ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 963 เคียดแค้นฝังลึก
ตอนที่ 963 เคียดแค้นฝังลึก
ในบ้านหลังหนึ่งในย่านไชน่าทาวน์กลางเมืองโตเกียวนั้นจ้าวซือเหลากำลังขมวดคิ้วแน่นเพราะเขาได้ส่งสาวกหมิงม่อทั้งหมดไปสืบข่าวของม่อนานทั่วทั้งเมืองแต่กลับไม่มีข้อมูลอะไรคืบหน้าเลยแม้แต่น้อย ซึ่งดูเหมือนว่าสัญลักษณ์ของสำนักม่อจื๊อที่ทิ้งเอาไว้จะไม่สามารถดึงดูดความสนใจของม่อหนานได้เลย ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่านี่เป็นเพราะม่อหนานตั้งใจหลีกเลี่ยงหรือมองไม่เห็นกันแน่
ในสายตาของจ้าวซือเหลานั้นม่อหนานเป็นความภาคภูมิใจของสำนักมือจื๊ออย่างมากเพราะเขาเป็นคนที่สามารถต่อสู้กับเย่เจิ้งหรานเป็นเวลาสามวันสามคืนได้ ดังนั้นในใจของลูกศิษย์ทุกคนในสำนักม่อจื๊อนั้นไม่มีใครที่ไม่ชื่นชมม่อหนานเลย อย่างไรก็ตามสิ่งที่ม่อหนานทำนั้นได้ทำให้จ้าวซือเหลารู้สึกละอายใจอย่ามากเพราะตอนนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ก็คือม่อหนานซึ่งทำให้เขาผิดหวังอย่างมาก
ตอนนี้เขาแค่ต้องการหาตัวของม่อหนานให้เจอโดยเร็วที่สุดและถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่ว่าในกรณีใดในฐานะสาวกของสำนักม่อจื๊อแล้วพวกเขาจะไม่มีวันร่วมมือกับชาวญี่ปุ่นอย่างแน่นอน เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะทำลายชื่อเสียงของสำนักม่อจื๊อ ยิ่งไปกว่านั้นม่อหนานอยู่ในฐานะลูกชายของอดีตผู้นำสำนักม่อจื๊อดังนั้นเขามีแต่จะทำลายชื่อเสียงของสำนักม่อจื๊ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้วยน้ำชาที่อยู่ข้างหน้าเขากำลังร้อนๆอยู่และตอนนี้จ้าวซือเหลากำลังสูบบุหรี่อย่างเคร่งเครียด จ้าวซือเหลานั้นอยู่ประเทศญี่ปุ่นมานานหลายปีแล้วแต่กลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าม่อหนานนั้นอยู่ที่ไหน ถ้าเขารู้สิ่งต่างๆอย่างวันนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น
ทันใดนั้นจ้าวซือเหลาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านและมองไปข้างหน้าด้วยความประหลาดใจ ซึ่งการแสดงออกที่น่าตกใจเผยให้เห็นถึงความปีติยินดีอย่างชัดเจนและเขาก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “หนึ่งในสี่องครักษ์แห่งสำนักม่อจื๊อคนนี้ทราบซึ้งมากที่ได้พบนายน้อยในวันนี้!”
“คุณยังคิดว่าคุณเป็นสี่องครักษ์แห่งสำนักม่อจื๊ออยู่อีกเหรออาจารย์จ้าว!” การแสดงออกของม่อหนานนั้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาไม่สบอารมณ์อย่างมากและเขาพูดอย่างเย็นชา ในเวลานี้ลูกศิษย์ของเจ้าซือเหลาก็รีบวิ่งเข้ามาและมองดูม่อหนานด้วยความระมัดระวัง เมื่อเห็นเช่นนั้นจ้าวซือเหลาก็โบกมือเล็กน้อยและพูดว่า “ออกไปเถอะฉันไม่เป็นไร”
จากนั้นจ้าวซือเหลาก็หันไปมองม่อหนานแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้คาดหวังว่านายน้อยจะยังมีชีวิตอยู่..ในที่สุดตระกูลม่อก็ยังคงเป็นอมตะเหมือนในตำนานกล่าวขาน..ฉันในฐานะองครักษ์ละอายใจจริงๆที่ไม่สามารถปกป้องนายน้อยได้ตามที่ควร..ว่าแต่นายน้อยเห็นรหัสที่ฉันทิ้งเอาไว้หรือเปล่า?”
