ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 956 เริ่มเคลื่อนไหว
ตอนที่ 956 เริ่มเคลื่อนไหว
เมื่อเธอตื่นขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้นเย่เชียนก็ออกจากบ่อน้ำพุร้อนไปแล้วและนากาซาวะเคโกะก็รู้สึกผิดหวังอย่างมาก อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงความบ้าคลั่งเมื่อคืนนี้เธอก็มีความรู้สึกที่ค้างคาอยู่ในใจมากมาย ดูเหมือนว่ากฎเหล็กขององค์กรชาโด้ซากุระจะแหลกสลายไปแล้ว เมื่อคิดถึงเรื่องนี้นากาซาวะเคโกะก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าร่างกายของเธอมีปฏิกิริยาตอบสนองอีกครั้ง เธอรู้สึกผูกพันกับความรู้สึกที่วิญญาณของเธอดูเหมือนจะลอยออกจากร่างกายเมื่อคืนนี้อย่างมาก
เย่เชียนออกจากบ่อน้ำพุร้อนเมื่อเขาตื่นขึ้นในตอนเช้า ซึ่งเรื่องเมื่อคืนของเขากับนากาซาวะเคโกะเป็นแค่การแสดงเท่านั้นและนอกจากนี้เขาก็ไม่ต้องการมีความสัมพันธ์กับเธอและความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ถูกจำกัดไว้เพียงเท่านี้ เขารู้ดีว่านากาซาวะเคโกะก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน
หลังจากกลับมาถึงโรงแรมแล้วเย่เชียนก็ได้ติดต่อไอซอลเดแฮมป์ตัน ซึ่งครั้งนี้บุคลากรขององค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่จะรับผิดชอบการลอบโจมตีฐานประจำการของกองทัพสหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงแม้ว่าโลกศิลปะการต่อสู้จีนโบราณรวมทั้งสาวกหมิงม่อได้ส่งคนจำนวนมากมาเพื่อช่วยเย่เชียนแล้วก็ตาม แต่ภารกิจครั้งนี้จะต้องดำเนินการโดยองค์กรนีโอมิลิทารี่เท่านั้น อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ปฏิบัติการทำลายล้างและเย่เชียนก็ไม่ได้ไร้เดียงสาพอที่จะคิดว่าด้วยความช่วยเหลือจากนีโอมิลิทารี่จะสามารถทำลายฐานประจำการของกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ จุดประสงค์ของการดำเนินการครั้งนี้คือการทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาเข้าใจผิดคิดว่าการกระทำนี้ทำโดยนาโอกิอิชิอิ
สำหรับคลูลอฟส์อังเดรนั้นเขาส่งมาเฟียจำนวนมากไปยังประเทศญี่ปุ่นและกระจายไปตามเมืองต่างๆในประเทศ เพื่อทำการก่อจลาจลและจุดประสงค์ของพวกเขาก็มีเพียงอย่างเดียวคือการทำลายสังคมของประเทศญี่ปุ่นและทำให้เกิดความวุ่นวายทั่วทั้งประเทศ จากนั้นประชาชนญี่ปุ่นจะต้องกล่าวโทษนาโอกิอิชิอิกันทั้งประเทศ
หลังจากเมื่อคืนนี้เย่เชียนดูเหมือนจะรู้สึกว่าพลังปราณในร่างกายของเขาเติบโตขึ้นและถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีเท่าคืนที่อยู่กับแม่ม่ายดำจือเหวินก็ตามแต่เขาก็ยังรู้สึกได้ชัดเจนมาก ดูเหมือนว่าเย่เชียนจะค่อยๆเข้าใจว่าวิธีที่เร็วที่สุดในการเพิ่มพลังปราณของเขานั้นจะต้องมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงและถ้าหากผู้หญิงคนไหนบริสุทธิ์มันก็จะเพิ่มมากขึ้น
