ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 998 ความแข็งแกร่งของราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือ
ตอนที่ 998 ความแข็งแกร่งของราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือ
……………………………………………………………………..
เย่เชียนนั้นถูกลิขิตเอาไว้ให้ไม่สามารถใช้ชีวิตที่สงบสุขได้เพราะชีวิตของเขาต้องดิ้นรนต่อสู้อยู่ตลอดเวลา บางทีเมื่อเย่เชียนสามารถปีนขึ้นไปบนยอดเขาและอยู่เหนือสรรพสัตว์ทั้งหลายได้เขาก็จะเลือกที่เงียบๆเพื่อใช้ชีวิตที่สงบสุขอย่างแน่นอน
มหาวิทยาลัยซีจิงเป็นเพียงหนึ่งในเส้นทางผจญภัยในชีวิตของเย่เชียนเช่นเดียวกับเวลาที่เขาอยู่ในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ที่ถูกกำหนดเอาไว้ให้เขาอยู่ที่นั่นเพียงชั่วคราว
อย่างไรก็ตามช่วงเวลาสั้นๆนี้ก็กลายเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืม ไม่ว่าจะเป็นหลี่ซือ,ฟู่เซิง,หยุนโอ่วเทียนและเยว่เหอตู ซึ่งภายในช่วงเวลาสั้นๆนี้เย่เชียนได้เปลี่ยนทั้งสี่คนนี้ให้กลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ วันหนึ่งในอนาคตฟู่เซิง,หยุนโอ่วเทียนและเยว่เหอตูทั้งสามได้ประสบความสำเร็จและอยู่ในจุดที่สูงมากแบบที่น้อยคนนักที่จะไปถึงได้ แน่นอนว่าพวกเขารู้สึกขอบคุณเย่เชียนอย่างมากและไม่มีวันลืม
ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เชียนแล้วพวกเขาทั้งสามคนก็อาจจะยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมและพวกเขาก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าอนาคตของพวกเขาจะเป็นอย่างไร
ส่วนทางด้านแม่ม่ายดำจือเหวินนั้นก็มีปัญหากับการเดินทางไปยังภาคตะวันตกเฉียงเหนือเพราะหวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือนั้นแข็งแกร่งเกินไปและเขาไม่ได้มองว่าจือเหวินเป็นคู่ต่อสู้ของเขาเลยเพราะจือเหวินไม่ได้มีอิทธิพลในดินแดนของเขา ดังนั้นหวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือจึงไม่ได้จริงจังกับเธอเลย
หลายปีก่อนเขาได้กำจัดศัตรูที่มาคุกคามเขาอย่างหยางเทียนและฝังเขาเอาไว้ตลอดกาลในดินแดนรกร้างภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งจะใครกล้าพูดว่าชายผู้นี้ที่รู้จักในนามราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือไม่มีความกล้าหาญ? ขนาดหยางเทียนที่แข็งแกร่งเช่นนั้นหวังหว่านยู่ยังไม่เกรงกลัวแล้วเขาจะขี้ขลาดได้อย่างไร
หวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือที่หยิ่งทะนงและเป็นจักรพรรดิทั่วทั้งภาค เมื่อย้อนกลับไปเขาไม่สนใจหยางเทียนผู้แข็งแกร่งคนนั้นเลยแม้แต่น้อยดังนั้นเขาจะกลัวจือเหวินได้อย่างไร? เขาเพียงต้องการบอกกับทุกคนในประเทศจีนว่าในแถบภาคตะวันตกเฉียงเหนือแล้วไม่มีใครแข็งแกร่งไปกว่าเขาอีก ดังนั้นไม่ต้องพูดคนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเลยเพราะเขาไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น
