ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 919 การโจมตีของเหล่านินจา
ตอนที่ 919 การโจมตีของเหล่านินจา
เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายเย่เชียนก็ขมวดคิ้วอย่างเห็นได้ชัดเพราะดูเหมือนว่าวันนี้คนเหล่านี้จะมาหาเขาโดยเฉพาะแต่พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าตัวเองอยู่ที่นี่? แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะเขาเพิ่งจะกลับมาจากมาเก๊าเมื่อเช้านี้และมาที่นี่หลังจากไปที่บ้านตระกูลชางกวน ถึงพวกนั้นจะมีเครือข่ายมากแค่ไหนแต่พวกเขาก็ไม่สามารถรู้เรื่องนี้ได้หรอกใช่ไหม?
เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันคิดว่าพวแกยังไม่รู้สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าดีนะพวกแกรู้หรือเปล่าที่นี่มันที่ไหน?..มันเป็นดินแดนของใคร?..ฉันจะไม่หนีและไม่เคยคิดที่จะวิ่งหนีพวกแกเลย..ฉันอยากรู้จริงๆว่าพวกแกรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่หรือพวกแกมีใครคอยสนับสนุนอยู่กัน?”
ขณะที่เขาพูดอย่างนั้นเย่เชียนก็กวาดสายตามองทุกคนในห้องทีละคนและแน่นอนว่าเฟิงหลานกับหลี่เหว่ยไม่ใช่สายลับอย่างแน่นอน ส่วนหวงฟู่ชิงเตี๋ยน,หูวเค่อและฮัวหยาซินก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันและหยานตงเองเย่เชียนก็เชื่อว่าเขาจะไม่ทำสิ่งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อนินจาเหล่านี้ปรากฏตัวออกมาก็มีร่องรอยของความประหลาดใจและความเกลียดชังที่รุนแรงในสายตาของหยานตง ดังนั้นจึงสามารถบอกได้ว่าหยานตงนั้นไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิดกับนินจาญี่ปุ่นเหล่านี้
เหลือเพียงคนเดียวและนั่นก็คือฉินเยว่เพราะเขาไม่มีท่าทีแปลกใจเมื่อเห็นนินจาเหล่านี้ปรากฏตัวออกมาดังนั้นถ้าไม่ใช่เขาเย่เชียนก็คิดไม่ออกจริงๆว่าใครจะเป็นสายลับได้อีก
“นาย..มองมาที่ฉันทำไมหรือนายสงสัยว่าฉันเป็นสายลับงั้นเหรอ?” ฉินเยว่พูดด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเขาเห็นสายตาของเย่เชียน
หยานตงก็ขมวดคิ้วและหันไปมองฉินเยว่แล้วพูดว่า “เย่เชียนยังไม่ได้พูดเลยว่าเอ็งเป็นสายลับแต่ทำไมเอ็งถึงรู้สึกประหม่าล่ะ?”
“ท่านอาจารย์ครับถึงแม้ว่าผมจะกล้าบ้าบิ่นแค่ไหนแต่ผมก็ไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก” ฉินเยว่พูดอย่างเร่งรีบ “นอกจากนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไรที่ผมจะทำแบบนี้?”
