ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 999 ใคร
ตอนที่ 999 ใคร?
……………………………………………………………………..
แม่ม่ายดำจือเหวินย่อมรู้ดีว่าหวังหว่านยู่นั้นเป็นใครและเธอก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะมาทิ้งชีวิตของเธอที่นี่ เธอเองก็เข้าใจดีว่ายิ่งเธออยู่ในดินแดนภาคตะวันตกเฉียงเหนือนานเท่าไรก็ยิ่งเสียเปรียบและเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น ถึงตอนนี้หวังหว่านยู่จะยังไม่เคลื่อนไหวก็ตามแต่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตเขาจะหยุดนิ่งอยู่แบบนี้ ซึ่งเธอเองก็เข้าใจถึงอิทธิพลและอำนาจทของราชาแห่งดินแดนภาคตะวันตกเฉียงเหนือเป็นอย่างดี
จือเหวินนั้นถือได้ว่าเป็นคนที่ฉลาดและมีไหวพริบมากดังนั้นเธอจึงสามารถเห็นความหมายโดยนัยในสายตาของหวังหว่านยู่ที่มองมาที่เธอได้ เธอรู้ด้วยว่าทุกสิ่งที่หวังหว่านยู่ทำนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่จะบังคับเธอให้อยู่กับเขาและเป็นของเขา สำหรับหยางเทียนนั้นเธอเต็มใจที่จะลดค่าของเธอ แต่ตอนนี้เธอไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้วเพราะเธอเป็นตัวแทนขององค์กรใต้ดินทั้งหมดของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย ซึ่งถ้าหากจือเหวินพ่ายแพ้ในครั้งนี้ล่ะก็เธอจะไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งได้อีกต่อไปและหยางเทียนก็ไม่ต้องการให้เธอเป็นแบบนี้ เมื่อย้อนกลับไปสมัยก่อนเวลาที่หยางเทียนอยู่คนเดียวเมื่อไหร่เขาก็มักจะถูกลอบสังหารอยู่บ่อยครั้งดังนั้นคนที่อยู่ในตำแหน่งแบบเขาจะกลัวสิ่งต่างๆได้อย่างไร?
“หัวหน้าครับที่นี่คืออาณาเขตของคนอื่นเพราะงั้นถ้ายิ่งช้ามันก็ยิ่งแย่สำหรับเรา..การที่คนฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างพวกเรามาเหยียบที่นี่ก็แน่นอนว่าฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือก็จะต้องระมัดระวังตัวและคอยจับตามองพวกเราอย่างแน่นอน..เพราะงั้นเรามาเริ่มกันเลยเถอะ..หัวหน้าไม่ต้องกังวลไปครับ..เดี๋ยวผมจะนำขี้เถ้าของพี่เทียนกลับมาให้เอง” ลูกน้องคนหนึ่งพูด
อันที่จริงความคิดของเขาก็ไม่ผิดเพราะจริงๆแล้วมันเป็นความคิดที่ดีสำหรับตอนนี้ นั่นก็เพราะว่าดินแดนภาคตะวันตกเฉียงเหนือไม่ใช่อาณาเขตของพวกเขาและพลังของหวังหว่านยู่ก็แข็งแกร่งอย่างมากจนพวกเขาไม่สามารถประมาทได้เลยแม้แต่น้อย
ในจุดนี้จือเหวินก็ชัดเจนมากว่าเธอไม่สามารถรอเย่เชียนได้ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะมีวิธีและทางออกที่ดีกว่าก็ตาม ที่สนามบินมันไม่มีเที่ยวบินจากเมืองซีจิงมายังเมืองซีหนิงและยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนก็ต้องมาด้วยรถเท่านั้นและเกรงว่าจะต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ๆกว่าเย่เชียนจะมาถึง ซึ่งท้ายที่สุดจือเหวินก็พยักหน้าและเห็นด้วยกับการตัดสินใจของลูกน้องของเธอ