แน่นอนว่าความยิ่งใหญ่นั้นมีต้นทุนที่สูงเพราะหวังหว่านยู่แห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือสามารถมีทุกวันนี้ได้นั้นเพราะเขามีภูมิหลังที่แข็งแกร่งและกองกำลังมากมายสนับสนุนเขา ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งตำแหน่งสูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีศัตรูมากเท่านั้น เขาอาจจะโดนแทงข้างหลังได้ทุกเมื่อดังนั้นทั้งหมดทั้งมวลแล้วล้วนเป็นความกล้าหาญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถึงแม้ว่าหลี่ซือจะไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ก็ตามแต่เธอก็ต้องทำใจเพราะในสายตาของเย่เชียนแล้วเธอเป็นเพียงนักศึกษาที่ไร้เดียงสา ตอนนี้เย่เชียนไม่ได้เป็นอย่างที่เธอจินตนาการอีกต่อไปเพราะชีวิตของเย่เชียนถูกกำหนดให้ต้องต่อสู้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด ดังนั้นในฐานะผู้หญิงของเย่เชียนแล้วเธอก็ต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจสิ่งต่างๆ แต่ถึงแม้ว่าหลี่ซือจะยังไร้เดียงสาแต่เธอก็ยินดีที่จะเรียนรู้อย่างช้าๆ
ทางด้านของฟู่เซิง,หยุนโอ่วเทียนและเยว่เหอตูก็อยากจะผจญภัยไปกับเย่เชียนจริงๆแต่หลังจากเห็นความสามารถของเย่เชียนแล้วพวกเขาก็ยอมรับว่าการติดตามเย่เชียนไปนั้นพวกเขาจะเป็นได้เพียงภาระ ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาทำได้คือการอยู่ในมหาวิทยาลัยซีจิงต่อไป แต่ด้วยความช่วยเหลือของเย่เชียนหลังจากนี้นั้นจะทำให้เส้นทางของพวกเขาเรียบง่ายขึ้นอย่างมากและนั่นคือหนทางที่ถูกต้องที่สุด
เมืองซีจิงอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือและแน่นอนว่ามันยังอยู่ในขอบเขตอิทธิพลของหวังหว่านยู ซึ่งเหตุผลที่หวังฉิงเซิงกล้าที่จะจัดการกับเฉินฉิงหนิวนั่นก็เพราะว่าเขามีการสนับสนุนจากหวังหว่านยู่เพราะในสายตาของหวังหว่านยู่แล้วเฉินฉิงหนิวก็เป็นเพียงแค่มดตัวเล็กๆ ซึ่งสิ่งที่เฉินฉิงหนิวพัฒนาตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้นถ้าหากหวังฉิงเซิงจะทำลายมันก็สามารถทำได้ง่ายมาก
10 ปีที่แล้วหวังฉิงเซิงราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือได้สนับสนุนหวังฉิงเซิงและจุดประสงค์ก็คือการใช้หวังฉิงเซิงเป็นตัวแทนของเขาในเมืองซีจิงในอนาคต การพัฒนาของหวังฉิงเซิงในช่วงสิบปีที่ผ่านมาค่อนข้างน่าประทับใจจนหวังหว่านยู่แห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
ผู้บังคับบัญชาทุกคนมีกลอุบายที่ดีและรู้วิธีใช้ผู้อื่นเป็นอย่างดี แน่นอนว่าราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือที่กล้าฆ่าหยางเทียนและเพิกเฉยต่อองค์กรใต้ดินทั้งหมดจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นจะไม่ใช่คนธรรมดาทั่วๆไปอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามความล้มเหลวของหวังฉิงเซิงก็ทำให้เขาโกรธอย่างมาก ในตอนนี้ ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ในเมืองซีหนิงนั้นหวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือมองไปที่หวังฉิงเซิงที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา “อะไรนะ?..เย่เชียนอย่างงั้นเหรอ?..ถึงแม้ว่าเขาอาจจะเป็นคนคุมเมืองหนานจิงก็เถอะแต่นี่มันภาคตะวันตกเฉียงเหนือถิ่นของเรา!..ฉันประหลาดใจจริงๆที่แกกลับมาอย่างสิ้นหวังแบบนี้”
