ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 994 สะกดรอยตาม
ตอนที่ 994 สะกดรอยตาม
……………………………………………………………………..
แน่นอนว่าคนอย่างคนขับแท็กซี่นั้นไม่เข้าใจอะไรอยู่แล้วดังนั้นเย่เชียนจึงไม่จำเป็นต้องโต้เถียงกับคนขับว่าทำไมเขาถึงไม่ฆ่าหวังฉิงเซิง
ในเวลานี้กลิ่นเลือดก็โชยพัดเข้ามาในรถตามสายลมจนเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วของและรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อรถมาหยุดที่ประตูบ้านของหลี่ซือแล้วใบหน้าของเย่เชียนก็มืดมนลงและมีความเย็นยะเยือกออกมาจากร่างกายของเขาจนคนขับแท็กซี่รู้สึกหนาวเหน็บจากก้นบึ้งของหัวใจโดยไม่รู้ตัว
ทันทีที่เย่เชียนก้าวเข้าไปในบ้านกลิ่นเลือดก็ค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นภาพตรงหน้าเย่เชียนก็ตกตะลึงอย่างมากเพราะดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าไป บนพื้นภายในบ้านมีศพของเจ้าหน้าที่จากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติอยู่หลายศพและแต่ละศพล้วนมีบาดแผลร้ายแรงทั้งนั้น ผู้เสียสละเพื่อแผ่นดินนั้นมักจะไม่มีแม้แต่ชื่อหลังความตายเลยและเย่เชียนก็เคารพพวกเขาอย่างมาก เมื่อมองดูจากการตายของพวกเขาแล้วเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดสู้จนสุดชีวิตและไม่มีใครยอมถอยหนีเลย พวกเขาทั้งหมดเป็นนักสู้ที่แท้จริง
เมื่อเดินเข้าไปในบ้านก็เห็นได้ว่ามันเป็นการการต่อสู้ที่นองเลือดและหลี่ซือกับหลี่ฉีก็ไม่อยู่แล้ว ซึ่งพวกเธอน่าจะถูกลักพาตัวไป เมื่อคิดแบบนั้นเย่เชียนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆและพยายามระงับความโกรธในใจและตรวจดูร่างของเจ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติที่พื้นทีละคนเพื่อดูว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะต่อให้ดิ้นรนไปมันก็ไร้ประโยชน์ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือต้องใจเย็นและคิดหาวิธี อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายก็น่าจะอยู่ในเมืองซีจิงไปอีกสักพักอย่างแน่นอน
“คุณ..คุณเย่” สมาชิกคนหนึ่งของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติที่ยังหายใจอยู่เห็นเย่เชียนและร้องเรียกออกมาอย่างแผ่วเบาเมื่อเห็นแบบนั้นเย่เชียนก็รีบเข้าไปถามว่า “เกิดอะไรขึ้น..พวกนั้นเป็นพวกอเมริกันหรือเปล่า?..พวกนั้นออกไปนานหรือยังและไปทางไหน?”
