ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 996 เกือบไม่รอด
ตอนที่ 996 เกือบไม่รอด
……………………………………………………………………..
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่ทรงพลังและรวดเร็วของทั้งสามเย่เชียนก็ต้องก้าวถอยกลับไป ซึ่งเสื้อผ้าของเย่เชียนก็ถูกฉีกออกด้วยบาดแผลหลายจุดและมีเลือดไหลเต็มตัว ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายของเขายังได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีกายภาพอีกด้วยจนทำให่อวัยวะภายในของเขาบอบช้ำ หากไม่มีพลังการฟื้นฟูของพลังปราณในร่างกายล่ะก็เย่เชียนคงจะทรุดลงไปนานแล้ว
ไม่ว่าเย่เชียนจะแข็งแกร่งเพียงใดแต่เขาก็ยังเป็นมนุษย์คนหนึ่งและบาดแผลบนร่างกายของเขาทำให้ร่างกายของเขาดูหนักอึ้งอย่างเห็นได้ชัด ความเจ็บปวดดังกล่าวราวกับมีดแทงทะลุหัวใจของเขาและจิตวิญญาณของเขาก็เริ่มเลือนหายใจ
เมื่อเห็นสายลับร่างใหญ่ต่อยมาที่เขาเย่เชียนก็ใช้มีดในมือแทนสวนเข้าไปที่หน้าอกของเขาและกระทืบเท้าข้างหนึ่งเพื่อดีดตัวกลับจากนั้นก็ใช้เท้าทั้งสองข้างยันต้นไม้เอาไว้แล้พุ่งออกไปใช้เข่ากระแทกเข้าไปที่ร่างของสายลับร่างใหญ่อย่างแรง “ปัง” ร่างของสายลับร่างใหญ่ก็กระเด็นออกไปและได้ยินเสียงกระดูกหักอย่างชัดเจน ซึ่งกระดูกที่แตกหักก็เจาะเข้าไปในอวัยวะภายในของเขาจนทำให้เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือดแล้วหมดสติไป
หลังจากนั้นหัวหน้าทีมสายลับก็พุ่งเข้ามาหาเย่เชียนอย่างลับๆ ซึ่งการสูญเสียเลือดมากเกินไปและความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้เย่เชียนสูญเสียสมาธิไป ด้วยความล้าและอ่อนแรงลงแบบนี้ทำให้หัวหน้าทีมสายลับโจมตีอย่างประสบความสำเร็จด้วยมีดในมือของเขาแทงเข้าไปที่ช่องท้องของเย่เชียน แต่ทว่าในวินาทีสุดท้ายเย่เชียนนั้นเบี่ยงตัวออกมาจากจุดนั้นเพราะข้างหลังเป็นต้นไม้ไม่อย่างนั้นเย่เชียนก็จะถูกมีดแทงทะลุตอกเข้ากับต้นไม้และไม่สามารถหนีไปไหนได้อีก
เขาต้องไม่ตายความปรารถนาในการเอาชีวิตรอดของเย่เชียนได้หลอมรวมเป็นศักยภาพที่ทรงพลังอย่างมาก เขารู้ดีว่าเมื่อเขาตายตรงนี้หลี่ซือกับหลีฉีจะไม่สามารถหลบหนีไปจากสายลับเหล่านี้ได้อีก เมื่อคิดแบบนั้นเย่เชียนก็ใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพื่อดิ้นรนเอาชีวิตรอดไปจากตรงนี้
ในเวลานี้เย่เชียนก็คว้าข้อมือของหัวหน้าทีมสายลับที่ถือมีดเอาไว้ด้วยมือทั้งสองของเย่เชียนแล้วบิดไปในทิศทางตรงกันข้ามและเย่เชียนก็กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งและสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ในเวลาเดียวกันสายลับอีกคนก็ปล่อยหมัดเข้ามาใส่เย่เชียนอย่างรุนแรงและไม่มีใครกล้าสงสัยว่าถ้าหากเย่เชียนโดนหมัดนี้เข้าไปล่ะก็หัวของเขาคงจะเบิดออกมาและสมองก็จะพุ่งกระจายเป็นภาพที่น่าสยดสยองอย่างมาก “ไปลงนรกซะ!” เย่เชียนกระแทกเข่าสวนกลับไปใส่หัวหน้าทีมสายลับแล้วใช้หมัดต่อยจนกระเด็นออกจากเย่เชียนราวกับว่าวที่หักกลางอากาศ จากนั้นเย่เชียนก็เอียงหัวของเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อหลบหมัดของสายลับอีกคน
