ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 995 เสี่ยงตาย
ตอนที่ 995 เสี่ยงตาย
……………………………………………………………………..
ในการเผชิญหน้ากับยอดฝีมือทั้งสี่ที่สามารถกำจัดสายลับของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติได้นั้นเย่เชียนก็ไม่กล้าที่จะประมาทเลินเล่อเลยแม้แต่น้อย ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าอีกฝ่ายยังมีหลี่ฉีกับหลี่ซือเป็นตัวประกันอยู่อีก ดังนั้นถ้าหากเย่เชียนไม่ระวังล่ะก็ไม่เพียงแต่เย่เชียนจะล้มเหลวในการช่วยชีวิตพวกเธอแต่ยังรวมไปถึงชีวิตของเขาเองด้วย
หลังจากนึกถึงเรื่องนี้เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มออกมาแล้วจะโกนว่า “ช่วยด้วย..ฆ่าตกรลักพาตัว!” จากนั้นเย่เชียนก็หันกลับไปและวิ่งไปทางอื่นโดยจงใจให้เจ้าหน้าที่ CIA ตามเขาไป
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเย่เชียนเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดสำหรับ CIA ทั้งสี่ของประเทศสหรัฐอเมริกาและเขาแค่สันนิษฐานว่าเย่เชียนเป็นชาวบ้านในท้องถิ่นที่บังเอิญมาเห็นพวกเขาและต้องการจะรายงานพวกเขาแก่ตำรวจ ซึ่งพวกเขาปล่อยให้ใครรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? ถ้าหากตำรวจรู้เรื่องนี้บล่ะก็มันคงจะยากสำหรับพวกเขาที่จะหลบหนีกลับประเทศได้ เมื่อเห็นแบบนั้นชายร่างกำยำชาวอเมริกันก็ไม่กล้าที่จะหย่อนยานเลยแม้แต่น้อยและรีบสั่งลูกน้องสองคนให้ไล่ตามเย่เชียนไป
เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้หลี่ซือก็อดไม่ได้ที่จะแน่นิ่งไปครู่หนึ่งจากนั้นก็หัวเราะอย่างมีความสุขและคิดอย่างลับๆว่า “ฉันรู้..ฉันรู้อยู่แล้วว่านายจะต้องมาช่วยฉันอย่างแน่นอน” ในเวลานี้เย่เชียนอยู่ในเธอและมีสถานะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและดูเหมือนว่าเย่เชียนจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอำนาจทุกอย่างสำหรับเธอ ตราบใดที่เย่เชียนอยู่ที่นี่แล้วเธอก็ไม่กังวลหรือกลัวอะไรเลย
เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วหลี่ฉีก็รู้ว่าเย่เชียนอยู่ที่นี่แต่เธอไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนหลี่ซือและใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความกังวลเพราะคนเหล่านี้ไม่ธรรมดา ซึ่งพวกเขาเป็นเหมือนอสูรสังหารแต่เมื่อหลี่ฉีรู้ว่าเย่เชียนสามารถไล่ตามคนเหล่านี้มาได้เพื่อมาช่วยลูกสาวของเธอและถึงแม้ว่าจะเสี่ยงอย่างมากก็ตามแต่หลี่ฉีก็รู้สึกสบายใจ
เย่เชียนเองก็ไม่ประมาทเพราะเมื่อเห็นคนสองคนวิ่งตามหลังเขามาเย่เชียนก็เร่งฝีเท้าและหายเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้มีคนสองคนอยู่กับหลี่ซือและหลี่ฉีดังนั้นเย่เชียนจึงไม่กล้าที่จะล่าช้าเพราะเขาต้องรีบจัดการสองคนนั้นที่เฝ้าหลี่ซือกับหลี่ฉีให้ได้โดยเร็วที่สุด
สมาชิกเขี้ยวหมาป่านั้นได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวดและการสู้รบในป่าก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเย่เชียนเลย ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะสู้รบในป่าไม่เก่งเท่ากับเฟิงหลานก็ตามแต่เมื่อต้องเผชิญกับชาวต่างชาติสองคนนี้แล้วเย่เชียนก็มีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์อย่างไม่ต้องสงสัย ในไม่ช้าเย่เชียนก็ออกห่างจากพวกเขาและทิ้งให้พวกเขางุนงงกับเส้นทางดังกล่าวอย่างน่าประหลาดใจ