แผนการโยนความผิดให้นาโอกิอิชิอินั้นยังไม่พร้อมจนกว่าจะได้รับแบบแปลนบ้านของนาโอกิอิชิอิจากนากาซาวะเคโกะ จากนั้นเย่เชียนก็โทรไปหาเฟิงหลานและถามเกี่ยวกับสถานการณ์แล้วสั่งให้หลี่เหว่ยกับอู๋หวนเฟิงไปพบกันที่โรงแรมของเขา ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งสามคนก็มาถึงโรงแรมที่เย่เชียนพักอยู่
อู๋หวนเฟิงจ้องมองไปที่เย่เชียนและดูเหมือนว่าเขาลังเลที่จะพูดอะไรบางอย่าง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการถามเกี่ยวกับเรื่องของเย่เชียนกับนากาซาวะเคโกะเมื่อคืนนี้ แน่นอนว่าเย่เชียนสามารถมองเห็นความคิดนั้นได้ ดังนั้นเย่เชียนจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “หวนเฟิงอย่าคิดมาก..นายสบายใจได้”
อู๋หวนเฟิงก็พยักหน้าเบาๆแต่ไม่ได้พูด เมื่อได้ยินเช่นนั้นเฟิงหลานกับหลี่เหว่ยก็จ้องมองไปที่เย่เชียนและอู๋หวนเฟิงด้วยความงุนงงและไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังพูดถึงกัน
“พี่เฟิงหลานรู้จักชิบะชิเงโอะมั้ย?” เย่เชียนเปลี่ยนเรื่องและถาม
“ใช่” เฟิงหลานพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “เขานัดพบกับอิชิดะหัวหน้าสมาคมมังกรดำที่ร้านอาหารวันนี้..เราส่งคนไปสะกดรอยตามแล้วและฉันเชื่อว่าเราจะได้ข้อมูลดีๆหลังจากการประชุมของพวกเขาจบลง”
เย่เชียนก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วพูดว่า “หวนเฟิงบอกเกี่ยวกับรายละเอียดการเจรจากับฮาเซงาวะเซตะเมื่อวานนี้แล้วใช่ไหม..ถ้าอย่างนั้นฉันจะได้ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก..ตอนนี้ข้อมูลยืนยันแล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดคือม่อหนานอาแท้ๆของม่อหลงแต่เรายังไม่มีข้อมูลเจาะจงเกี่ยวกับเขาดังนั้นเราจึงยังไม่ดำเนินการใดๆกับเขาในตอนนี้..แต่สมาคมมังกรดำนั้นถือเป็นองค์กรที่ทรงพลังภายใต้เขารวมทั้งแก๊งยากูซ่าทั้งสามอีกที่เป็นองค์กรภายใต้สมาคมมังกรดำ..ดังนั้นเป้าหมายของเราคือสมาคมมังกรดำ..บางทีเราอาจจะหาข้อมูลเกี่ยวกับม่อหนานได้บ้าง..เอาล่ะพวกเราไปที่ร้านอาหารนั้นกันเถอะ”
“แต่ชิบะชิเงโอะเป็นพ่อของชิบะโชโกะนะบอส..พวกเรา…” เฟิงหลานลังเลที่จะพูด
เย่เชียนเข้าใจสิ่งที่เฟิงหลานจะสื่อเพราะชิบะโชโกะนั้นถือได้ว่าเป็นคนรักของหลิวเทียนเฉินและเกือบจะเป็นหนึ่งในสมาชิกเขี้ยวหมาป่าแล้วด้วย ซึ่งชิบะชิเงโอะนั้นเป็นพ่อของชิบะโชโกะดังนั้นเฟิงหลานจึงกังวลว่าถ้าพวกเขาฆ่าชิบะชิเงโอะล่ะก็ชิบะโชโกะจะเกลียดพวกเขาและหลิวเทียนเฉินเช่นนั้น เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่เชียนก็พูดว่า “ต่อให้ชิบะชิเงโอะตายเพราะพวกเราจริงๆก็ตามแต่ถ้าหากชิบะโชโกะรักและซื่อสัตย์กับพี่เทียนเฉินล่ะก็เธอจะไม่โทษพวกเรา..ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากเธอซื่อสัตย์จริงๆล่ะก็เธอจะช่วยเราได้มากในอนาคตเพราะงั้นมันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เพราะตอนนี้เราไม่รู้อะไรเลย..เพราะงั้นเรื่องนี้จะช่วยยืนยันสิ่งต่างๆว่าเธอจะเลือกฝั่งไหน”
