ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 968 ล่องูออกจากรู
ตอนที่ 968 ล่องูออกจากรู
บ้านของนาโอกิอิชิอินั้นตั้งอยู่ในทางตอนเหนือของเขตเมืองปักกิ่งและสภาพแวดล้อมก็สวยงามมาก เย่เชียนนั้นลงจากรถแท็กซี่จากระยะทางที่ไกลมากและเดินไปอย่างธรรมชาติโดยดวงตาของเขากวาดมองออกไปรอบๆราวกับนักท่องเที่ยวและสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างรอบคอบ ซึ่งนี่เป็นเพียงการสังเกตการณ์เท่านั้นเย่เชียนจึงไม่ได้ดำเนินการใดๆมากมายและวิเคราะห์สภาพแวดล้อมรอบๆเท่านั้น
หลังจากเดินเตร็ดเตร่อยู่รอบๆบ้านของนาโอกิอิชิอิเป็นเวลานานเย่เชียนก็เห็นบอดี้การ์ดจำนวนมากเดินตรวจตราภายในและมีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกหนทุกแห่งซึ่งยากที่จะเข้าไปโดยไม่มีใครสังเกตเห็นได้ กล้องวงจรปิดเหล่านี้เป็นเพียงเบื้องหน้าเท่านั้นและเย่เชียนก็ไม่รู้ว่ามีกล้องตัวอื่นๆหรือแม้แต่สัญญาณเตือนอินฟราเรดซ่อนอยู่ในมุมไหนอีกบ้าง ส่วนที่ประตูบ้านเย่เชียนก็เดินไปหยุดและมองเข้าไปแต่ภายในเวลาไม่นานบอดี้การ์ดก็เดินมาขับไล่เย่เชียนออกไป เพื่อไม่ให้เกิดความสงสัยเย่เชียนก็แสร้งทำเป็นหูหนวกไม่เช่นนั้นทุกอย่างคงจะถูกเปิดเผยเมื่อเขาเปิดปากของเขาอย่างแน่นอน นาโอกิอิชิอิที่สามารถนั่งในตำแหน่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้นั้นแน่นอนว่ามันไม่ใช่เพราะโชคช่วยและเขาก็ไม่ได้โง่ เนื่องจากมีข่าวที่ว่ามีคนกำลังจะมาขโมยเอกสารแผนการลับของเขาแพร่กระจายออกมาเขาจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษโดยเฉพาะบุคคลที่ไม่คุ้นเคยเหล่านี้ ดังนั้นหากเย่เชียนอ้าปากพูดภาษาจีนล่ะก็นั่นจะทำให้นาโอกิอิชิอิเกิดความสงสัยขึ้นอย่างแน่นอน
เย่เชียนนั้นไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นและรีบออกจากบ้านของนาโอกิอิชิอิไปเพราะถึงแม้ว่าเย่เชียนจะเข้าไปไม่ได้แต่การดำเนินการนี้ก็มีประโยชน์มากเพราะอย่างน้อยๆเขาก็สามารถหาได้ว่ามุมไหนง่ายที่สุดที่จะแอบลอบเข้าไปและที่ไหนมีการป้องกันที่หละหลวมมากที่สุด
ในตอนกลางคืนเวลาเที่ยงคืนชาวเมืองหลายคนคงผล็อยหลับไปหมดแล้วแต่เย่เชียนและคนอื่นๆมาที่บ้านของนาโอกิอิชิอิและเย่เชียนก็ชำเลืองมองทุกคนแล้วพูดว่า “ฉันได้ตรวจสอบมาแล้วเพราะงั้นเรามาเริ่มกันเลย..ทุกคนต้องไปเบี่ยงเบนความสนใจของพวกมันก่อนและหลังจากนั้นฉันกับหวนเฟิงก็เข้าไปจากด้านข้าง..เราได้ติดต่อกับสมาชิกหน่วยเงาหมาป่าหรืออดีตองค์กรชาโด้ซากุระแล้วเพราะงั้นทุกคนไปเบี่ยงเบนความสนใจที่ประตูทางเข้าก่อนจากนั้นคนสมาชิกหน่วยเงาหมาป่าจะปิดกล้องและสัญญาณอินฟราเรด..จากนั้นฉันกับหวนเฟิงจะลอบเข้าไปข้างในและในเวลานั้นจำเอาไว้ว่าจุดประสงค์ของเราคือการทำให้สิ่งต่างๆให้วุ่นวายและเบี่ยงเบนความสนใจของพวกมันให้มากที่สุด”
“รับทราบครับ!” ทุกคนพยักหน้าและตอบ