ม่อหนานก็พยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังเลยว่าคุณจะอยู่ในประเทศญี่ปุ่นด้วย..ถ้าผมรู้ก่อนหน้านี้พวกเราคงจะสามารถแก้แค้นให้พ่อของผมและสำนักม่อจื๊อได้!”
จ้าวซือเหลาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “นายน้อยหมายความอย่างว่าไง?”
“คุณไม่เข้าใจที่ผมจะสื่ออย่างงั้นเหรอ?” ม่อหนานพูดอย่างเย็นชาและขณะที่เขาพูดเขาก็เดินเข้าไปหาจ้าวซือเหลาอย่างช้าๆแล้วนั่งที่ฝั่งตรงข้ามของจ้าวซือเหลา จากนั้นม่อหนานก็เหลือบมองไปที่โต๊ะและมองชาที่ยังร้อนๆอยู่แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อาจารย์จ้าวช่างสุขภาพดีจริงๆคุณดื่มชาทุกๆวันอย่างสบายใจเฉิบเลยสินะ”
จ้าวซือเหลาก็สับสนเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการแสดงออกของม่อหนาน หลังจากนั้นจ้าวซือเหลาก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นว่า “นายน้อยอยากดื่มชาหรือกาแฟไหม?”
“ผมไม่กล้าหรอกครับ..ผมจะไปกล้าดียังไงให้ท่านสี่องครักษ์ผู้ยิ่งใหญ่รินชาให้?” ม่อหนานพูด
จ้าวซือเหลาก็นั่งด้วยท่าทางเกร็งๆและหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็พูดว่า “ว่าแต่นายน้อยเป็นยังไงบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา?”
“โชคดีที่ผมรอดมาได้ท่ามกลางกองศพที่ไร้วิญญาณ!” ม่อหนานพูด “ผมยังไม่ลืมความแค้นในตอนนั้นที่ผมทำได้แค่เฝ้าดูพ่อและพี่ชายและภรรยาของผมตายไปต่อหน้าต่อตา..ผมรอที่จะแก้แค้นไม่ไหวแล้ว..แต่ที่ผมผิดหวังยิ่งกว่านั้นคือในฐานะสาวกหมิงม่อแล้วคุณมัวไปทำอะไรอยู่..พวกคุณพ่ายแพ้ไปโดยไม่ยอมต่อสู้และเลือกที่จะหนีไปอย่างขี้ขลาด..แบบนั้นคุณสมควรที่จะเป็นองครักษ์ของพ่องั้นเหรอ?”
“เดี๋ยวสินายน้อยคือสิ่งต่างๆมันไม่ใช่สิ่งที่นายน้อยคิดหรอก” จ้าวซือเหลาพูด “ตอนที่ตู้ฟู่เหว่ยและลูกศิษย์อันม่อโจมตีพวกเรานั้นพวกเราไม่ได้ตั้งตัวและไม่สามารถที่จะตอบโต้ได้เลย..ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลม่อก็ล้มตายไปจนหมดและประสบความสูญเสียอย่างหนักส่วนท่านเจ้าสำนักก็รอดมาได้แต่บาดเจ็บสาหัส..ซึ่งเมื่อเรารวบรวมกำลังของเราเพื่อเริ่มโต้กลับแต่ทว่าท้ายที่สุดท่านเจ้าสำนักก็เสียชีวิตไปเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว..แต่ก่อนที่เขาจะตายเขาบอกเราว่าไม่ต้องต่อสู้อีกแล้ว..ซึ่งพวกเราทุกคนก็เข้าใจว่าทำไมท่านเจ้าสำนักถึงเลือกทำแบบนี้..นั่นเพราะเขากลัวว่าการต่อสู้ภายในจะนำไปสู่การล่มสลายของสำนักม่อจื๊อซึ่งจะทำให้ฝ่ายอื่นๆฉวยโอกาสที่จะทำลายเรา..นี่คือคำสั่งสุดท้ายก่อนตายของท่านเจ้าสำนักผู้นำสูงสุด..เพราะงั้นเราก็ต้องเชื่อฟัง..แน่นอนว่าพวกเราเองก็ไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้และด้วยเหตุนี้พวกเราทุกคนจึงถอนตัวออกจากสำนักม่อจื๊อไป”
ม่อหนานไม่ได้ขัดจังหวะคำพูดของจ้าวซือเหลาและฟังอย่างเงียบๆ อย่างไรก็ตามเขาจะเชื่อที่จ้าวซือเหลาพูดหรือไม่? เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ จากนั้นม่อหนานก็พูดด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาว่า “อาจารย์จ้าวจะมีใครเชื่อในสิ่งที่คุณพูดงั้นเหรอ..พ่อของผมเนี่ยนะจะไม่ยอมให้คุณโต้กลับ?..คุณเห็นผมเป็นเด็กอายุสามขวบงั้นเหรอ?..ถ้าสาวกหมิงม่อทั้งหมดรวมกันต่อต้านล่ะก็ตู้ฟู่เหว่ยกับสาวกอันม่อจะยึดครองสำนักของเราไปได้ยังไง?..เว้นแต่ว่าคุณต้องการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไปอย่างขี้ขลาด!”