หยานตงสูดลมหายใจอย่างเย็นชาและพูดว่า “แกไม่ควรทำแบบนี้เลย..อย่ามาโทษฉันที่โหดร้ายล่ะ!” หลังจากพูดจบหยานตงก็หันกลับไปอย่างช้าๆ
ในระหว่างนั้นดวงตาของฉินเยว่ก็กะพริบเป็นเงาสองเงาและดวงตาของเขาที่มองไปยังหยานตงก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่โกรธเกรี้ยวเพราะตอนนี้เขาได้เลือกที่จะทำแบบนี้แล้วเขาจึงไม่มีทางออกและทำได้เพียงเดินหน้าต่อไปเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเมื่อเรื่องถูกเปิดเผยจุดจบของเขาจะต้องเป็นโศกนาฏกรรมอย่างน่าสมเพชแน่นอน
ทันใดนั้นฉินเยว่ก็แทงหยานตงด้วยมีดซึ่งหยานตงนั้นไม่เคยคิดว่าฉินเยว่จะกล้าโจมตีเขา ในตอนนี้มีดก็แทงเข้าไปในท้องของหยานตงโดยที่เขาตั้งตัวไม่ทันแต่โชคดีที่หยานตงนั้นเป็นถึงปรมาจารย์ระดับสูงดังนั้นเขาจึงตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและหลีกเลี่ยงบาดแผลในจุดที่สำคัญไปได้
ฉากกะทันหันนี้ทำให้ทุกคนตกใจและเมื่อเห็นสิ่งนี้เหล่านินจาญี่ปุ่นก็พุ่งเข้ามาโดยไม่ลังเล “หูวเค่อปกป้องอาจารย์ของเธอด้วย!” เมื่อเสียงนั้นจบลงเย่เชียนก็วิ่งออกไปพร้อมกับมีดคลื่นโลหิตในมือของเขาราวกับดาวตกสีเลือดและนี่เป็นการเคลื่อนไหวที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่เย่เชียนได้เรียนรู้เป็นพิเศษจากหลินเฟิงเพื่อจัดการกับนินจาเหล่านี้
แน่นอนว่าหลินเฟิงกับหลี่เหว่ยก็ไม่หย่อนยานเช่นกันดังนั้นพวกเขาจึงรีบพุ่งไปข้างหน้าและคว้าข้อมือของฉินเยว่เอาไว้และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า เมื่อเห็นเช่นนั้นหยานตงก็พูดว่า “แกกล้าที่จะหักหลังพวกเราจริงๆงั้นเหรอ..อยากตายใช่มั้ย?”
ฉินเยว่ตกใจกลัวอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดว่า “ไม่..ผมไม่ได้อยากทำแบบนั้นเลยแต่อาจารย์บีบให้ผมต้องทำ..ถ้าผมไม่ฆ่าอาจารย์ผมก็จะเป็นฝ่ายที่ต้องตาย”
หยานตงพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “แกทำผิดไปกี่ครั้งแล้วและถึงแม้ว่าแกจะทำผิดแค่ไหนฉันก็ไม่เคยคิดที่จะฆ่าแก..ฉันเลี้ยงดูแกมาตั้งแต่แกอายุยังน้อยและถือว่าแกเป็นเหมือนลูกชายของฉันเลย..แต่แกตอบแทนฉันแบบนี้เนี่ยนะเหรอ?..ฉันกำลังคิดที่จะมอบลัทธิมารให้กับแกในอนาคตแต่โชคดีที่ฉันไม่ได้ทำอย่างนั้นซะก่อนไม่อย่างนั้นฉันจะมีหน้าไปพบวีรบุรุษของลัทธิมารได้ยังไง”
“ไม่อาจารย์..ครั้งนี้มันต่างออกไป” ฉินเยว่พูด “ถ้าผมไม่ฆ่าอาจารย์ผมก็ต้องตายเพราะนี่มันเป็นการสมรู้ร่วมคิดกับพวกญี่ปุ่นและอาจารย์จะไม่มีวันยกโทษให้ผมเพราะงั้นผมสัญญาว่าหลังจากที่อาจารย์ตายไปผมจะสร้างหลุมศพอันทรงเกียรติให้อาจารย์เอง”
หลังจากพูดจบฉินเยว่ก็ตะโกนเสียงดังราวกับจะบ้าจากนั้นเขาก็ชักมีดออกจากพุงของหยานตงแล้ว “นี่แก!” จากนั้นหยานตงก็ตะโกนและใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางของมือขวาประสานกันและชี้ออกทั้งรวดเร็วและแม่นยำแล้วกระแทกตรงจุดตายที่หน้าอกของฉินเยว่และฉินเยว่ก็ทรุดตัวลง “ในเมื่อแกไม่คิดที่จะตอบแทนที่ฉันเลี้ยงดูแกมาหลายปีเพราะงั้นความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป” หยานตงพูด “ตายไปซะ!”
