดียว
ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้กองหิมะหนานี้มีอันใดถูกฝังอยู่กันแน่
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
“ปั๋วเหยี่ยน คนของพวกเราต่างออกกันมาหมดแล้ว ต่อไปพวกเราจะไปที่ไหน?”
ผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่งเดินเข้ามา พร้อมกับสอบถาม
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนหันกลับไปมอง ศิษย์และผู้อาวุโสที่เหลือต่างออกกันมาหมดแล้วจริงๆ
เขาครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วพูดว่า
“ตอนนี้ทุกคนมาถึงบุพกาลชายแดนเหนือแล้ว แต่ที่นี่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เกินไป ไม่มีใครรู้ว่าหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์จะปรากฏขึ้นที่ใด ดังนั้นช่วงเวลาต่อไปนี้ ให้ทุกคนแยกย้ายกันค้นหา ผู้อาวุโสสองคนดูแลศิษย์หกสิบคน แต่ที่สำคัญเลยก็คือ ทุกคนห้ามขาดการติดต่อโดยเด็ดขาด หากมีปัญหาใดๆ ให้รีบอพยพมาก่อนในทันที ชีวิตต้องสำคัญที่สุดเข้าใจหรือไม่?”
“ขอรับ!”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนโบกมือ
“ออกเดินทางได้!”
…
ในตอนนั้นเองร่องเขาหงที่ด้านนอกบุพกาลชายแดนเหนือ ซึ่งในที่แห่งนั้นจะมีผู้แข็งแกร่งจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนทยอยมากันอย่างไม่ขาดสาย
ผู้ที่มาเยือนนั้นล้วนเป็นคนของตระกูลอันดับหนึ่งของอาณาจักรเสิ่นซวี่ ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ต้องการจะแย่งชิงหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะปรากฏตัวขึ้น!
บุพกาลชายแดนเหนือเงียบสงบมาหลายพันปี ค่อยๆ มีชีวิตชีวาขึ้น
การต่อสู้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น!
…
ด้านนอกเมืองฝางโจว
ในที่สุดการต่อสู้ที่ดุเดือดก็หยุดลง!
ชายฉกรรจ์รูปร่างกำยำคนหนึ่งล้มลงที่พื้น เสื้อผ้าบริเวณหน้าอกของเขาเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉาน
กระบี่แทงทะลุหน้าอกของเขา แล้วตรึงร่างกายเขาไว้กับพื้น!
เขาหอบหายใจหนัก พยายามที่จะลุกขึ้นยืน แต่มันกลับเป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก ใบหน้าของเขานั้นซีดขาวอย่างรวดเร็ว ลมหายใจติดขัด
“เจ้า…เจ้า…”
เขาอ้าปากขึ้น แต่กลับพูดอันใดไม่ออก แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น พร้อมจ้องไปที่เงาร่างตรงหน้าที่อยู่ไม่ไกล
หลังจากนั้นไม่นาน พื้นก็เต็มไปด้วยเลือด ท่าทางดูน่าสังเวชอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่มองเขาด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็สาวเท้าก้าวเข้าไปอย่างเชื่องช้า
ขาข้างหนึ่งของนาง เหยียบหน้าอกของชายคนนั้นเอาไว้ ทำให้เลือดจำนวนไม่น้อยไหลทะลักออกมาอีกครั้ง ในขณะเดียวกันมือข้างหนึ่งของนางก็จับด้ามกระบี่ไว้ และดึงออกมาอย่างช้าๆ
กระบี่ชื่อเซียวในมือของนางนั้นเบาดุจขนนก แต่ในสายตาของคนอื่น เหมือนว่ากระบี่เล่มนี้หนักพันชั่ง
เพียงแค่บิดเบาๆ ก็แทบจะทำให้เลือดเนื้อและกระดูกของชายคนนั้นป่นปี้ไปทั้งหมด!