จือเหวินนั้นนำลูกน้องคนสนิทมาทั้งหมด 4 คนเพราะเธอคิดว่าการเดินทางมายังภาคตะวันตกเฉียงเหนือครั้งนี้จะสงบสุขแต่ใครจะคิดว่าหวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือจะกลับคำของเขาและเมื่อเดินทางมาถึงและลืมข้อตกลงระหว่างเธอไปโดยสิ้นเชิง ตอนนี้ทั้งสี่คนก็กำลังจะไปนำอัฐิของหยางเทียนกลับมาแต่พวกเขาก็ถูกจือเหวินห้ามเอาไว้เพราะสถานการณ์ที่สงบแบบนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรแต่มันซ่อนความน่ากลัวเอาไว้และอันตรายมาก ซึ่งทั้งสี่คนนี้เป็นพี่น้องที่ติดตามเธอตั้งแต่สมัยหยางเทียนยังอยู่ดังนั้นเธอจึงไม่อยากที่จะให้พวกเขาตาย
คืนถัดมาทั้งสี่ได้ทิ้งจดหมายเอาไว้ให้จือเหวินและออกจากโรงแรมไปแล้วหายตัวไปในความมืดอย่างไร้ร่องรอย อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ถูกเห็นได้อย่างชัดเจนจากคนที่ถูกหวังหว่านยู่ส่งมาเพื่อคอยสะกดรอยตามพวกเขา มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เขากลายเป็นราชาแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั่นเพราะว่าเขามีสติปัญญาและความกล้าหาญอย่างมาก แน่นอนว่ามันไม่มีคนที่ประสบความสำเร็จที่เปนคนโง่อย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้อยู่ในการคำนวณของหวังหว่านยู่แห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือมานานแล้วเพราะเขาต้องการให้สถานการณ์เป็นแบบนี้และตราบใดที่ทั้งสี่คนนี้ถูกกำจัดล่ะก็แม่ม่ายดำจือเหวินก็ทำอะไรไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งในดินแดนแห่งนี้จะไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้อีก
ในคืนนั้นทั้งคืนจือเหวินก็นั่งอยู่บนโซฟาในห้องพักของโรงแรมและเธอที่ไม่ได้สูบบุหรี่มานานก็จุดบุหรี่เพื่อสูบมันอีกครั้ง เดิมทีจือเหวินคิดที่จะเลิกสูบบุหรี่เพื่อดูแลสุขภาพร่างกายเพื่อเย่เชียน แต่ในขณะนี้เธอไม่สามารถระงับความกังวลในใจของเธอได้เลยแม้แต่น้อย
เมื่อวันเวลาผ่านไปทีละน้อยที่เขี่ยบุหรี่ตรงหน้าเธอก็เต็มไปด้วยก้นบุหรี่แล้วและคิ้วของจือเหวินก็ขมวดเข้าหากันแน่น ในใจของเธอดูยุ่งเหยิงและวุ่นวายไปหมดและเธอก็แอบภาวนาให้พวกเขาปลอดภัย อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็ค่อยๆจางหายไปเพราะความหวังของเธอช่างริบหรี่โดยลึกๆในใจแล้วเธอก็รู้ดีว่าพวกเขาคงจะไม่มีวันรอดกลับมา
ซึ่งใบหน้าของจือเหวินก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและสำนึกผิดหากไม่ใช่เพราะเธอต้องการลบล้างความผิดและความกังวลในใจล่ะก็พวกเขาจะต้องมาเสี่ยงชีวิตและตายได้อย่างไร? จากนั้นเธอก็หยิบมีดปอกผลไม้จากบนโต๊ะขึ้นมาด้วยเจตนาฆ่าอย่างดุร้ายในสายตา เพราะในฐานะหัวหน้าของพวกเขาแล้วถ้าเธอไม่สามารถล้างแค้นพวกเขาได้เธอจะเป็นผู้นำได้อย่างไรในอนาคต?