“คุณหวังหว่านยู่ครับมันไม่ใช่ว่าผมกลัวแต่เป็นความจริงที่เย่เชียนไม่ใช่ชายหนุ่มที่ธรรมดา..คุณประเมินเขาต่ำเกินไป..คุณเองก็น่าจะรู้จักแก๊งชิงและหงเหมินกรุ๊ปที่มีอยู่ทั่วประเทศจีนและนั่นคือแก๊งมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่เหรอ?..ซึ่งทั้งสองแก๊งนั้นห้ำหั่นกันมานานหลายปีแต่ในที่สุดเย่เชียนคนนั้นก็สามารถรวมทั้งสองแก๊งให้เป็นหนึ่งเดียวได้เพราะงั้นเย่เชียนคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน” หวังฉิงเซิงพูดอย่างสิ้นหวัง
“ยิ่งใหญ่อย่างงั้นเหรอ?..ว่ากันว่าองค์กรใต้ดินของภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและทุกคนก็สามารถฆ่าคนได้โดยไม่กะพริบตาเลยแม้แต่น้อย..แต่แล้วมันยังไงล่ะ?..แกจำไม่ได้เหรอว่าหยางเทียนแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังถูกฉันฝังอยู่ที่นี่เลย?..ขนาดแม่ม่ายดำจือเหวินยังทำอะไรฉันไม่ได้เลยแล้วนับประสาอะไรกับเย่เชียน!..ยิ่งไปกว่านั้นแกลองนึกถึงคนที่อยู่เบื้องหลังของฉันสิเพราะงั้นฉันจะไปกลัวเย่เชียนได้ยังไง?” หวังหว่านยู่พูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม
หวังฉิงเซิงก็อยากจะพูดมากกว่านี้แต่เมื่อนึกถึงคนที่อยู่เบื้องหลังของหวังหว่านยู่แล้วก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกต่อไป พวกเขาทั้งหมดนั้นเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจและอิทธิพลอย่างแท้จริง “คุณหวังหว่านยู่ครับแล้วเราจะทำยังไงกับแม่ม่ายดำจือเหวินดี?..คุณต้องการ..” หวังฉิงเซิงพูดแล้วทำท่ามือปาดคอเห็นได้ชัดว่าเขากำลังจะสื่อถึงการฆ่าใครสักคน
เมื่อได้ยินแบบนั้นหวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือก็ยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยามและพูดว่า “ไม่จำเป็น..แค่ผู้หญิงคนเดียวเราจะไปเสียเวลาทำไม?..ฉันแค่อยากให้เธอลิ้มรสความรู้สึกโดดเดี่ยวและไร้หนทางและคอยจับตาดูฉันเอาไว้อย่างสิ้นหวัง..แต่ถ้ามีคนมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาเหยียบถิ่นของเราล่ะก็ฆ่าทิ้งซะให้หมด!..เพื่อเตือนพวกมันว่าดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือของเราไม่ใช่สถานที่ที่พวกมันจะมาเย้ยหยันได้” หลังจากหยุดไปชั่วขณะใบหน้าของราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความชั่วร้ายออกมาแล้วพูดว่า “แม่ม่ายดำจือเหวินดูดีเลยทีเดียว..ฉันได้ยินมาว่าหยางเทียนไม่เคยแตะต้องเธอมาก่อนแต่ทุกคนกลับบอกว่าเธอเป็นแม่ม่ายดำเพราะงั้นฉันก็อยากรู้ว่าแม่ม่ายดำตัวนี้มีพิษสงร้ายแค่ไหน..ฉันแค่ต้องการให้เธอนอนอยู่ในอ้อมแขนของฉันอย่างเชื่อฟังเท่านั้น!”