ในเวลานี้เย่เชียนก็ฉวยโอกาสด้วยการใช้เท้าวิ่งไต่ขึ้นไปบนต้นไม้และกระโดดข้ามไปยังตำแหน่งที่หลี่ซือกับหลี่ฉีถูกจับอยู่พร้อมกับมีดคลื่นเลือดในมือของเขาแทงเข้าไปที่ชายที่มีบาดแผลบนแขนของเขา เย่เชียนไม่ได้เลือกโจมตีคนที่แข็งแกร่งกว่าเพราะเขารู้ดีว่านั่นจะทำให้เขาจัดการอีกฝ่ายยากขึ้นและสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือโอกาสในการปิดฉากให้เร็วที่สุด ดังนั้นเย่เชียนจึงเลือกคนที่บาดเจ็บที่แขนเพราะจะรับมือได้ง่ายกว่าโดยธรรมชาติ
แน่นแนว่าชายหนุ่มที่มีบาดแผลที่แขนก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและรีบคว้ามีดออกมาทันที ตามที่คาดเอาไว้เขาเป็นสายลับที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีของ CIA ซึ่งถ้าหากเขาเป็นคนธรรมดาล่ะก็จะไม่มีทางตอบสนองได้รวดเร็วแบบนี้ได้เลย
หัวหน้าสายลับร่างกำยำที่อยู่ด้านหลังก็พึ่งเข้ามาหาเย่เชียนเพื่อช่วยลูกน้องของเขาที่บาดเจ็บ ซึ่งทั้งสองก็ตอบสนองการโจมตีในรูปแบบทีมอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ทว่าเย่เชียนก็เหยียบต้นขาของหัวหน้าทีมเพื่อกระโดดขึ้นไปบนอากาศจากนั้นเย่เชียนก็หมุนตัวโจมตีสายลับที่บาดเจ็บด้วยมีดทันที
ด้วยเสียง “แกร๊ง!” มีดคลืนโลหิตก็ปะทะเข้ากับมีดของสายลับที่บาดเจ็บจนใบมีดแตกออกและมีดของเย่เชียนก็แทงเข้าไปที่หน้าอกของชายคนนั้น ซึ่งเย่เชียนก็ไม่กล้าที่จะประมาทดังนั้นเขาจึงรีบดึงมีดแล้วถอยออกมาและถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เขาก็ไม่กล้าทีชะล่าใจเพราะหัวหน้าทีมร่างกำยำก็อยู่ตรงหน้าเขาและต้องเป็นคนที่รับมือยากอย่างแน่นอน นอกจากนี้สายลับอีกสองก็กำลังตามมาในอีกไม่ช้าดังนั้นเย่เชียนจึงไม่มีเวลามากพอที่จะลังเลอีกต่อไปแล้ว
หัวหน้าทีมร่างกำยำก็ก้มหน้าลงและเหลือบมองไปที่เย่เชียนจากนั้นก็ระเบิดของเจตนาฆ่าออกมาภายในดวงตาของเขา เมื่อหันกลับมาเขาก็เห็นว่าเย่เชียนปลดเชือกที่มือของสองแม่ลูกแล้ว “รีบหนีไปก่อนเดี๋ยวตำรวจน่าจะมาถึงเร็วๆนี้”
เย่เชียนโทรสายด่วน 120 เมื่อตอนที่เขาอยู่ในบ้านของเฉินฉิงหนิวไปแล้วและคาดว่าความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่จะมาถึงในไม่ช้านี้ ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้านของเฉินฉิงหนิวนั้นก็ร้ายแรงมากและตัวแทนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติก็อยู่ที่นั่นด้วย ดังนั้นแน่นอนว่าความช่วยเหลือจะต้องมาถึงในอีกไม่นานและสองแม่ลูกจะปลอดภัยในที่สุด
“เย่เชียน..นาย” เฉินซีซีพูดอย่างกังวลใจ
“อย่ากังวลไปเลย..แฟนของเธอไม่ตายง่ายๆขนาดนั้นหรอก..ไปเร็ว..ถ้าฉันไม่ตายฉันจะรีบตามเธอไป” เย่เชียนพูดและหันไปเผชิญหน้ากับสายลับทั้งสามคนและเขาก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะออกจากที่นี่อย่างปลอดภัยได้ แต่ตราบใดที่หลี่ซือกับหลี่ฉีปลอดภัยมันก็คุ้มค่าแล้ว แต่ทว่าเย่เชียนจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างง่ายดายได้อย่างไรเพราะหลังจากผ่านความตายมาหลายครั้งแล้วเขาจะกลัวได้อย่างไร?