“เย่เชียนฉันขอโทษจริงๆ..ฉันไม่สามารถอยู่กับคุณได้อีกต่อไป..ฉันหวังว่าในอนาคตคุณจะมีความสุข” จือเหวินพึมพำและเมื่อเสียงนั้นจบลงเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเก็บมีดปอกผลไม้ใส่กระเป๋าเสื้อคลุมของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าเธอต้องตายแต่เธอก็ต้องทำและต่อให้รู้ว่าต้องแลกด้วยชีวิตของเธอก็ตาม
ในขณะนี้จือเหวินก็เดินไปเปิดประตูและถึงกับต้องตกตะลึงไปครู่หนึ่งเพราะเขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งและเมื่อมองอย่างระมัดระวังแล้วเธอไม่ใช่ผู้ชายเพราะถึงแม้ว่าหน้าอกจะไม่ใหญ่มากแต่ยังพอมองเห็นได้แต่เธอก็ไม่ชัดเจนว่าเธอคนนี้ใช่ผู้หญิงหรือเปล่า นั่นทำให้จือเหวินรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
“หัวหน้าจือ..ช่วยมากับฉันด้วย..หัวหน้าของฉันอยากพบคุณ” ผู้หญิงที่ดูเหมือนผู้ชายพูดด้วยน้ำเสียงต่ำๆแต่เธอดูมีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่
“หัวหน้าของคุณ?..หวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือน่ะเหรอ?” จือเหวินพูด “ดีเลย..ฉันก็ต้องการพบเขาเหมือนกันเพราะงั้นช่วยพาฉันไปที”
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “หวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือเหรอ?..หืม..เขาเป็นใคร”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจือเหวินก็แน่นิ่งไปครู่หนึ่งและพูดด้วยความตกตะลึงว่า “คุณไม่ได้เป็นลูกน้องของหวังหว่านยู่ราชาภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรอกเหรอ?..แล้วใครเป็นหัวหน้าของคุณ?..ทำไมเขาถึงต้องการพบฉัน?”
“เดี๋ยวคุณจะรู้เอง” ผู้หญิงคนนั้นพูด
“ขอโทษทีเพราะตอนนี้ฉันยังมีเรื่องที่ต้องทำ” จือเหวินพูดอย่างเฉียบขาด
ผู้หญิงคนนั้นก็ยิ้มเล็กน้อยแต่รอยยิ้มนั้นดูน่ากลัวมากแล้วเธอก็พูดว่า “ฉันหวังว่าหัวหน้าจือจะไม่บังคับให้ฉันต้องทำร้ายคุณ..ฉันไม่อยากทำร้ายคุณเลยเพราะงั้นช่วยตามฉันมาด้วย”
ในดินแดนแห่งนี้มีบุคคลที่ไม่สนใจราชาแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างหวังหว่านยู่ดู ซึ่งสิ่งนี้ทำให้จือเหวินอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีเจตนาที่ดี “บอกมาสิว่าหัวหน้าของคุณเป็นใครแล้วทำไมฉันถึงต้องไปกับคุณด้วย..นอกจากนี้จุดประสงค์ของคุณคืออะไรกันแน่” จือเหวินพูด
“ไม่มีเหตุผลที่คุณจะต้องถาม..ตามฉันมาเถอะ..ฉันรู้จักกับคุณเย่เพราะงั้นฉันหวังว่าหัวหน้าจือจะไม่บังคับให้ฉันทำอะไรที่เลวร้ายกับคุณไม่งั้นมันจะไม่ดีสำหรับพวกเราทั้งคู่” ” ผู้หญิงคนนั้นพูด “หัวหน้าจือเป็นคนฉลาดเพราะงั้นคุณแค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ..แบบนั้นมันจะดีต่อคุณและฉันมาก”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจือเหวินก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งและเธอก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านเพราะดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้มาหาเธอโดยเฉพาะแต่เป็นเรื่องของเย่เชียน จากนั้นจือเหวินก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “หืม..พวกคุณต้องการใช้ฉันเพื่อข่มขู่เย่เชียนงั้นเหรอ?..ฝันไปเถอะ!” ทันทีที่เธอพูดจบจือเหวินก็ดึงมีดปอกผลไม้ออกมาแล้วแทงไปทางอีกฝ่ายทันที ไม่ว่าในกรณีใดเธอก็ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้และเธอก็ไม่อยากให้เย่เชียนตกอยู่ในอันตรายเพราะตัวเธอเอง ก่อนหน้านี้จือเหวินก็ทำให้เย่เชียนลำบากใจและตอนนี้เธอจะทำร้ายเย่เชียนอีกครั้งได้อย่างไร?