“อะ…” สมาชิกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติกระอักเลือดออกมาเต็มปากและดูเหมือนว่าอวัยวะภายในจะได้รับบาดเจ็บสาหัส “พวกมันมุ่งหน้าไปทางเหนือ..ผมต้องขอโทษด้วย..”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว..นอนลงไปก่อนเดี๋ยวผมจะเรียกรถพยาบาลมาให้..ไม่ต้องกังวลไปทุกอย่างจะเรียบร้อย” หลังจากเย่เชียนพูดจบเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรออกสายด่วนฉุกเฉินทันที จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าขึ้นไปทางทิศเหนือทันที
ถึงแม้ว่าทักษะการติดตามของเย่เชียนจะไม่ดีเหมือนกับของหลี่เหว่ยก็ตามแต่ในฐานะสมาชิกเขี้ยวหมาป่าแล้วเย่เชียนก็มีความสามารถในการสะกดรอยตามที่ไม่ธรรมดาเพราะนี่เป็นทักษะที่สมาชิกทุกคนจำเป็นต้องฝึกอย่างเข้มงวด แน่นอนว่าเบาะแสต่างๆนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเข้าใจได้ในระยะเวลาอันสั้นแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรู้สึกและสัมผัสรวมไปถึงความคาดเดาที่น่าจะเป็นและเหตุผลที่เหมาะสมที่สุดนั่นเอง
อีกฝ่ายสามารถจัดการกับสายลับของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจำนวนมากได้ถึงขนาดนี้ดังนั้นอีกฝ่ายจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีฝีมืออย่างมาก อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทั้งหูวเค่อและหวฟู่ชิงเตี๋ยนต่างก็บอกว่าโครงการดัดแปลงพันธุกรรมของประเทศสหรัฐอเมริกายังไม่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เหรอ? ซึ่งภายใต้สถานการณ์ครั้งนี้ทำให้เย่เชียนประหลาดใจอย่างมากเพราะสมาชิกแต่ละคนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงและมีฝีมือเป็นอันดับต้นๆของประเทศจีนแต่พวกเขากลับถูกจัดการอย่างง่ายดายจนเห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายนั้นคนละระดับกันโดนสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตามเย่เชียนเชื่อว่าจากการต่อสู้นองเลือดครั้งนี้อีกฝ่ายจะต้องเสียพละกำลังและบาดเจ็บไปมากเช่นกันและยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ก็คือประเทศจีน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวอะไรได้มากนัก อีกฝ่ายนั้นเสียชีวิตไปห้าคนดังนั้นเย่เชียนก็คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเหลือไม่เกินห้าถึงหกคนอย่างแน่นอน
หลี่ฉีกับหลี่ซือถูกลักพาตัวไปและเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายจะต้องไปในที่ที่คนน้อยๆ นอกจากนี้พวกเขาจะต้องขับรถไปอีกด้วยดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าอีกฝ่ายจะต้องวางแผนเอาไว้เป็นอย่างดีตั้งแต่ที่อีกฝ่ายมาเขาจะต้องเตรียมการเอาไว้อย่างดีและสันนิษฐานว่าพวกเขาจะไม่อยู่ในเมืองซีจิงเพราะพวกเขาต้องหลบหนีไปที่อื่นแล้วเมื่อไหร่ที่สถานการณ์สงบลงพวกเขาก็จะเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นไม่นานเย่เชียนก็ขวางถนนเอาไว้แล้วโยนเงินให้กับชายวัยกลางคน 20,000 เพื่อเอามอเตอร์ไซต์ของเขามา ในสถานการณ์เร่งด่วนแบบนี้เย่เชียนไม่มีเวลามากพอไปหารถที่ไหนและยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ก็ห้ามให้ใครรู้ ดังนั้นจึงไม่สะดวกขึ้นแท็กซี่สักเท่าไหร่ ไม่นานนักเย่เชียนก็ขับมาถึงทางเชื่อมระหว่างเมืองซีจิงกับเมืองตงซวนและเย่เชียนก็เหลือบไปเห็นรถตู้สีขาวจอดอยู่ที่ตีนเขา