หมัดของสายลับกระแทกเข้ากับลำต้นของต้นไม้และทันใดนั้นต้นไม้ก็หักครึ่งท่อนและใบไม้ก็ปลิวว่อนไปทั่วอากาศจากนั้นเย่เชียนก็รีบมีดในท้องของเขาออกมาอย่างรวดเร็วแล้วแทงเข้าไปที่ท้องของสายลับคนนั้น เนื่องจากเย่เชียนดึงมีดออกมาจากท้องของตัวเองจึงทำให้เลือดของเขาพุ่งออกมาราวกับน้ำพุดังนั้นเย่เชียนจึงใช้มือห้ามเลือดของตัวเองอย่างรวดเร็ว
การโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้เย่เชียนหมดแรงและถ้าหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากพลังปราณที่ทรงพลังล่ะก็เย่เชียนคงทรุดตัวลงและตายไปตั้งนานแล้ว จากนั้นเย่เชียนก็หายใจอย่างหอบเฮือกแล้วพูดว่า “จะฆ่าฉันงั้นเหรอ..ก็มาสิวะ!” ใบหน้าของเย่เชียนน่ากลัวมากราวกับอสูรในนรก
เป็นเวลานานแล้วที่เย่เชียนไม่ได้เผชิญกับการต่อสู้ที่ดุเดือดแบบนี้ ซึ่งเย่เชียนก็ยิ้มอย่างน่าสมเพชเมื่อเห็นบาดแผลของเขา อย่างไรก็ตามยิ่งการต่อสู้ดุเดือดมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการสังหารและเลือดเดือดมากขึ้นเท่านั้น ท่าทางที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของเย่เชียนในเวลานี้สามารถทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวจากเบื้องลึกของจิตใจได้เลย
สายลับคนนั้นก็เหลือบมองดูเพื่อนสองคนที่หมดสติอยู่กับพื้นและดวงตาของเขาก็มีเจตนาฆ่าที่รุนแรง ซึ่งเมื่อเขามองลงไปที่ร่างกายของเขาก็เห็นรอยผ่ายาวในช่องท้องและลำไส้ของเขาก็กำลังไหลออกมา เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็พยายามยัดลำไส้ของเขากลับเข้าไปในท้องของเขาแล้วถอดเสื้อออกเพื่อพันรอบๆเอว จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหาเย่เชียนด้วยความสิ้นหวัง สถานการณ์ที่เลวร้ายแบบนี้พลักดันให้เขากลายเป็นสัตว์ร้ายและต่อยเย่เชียนด้วยความบ้าคลั่ง
ความตายบางครั้งใกล้ตัวเรามากและเมื่อเห็นแบบนั้นแววตาที่ดูเจ็บปวดและเหม่อลอยของเย่เชียนก็กลายเป็นแน่วแน่อีกครั้งแล้วกลิ้งตัวกลับหลังไปหยิบมีดคลื่นโลหิตที่ตกอยู่บนพื้นและหมุนตัวเพื่อขว้างมีดเข้าไปที่ลำคอของสายลับคนนั้นอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้สายลับคนนั้นก็ถึงกับผงะและใช้มือปิดลำคอของเขาแล้วมองไปที่เย่เชียนอย่างไม่เชื่อสายตาแล้วทรุดตัวลง ซึ่งเขาไม่นึกเลยว่าเย่เชียนจะเรี่ยวแรงเหลืออยู่ในเวลานี้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เขาได้เพิกเฉยต่อความบ้าคลั่งของนักรบเขี้ยวหมาป่าไปอย่างน่าอนาถ
หลังจากนั้นเย่เชียนก็ยิ้มบนความเจ็บปวดและเดินโซเซไปทีละก้าวไปหาสายลับคนนั้นแล้วดึงมีดที่คอของเขาออกมา หลังจากแทงซ้ำไปอีกไม่กี่ครั้งเย่เชียนก็สบายใจได้ว่าสายลับคนนี้นั้นตายแล้ว เมื่อคิดแบบนั้นเย่เชียนก็ทรุดตัวลงอย่างควบคุมไม่ได้