“พี่น้องก็คือพี่น้อง..ส่วนผู้หญิงก็แค่ของนอกกาย..เพราะงั้นถ้าหากพี่เทียนเฉินตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้นจนจำไม่ได้ว่าพวกเราคือน้องชายล่ะก็เดี๋ยวเราจะได้เห็นดีกัน” หลี่เหว่ยพูดต่อ “เราอยู่ที่นี่เพื่ออนาคตของเขี้ยวหมาป่าและเราจะล้มเลิกแผนการของเราเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวได้ยังไง”
เย่เชียนก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “อย่าไปคิดมากเลย..ฉันคิดว่าพี่เทียนเฉินน่าจะเข้าใจพวกเราเพราะงั้นเราควรโทรหาเขาและคุยกับเขาเลยจะดีกว่า..พี่เฟิงหลานโทรหาพี่เทียนเฉินแล้วบอกเขาถึงสถานการณ์ในตอนนี้ที”
“รับทราบ!” เฟิงหลานพยักหน้าแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
ไม่นานเฟิงหลานก็เดินเข้ามาและพยักหน้าให้ทุกคน กล่าวอีกนัยหนึ่งคือหลิวเทียนเฉินเข้าใจสถานการณ์แล้ว จากนั้นเย่เชียนก็แต่งตัวและสวมหนวดเคราบนใบหน้าของเขาอีกครั้งและเขาก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ถ้าพวกเขาไม่เห็นด้วยตาของเขาเองล่ะก็ถึงแม้จะเป็นเฟิงหลานและคนอื่นๆก็คงจะไม่รู้เลยว่าคนๆนี้คือเย่เชียน
ทุกคนออกจากโรงแรมและตรงไปที่ร้านอาหารที่ชิบะชิเงโอะและอิชิดะนัดพบกัน รถถูกจัดเตรียมโดยอู๋หวนเฟิงและนั่นเป็นรถของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปสาขาโตเกียว จากนั้นทั้งสี่ก็ขึ้นรถและไม่นานพวกเขาก็ไปถึงด้านนอกของร้านอาหาร ซึ่งเฟิงหลานได้ส่งคนมาสอดส่องตั้งแต่แรกแล้วและจากนั้นทั้งสี่คนก็ตรงไปที่ห้องส่วนตัวถัดจากห้องของชิชะชิเงโอะและอิชิดะอิจิโร่ ซึ่งเฟิงหลานได้สั่งให้สายของเขานำกล้องเข้าไปติดตั้งในห้องของทั้งสองดังนั้นพวกเขาจึงมองเห็นการเคลื่อนไหวที่อยู่ถัดไปด้วยโทรทัศน์ในห้องได้อย่างชัดเจน ในตอนนี้ชิบะชิเงโอะมาถึงแล้วแต่อิชิดะอิจิโร่ยังไม่มา ในตอนนี้ชิบะอิจิโระกำลังดื่มชาอย่างช้าๆและท่าทางของเขาก็ดูจริงจังอย่างมาก
เย่เฉียนรู้สึกไม่ชัดเจนว่าชิเงโอะ ชิบะขอให้อิชิดะ อิชิโระพูดถึงบางสิ่งที่สำคัญในครั้งนี้ ทั้งสี่ปรับการหายใจ พยายามทำให้การหายใจของพวกเขานุ่มนวลที่สุด จากนั้นสวมหูฟังและดูทุกการเคลื่อนไหวภายใน
ไม่นานนักชายวัยกลางคนอายุห้าสิบต้นๆก็เดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของและในเวลาเดียวกันจู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูและเย่เชียนก็ขมวดคิ้วแล้วรีบปิดจอโทรทัศน์ทันทีแล้วโบกมือให้หลี่เหว่ยให้ไปเปิดประตู