“เอาล่ะเริ่มได้..ทุกคนระวังตัวด้วย” หลังจากเย่เชียนพูดจบเขาก็หันไปมองอู๋หวนเฟิงและทั้งสองก็รีบวิ่งไปที่อีกด้านหนึ่งของบ้าน
ประมาณสิบนาทีต่อมาเฟิงหลานและคนอื่นๆก็ลงมือและจุดประสงค์ของพวกเขาก็คือเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของบอดี้การ์ดเหล่านั้นในบ้านของนาโอกิอิชิอิและโดยปกติแล้วพวกเขาไม่จำเป็นต้องลอบเร้นอะไรมากมาย ดังนั้นพวกเขาจึงกระโดดเข้าไปข้างในบ้านโดยตรงและในไม่ช้าเสียงเตือนก็ดังขึ้นและสัญญาณเตือนอินฟราเรดจะทำงานทันที
ในชั่วพริบตาก็มีคนมากกว่า 30 คนรีบวิ่งเข้ามาเพราะจากข่าวที่แพร่กระจายออกไปนาโอกิอิชิอิได้เสริมกำลังการป้องกันในบ้านให้แข็งแกร่งขึ้นและเมื่อบอดี้การ์ดเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาพวกเขาก็รีบไปพุ่งไปหาเฟิงหลานและคนอื่นๆโดยไม่ลังเลเลย เนื่องจากเป็นการแสดงจึงต้องทำให้สมจริงและพวกเขาก็แสร้งทำเป็นกลัวและเริ่มหลบหนี
ในเวลาเดียวกันคนขององค์กรชาโด้ซากุระที่ตอนนี้เป็นหน่วยเงาหมาป่าได้ลอบเร้นเข้าไปภายในบ้านของนาโอกิอิชิอิแล้วและทำการปิดกล้องวงจรปิดและสัญญาณเตือนภัยด้วยอินฟราเรดแล้วและหลังจากที่เย่เชียนได้รับสัญญาณเขาก็เหลือบมองไปที่อู๋หวนเฟิงและทั้งสองก็กระโดดเข้าไปภายในบ้านอย่างเงียบๆ เนื่องจากการกระทำของเฟิงหลานและคนอื่นๆนั้นปั่นป่วนมากและดึงดูดความสนใจส่วนใหญ่ดังนั้นเย่เชียนกับอู๋หวนเฟิงจึงเข้าไปข้างในบ้านได้อย่างง่ายดาย
ที่ชั้นสองนาโอกิอิชิอิถูกปลุกโดยเสียงภายนอกและเดินออกจากห้องนอนโดยสวมชุดนอน “เกิดอะไรขึ้น!” นาโอกิอิชิอิมองไปที่บอดี้การ์ดคนหนึ่งแล้วถาม
“หัวหน้าครับมีคนบุกเข้ามาและคนของเราก็กำลังจัดการกับพวกเขา” บอดี้การ์ดพูด
นาโอกิอิชิอิก็ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้และใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมมากจากนั้นเขาก็พึมพำว่า “รนหาที่ตายจริงๆ..มันกล้ามาขโมยแผนการลับของฉันถึงที่จริงๆ” จากนั้นเขาก็สั่งว่า “พวกนายจัดการสิ่งต่างๆให้ดีและถ้าใครเข้ามาก็ฆ่ามันซะ!” หลังจากพูดจบเขาก็หันหลังและเดินเข้ามาในห้องนอน
เย่เชียนและอู๋หวนเฟิงก็มองหน้ากันและทั้งคู่ก็เข้าใจเพราะดูเหมือนว่าการคาดเดาของเย่เชียนนั้นไม่ผิดเลย ซึ่งห้องทำงานเป็นเพียงกับดักที่นาโอกิอิชิอิวางเอาไว้และเอกสารแผนการลับก็ไม่ได้ซ่อนอยู่ในห้องนั้นเลย ไม่เช่นนั้นนาโอกิอิชิอิคงจะเลือกเดินเข้าไปในห้องทำงานเพื่อตรวจสอบสิ่งต่างๆแต่ในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้เขากลับเลือกที่จะเดินเข้าไปในห้องนอนด้วยเหตุนี้มีความเป็นไปได้สูงมากที่เอกสารดังกล่าวจะซ่อนอยู่ในห้องนอน
ทั้งสองก็กระโดดขึ้นไปที่ชั้นสองอย่างเงียบๆและใช้มีดแทงเข้าไปที่บอดี้การ์ดทั้งสองที่เฝ้าอยู่ในบริเวณนั้นและเมื่อบอดี้การ์ดทั้งสองเห็นใครบางคนปรากฏตัวขึ้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจและรีบคว้ามีดสั้นออกมาตอบโต้ แน่นอนกว่าบอดี้การ์ดเหล่านี้คือสมาชิกสำนักนินจาดังนั้นฝีมือของพวกเขาจึงไม่ธรรมดา แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่สามารถตั้งตัวได้ทันและถูกเย่เชียนกับอู๋หวนเฟิงโจมตีที่จุดตายในทันที