“ไม่ว่าฉันจะพูดอะไรนายน้อยก็คงจะไม่เชื่อหรอก” จ้าวซือเหลาพูด “แต่ในเมื่อนายน้อยรอดชีวิตมาได้แล้วทำไมถึงไม่ติดต่อเราและบอกให้พวกเราไปหาล่ะ?”
“ติดต่อ?..หืม..ผมคลานออกมาจากนรกและพักรักษาตัวอยู่เป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าอาการจะดีขึ้น..พอผมรู้เรื่องราวทั้งหมดตู้ฟู่เหว่ยก็ครอบครองทุกอย่างไปแล้วแต่พวกคุณกลับหนีไปซ่อนตัวอยู่ทั่วทุกมุมโลกแล้วผมจะติดต่อพวกคุณยังไง?..อีกอย่างผมจะเชื่อใจคุณได้ยังไง?” ม่อหนานพูด “คุณรู้ไหมว่าหลายปีที่ผ่านมาความเกลียดชังของผมที่มีต่อคุณนั้นมีมากกว่าตู้ฟู่เหว่ยอีก..นั่นเพราะเรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะคุณ..ความขี้ขลาดและความโง่เขลาของคุณทำให้ตู้ฟูเหว่ยประสบความสำเร็จ!”
จ้าวซือเหลาก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ถึงนายน้อยจะเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อพวกเราแต่นายน้อยก็ไม่ควรสมรู้ร่วมคิดกับพวกนินจาญี่ปุ่นเลน..หรือแม้แต่การทำลายโลกศิลปะการต่อสู้จีนโบราณ..นายน้อยกำลังทรยศต่อตัวเองและประเทศชาติ..เพราะงั้นคุณจะคู่ควรกับการเป็นผู้นำได้ยังไง?”
“คุณคิดผิดแล้ว…ไม่ใช่ผมสมรู้ร่วมคิดกับพวกนินจาญี่ปุ่นแต่เป็นการหลอกใช้ต่างหาก” ม่อหนานพูดอย่างเย้ยหยันว่า “ตอนผมเกือบจะรวบรวมทุกขั้วอำนาจของประเทศญี่ปุ่นได้แล้วเพราะงั้นมันไม่ใช่การสมรู้ร่วมคิด..ส่วนเหตุผลที่ทำไมผมถึงต้องการทำลายโลกศิลปะการต่อสู้จีนโบราณนั่นก็เพราะว่ามันไม่เพียงแต่คุณที่เพิกเฉยต่อสิ่งต่างๆแต่ทุกสำนักทุกตระกูลก็เป็นแบบเดียวกันทั้งนั้น..ในวันที่สำนักม่อจื๊อยิ่งใหญ่พวกเขาทั้งหมดมาประจบประแจงพ่อของผมแต่หลังจากมีบางอย่างเกิดขึ้นกับสำนักและพ่อของผมตายไปพวกคุณทุกคนกลับไม่เหลียวแล..เพราะงั้นทุกคนก็สมควรที่จะต้องตายไปซะ”
จ้าวซือเหลาก็ถอนหายใจอย่างลับๆและเมื่อดูสถานการณ์ปัจจุบันของม่อหนานแล้วเขาหมกมุ่นอยู่กับการล้างแค้นอย่างบ้าคลั่ง ในความทรงจำของเขานั้นม่อหนานมักจะอ่อนโยนและใจดีและเป็นคนที่มีเหตุผลอย่างมากแต่ตอนนี้เขากลายเป็นแบบนี้ซึ่งทำให้จ้าวซือเหลาผิดหวังและเศร้าอย่างมาก “เรื่องในอดีตได้ผ่านไปแล้วและมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำแบบนั้น..ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้วเพราะงั้นนายน้อยทำล้างแค้นไปเพื่ออะไร” จ้าวซือเหลาพูด “นายน้อย..ถ้าคุณต้องการเพียงแค่คุณออกคำสั่งทั้งฉันและสาวกหมิงม่อทั้งหมดก็พร้อมที่จะเชื่อฟังคำสั่งของคุณและเราจะช่วยให้คุณฟื้นคืนตำแหน่งเจ้าสำนักที่ควรเป็นของตระกูลม่อและล้างแค้นให้กับตระกูลม่อตามที่คุณต้องการ”
“นี่คุณกำลังแสดงความสำนึกผิดต่อผมหรือคุณกำลังแสดงความจริงใจกับผมกันแน่..คุณคิดว่าผมจะปล่อยคุณไปโดยการทำแบบนี้งั้นเหรอ?” ม่อหนานพูดอย่างเย็นชา