ภูเขานี้คือภูเขาซุนหลงซึ่งในตำนานเล่าขานกันว่าหลังจากฉินซีฮ่องเต้ขึ้นครองบัลลังก์ครั้งหนึ่งเขาเคยส่งเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไปตามหาลูกมังกรเพื่อแสวงหาความเป็นอมตะและนั่นเป็นผลทำให้เต๋ากับมังกรดำต่อสู้กันบนยอดเขาสามวันสามคืน หลังจากผ่านไปสามวันในที่สุดเขาก็ตายด้วยความอ่อนเพลียและมังกรดำก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องออกจากภูเขาซุนหลงไปและหายไปตลอดกาล
ยุคของจักรพรรดิที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์จีนได้ล่มสลายลงและตั้งแต่นั้นมาภูเขาก็รกไปด้วยวัชพืชและรกร้างอย่างมาก
เย่เชียนก็จอดมอเตอร์ไซต์และเดินเข้าไปดู ซึ่งภายในรถนั้นยังคงมีกลิ่นน้ำหอมของหลี่ซือหลงเหลืออยู่และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะยังไปได้ไม่ไกลนัก เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ทำลายรถหรือซ่อนรถเอาไว้แบบนี้อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาต้องการพักแล้วค่อยเดินทางต่อ
หลังจากนั้นเย่เชียนก็เดินตามรอยเท้าไปและเห็นได้ชัดเจนว่ามีคนเพิ่งจะเดินผ่านไปและไม่นานนักเย่เชียนก็พบที่ซ่อนของอีกฝ่าย ซึ่งบ่งบอกได้ว่าอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกันเพราะแขนของพวกเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผลและเลือดก็ซึมผ่านผ้าพันแผลออกมา ส่วนหลี่ซือกับหลี่ฉีก็นั่งลงกับพื้นและถูกมัดมือเอาไว้ที่ด้านหลัง หลี่ฉีนั้นดูเสียใจอย่างมากเพราะแม่ไก่ไม่รู้แม้แต่วิธีปกป้องลูกไก่ด้วยปีกของเธอเอง ซึ่งไม่ว่าในใจเธอจะหวาดกลัวเพียงใดแต่เธอต้องปกป้องลูกสาวอย่างเด็ดเดี่ยวโดยไม่ลังเลใดๆ
เมื่อมองไปที่ชายชาวอเมริกันแปลกหน้าสี่คนข้างหน้าเธอแล้วหลี่ฉีก็ระงับความกลัวของเธอและถามว่า “พวกแกเป็นใคร..หวังฉิงเซิงส่งพวกแกมางั้นเหรอ..ถ้างั้นก็กลับไปบอกเขาว่าฉันจะโอนบริษัทให้กับเขาถ้าเขาปล่อยลูกสาวของฉัน”
หลี่ฉีนั้นสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์ดังนั้นการพูดภาษาอังกฤษของเธอจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะทำงานเป็นภรรยาเต็มเวลาที่บ้านอย่างสบายใจในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแต่ความรู้ความสามารถของเธอก็ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน
ชายชาวต่างชาติร่างสูงประมาณ 2 เมตรก็พูดว่า “ด็อกเตอร์หลี่ฉีผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงใคร..ใครคือหวังฉิงเซิง..ผมรู้แค่ว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยทางพันธุกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเราก็ต้องการความช่วยเหลือของด็อกเตอร์..แน่นอนว่าเราจะให้ทุกอย่างกับคุณตราบเท่าที่คุณต้องการ..คุณสามารถขออะไรก็ได้”
เห็นได้ชัดว่าคนนี้เป็นผู้นำในหมู่พวกเขาและเมื่อได้ยินแบบนั้นหลี่ฉีก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งเพราะเธอไม่ได้คาดหวังว่าคนพวกนี้จะมาหาเธอโดยเฉพาะ ซึ่งหลังจากหยุดไปชั่วขณะหลี่ซือก็พูดว่า “ฉันไม่ได้ทำวิจัยมานานแล้วและบางสิ่งบางอย่างก็ไม่ได้ศึกษาต่อเลย..ฉันเกรงว่าฉันคงไม่สามารถช่วยพวกคุณได้”
“ตำแหน่งของด็อกเตอร์หลี่ฉีในแวดวงพันธุศาสตร์นั้นไม่มีใครเก่งไปกว่าคุณแล้ว..ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำการทดลองมาหลายปีก็ตาม..ผมเชื่อว่าคุณแค่ใช้เวลาเพียงสั้นๆคุณก็สามารถเข้าใจโครงสร้างต่างๆได้แล้ว” ชายคนนั้นพูดต่อ
“หืม..ขอความช่วยเหลืองั้นเหรอเห็นได้ชัดว่ามันเป็นการลักพาตัว” หลี่ฉีพูด “อย่าลืมสิว่าที่นี่คือประเทศจีน..แบบนี้พวกแกจะพาเราไปที่สหรัฐอเมริกาได้ยังไง?”