เมื่อเห็นร่างของฉินเยว่ล้มลงหัวใจของหยานตงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจเพราะท้ายที่สุดนี่คือลูกศิษย์ที่เขาเลี้ยงดูมามากกว่า 20 ปีและเป็นเหมือนลูกชายของเขาเสมอมา ซึ่งไม่ว่าฉินเย่วจะทำผิดอะไรหยานตงก็ให้อภัยเขาเสมอแต่ตอนนี้ฉินเยว่กลับสมรู้ร่วมคิดกับประเทศญี่ปุ่นซึ่งไม่สามารถให้อภัยได้เลย
หลังจากที่หยานตงฉีกเสื้อผ้าของเขาแล้วเขาก็ใช้เสื้อพันแผลเอาไว้จากนั้นหยานตงก็เข้าไปสู้กับพวกนินจาต่อ ซึ่งหยานตงนั้นเป็นหนึ่งในปรมาจารย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกศิลปะการต่อสู้จีนโบราณและมีเพียงแค่เย่เจิ้งหรานเท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกประหม่าได้ แต่ตอนนี้คงไม่มีใครในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณที่เป็นคู่ต่อสู้เขาได้เลย
นินจาเหล่านี้มั่นใจเกินไปเพราะท้ายที่สุดหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็เป็นถึงผู้อำนวยการสำนักความมั่นคงแห่งชาติแต่พวกนั้นกล้าที่จะส่งคนมาลอบสังหารเขาอย่างเปิดเผย ซึ่งไม่ว่าเป้าหมายของพวกเขาคือเย่เชียนหรือใครก็ตามแต่การกระทำของพวกเขาก็เป็นการยั่วยุอย่างไม่ต้องสงสัย หวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นให้ความสำคัญกับความมั่นคงในการทำงานเสมอและไม่ว่าเขาจะทำอะไรเขาต้องใส่ใจกับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกโกรธเกรี้ยวเพราะนินจาญี่ปุ่นเหล่านี้ทำให้เขาโกรธและทำร้ายคนที่เขารักอย่างสิ้นเชิงซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่เขาจะยับยั้งชั่งใจเอาไว้
นินจาญี่ปุ่นเหล่านี้ไม่ธรรมดาเลยและพวกเขาก็เก่งมากในการโจมตีร่วมกันเป็นทีม ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสูญเสียคนไปสามคนแล้วแต่เฟิงหลานและหลี่เหว่ยก็มีบาดแผลตามร่างกายเช่นกันแต่ก็เป็นเพียงบาดแผลเล็กๆน้อยๆตามผิวหนังเท่านั้น อย่างไรก็ตามเฟิงหลานและหลี่เหว่ยเองก็มีเวลาเพียงสั้นๆในการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้จีนโบราณ ดังนั้นเมื่อต้องรับมือกับการต่อสู้เพียงลำพังพวกเขาก็สามารถต่อสู้ได้ด้วยประสบการณ์การต่อสู้ของพวกเขาเพราะเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบเป็นทีมของนินจาแล้วทั้งสองก็ยังดูเสียเปรียบกว่าอย่างมาก
ถึงแม้ว่าหยานตงจะได้รับบาดเจ็บอยู่แต่ฝีมือและทักษะของเขาเป็นหนึ่งในวิชาศิลปะการต่อสู้จีนโบราณที่ดีที่สุดและการมีส่วนร่วมของเขาในการต่อสู้ครั้งนี้จะทำให้สถานการณ์พลิกกลับได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าหยานตงต้องการรวมโลกศิลปะการต่อสู้จีนโบราณเข้าไว้ด้วยกันแต่เขาก็มีเหตุผลเพราะไม่ว่าโลกศิลปะการต่อสู้โบราณของจีนจะขัดแย้งกันอย่างไรแต่มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวเพราะงั้นเขาไม่สามารถทนต่อการแทรกแซงของคนนอกอย่างนินจาญี่ปุ่นได้และเขาก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังของพวกญี่ปุ่นเลย
เมื่อเห็นมีดคลื่นโลหิตในมือของเย่เชียนแล้วหยานตงก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่งจากนั้นก็ฉีกยิ้มเพราะในที่สุดศาสตราวุธอย่างฉีจือเต๋าก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งและยังคงอยู่ในมือชองเย่เชียนผู้เป็นลูกชายของเย่เจิ้งหรานอีกด้วย