“ถ้านายน้อยคิดว่าฉันต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นล่ะก็นายน้อยเชิญฆ่าฉันได้เลยและฉันจะไม่เสียใจหรือโกรธแค้นแม้แต่นิดเดียว!” จ้าวซือเหลาพูด “ฉันอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ฉันได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างเพราะงั้นความตายมันไม่ได้น่ากลัวสำหรับฉันคนนี้เลย”
“จริงเหรอ?” ม่อหนานพูดอย่างเย้ยหยันว่า “คุณฉลาดมากแต่คุณคิดว่าคุณจะสามารถขจัดความเกลียดชังของผมที่มีต่อคุณโดยแสดงความกล้าหาญและไม่กลัวความตายแบบนั้นน่ะเหรอ?..ผมจะฆ่าคุณและสาวกหมิงม่อทุกคนและทำให้พวกเขาเสียใจกับสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจในตอนนั้น”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นจ้าวซือเหลาก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีกต่อไปและเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ม่อหนานเปลี่ยนความคิดที่ชั่วร้ายในใจของเขา แต่ทันใดนั้นจ้าวซือเหลาก็นึกถึงม่อหลงและการที่ม่อหลงยังมีชีวิตอยู่นั้นม่อหนานจำเป็นที่จะต้องรับรู้ ไม่เช่นนั้นถ้าหากวันหนึ่งม่อหนานหรือคนของเขาฆ่าม่อหลงไปล่ะก็เขาก็จะไม่มีหน้าไปพบบรรพบุรุษตระกูลม่อได้เลย
“เดี๋ยวก่อน!..นายน้อยจะฆ่าฉันก็ได้หากต้องการแต่ช่วยฟังฉันก่อน!” จ้าวซือเหลาพูด
“หืม..เอาไว้ไปคุยกับพ่อของผมในนรกเถอะ!..ตายซะ!” ม่อหนานไม่ให้โอกาสจ้าวซือเหลาเลยและทันทีที่เสียงของเขาจบลงร่างของเขาก็ลุกขึ้นโจมตีจ้าวซือเหลาในทันที
เมื่อเห็นเช่นนั้นจ้าวซือเหลาก็รีบหลบและพลิกตัวและข้ามโซฟาเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของม่อหนาน แน่นอนว่าเขาเต็มใจที่จะตายอยู่แล้วแต่เขาต้องบอกม่อหนานให้ได้ว่าม่อหนานยังมีชีวิตอยู่แล้วเขาจะตายตาหลับได้ เมื่อเห็นจ้าวซือเหลาหลบหลีกการโจมตีม่อหนานก็พูดอย่างเย้ยหยันว่า “หืม..คุณกลัวความตายแล้วงั้นเหรอ?” เมื่อพูดจบการโจมตีของม่อหนานก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ม่อหนานนั้นเป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ของสำนักม่อจื๊อและเป็นคนเดียวในโลกที่สามารถต่อสู้กับเย่เจิ้งหรานอย่างสมน้ำสมเนื้อได้ ซึ่งในตอนนี้เย่เจิ้งหรานเสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 20 ปีที่แล้วแต่ม่อหนานยังมีชีวิตอยู่ได้ ดังนั้นแน่นอนว่าทักษะและความสามารถของม่อหนานนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากนี้ความเกลียดชังเป็นเวลาหลายปีก็ยังเป็นแรงผลักดันความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของเขาและตอนนี้เมื่อความเกลียดชังทั้งหมดถูกระบายออกมาแล้วคนอย่างจ้าวซือเหลาเองก็ไม่สามารถต้านทานได้
.
.
.
.