หลี่เหว่ยเข้าใจแล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูและพบชายหนุ่มสองคนในชุดสูทกำลังมองเข้าไปข้างใน จากนั้นเขาก็มองดูทุกคนอย่างระมัดระวังและพูดว่า “พวกเราเหมาจองร้านนี้เอาไว้แล้ว..โปรดออกจากห้องด้วยครับ”
“ทำไม?” หลี่เหว่ยตะโกน “ขอโทษนะที่นี่ไม่ใช่บ้านคุณเพราะงั้นคุณไม่มีสิทธิ์มาไล่พวกเรา”
ทั้งสองคนถึงกับตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นพวกเขาก็ตะโกนว่า “ไอ้พวกนี้มันเป็นคนจีนนี่หว่า..รีบออกไปซะไม่งั้นอย่าโทษพวกเราที่หยาบคาย”
หลี่เหว่ยก็กำลังจะระเบิดความโกรธแต่เฟิงหลานรีบคว้าเขาเอาไว้และพูดด้วยรอยยิ้มที่ขอโทษว่า “เราจะออกไปทันที” จากนั้นเขาก็มองไปที่เย่เชียนซึ่งเย่เชียนก็พยักหน้าให้เพราะดูเหมือนว่าอิชิดะอิจิโร่จะระมัดระวังมากและเพื่อไม่ให้เกิดความสงสัยเย่เชียนจึงลุกขึ้นและออกจากร้านอาหารไป
บอดี้การ์ดทั้งสองก็ยังคงดูไม่สบายใจและพวกเขาก็มองไปที่ประตูร้านอาหารเป็นเวลานานจนกระทั่งพวกเขาเห็นเย่เชียนและคนอื่นๆออกไปกันจนหมด จากนั้นพวกเขาก็หันหลังกลับและเข้าไปในร้านอาหาร
“บัดซบ..ฉันอยากจะฆ่าไอ้สองคนนั้นให้ตายตอนนี้เลย..อยากจะลากมันไปฆ่าซะจริงๆ” หลี่เหว่ยพึมพำอย่างโกรธเกรี้ยว
“ถ้านายไม่อดทนล่ะก็สิ่งต่างๆมันจะวุ่นวายมาก..ตอนนี้นายช่วยอดทนไปก่อนเพราะหลังจากเรื่องนี้จบเดี๋ยวฉันจะช่วยนายฆ่าพวกมันเอง” อู๋หวนเฟิงพูด
“ใช่!..นายต้องอดทนเอาไว้ก่อน” เย่เชียนพูด “ดูจากอิชิดะอิจิโระที่ระมัดระวังเป็นพิเศษขนาดนี้แล้วมันคงเป็นเรื่องสำคัญมาก..เราไปกันเถอะ..หวนเฟิงกับฉันจะไปด้วยกัน..ส่วนพี่เฟิงหลานไปกับหลี่เหว่ย..จำเอาไว้ทำทุกอย่างให้แนบเนียนที่สุดและอย่าลงมือทำอะไรถ้าฉันไม่ได้สั่ง!..พี่เฟิงหลานฝากหลี่เหว่ยด้วยและอย่าปล่อยให้เขาทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาด”
“ไม่ต้องห่วงบอส..ฉันจะคอยคุมเขาเอง” เฟิงหลานพูด
เย่เชียนก็พยักหน้าให้อู๋หวนเฟิงและเดินเข้าไปในร้านอาหารอีกครั้ง ซึ่งร้านอาหารนี้ค่อนข้างคล้ายกับผับบาร์ซึ่งง่ายต่อการตรวจสอบ ซึ่งการที่พวกเขาเลือกสถานที่ดังกล่าวนี้สันนิษฐานได้ว่าพวกเขาน่าจะนัดมาคุยกันอย่างลับๆโดยที่ไม่มีใครรู้
เย่เชียนกับอู๋หวนเฟิงก็กระโดดเข้าไปทางหน้าต่างข้างร้านอาหารอย่างราบรื่นและแอบกลับมาที่ห้องส่วนตัวอย่างเงียบๆ ซึ่งบอดี้การ์ดทั้งสองคนไม่ได้อยู่ที่นี่แต่ตามอิชิดะอิจิโร่เข้าไปในห้องส่วนตัวและยืนอยู่ข้างหลังเขา ในเวลานี้ชิบะชิเงโอะมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดและเขาก็ถามอย่างโกรธเคืองว่า “ผมคิดว่าคุณก็น่าจะรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันเพราะงั้นคุณไม่มีคำอธิบายอะไรเลยเหรอ?”
.