“อย่าให้พวกมันรอดไปได้” เย่เชียนตะโกนอย่างเร่งรีบขณะที่ต่อสู้กับเหล่านินจาที่อยู่ข้างหน้าเขาล้มลงกับพื้นและตายไปทีละคน ส่วนเฟิงหลานกับหลี่เหว่ยก็ต่อสู้อย่างเด็ดขาดเพราะต่อหน้านินจาเหล่านี้แล้วพวกเขาห้ามประมาทเลยแม้แต่น้อยไม่เช่นนั้นพวกเขาเองที่จะเป็นฝ่ายที่ต้องตายอย่างแน่นอน ส่วนทางด้านของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นอาการบาดเจ็บของฮัวหยาซินรบกวนเขาและเป็นกังวลอย่างมากและนั่นทำให้เขาไม่มั่นคงเหมือนที่เคยเป็นเพราะในเวลานี้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวที่ทรงพลังจนเขาแค่อยากจะฆ่าศัตรูทั้งหมดที่อยู่ข้างหน้าเขาด้วยมือของเขาเอง
คนที่ได้เปรียบมีเพียงหยานตงกับเย่เชียนเท่านั้นเพราะเมื่อเสียงของเย่เชียนจบลงการโจมตีของหยานตงก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดและนินจาที่อยู่ข้างหน้าเขาก็พยายามหลีกเลี่ยงการโจมตีของหยานตงจนถอยหลังไปหลายก้าวแต่หยานตงก็ไล่ตามอย่างไม่ลดละและพยายามคว้าคอของคู่ต่อสู้เอาไว้แล้วปิดฉากไปทีละคน จากนั้นหยานตงก็เตะออกไปจนร่างของนินจาก็กระเด็นขึ้นไปทันทีแต่หยานตงก็ยังคงบีบคอของนินจาเอาไว้แน่นแล้วเหวี่ยงลงกับพื้นอย่างรุนแรง
ในเวลาเดียวกันนินจาที่เหลือก็ถูกฆ่าตายทีละคนและในห้องก็เต็มไปด้วยเลือด จากนั้นเย่เชียนก็เหลือบมองหยานตงอย่างซาบซึ้งจากนั้นมองไปที่นินจาเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตอยู่แล้วพูดว่า “บอกฉันทีว่าทำไมองค์กรจำนวนมากในประเทศญี่ปุ่นของแกถึงสามารถรวมตัวกันได้และใครอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นนินจาก็แสยะยิ้มแล้วกัดยาพิษที่ซ่อนอยู่ใต้ลิ้นอย่างรวดเร็วแล้วร่างของเขาก็ค่อยๆล้มลงไป เมื่อเห็นฉากนี้เย่เชียนก็คาดไม่ถึงแต่หยานตงนั้นไม่แปลกใจเลยและพูดว่า “อย่างน้อยๆไอ้พวกนี้มันก็มีเรื่องที่น่าชื่นชมอยู่บ้างล่ะนะ”
เย่เชียนหันไปมองหยานตงและถามว่า “อาจารย์หยานอาการบาดเจ็บของคุณเป็นยังไงบ้าง?”
หยานตงก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ไม่เป็นอะไรมันก็แค่แผลถลอกเท่านั้น..หึ..ฉันอุตส่าห์เลี้ยงห่านป่ามาตลอดชีวิตแต่กลับถูกห่านป่าจิกซะเอง..ลูกศิษย์ที่ฉันรักดันมาทรยศฉันแบบนี้นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายจริงๆสำหรับคนแก่ๆอย่างฉัน”
“คุณโทษตัวเองไปก็เท่านั้นเพราะคราวนี้เป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึงจริงๆ” เย่เชียนพูด “ผมเองก็ประสบปัญหาใหญ่เหมือนกันเพราะไม่มีใครคิดว่ากองกำลังในญี่ปุ่นจะสามารถรวมตัวกันได้เร็วขนาดนี้และเริ่มการโต้กลับพวกเราอย่างกะทันหันเพราะงั้นพวกเราสงบศึกกันชั่วคราวได้มั้ยเพราะตอนนี้การต่อสู้ในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณจีนนั้นไร้ความหมายในความคิดของผมแล้ว”
“ในฐานะลูกผู้ชายเราไม่ควรคืนคำแต่ฉันให้เวลาเอ็งหนึ่งเดือนและต้องเป็นไปตามนั้น..เงื่อนไขก็คือหลังจากที่เอ็งจัดการกับพวกญี่ปุ่นเสร็จหลังจากนั้นหนึ่งเดือนค่อยมาทำตามสัญญาที่เคยตกลงกันเอาไว้!”
.