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนเมื่อลมหวนของภูเขาพัดมาเย่เชียนก็ตื่นขึ้นอย่างช้าๆและแหงนมองท้องฟ้า จากนั้นเย่เชียนก็พยายามลุกขึ้นและเดินเซไปทีละก้าว ซึ่งสติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยบอกกับเขาว่าถ้าหากเขาไม่ออกไปจากที่นี่เขาก็จะต้องตายอยู่ที่นี่ ในเวลานี้เย่เชียนใช้มือปิดบาดแผลที่ท้องของเขาเอาไว้แล้วเดินต่อไปพร้อมกับเลือดที่หยดลงบนพื้นดิน
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนเย่เชียนก็ได้ยินเสียงนกหวีดของหน่วยฉุกเฉินและรถฉุกเฉินหลายคันก็จอดอยู่ที่ริมถนนและบางส่วนก็ขับราดตระเวนพื้นที่โดยรอบ ส่วนหลี่ซือก็นั่งอยู่ในรถพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมา ไม่ว่าใครจะปลอบใจเธออย่างไรเธอก็เอาแต่พูดว่าเย่เชียนจะต้องไม่เป็นอะไรและไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่ไหลออกมาได้
‘เย่เชียนถ้านายตายฉันจะตายตามนายไปด้วย’ หลี่ซือบอกกับตัวเองอย่างลับๆเพราะถ้าหากไม่มีเย่เชียนเธอก็ไม่รู้เลยว่าการมีชีวิตอยู่จะหมายความอย่างไรอีกต่อไป
“มีคนอยู่ตรงนั้น!” เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินและกู้ภัยที่กำลังตรวจพื้นที่อยู่เห็นเย่เชียนที่กำลังเดินเซไปมาทีละก้าวเขาก็ตะโกนอย่างเร่งรีบ
หลี่ซือก็ถึงกับสะดุ้งและรีบหันไปมองและเมื่อเห็นเย่เชียนเธอก็ตื่นเต้นทันทีและรีบตะโกนว่า “นั่นเขา..รีบไปช่วยเขาเร็ว”
รถฉุกเฉินก็รีบขับไปหาเย่เชียนและหลี่ฉีก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งไปทางเย่เชียน “ฉันรู้ว่านายจะไม่เป็นอะไร” หลี่ซือพูดทั้งน้ำตา
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วถ้าฉันตายเธอจะทำยังไง?”
“ฉันจะตายตามนายไป..นายกับฉันต้องสัญญากันว่าถ้าใครตายก่อนจะต้องรอกันที่ประตูสวรรค์” หลี่ซือพูดอย่างหนักแน่น แต่เมื่อเธอเห็นท้องของเย่เชียนที่เต็มไปด้วยเลือดเธอก็ตกตะลึงในทันทีและน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุดพร้อมกับสะอึกสะอื้น
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างเศร้าสร้อยและพูดว่า “ฉันอยู่ที่นี่แล้วและจะไม่มีใครทำร้ายเธอได้” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็ทรุดตัวลงเพราะเมื่อเห็นว่าหลี่ซือปลอดภัยดีเขาก็ไม่ทนอีกต่อไปเพราะเขาสามารถโล่งใจได้แล้ว
เมื่อมองไปที่บาดแผลบนร่างกายของเย่เชียนแล้วหน่วยฉุกเฉินก็จินตนาการไม่ได้เลยว่าเย่เชียนได้ต่อสู้อย่างยากลำบากและเลวร้ายแค่ไหนและในหัวใจของพวกเขาก็แสดงความเคารพอย่างแรงกล้าต่อชายหนุ่มคนนี้ ซึ่งหัวหน้าทีมฉุกเฉินก็ไม่กล้าที่จะลังเลใดๆเขาก็รีบสั่งให้เจ้าหน้าที่ช่วยพาตัวเย่เชียนไปที่รถฉุกเฉินแล้วพาเย่เชียนไปโรงพยาบาลโดยปล่อยให้เจ้าหน้าที่อีกส่วนค้นหาร่างของสายลับ CIA ต่อไป
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็ประหลาดใจไปกับความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของชายหนุ่มคนนี้ พวกเขานั้นทำงานแบบนี้มาหลายสิบปีแต่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนและไม่เคยเจอใครที่กล้าหาญและแข็งแกร่งเหมือนกับเย่เชียนเลย