ชายคนนั้นยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ในเมื่อเราสามารถมาที่นี่ได้เราก็มีวิธีที่จะกลับไปได้เหมือนกัน..ผมคิดว่าด็อกเตอร์หลี่ฉีเป็นคนฉลาดเพราะงั้นคุณคงจะไม่ทำอะไรโง่ๆใช่มั้ย?..ช่วยนึกถึงลูกสาวของคุณด้วย” หลังจากหยุดไปชั่วขณะชายคนนั้นก็พูดต่อ “เรารู้ด้วยว่าสามีของด็อกเตอร์หลี่ฉีอยู่ในคุกเพราะงั้นถ้าด็อกเตอร์หลี่ฉีเต็มใจร่วมมือกับเราล่ะก็ผมรับประกันได้เลยว่าสามีของคุณจะออกมาได้อย่างปลอดภัย..ยิ่งไปกว่านั้นเราจะให้บัตรVIPและวีซ่าครอบครัวของคุณให้ใช่ชีวิตในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างอิสระและเพลิดเพลินไปกับผลประโยชน์ต่างๆและค่าตอบแทน”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งล่อใจนี้ยิ่งใหญ่มากสำหรับคนธรรมดา แน่นอนว่าหลี่ฉีก็สนใจเหมือนกันแต่ไม่ใช่ว่าเธอสนใจเรื่องบัตรVIPของประเทศสหรัฐอเมริกาเพราะเธอได้มันมาหลายปีแล้วแต่สิ่งที่เธอสนใจก็คือความปลอดภัยของเฉินฉิงหนิว แต่ถ้าเธอสัญญาว่าจะช่วยเหลือประเทศสหรัฐอเมริกาล่ะก็เฉินฉิงหนิวก็จะไม่ให้อภัยเธออย่างแน่นอนเพราะเขามีความภาคภูมิใจในชาติเกิดที่ไม่แพ้ใคร
“ขอโทษด้วย..ฉันไม่สามารถยอมรับคำขอของคุณได้..ฉันคือชาวจีนและฉันจะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อประเทศจีนเป็นอันขาด..สามีของฉันเองก็ด้วยเขาก็คิดเหมือนฉัน” หลี่ฉีพูด
“ใช่แม่พูดถูกไม่ต้องกังวลไปนะ..หนูเชื่อว่าเย่เชียนจะมาช่วยเราอย่างแน่นอน” หลี่ซือพูดอย่างมั่นใจและดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความไว้ใจเย่เชียน เมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เชียนก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวเพราะผู้หญิงคนนี้คิดว่าเขามีอำนาจทุกอย่างจริงๆ
“ด็อกเตอร์หลี่ฉีคุณต้องคิดให้รอบคอบ..ลูกสาวของคุณยังเด็กและอายุยังน้อยเพราะงั้นถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอคนเป็นแม่อย่างคุณจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน” ชายคนนั้นพูดข่มขู่
เย่เชียนก็รู้ว่าเขารอไม่ได้อีกต่อไปไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่รู้เลยว่าหลี่ฉีจะทำอะไรโง่ๆอีก เย่เชียนเองก็ไม่แน่ใจจริงๆว่าเขาจะจัดการได้ในคราวเดียวหรือเปล่า นอกจากนี้ อกฝ่ายยังมีตัวประกันอยู่ในมืออีกดังนั้นถ้าอีกฝ่ายจับหลี่ซือและหลีฉีเป็นตัวประกันล่ะก็เย่เชียนคงจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย
.
.
.