“อ๊าก…”
ชายคนนั้นหน้าเปลี่ยนสี และมีเสียงกรีดร้องดังออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เหมือนกับพอใจในปฏิกิริยาตอบรับของเขามาก
ในปีนั้นที่ซั่งกวนหว่านร่วมมือกับเจียงอวี่เฉิงเพื่อทำร้ายนาง เบื้องหลังก็มีคนผู้นี้คอยบงการยุยงอยู่
ฉู่หลิวเยว่เอียงศีรษะ หลังจากรับชมการดิ้นรนอันแสนเจ็บปวดของเขาแล้ว นางจึงค่อยถามขึ้นมาว่า
“มีเรื่องหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจมาโดยตลอด ข้ากับเจ้าไม่มีบุญคุณความแค้นกัน ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ข้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าคือใคร แต่ว่าเหตุใดเจ้าถึงมีแผนการที่จะลอบสังหารข้ามาตั้งนานแล้ว? หรือว่าจะเป็นเรื่องของสิ่งนั้นที่อยู่ในตัวข้า”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้น แล้วหรี่ตาลง ท่าทางแวดระวังอันตราย
ไข่มุกธาราเม็ดนั้น หลังจากที่นางกลับมาเกิดใหม่ถึงได้มีมัน
ในตอนนั้นนางคิดว่า ร่างเดิมเป็นเจ้าของมัน และอยู่ภายในร่างกายนี้อยู่แล้ว
แต่ถ้าหากคนผู้นี้วางแผนทำร้ายนางเพื่อแย่งชิงไข่มุกธาราตั้งแต่แรก
ก็หมายความว่า ความจริงแล้วของชิ้นนี้อยู่กับนาง ตั้งแต่ชาติที่แล้วที่นางยังไม่ถูกทำร้าย?
แต่ความทรงจำในส่วนนั้น นางกลับไม่มีมันเลย
อีกทั้งถ้าไข่มุกธาราเม็ดนี้อยู่ในตอนนั้นด้วยจริงๆ แล้วเหตุใดก่อนที่นางจะตาย มันก็ยังคงนิ่งเงียบสนิทอยู่
เมื่อได้ยินคำถามของฉู่หลิวเยว่ เสียงครวญครางอันเจ็บปวดของชายคนนั้นก็เบาลง
ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมาอย่างประชดประชัน ก่อนจะกระอักเลือดออกมา แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธอันใด
ฉู่หลิวเยว่ดึงกระบี่ชื่อเซียวออก จากนั้นเลือดสายหนึ่งก็กระฉูดขึ้น!
“อื้อ!”
ชายคนนั้นเขาขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด
บริเวณลำคอเขาสามารถสัมผัสได้ถึงลมปราณที่เย็นยะเยือกได้
คมกระบี่ที่แหลมคม กดลงบริเวณลำคอของเขาจนแน่น!
เขาไม่รู้สึกสงสัยเลยแม้แต่น้อย ฉู่หลิวเยว่สามารถฆ่าเขาได้ทุกเมื่อ!
“ในเมื่อเจ้าให้ความสำคัญกับของชิ้นนั้นขนาดนี้ แล้วเหตุใด…พวกเราไม่มาคุยกันล่ะ เจ้ารู้เรื่องของชิ้นนั้นมากน้อยเพียงใด?”
ผู้ชายคนนั้นหลับตาลงในทันที เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการที่จะพูดคุยกับฉู่หลิวเยว่อีกต่อไปแล้ว
หลังจากนั้นสัญลักษณ์แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นที่กลางหน้าผากของเขา
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจอย่างมาก แล้วรีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว!
ตู้ม!
ร่างนั้นระเบิดขึ้น!
และมีอันใดบางอย่างฉวยโอกาสรีบหนีออกไป!
ยังคิดจะเล่นลูกไม้แบบครั้งที่แล้ว!
สีหน้าของนางเย็นชาขึ้นมา นางโบกมือขึ้น เปลวเพลิงอันโปร่งใสก็ปรากฏ!
เปลวเพลิงนั้นก่อตัวเป็นม่านพลังอย่างรวดเร็ว!
แกร๊ก!
ม่านพลังแตกกระจาย!
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ลมปราณของสายนั้นก็อ่อนแอลงไปไม่น้อย
กัดฟันกรอด!
ครั้งที่แล้วนางให้เขาหนีไปได้ แต่ครั้งนี้ไม่มีทาง!
ความคิดของนางปรากฏขึ้นในใจ จากนั้นเตาหลอมสีโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของนาง
นางผลักฝ่ามือออกไปเบาๆ หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ลอยออกไปด้วยความเร็ว!
วิญญาณที่กำลังจะหนีด้วยความเร็ว กลับถูกดึงดูดด้วยพลังมหาศาล ความเร็วของวิญญาณนั้นลดลงอย่างมาก จนสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้
แต่ฉู่หลิวเยว่กำลังคิดว่า ตอนที่หม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์กำลังจะปราบปรามมัน คาดไม่ถึงว่าจิตวิญญาณนั้นจะมีไฟลุกท่วมขึ้น!
นางรู้สึกตกใจอย่างมาก!
ในตอนนั้นจิตวิญญาณตนนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!