ในช่วงนี้รักษาการผู้ว่าการเทศบาลเมืองซีจิงอย่างเจิ้งอี้ซวนถูกย้ายไปอยู่ที่เมืองชนบทและนั่งเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยใน ซึ่งไม่มีอำนาจที่แท้จริง ส่วนหวังฉิงเซิงถูกเฉินฉิงหนิวปราบปรามอย่างบ้าคลั่งและต้องออกจากเมืองซีจิงไปด้วยความเศร้าโศกและเขาไม่เพียงแต่ทำร้ายตัวเองแต่ยังทำร้ายลูกชายตัวเองอีกด้วย
ครั้งหนึ่งหวังฉิงเซิงเคยคิดว่าเขายิ่งใหญ่แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเย่เชียนเขาก็ไม่มีโอกาสชนะเลย ถึงแม้ว่าเขาจะมีความขุ่นเคืองอยู่ในใจก็ตามเขาก็ต้องระงับมันเอาไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ณ โรงพยาบาลเมืองซีจิง ห้องผู้ป่วยVIPของเย่เชียนนั้นเต็มไปด้วยผู้คน ทางด้านหวงฟู่ชิงเตี๋ยนที่ได้ยินข่าวการบาดเจ็บของเย่เชียนเขาก็รีบมาและแน่นอนว่าม่อหลงกับหลี่เหว่ยและชิงเฟิงเองก็มาเช่นกัน ด้านข้างเตียงผู้ป่วยหลี่เหว่ยก็พูดด้วยความโกรธว่า “ปู่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนครั้งนี้โชคดีไปที่บอสไม่เป็นอะไรเพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นผมจะไปทำลายสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของคุณให้ราบคาบ!”
แน่นอนว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็เข้าใจความรู้สึกของพวกเขาดีและยิ้มอย่างเชื่องช้าอย่างขอโทษ ส่วนม่อหลงก็ดึงแขนของหลี่เหว่ยเอาไว้ “พี่ม่อหลงดูตาแก่พวกนี้สิ..เขาใช้บอสไปทำงานแบบไหนกัน..สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเนี่ยไร้ประโยชน์ขนาดนั้นเลยหรอ..แค่ผู้หญิงสองคนยังปกป้องเอาไว้ไม่ได้!” หลี่เหว่ยพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
“แม่งเอ๊ย..ครั้งที่แล้วก็แย่และตอนนี้บอสก็เป็นแบบนี้อีก..ฉันไม่สนหรอกว่าตอนนี้พวกเบื้องบนจะคิดยังไงเพราะฉันไม่สบอารมณ์อย่างมาก..เอาล่ะฉันจะส่งคนไปประเทศสหรัฐอเมริกาทันทีและไล่ฆ่าพวกCIAสารเลวให้หมด!” ชิงเฟิงตะโกนด้วยความโกรธ
“เฮ้ยๆ..เงียบๆกันหน่อยสิ” เย่เชียนโบกมือแล้วพูดว่า “เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของฉันเอง..อย่าไปโทษปู่เขาเลย” เย่เชียนหันไปมองหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแล้วพูดว่า “ไม่ได้บอกคนอื่นๆแล้วใช่มั้ย?..ผมไม่ต้องการให้ทุกคนกังวล” เย่เชียนพูดและแน่นอนว่าเขาหมายถึงฉินหยูและผู้หญิงคนอื่นๆของเขา
“ฉันไม่ได้บอกใคร..ซึ่งตอนนี้หม่าเต๋อหงและหยานตงก็ได้เดินทางไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วเพราะงั้นที่เหลือเป็นหน้าที่ของพวกฉันส่วนเอ็งพักผ่อนให้เต็มที่เถอะ” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด
เย่เชียนก็พยักหน้าและเหลือบมองหลี่เหว่ยกับชิงเฟิงแล้วพูดว่า “เมื่อไหร่พวกนายสองคนจะระงับอารมณ์ได้สักที..พวกนายคิดว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเล็กๆอย่างงั้นเหรอ..พวกนายคิดว่าจะเดินไปไหนมาไหนได้ตามใจรึไง?..ถ้าพวกนายทำพลาดมันจะส่งผลต่อเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดด้วย”
.
.
.
.