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลี่ซือก็กำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่หลี่ซือห้ามเอาไว้เพราะท้ายที่สุดแล้วหลีฉีก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าหลี่ซือและเธอก็รู้ว่าถ้าฝืนอยู่ที่นี่ต่อพวกเธอก็เป็นได้แค่ภาระของเย่เชียน ดังนั้นหากพวกเธอหนีไปเย่เชียนก็จะสบายใจขึ้น แน่นอนว่าหัวหน้าทีมร่างกำยำก็สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของเย่เชียนดังนั้นถ้าหากเขาประมาทแม้แต่นิดเดียวเขาก็อาจจะกลายเป็นร่างที่วิญญาณได้ทุกเมื่อ
ไม่นานนักสายลับอีกสองคนก็วิ่งเข้ามาแล้วพูดว่า “หัวหน้าครับ!” สายลับสั้นเหลือบมองไปที่หัวหน้าทีมและต้องการไล่ตามหลี่ซือกับหลี่ฉีไปแต่เย่เชียนก็ขวางทางพวกเขาเอาไว้
เย่เชียนก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจแห่งความตายจากตัวของพวกเขาทั้งสามคน
“แกมาจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเหรอ?” หัวหน้าทีมมองไปที่เย่เชียนและถามอย่างเย็นชา เขารู้ดีว่าถ้าเขาต้องการตามหลี่ซือกับหลี่ฉีไปล่ะก็เขาต้องจัดการกับชายหนุ่มตรงหน้าเสียก่อน ซึ่งการโจมตีและการเคลื่อนไหวของเย่เชียนก่อนหน้านี้ทำให้เขาตกใจอย่างมากจนเขาไม่กล้าที่จะสั่งให้ลูกน้องของเขาตามสองแม่ลูกไป
“หุบปากแล้วเข้ามาซะ..อย่ามาหยิ่งผยองกับแผ่นดินจีน..ฉันโทรแจ้งสายด่วนไปแล้วและอีกไม่นานพวกเขาจะมา” เย่เชียนพูด ซึ่งเขานั้นเกลียดประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างมากเพราะเขาเคยเผชิญหน้ากับสายลับของ CIA มาหลายครั้งแล้ว
เย่เชียนสงบและไม่หวั่นเกรงใดๆซึ่งดวงตาของเขาเป็นประกายควบคู่ไปกับรอยยิ้มที่เย่อหยิ่ง เขาไม่เคยกลัวสิ่งใดเพราะแม้แต่รับจ้างเสือดาวหิมะในสมัยก่อนเขาก็ไม่เคยกลัวแม้จะถูกศัตรูล้อมเอาไว้ ความกลัวมันจะไปมีประโยชน์อะไร? นี่แหละคือลูกผู้ชายตัวจริงที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใด
เย่เชียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆและปรับสมาธิเพื่อรวบรวมพลังปราณที่วนเวียนอยู่ในร่างกายจนมันหมุนเวียนอย่างดุเดือด เย่เชียนได้เห็นทักษะและความสามารถของสายลับ CIA มาหลายคนแต่เห็นได้ชัดว่าสามคนนี้แตกต่างไปจากพวกเขา Ye Qian ไม่กล้าที่จะประมาทแม้แต่น้อยการเผชิญหน้ากับเจ้านายเช่นนี้หากเขาไม่ระวังเขาจะพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ในแง่ของโมเมนตัมเขาต้องไม่แพ้ ส่วนตัวความรุนแรง จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้บนร่างของเขาทำให้บรรยากาศของสถานที่ที่มีพื้นที่หลายสิบตารางเมตรดูตกต่ำเป็นพิเศษ
แน่นอนว่าถ้าหากเย่เชียนตายนั่นก็เป็นความโชคร้ายของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งประเทศก็จะเผชิญกับการแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า ซึ่งเย่เชียนก็ไม่สงสัยในเรื่องนี้เพราะแจ็คจะนำสมาชิกทั้งหมดในองค์กรไปบุกโจมตีและสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศสหรัฐอย่างไม่รู้จบและการโจมตีทางเศรษฐกิจของซ่งหลันก็จะทำให้เกิดการนองเลือดที่มองไม่เห็นอย่างหนักหน่วง