“นายคอยดูลาดเลาอยู่ที่นี่” หลังจากเย่เชียนพูดจบเขาก็หลบเข้าไปในห้องนอน อย่างไรก็ตามภายในว่างเปล่าและไม่มีใครอยู่ที่นั่น ส่วนตู้นิรภัยข้างเตียงก็ถูกเปิดออกและเงินภายในก็อยู่ครบ เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็ขมวดคิ้วและเปิดหน้าต่างดูแต่ทว่าหน้าต่างก็ถูกปิดเอาไว้อย่างแน่นหนาและดูเหมือนว่านาโอกิอิชิอิจะไม่ได้หนีออกจากหน้าต่าง ส่วนตู้เซฟที่ถูกเปิดออกแต่เขาไม่ได้เอาของมีค่าไปเพราะฉะนั้นเป็นไปได้หรือไม่ที่นาโอกิอิชิอิจะหยิบไปเพียงแค่เอกสารแผนการลับ?
ต้องมีห้องลับในห้องนอนอย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นนาโอกิอิชิอิคงจะไม่หายตัวไปโดยไม่มีเหตุผล แต่โชคดีที่เย่เชียนนั้นเห็นนาโอกิอิชิอิก่อนหน้านี้ไม่เช่นนั้นเย่เชียนคงคิดว่านาโอกิอิชิอิไม่ได้อยู่ที่นี่ “ตอนนี้แผนเปลี่ยนแล้ว..ช่วยถ่วงเวลาให้หน่อย!” เย่เชียนพูดผ่านไมโครโฟนวิทยุ
เมื่ออู๋หวนเฟิงได้ยินคำพูดของเย่เชียนแล้วเขาก็รีบเดินเข้ามาและเมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนอนเขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและพูดว่า “บอสครับนาโอกิอิชิอิอยู่ที่ไหน?”
“ดูเหมือนว่ามีห้องลับอยู่ในห้องนอนนี้และนาโอกิอิชิอิก็ซ่อนตัวอยู่ในนั้น..มันยังไม่สายเกินไปเรารีบหามันกันเถอะ” เย่เชียนพูด ถ้าเขาไม่ได้เห็นนาโอกิอิชิอิเดินเข้าไปในห้องนอนด้วยตาของเขาเองเขาก็คงจะคิดว่านาโอกิอิชิอิไม่ได้อยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าเป็นไปตามที่นากาซาวะเคโกะพูดเอาไว้ว่าถ้าเอกสารแผนการลับถูกเก็บเอาไว้ในห้องทำงานล่ะก็นาโอกิอิชิอิคงจะไม่ซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนอย่างแน่นอนและตราบใดที่อีกฝ่ายเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติเขาก็คงจะต้องรีบไปที่ห้องทำงานอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่ความคิดของเย่เชียนนั้นถูกต้องเพราะนาโอกิอิชิอิทำตัวน่าสงสัยอย่างมากและเขาก็จะไม่มีวันปล่อยให้เอกสารแผนการลับหลุดมือไปอย่างแน่นอน นอกจากนี้เขาได้รับปากกับฮาเซงาวะเซตะเอาไว้แล้วดังนั้นเย่เชียนจะผิดพลาดไม่ได้เลย
ในตอนนี้ทั้งสองมองออกไปรอบๆในห้องนอนและขยับทุกอย่างที่ขยับได้และทันใดนั้นตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างๆก็ดึงดูดความสนใจของแล้วเย่เชียนก็เดินเข้าไปอย่างช้าๆและเปิดประตูออกแต่ก็พบว่ามันเต็มไปด้วยเสื้อผ้าและไม่มีวี่แววของห้องลับเลย เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะถ้าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปก็คงเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนที่จะหลบหนีเพราะยิ่งช้าเท่าไหร่ก็ยิ่งเสียเปรียบมากเท่านั้น ซึ่งไม่รู้เลยว่าบอดี้การ์ดจะโทรแจ้งตำรวจแล้วหรือเปล่าเพราะถ้าตำรวจมาคงจะยากที่ทุกคนจะหลบหนีไปได้