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแค่ผู้หญิงแต่ทักษะการต่อสู้ของเธอนั้นก็ไม่ได้อ่อนแอ ซึ่งการเคลื่อนไหวของเธอนั้นรวดเร็วอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่โชคดีที่เธอรอดมาได้จนถึงตอนนี้ในเส้นทางที่เธอเลือกเดิน
อย่างไรก็ตามในการเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจือเหวินไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อยเพราะเมื่อเห็นจือเหวินคว้ามีดออกมาหญิงสาวคนนี้ก็เพียงฉีกยิ้มเบาๆแล้วใช้มือซ้ายของเธอคว้าข้อมือของจือเหวินแล้วบิดมันอย่างแรง ภายใต้ความเจ็บปวดมีดผลไม้ในมือของจือเหวินก็ตกลงมา
“ทำไมหัวหน้าจือถึงทำแบบนี้?..ฉันไม่อยากทำร้ายคุณเลย” หญิงสาวพูดเบาๆ
“พวกแกต้องการใช้ฉันเพื่อข่มขู่เย่เชียนไม่ใช่เหรอ?..ถ้างั้นก็ฝันไปเถอะ” จือเหวินพูกอย่างแน่วแน่และถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเย่เชียนจะไม่ชัดเจนนักแต่ในหัวใจของจือเหวินแล้วเธอจะสร้างภาระให้กับผู้ชายที่เธอรักได้อย่างไร เธอรู้ดีว่าทั้งซ่งหลัน,ฉินหยู,หลินโรวโร่ว,จ้าวหยาและหูเค่อต่างก็ไม่เป็นภาระของเย่เชียน ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการเป็นภาระของเย่เชียนเช่นกัน เมื่อคำพูดนั้นจบลงจือเหวินก็ใช้เท้าเตะลำตัวของผู้หญิงคนนั้นทันที
ผู้หญิงคนนั้นก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แต่เธอไม่ได้รู้สึกขบขันกับพฤติกรรมของจือเหวินหรือคิดว่าจือเหวินไร้วาระแต่อย่างใด เพียงแต่หลบการโจมตีของจือเหวิน ซึ่งภายในเวลาไม่นานจือเหวินก็รู้ได้ว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้หญิงคนนี้เลยแม้แต่น้อย จากนั้นเธอก็รีบหยิบมีดปอกผลไม้ที่พื้นขึ้นมาแล้วแทงไปที่หน้าอกของตัวเองเพราะเมื่อเธอตัดสินใจมาหาหวังหว่านยู่แล้วเธอก็พร้อมที่จะตายตั้งแต่แรก ดังนั้นเมื่อเธอรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการใช้เธอเพื่อข่มขู่เย่เชียนแล้วเธอจะกลัวตายได้อย่างไร?
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นการกระทำของจือเหวินเธอก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งจากนั้นก็รีบเอื้อมมือออกไปปัดมีดปอดผลไม้ของจือเหวินออกด้วยมือเปล่าๆจนมีดแทงทะลุข้อมือของเธอ เมื่อเห็นแบบนั้นจือเหวินก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและเมื่อเห็นเลือดที่หยดลงมาจากฝ่ามือของผู้หญิงคนนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะผงะและแปลกใจ
หญิงสาวก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ทำไมหัวหน้าจือถึงทำแบบนี้” จากนั้นเธอก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วดึงมีดปอกผลไม้ออกจากมือของเธอจนลือดพุ่งออกมา แต่ดูเหมือนเธอจะไม่รู้สึกเจ็บเลยร่าวกับหุ่นยนต์ จากนั้นเธอก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาพันมือเอาไว้แล้วพูดว่า “หัวหน้าจือตามฉันมาเถอะ..ฉันไม่ได้อยากทำร้ายคุณ”
.
.
.
.