ในเวลานี้สายลับคนหนึ่งก็อดใจรอไม่ไหวแล้วรีบพุ่งเข้ามาหาเย่เชียน ซึ่งร่างกายของเขาแข็งแกร่งเป็นพิเศษแต่เขาเคลื่อนไหวช้ามากแต่หมัดขนาดใหญ่ของเขาก็พุ่งตรงมาทางเย่เชียนอย่างรวดเร็ว การโจมตีอันทรงพลังของสายลับคนนี้นั้นไม่สามารถประมาทได้เลย
เมื่อเห็นแบบนั้นสายลับอีกคนและหัวหน้าทีมก็พุ่งเข้าไปโจมตีพร้อมกันเพราะพวกเขาต้องกำจัดเย่เชียนให้ได้โดยเร็วที่สุดไม่เช่นนั้นเมื่อหลี่ฉีกับหลี่ซือตกอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อไหร่สิ่งต่างๆจะเลวร้ายอย่างมาก
เมื่อเห็นแบบนั้นเย่เชียนก็ใช้เท้าเตะเข้าไปที่หน้าอกของสายลับคนแรกแต่เขากลับไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อยและทันใดนั้นเขาก็ใช้ไหล่กระแทกเย่เชียนแต่เย่เชียนใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้โดยการหมุนตัวหลบแล้วใช้ข้อศอกทุบเข้าไปที่คอของสายลับคนนั้นอย่างรวดเร็ว ด้วยร่างกายที่กำยำควบคู่กับการรุกที่รุนแรงของสายลับคนนั้นทำให้การโจมตีของเย่เชียนแทบจะไม่เป็นผลแต่ก็ทำให้ร่างกายของอีกฝ่ายเซและเกือบจะล้มลงไปกับพื้น
ด้วยแรงต้านอันทรงพลังของอีกฝ่ายทำให้เย่เชียนเย่เชียนต้องถอยกลับไปอย่างรวดเร็วและในเวลานั้นมีดของหัวหน้าทีมสายลับก็ฟันไปทางเย่เชียนและเขาก็ใช้ประโยชน์ในเวลาที่เย่เชียนถอยกลับ
การโจมตีซ้ำๆหลายครั้งของทั้งสามก็ทำให้เย่เชียนเหงื่อตกและเสี่ยงอันตรายมากขึ้น ซึ่งก็ชัดเจนแล้วว่าสายลับทั้งสามคนนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ CIA ธรรมดาอย่างชัดเจนเพราะการเคลื่อนไหวของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยพลังงานบางอย่างแต่เย่เชียนก็ไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้และมันก็คล้ายกลับพลังปราณของนักศิลปะการต่อสู้จีนโบราณเลย
ซือจื้อนั้นเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากการดัดแปลงพันธุกรรมกลุ่มทดลองกลุ่มแรกโดย CIA และสายลับทั้งสามคนนี้ก็เป็นผู้รอดชีวิตจากกลุ่มทดลองที่สอง ซึ่งถึงแม้ว่าจะยังมีปัญหามากมายเกี่ยวกับการดัดแปลงพันธุกรรมในปัจจุบันก็ตามแต่เหล่านักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันก็รอด็อกเตอร์หลี่ฉีไปแก้ไขมันและปรับเปลี่ยนโครงสร้างพันธุกรรมให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าโอกาสรอดจะต่ำมากแต่พวกเขาก็ไม่พลาดโอกาสในการทดลองดังกล่าว
แน่นอนว่าถ้าหากด็อกเตอร์หลี่ฉีเข้าร่วมโครงการทดลองครั้งนี้ล่ะก็มันจะต้องกลายเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบอย่างแน่นอนและในเวลานั้นพวกเขาจะทำการดัดแปลงพันธุกรรมบุคลากรมากมายโดยไม่มีความลังเลใดๆและหลังจากนั้นทหารของประเทศสหรัฐอเมริกาทุกคนจะเป็นเหมือนยอดมนุษย์ที่อยู่ยงคงกระพันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
.
.
.