หวังฉิงเซิงก็หัวเราะอย่างขมขื่นและอดไม่ได้ที่จะนึกถึงลูกชายที่เป็นอัมพาตอย่างหวังจุนที่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งเขาก็ยังปรารถนาให้เย่เชียนมาปรากฏตัวพร้อมๆกับแม่ม่ายดำจือเหวินเพราะบางทีหวังหว่านยู่อาจจะกำจัดเย่เชียนให้เขาได้ “คุณหวังหว่านยู่ครับเราควรส่งคนไปเฝ้าหลุมฝังศพของหยางเทียนหรือเปล่า?..ถ้าแม่ม่ายดำจือเหวินแอบไปขุดขี้เถ้าของหยางเทียนขึ้นมาแล้วนั่นจะทำให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นราชาตะวันตกเฉียงเหนือหวังหว่านยู่ก็ยิ้มอย่างเย้ยหยันแล้วพูดว่า “ฉันเตรียมการเอาไว้แล้ว”
หวังฉิงเซิงก็ไม่กล้าพูดอะไรมากและตอบอย่างประหม่าเล็กน้อย
แม่ม่ายดำจือเหวินไม่คิดว่าหวังหว่านยู่แห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือจะแข็งแกร่งแบบนี้เพราะเมื่อเธอสื่อสารกับเขาทางโทรศัพท์เขาก็ยอมที่คุยและตกลงกันแต่ตอนนี้เมื่อเธอมาถึงเมืองซีหนิงเธอก็ถูกหวังหว่านยู่หักหลัง ซึ่งทำให้จือเหวินโกรธอย่างมาก หลังจากอยู่ในแวดวงนี้มานานหลายปีจือเหวินก็เคยเห็นการกระทำที่เลวทรามมามากมายและหวังหว่านยู่เองก็เป็นแบบนั้น
อย่างไรก็ตามโชคดีที่หวังหว่านยู่ไม่ได้ทำรุนแรงจนเกินไปไม่เช่นนั้นคนไม่กี่คนที่จือเหวินพามาก็คงจะไม่สามารถกลับไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อีกต่อไปจนจือเหวินไม่กล้าที่จะประมาทและไม่กล้าเสี่ยงอีกต่อไป อย่างไรก็ตามเมื่อคิดว่าหยางเทียนยังคงอยู๋ในดินแดนรกร้างในที่แห่งนี้จือเหวินก็รู้สึกผิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเจรจากับหวังหว่านยู่และทางเดียวก็คือการกำจัดเขา อย่างไรก็ตามที่นี่คือดินแดนภาคตะวันตกเฉียงเหนือและไม่ใช่อาณาเขตของเธอเองดังนั้นต่อให้มีคนมากมายแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี เพราะในดินแดนของคนอื่นถึงแม้ว่าเราจะมีอำนาจมากแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่อยู่ดี
วิธีเดียวในตอนนี้คือหวังว่าหลังจากที่ผู้คนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาถึงพวกเขาจะสามารถแอบขุดขี้เถ้าของหยางเทียนและนำกลับไปที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้? แต่มันคงไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่นอน
หลังจากที่โทรหาเย่เชียนอีกครั้งจือเหวินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจเพราะเธอรู้ว่าเย่เชียนมีภารกิจที่มหาวิทยาลัยซีจิงแต่เธอก็ต้องรบกวนเขาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเย่เชียนจะไม่ชัดเจนนักแต่เธอก็ไม่ต้องการทำให้เย่เชียนกังวลเกี่ยวกับเธอ เพราะเธอรู้ดีว่าเย่เชียนจะต้องมาอย่างแน่นอน แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นที่นั่นมันก็จะทำให้เย่เชียนตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตามนอกจากเย่เชียนแล้วเธอก็นึกถึงใครไม่ออกจริงๆและไม่ว่าเธอจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่เธอก็เป็นผู้หญิง ดังนั้นในเวลานี้เธอก็หวังที่จะมีผู้ชายคนหนึ่งที่สามารถยืนหยัดเพื่อเธอได้
เมื่อนึกถึงเย่เชียนแล้วจือเหวินก็อดไม่ได้ที่จะตกลงไปในความทรงจำ “หัวหน้าครับ..ทำไมเราไม่ทำคืนนี้กันเลยล่ะ?..เราแอบไปเอาขี้เถ้าของพี่เทียนกลับมาจะไม่ดีกว่าเหรอ?..ถ้าทำแบบนั้นได้เราก็จะได้กลับไปที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ..พวกเราต่างก็รู้ดีกว่าหวังหว่านยู่นั้นไม่ธรรมดาและถ้าเราอยู่ที่นี่นานเกินไปสิ่งต่างๆคงก็จะแย่ลงอย่างมาก” ชายคนหนึ่งพูด
เมื่อได้ยินแบบนั้นจือเหวินก็ตื่นขึ้นจากความทรงจำของเธอและเหลือบมองพวกเขาแล้วพูดว่า “เราแค่รอจังหวะดีๆก่อน”
.
.
.
.