“ครืดๆ” อู๋หวนเฟิงคว้าโคมไฟที่หัวเตียงแล้วบิดไปมาจากนั้นแผ่นไม้ในตู้เสื้อผ้าก็ค่อยๆเลื่อนเปิดและออกเผยให้เห็นประตูห้องลับ จากนั้นเย่เชียนก็หันไปมองอู๋หวนเฟิงแล้วพยักหน้าเล็กน้อยและเดินเข้าไปส่วนอู๋หวนเฟิงก็เฝ้าทางเข้า
พื้นที่ในห้องลับไม่ใหญ่นักแค่ประมาณยี่สิบตารางวา ดังนั้นเมื่อเย่เชียนก้าวเข้าไปแสงแฟลชก็ถูกเปิดขึ้นทันที “แกเป็นใคร?” เสียงของนาโอกิอิชิอิดังมาจากข้างใน
“ผมไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดหรอก” เย่เชียนพูด
เย่เชียนก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างดังนั้นเขาจึงหลบหลีกการโจมตีของนาโอกิอิชิอิและมือขวาของเขาก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและคว้าข้อมือของนาโอกิอิชิอิเอาไว้ ซึ่งเมื่อนาโอกิอิชิอิได้ยินคำพูดของเย่เชียนในภาษาจีนเขาก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเพราะก่อนหน้านี้เขาคิดว่ามันควรจะเป็นคนของฮาเซงาวะเซตะแต่ตอนนี้คนข้างหน้ากลับเป็นคนจีนซึ่งทำให้เขางุนงงอย่างมาก อย่างไรก็ตามในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะคิดอะไรมากเกินไปและนาโอกิอิชิอิก็ถามด้วยเสียงภาษาจีนที่ไม่ค่อยชัดเจนว่า “แกเป็นใคร..แล้วแกกับฮาเซงาวะเซตะเกี่ยวข้องกันยังไง?”
“หืม..อย่าได้ใจนักฉันขอแนะนำให้แกออกไปเร็วๆซะไม่อย่างนั้นแกจะไม่ได้ออกจากบ้านหลังนี้ไปตลอดชีวิต!” นาโอกิอิชิอิพูดต่อ “ตอนนี้ฉันได้โทรแจ้งตำรวจแล้วและตำรวจก็จะมาถึงเร็วๆนี้..เพราะงั้นแกจะออกไปไหนไม่ได้..หึ..ฮาเซงาวะเซตะกล้าส่งคนมาขโมยของของฉันงั้นเหรอ..จะดูถูกฉันมากเกินไปแล้ว”
“ผมไม่อยากคุยกับคุณเพราะงั้นถ้าคุณไม่อยากตายก็ส่งมันมาซะ” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็พุ่งเข้าไปและต่อยนาโอกิอิชิอิอย่างแรง ซึ่งนาโอกิอิชิอิเคยเรียนคาราเต้มาก่อนเมื่อตอนที่เขายังเด็กแต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้จีนโบราณอย่างเย่เชียนแล้วเห็นได้ชัดว่าเขาอ่อนแออย่างมากและไม่มีทางที่เขาจะต่อสู้กลับได้เลย จากนั้นนาโอกิอิชิอิก็กระเด็นออกไปและกระแทกเข้ากับผนังอย่างแรง ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะเย่เชียนออมแรงเอาไว้ล่ะก็หมัดนี้ก็เพียงพอที่จะฆ่านาโอกิอิชิอิในทันทีแล้ว แต่เป้าหมายของเย่เชียนคือเอกสารแผนการและเขาก็ไม่เคยคิดที่จะฆ่านาโอกิอิชิอิ เมื่อเห็นนาโอกิอิชิอิล้มลงกับพื้นเย่เชียนก็รีบคว้าข้อมือของนาโอกิอิชิอิด้วยมือขวาแล้วบิดอย่างแรง ด้วยความเจ็บปวดนาโอกิอิชิอิจึงปล่อยมือของเขาและเย่เชียนหยิบเอกสารแผนการลับมาทันที “ขอบคุณครับคุณนาโอกิอิชิอิ” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็เดินออกจากห้องลับและโบกเอกสารในมือให้อู๋หวนเฟิงจากนั้นก็เดินออกไป
.
.
.
.
.
.
.